แจ้งลบกระทู้ แจ้งเมื่อมีคนตอบกระทู้นี้ แนะนำกระทู้นี้ Print

 หัวข้อ 39639: วิธีที่จะทำให้รวยเร็ว...  (จำนวนคนอ่าน 842 ครั้ง)
« เมื่อ: 03/23/23 เวลา 20:48:19 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

วิธีที่จะทำให้รวยเร็วขึ้น คือการตั้งใจว่าจะไม่รีบร้อนรวยเร็ว
..
ในบรรดาคนหนุ่มสาวอายุ20-30ปีที่ร่ำรวยขึ้นมาอย่างรวดเร็ว มีน้อยคนที่จะรักษาความมั่งคั่งนั้นไปได้ทั้งชีวิต..อาจเป็นเพราะเขายังขาดท ักษะในการจัดการความร่ำรวย ทักษะในการเก็บรักษาสินทรัพย์
..
สำหรับคนที่สร้างเนื้อสร้างตัวด้วยตัวเอง การมีทรัพย์สินมั่งคั่งในวัย 40ปี นี่ถือว่าเร็วมากแล้ว
..
ดังนั้นอายุที่ดีที่สุดในการเป็นคนรวยคือ หลัง 50ปีไปแล้ว
..
ถ้าลดความโลภลง เพิ่มการเรียนรู้หลักการลงทุนและเข้าใจพลังของดอกเบี้ยทบต้น ทรัพย์สินจะค่อยๆเพิ่มพูนขึ้นเอง และเมื่อถึงวันที่รายได้จากการลงทุนมากกว่ารายได้จากการลงแรง ก็จะกลายเป็นคนรวยโดยอัตโนมัติ..
 

"Whether you think you can,
or you think you can't--you're right."

-- Henry Ford--
ส่งโดย: <<GOOD LIFE>>
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 938  
   
125.25.235.*


« ความเห็นที่ #1 เมื่อ: 03/24/23 เวลา 08:37:50 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

6699-3.JPG
#วิธีการรวยของหมอ
  -หมอทุกคนจะได้ที่พักอาศัย ดังนั้น ใช้ข้อได้เปรียบนี้ สร้างความร่ำรวยได้  อยู่บ้านหลวง ใกล้ที่ทำงาน ไม่ต้องเปลืองค่าน้ำมัน อย่ามีหนี้บ้าน และหนี้รถยนต์  
 
  -คุณหมออายุ 35 ปีคนหนึ่ง มีรายได้จากเงินเดือน 28,000 บาท ได้ค่าworkload 50,000 บาท และทำรพ.เอกชนได้เดือนละ 60,000 บาท รายได้รวมคือ 138,000 บาท ก่อสร้างบ้านในราคาที่ดิน 2 ล้าน และตัวบ้าน 3.5 ล้าน ค่าตกแต่งประมาณ 1.5 ล้าน ดังนั้น รวมแล้ว สร้างบ้านไปในราคา 7 ล้าน แต่เนื่อง จากทำงานมา สิบปี มีเงินเก็บ สองล้าน เอาเงินเก็บ ดาวน์บ้านต้องผ่อนเงินประมาณ ห้าล้าน คิดค่าผ่อนบ้านล้านละ 7 พันบาท ดังนั้น ผ่อนบ้านไปเดือนละ  35000 บาท และผ่อนรถยนต์ ซื้อเงินสด คันละล้านบาท แต่ผ่อน 60 งวด ดาวน์ 20%  ตกเดือนละ 15000 บาท  ดังนี้คุณหมอท่านนี้จะต้องมีภาระประจำ 20 ปีคือจ่ายเดือนละ  50000 บาท และมีค่าใช้จ่ายส่วนตัวเดือนละหนึ่งหมื่นบาท(ค่ารถผ่อนเดือนละ 15000 บาท ตลอดชีวิต คิดในมุมว่า เมื่อเอารถเก่าไปเปลี่ยนรถใหม่ รถคันเก่าเป็นค่าดาวน์ ผ่อนรถคันใหม่เดือนละ 15000 บาทต่อไปเรื่อยๆ )  ค่าน้ำมันรถ ชาบู จิปาถะ ให้ทางบ้านรวมแล้ว 30000 บาท  
 
