« ความเห็นที่ #1 เมื่อ: 04/18/13 เวลา 19:31:01 » |
|
1. ในคห.ที่ 7 ของคุณหมอที่กล่าวไว้ว่า "หลังจากนั้นหลายๆเดือน เมื่อการแยกชั้นสมบูรณ์ขึ้น แสงแว่บก็จะน้อยลง และค่อยๆหายไป ตะกอนในวุ้นตาจะค่อยๆคงที่อยู่นานหลายเดือนหรือหลายปี ทำให้คนที่เป็นเห็นจุดๆเส้นๆพวกนี้อยู่พักหนึ่ง แล้วค่อยๆลดลง (ที่คนที่เป็นสังเกตเห็นเงาของมันลดลง เพราะวุ้นตาหดตัวมากขึ้น ตะกอนพวกนี้จะลอยมาอยู่ด้านหน้า ห่างจากจอประสาทตามากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้คนไข้สังเกตเห็นเงาของมันน้อยลง (กฏง่ายๆ ที่ว่า วัตถุอยู่ใกล้ฉาก เห็นเงาได้ง่ายและชัดกว่าวัตถุอยู่ไกลฉาก)" ผมจึงอยากถามว่า หากเป็นภาวะจอประสาทตาบางด้วย หากผ่านช่วงการแยกชั้นสมบูรณ์นี่ไปแล้ว ก็จะมีภาวะที่ปลอดภัยขึ้นกว่าเดิมจากการโดนวุ้นเสื่อมกระชากเรติน่าหรือเปล่ าครับ? หรือว่าหากนายประสาทตาบางแล้ว นายต้องอยู่ในวังวนหลอกหลอน ลุ้นระทึกกับวุ้นหนืดกระชากเรติน่าไปตลอดชีวิต ตลอดชีวิต ตลอดชีวิต วิต... วิต... วิต.... (แบบโดนผีช้อนไล่ทุบ) ตอบ - เป็นแบบหลังครับ ไม่มีอะไรสมบูรณ์ในโลกนี้ สมบูรณ์ขึ้น แปลว่า ใกล้เคียงกับความสมบูรณ์ แต่ไม่สมบูรณ์ คุณมีความเสี่ยงตลอดชีวิตครับ แต่เสี่ยงมากในช่วงปีแรกๆที่วุ้นตาเริ่มเสื่อม และน้อยลงเมื่อเวลาผ่านไป แต่เสี่ยงมากกว่าชาวบ้านตลอดชีวิต ------------------------------------------------------------------------ ---------------- 2. สมมุติแบบผมโคตร sensitive เจอแสงแฟลชบ่อยก็รีบไปตรวจให้ยิงเลเชอร์อุดๆเรื่อยๆ มันจะช่วยลดความเสี่ยงต่อ Retinal Detachment (ภาวะกระชากแบบขูดมะพร้าวเผา) ได้มากขนาดไหนครับ ? หรือว่า แกจอประสาทตาบางงี้ ยิงไปก็งั้นๆฟะ บทมันจะกระชากหลุดตรงเลเชอร์ไปไม่ถึง เรติน่าแกก็ซวยโดนกระชากหลุดเป็นมะพร้าวเผาอยู่ดี เลเชอร์มันแค่สำหรับคนดวงดีที่มันเป็นแค่ข้างๆเบาๆ ดวงเว้ยดวง! ทำบุญเข้าไว้เว้ย! It depands on your Destiny, you know!? ตอบ - เลเซอร์ ลดความเสี่ยงได้มากๆๆๆๆ เกือบ 0 แต่ไม่เหลือ 0 เปอร์เซ็นต์ครับ ------------------------------------------------------------------------ -- 3. ถามตรงๆเลยดีกว่าครับ เอาประสบการณ์ตรงของคุณหมอเถื่อนเลย คนไข้อินเทรนด์แบบผมที่หมอนัดเดทเรื่อยๆเนี้ย มันจะมีชะตากรรมโดนขูดมะพร้าวเผาเฉลี่ยเยอะขนาดไหน แบบหนุ่มสาวแว่นหนาไปหาหมอยิงเลเชอร์อุด 10 คน อีกไม่กี่เดือน หรือไม่กี่ปี