 -รวมรายจ่ายคงที่ของคุณหมอท่านนี้คือ 93,000 บาท จะมีเงินเหลือเพื่อการลงทุนประมาณเดือนละ 45,000 บาท ถ้าสามารถลงทุนได้ผลตอบแทนประมาณ 5.5% เงินจำนวนนี้จะกลายเป็น 23 ล้านบาท เมื่ออายุ 60 ปี
 
 -แต่ถ้าหากว่า ไม่ซื้อบ้าน งบการเงินของคุณหมอจะเปลี่ยนไป มีเงินเหลือเพื่อการลงทุนประมาณ เดือนละ 80,000 บาท หรือปีละ 960,000 บาท ในเวลา 25 ปีต่อมา ด้วยอัตราผลตอบแทน 5.5% จะกลายเป็นเงิน 41 ล้านบาท  เท่ากับการซื้อบ้าน ทำให้เงินหายไป 18 ล้าน เมื่อตอนอายุ 60 ปี  
 
 -แต่กฏของการลงทุน เหมือนการเล่นหมากรุก คือยิ่งมีมาก ยิ่งได้เปรียบ  ถ้าได้เปรียบแล้วเดินง่าย แต่ถ้าเสียเปรียบ หรือเป็นรองแล้วเดินยาก ทำให้ผลการลงทุนสามารถกลายเป็น 12% ต่อปีได้  ทำให้แทนที่จะมีเงิน 41 ล้านแต่จะกลายเป็น 61 ล้าน  
 
  -แต่การลงทุน ไม่ใช่กราฟเส้นตรง มีความผันผวนได้ บางคนสามารถทำให้ความผันผวนได้เปรียบ ไม่จำกัดรายได้ขาขึ้น แต่จำกัดรายได้ขาลง ทำให้การลงทุนในช่วงเวลาสามสิบปี  จะมีบางครั้งทำเงินได้ 10 เด้ง เมื่อคอยจ้องมองโอกาสให้ดี เหมือนกับเข้าสู่สนาม ดวลมีด  แต่ไม่ได้ห้ามการใช้ปืน ทำให้แต้มต่อของเราได้เปรียบ  การเก็งกำไรที่ดีหนึ่งถึงสองครั้ง จะเกิดขึ้นเสมอในชีวิต และทำให้เงินเราเพิ่มขึ้นเป็นสิบเด้งได้อย่าไม่น่าเชื่อ บางคน ตอนเกษียณมีเงินสะสมและทรัพย์สินได้ประมาณ 400 ล้านบาท  
ส่งโดย: 6699
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1520  
   
223.205.247.*


« ความเห็นที่ #2 เมื่อ: 03/24/23 เวลา 11:35:21 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

on 03/24/23 เวลา 08:37:50, 6699 wrote:
#วิธีการรวยของหมอ
  -หมอทุกคนจะได้ที่พักอาศัย ดังนั้น ใช้ข้อได้เปรียบนี้ สร้างความร่ำรวยได้  อยู่บ้านหลวง ใกล้ที่ทำงาน ไม่ต้องเปลืองค่าน้ำมัน อย่ามีหนี้บ้าน และหนี้รถยนต์  
 
  -คุณหมออายุ 35 ปีคนหนึ่ง มีรายได้จากเงินเดือน 28,000 บาท ได้ค่าworkload 50,000 บาท และทำรพ.เอกชนได้เดือนละ 60,000 บาท รายได้รวมคือ 138,000 บาท ก่อสร้างบ้านในราคาที่ดิน 2 ล้าน และตัวบ้าน 3.5 ล้าน ค่าตกแต่งประมาณ 1.5 ล้าน ดังนั้น รวมแล้ว สร้างบ้านไปในราคา 7 ล้าน แต่เนื่อง จากทำงานมา สิบปี มีเงินเก็บ สองล้าน เอาเงินเก็บ ดาวน์บ้านต้องผ่อนเงินประมาณ ห้าล้าน คิดค่าผ่อนบ้านล้านละ 7 พันบาท ดังนั้น ผ่อนบ้านไปเดือนละ  35000 บาท และผ่อนรถยนต์ ซื้อเงินสด คันละล้านบาท แต่ผ่อน 60 งวด ดาวน์ 20%  ตกเดือนละ 15000 บาท  ดังนี้คุณหมอท่านนี้จะต้องมีภาระประจำ 20 ปีคือจ่ายเดือนละ  50000 บาท และมีค่าใช้จ่ายส่วนตัวเดือนละหนึ่งหมื่นบาท(ค่ารถผ่อนเดือนละ 15000 บาท ตลอดชีวิต คิดในมุมว่า เมื่อเอารถเก่าไปเปลี่ยนรถใหม่ รถคันเก่าเป็นค่าดาวน์ ผ่อนรถคันใหม่เดือนละ 15000 บาทต่อไปเรื่อยๆ )  ค่าน้ำมันรถ ชาบู จิปาถะ ให้ทางบ้านรวมแล้ว 30000 บาท  
 