มันจะโดนขูดมะพร้าวกันกี่คนครับ หรือว่า 10 รายโดนอาการขูดมะพร้าวเผาหมดไม่รอดสักตัว แบบประมาณนายๆเธอว์ๆเหล่าคนไข้แว่นหนาทั้งหลาย ไม่เกิน 10 ปี โดนขูดมะพร้าวแน่ๆนะจ๊ะ สายตาพวกนายพวกหล่อนสั้นขึ้นอีก จอบางลงอีกแน่นอน แล้วเจอกันห้องผ่าตัดจ๊ะ จรุ๊บๆ ? ตอบ - ความเสี่ยงของการเกิดจอประสาทตาหลุดลอก คือ 1 ในหมื่นรายของประชากรต่อ 1 ปีครับ ความเสี่ยงสูงขึ้น 4 เท่า ในคนที่สายตาสั้นเกิน 800 ครับ น้อยรายที่เคยเลเซอร์ และติดตามกันดูตามนัดเรื่อยๆ แล้วยังหลุดครับ ---------------------------------------------------------------------- 4. ถามตรงๆอีกอย่างครับ คือค่าผ่าตัดขูดมะพร้าวมันราคาโหดสัสมากใช่ไหมครับ ไปเจอใน Blog มา ที่รัตนิน แหม่ม 90000 ไม่รวมค่าห้อง ตีราคา รพ. รามารัฐบาลคงราวๆ 70000 ไม่รวมค่าห้อง... แล้วงี้ไอ้หนุ่มที่มีประกันสังคมค้ำชีวิตอย่างผมเจอขูดมะพร้าวไปที ก็ต้องส่งตรงเลยสินะครับ เกิดรอส่งจากประกันสังคมจาก รพ. นึง ไป รพ.รามา ไหนจะ หมอตรวจ หมอสั่งผ่า ไหนจะรอคิวผ่าอีก เซลล์เรติน่าคงตายในที่เกิดเหตุหมด จนเน่า จนแห้ง จนลงนรกชดใช้กรรม จนไปเกิดใหม่แล้วสินะครับ ก็คือบอดแน่ๆ ถ้าไปรอมัน ดังนั้นขอถามว่า ความจริงในโลกที่โหดร้ายก็คือ No Money ในภาวะเกิด Retinal Detachment in Thailand = You will be a Blind Ha Ha Hah Cool สินะครับ ก็คือชาวหนุ่มแว่นหนาที่หมอนัดเดทบ่อยๆ ต้องมีเงินสำรองเอาไว้จ่ายในกรณีนี้โดยเฉพาะเลยจะดีกว่าและปลอดภัยกว่าสินะค รับ และถามต่อว่าในภาวะคับขันจนตรอกหมดหนทางเช่นนี้ จะมีเคสกรณีคนจนที่ไม่ Blind บ้างไหมครับ ? หรือว่า โลกเราก็โหดร้ายแบบนี้แหละน้า ไทยมันไม่ใช่อเมริกาหรือประเทศที่เจริญแล้ว นายต้องทำใจแว้ ? ตอบ - ถ้าคุณอยู่ในภาวะฉุกเฉิน (emergency) หรือกึ่งฉุกเฉิน (urgency) จะได้แทรกคิว แม้ในรพ.รัฐครับ, ถ้ากรณีไม่ฉุกเฉิน ก็ตามคิวครับ ---------------------------------------------------------------- 5. สมมุติว่าโดนกระชากขูดมะพร้าวไปแล้ว ต้องผ่าตัด ในการผ่าตัดแพทย์ก็จะดูดวุ้นเสื่อมออกไปสินะครับ ก็คือมันจะมีไม่มีภาวะเสี่ยงโดนวุ้นหนืดกระชากเรติน่าอีกต่อไป แต่แลกกับภาวะไร้วุ้น ที่จะทำให้เป็นต้อกระจกได้ไวขึ้นแทน ผมเข้าใจถูกหรือเปล่าครับ? แต่อ่านๆในเน็ตมา บางคนผ่าตัดแล้วก็ยัง Again เจอขูดมะพร้าวได้อีกรอบ มันเกิดจากอะไรหรือครับ? (หรือว่าผมเข้าใจผิดไปเองแต่แรก) ตอบ - เราไม่มีทางเอาวุ้นตาออกได้หมดครับ
|
|