 -รวมรายจ่ายคงที่ของคุณหมอท่านนี้คือ 93,000 บาท จะมีเงินเหลือเพื่อการลงทุนประมาณเดือนละ 45,000 บาท ถ้าสามารถลงทุนได้ผลตอบแทนประมาณ 5.5% เงินจำนวนนี้จะกลายเป็น 23 ล้านบาท เมื่ออายุ 60 ปี
 
 -แต่ถ้าหากว่า ไม่ซื้อบ้าน งบการเงินของคุณหมอจะเปลี่ยนไป มีเงินเหลือเพื่อการลงทุนประมาณ เดือนละ 80,000 บาท หรือปีละ 960,000 บาท ในเวลา 25 ปีต่อมา ด้วยอัตราผลตอบแทน 5.5% จะกลายเป็นเงิน 41 ล้านบาท  เท่ากับการซื้อบ้าน ทำให้เงินหายไป 18 ล้าน เมื่อตอนอายุ 60 ปี  
 
 -แต่กฏของการลงทุน เหมือนการเล่นหมากรุก คือยิ่งมีมาก ยิ่งได้เปรียบ  ถ้าได้เปรียบแล้วเดินง่าย แต่ถ้าเสียเปรียบ หรือเป็นรองแล้วเดินยาก ทำให้ผลการลงทุนสามารถกลายเป็น 12% ต่อปีได้  ทำให้แทนที่จะมีเงิน 41 ล้านแต่จะกลายเป็น 61 ล้าน  
 
  -แต่การลงทุน ไม่ใช่กราฟเส้นตรง มีความผันผวนได้ บางคนสามารถทำให้ความผันผวนได้เปรียบ ไม่จำกัดรายได้ขาขึ้น แต่จำกัดรายได้ขาลง ทำให้การลงทุนในช่วงเวลาสามสิบปี  จะมีบางครั้งทำเงินได้ 10 เด้ง เมื่อคอยจ้องมองโอกาสให้ดี เหมือนกับเข้าสู่สนาม ดวลมีด  แต่ไม่ได้ห้ามการใช้ปืน ทำให้แต้มต่อของเราได้เปรียบ  การเก็งกำไรที่ดีหนึ่งถึงสองครั้ง จะเกิดขึ้นเสมอในชีวิต และทำให้เงินเราเพิ่มขึ้นเป็นสิบเด้งได้อย่าไม่น่าเชื่อ บางคน ตอนเกษียณมีเงินสะสมและทรัพย์สินได้ประมาณ 400 ล้านบาท  

   
เห็นภาพชัดมากขึ้น  ขอบคุณมากครับ

"Whether you think you can,
or you think you can't--you're right."

-- Henry Ford--
ส่งโดย: <<GOOD LIFE>>
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 938  
   
125.25.235.*


« ความเห็นที่ #3 เมื่อ: 03/24/23 เวลา 12:02:17 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ตอนใช้ทุน เก็บได้ 6 แสน + ปรับปรุงบ้านให้พ่อแม่ 3 แสน  
 
แต่งงานก่อนไปเรียนต่อเฉพาะทาง และ subboard (subboard คนที่สองของจังหวัด) เงินเก็บแทบไม่เหลือ ช่วงเรียนตั้งใจเรียนอย่างเดียวไม่รับจ็อบ มีน้อยก็ใช้น้อย  จบมาตั้งใจทำงานส่งมอบคุณค่า สร้างประสบการณ์ลูกค้าในมาตรฐานระดับทองคำให้กับคนไข้โรงพยาบาล เจ้าหน้าที่ เพื่อนร่วมงาน ทำงานได้ 7เดือนก็มาเปิดคลินิกเพราะมีดีมานด์ล้นทะลัก ปังตั้งแต่  Day 1  ทำอยู่ 10ปี พอเลย หยุดตั้งแต่อายุ 45ปี งานลดไป 90%  ระหว่างนั้นหาความรู้การลงทุนแบบmassive action พร้อมกับไม่ทิ้งสุขภาพ วิ่งวันละ 40 นาทีไปด้วย  ทำมาจนกระทั่งรายได้จากการลงทุนมากกว่ารายได้จากการทำงาน
 
ใช้เงินซื้อเวลา  ความสุขคือการมีอิสระ มีชีวิตที่ได้เลือก เอาเวลามาทำสิ่งที่ตัวเองชอบ เอามาพัฒนาความรู้ตัวเอง ชอบอ่านหนังสือมากที่สุด
 
มีล้านแรกตอนอายุ 34 ทุกวันนี้ไม่ได้ทำเพื่อเงินแล้ว แค่ดูแลชีวิตให้ดี ออกกำลังกายไป ใช้ชีวิตให้มีความสุขไป ทำอะไรสนุกๆไป  
 
เวลานี้เงินปีละหลายล้านไม่ต้องหา ครบปีก็คอยรับปันผลที่เติบโตขึ้นทุกปีๆ ชนิดที่รายได้จากการทำงานก็สู้ไม่ได้แล้ว
 
ทำในสิ่งที่ให้ชีวิต  
หยุดทำในสิ่งที่ทำให้ตายลงทุกวัน
..
 
 
« แก้ไขครั้งสุดท้ายเมื่อ: 03/30/23 เวลา 12:23:57 by <<GOOD LIFE>> »

"Whether you think you can,
or you think you can't--you're right."

-- Henry Ford--
ส่งโดย: <<GOOD LIFE>>
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 938  
   
125.25.235.*


« ความเห็นที่ #4 เมื่อ: 03/24/23 เวลา 12:07:22 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ


"อะไรที่คุณตั้งจิต..คุณจะได้มัน"

"Whether you think you can,
or you think you can't--you're right."

-- Henry Ford--
ส่งโดย: <<GOOD LIFE>>
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 938  
   
125.25.235.*


« ความเห็นที่ #5 เมื่อ: 03/24/23 เวลา 14:32:19 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ถ้าต้องการใช้เดือนละ 100,000 บาท
ให้เอา 200-300 คูณ จะได้เงินที่ต้องมี  
 
ในที่นี้คือจะต้องมีเงิน 20-30ล้าน
.  
วิธีจะไปถึง 30ล้าน
ถ้าเก็บธรรมดา  
ปีละ 1ล้าน ต้องเก็บ 30ปี
ปีละ 500,000 ต้องเก็บ 60ปี
 
แต่ถ้าได้ผลตอบแทน 6%
เก็บปีละ 1ล้าน จะถึง 30ล้าน ใช้เวลา 17ปี  
เก็บปีละ 5แสน ถึง 30ล้าน ใช้เวลา 25ปี  
 
แต้ถ้าได้ผลตอบแทน 10%
เก็บปีละ 1ล้าน ใช้เวลา 14ปี จะครบ 30ล้าน
เก็บปีละ 5แสน ใช้เวลา 20ปี จะครบ 30ล้าน
...
ถ้ารู้จักดอกทบต้นและมีความรู้การลงทุน
จะประหยัดเวลาชีวิตไปมาก.
 
เอา 30ล้าน ไปฝากกินดอก 5% ได้ปีละ 1,500,000 บ. ตกตกเดือนละ 125,000 บ. แบบสบายๆ ไปตลอด โดยที่เงินต้นอยู่ครบ สามารถตกทอดให้ลูกหลานได้(ถ้ามี)

"Whether you think you can,
or you think you can't--you're right."

-- Henry Ford--
ส่งโดย: <<GOOD LIFE>>
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 938  
   
125.25.235.*


« ความเห็นที่ #6 เมื่อ: 04/30/23 เวลา 17:26:45 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

มีวิธีง่ายกว่านั้นคบคนที่ฉลาดกว่า  รวยกว่าทะเยอทะยาน
 
เคยเจอคนที่รวยมากๆ ที่สร้างตัวด้วยตัวเอง  เขาไม่มีอะไรเลยนะนอกจากมุ่งมั่นกว่าคนทั่วไป  ทะเยอทะยานกว่าคนทั่วไป
ส่งโดย: nicenick
สถานะ: Full Member ***
จำนวนความเห็น: 171  
   
118.172.103.*


« ความเห็นที่ #7 เมื่อ: 05/26/23 เวลา 10:00:32 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

on 03/24/23 เวลา 12:02:17, <<GOOD LIFE>> wrote:
ตอนใช้ทุน เก็บได้ 6 แสน + ปรับปรุงบ้านให้พ่อแม่ 3 แสน  
 
แต่งงานก่อนไปเรียนต่อเฉพาะทาง และ subboard (subboard คนที่สองของจังหวัด) เงินเก็บแทบไม่เหลือ ช่วงเรียนตั้งใจเรียนอย่างเดียวไม่รับจ็อบ มีน้อยก็ใช้น้อย  จบมาตั้งใจทำงานส่งมอบคุณค่า สร้างประสบการณ์ลูกค้าในมาตรฐานระดับทองคำให้กับคนไข้โรงพยาบาล เจ้าหน้าที่ เพื่อนร่วมงาน ทำงานได้ 7เดือนก็มาเปิดคลินิกเพราะมีดีมานด์ล้นทะลัก ปังตั้งแต่  Day 1  ทำอยู่ 10ปี พอเลย หยุดตั้งแต่อายุ 45ปี งานลดไป 90%  ระหว่างนั้นหาความรู้การลงทุนแบบmassive action พร้อมกับไม่ทิ้งสุขภาพ วิ่งวันละ 40 นาทีไปด้วย  ทำมาจนกระทั่งรายได้จากการลงทุนมากกว่ารายได้จากการทำงาน
 
ใช้เงินซื้อเวลา  ความสุขคือการมีอิสระ มีชีวิตที่ได้เลือก เอาเวลามาทำสิ่งที่ตัวเองชอบ เอามาพัฒนาความรู้ตัวเอง ชอบอ่านหนังสือมากที่สุด
 
มีล้านแรกตอนอายุ 34 ทุกวันนี้ไม่ได้ทำเพื่อเงินแล้ว แค่ดูแลชีวิตให้ดี ออกกำลังกายไป ใช้ชีวิตให้มีความสุขไป ทำอะไรสนุกๆไป  
 
เวลานี้เงินปีละหลายล้านไม่ต้องหา ครบปีก็คอยรับปันผลที่เติบโตขึ้นทุกปีๆ ชนิดที่รายได้จากการทำงานก็สู้ไม่ได้แล้ว
 
ทำในสิ่งที่ให้ชีวิต  
หยุดทำในสิ่งที่ทำให้ตายลงทุกวัน
..
 
 

 
 
 
อ่านแล้วประทับใจ ทุกวันนี้ไม่ทำเพื่อเงินแล้ว ดูแลสุขภาพ ทำอะไรสนุกๆ
ส่งโดย: luzeus
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1170  
   
183.88.217.*


Page(s) : 1 


แจ้งลบกระทู้ แจ้งเมื่อมีคนตอบกระทู้นี้ แนะนำกระทู้นี้ Print



Reply this Topic reserved for registed member only. Register



  • ข้อความและรูปภาพที่ท่านเห็นส่วนใหญ่ ได้ถูกส่งมาจาก ทางบ้าน
    ทางเว็บไซต์ Thaiclinic.com ไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ของข้อความและรูปภาพที่ถูกส่งมา

  • ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชนและส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ
    เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้นเพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง
    ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง

  • ถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมหรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล
    หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ webmaster@thaiclinic.com หรือ กดแจ้งที่ปุ่ม
    "แจ้งลบกระทู้"
    เพื่อให้ทีมงานทราบและทำการลบข้อความนั้นออกจากระบบต่อไป ขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกันทำให้สังคมน่าอยู่ครับ

ThaiClinic.Com . All Rights Reserved. !--BEGIN WEB STAT CODE-->

Powered by