« เมื่อ: 07/02/20 เวลา 13:48:36 » |
|
ขณะที่นิ้วกำลังเลื่อนหน้าฟีดอย่างไหลลื่น ภาพและเรื่องราวมากมายได้ผ่านสายตาในเวลาไม่ถึงนาที . ผมเห็นเพื่อนเลื่อนตำแหน่ง เห็นคนมีบ้านมีรถใหม่ เห็นเขาออกกำลังกายสุขภาพดี เห็นเพื่อนมัธยมที่เรียนด้วยกันมา โพสต์ภาพตัวเองหัวเราะอย่างร่าเริงในทริปเที่ยวต่างประเทศ . . ภายใต้รอยยิ้มที่ชื่นชมยินดีกับคนเหล่านั้น . มีความเจ็บจี๊ดเล็ก ๆ วิ่งพุ่งมาชนที่หัวใจ พร้อมกับเสียงตะโกนที่ดังกึกก้องว่า... . . เขาไปไหนต่อไหนกันหมดแล้ว มึงยังอยู่ตรงนี้อยู่เลย! . . คิดแล้วก็เจ็บใจ อยากจะพลักตัวเองให้ไปข้างหน้าเพื่อจะได้ จะมี จะเป็นแบบเขา . สิ่งเร้าเหล่านี้ มาเคาะประตูและกระตุ้นให้อยากจะมีมากขึ้นกว่าเดิมและไม่หยุดอยู่กับที่ในทุก ๆ วัน เป็นกิจวัตร . . แต่เมื่อรู้ตัวว่าตอนนี้เริ่มถูกสิ่งเร้านั้นครอบงำชีวิตมากเกินไปแล้ว . ผมมักจะกลับมานั่งทบทวนตัวเองใหม่ เพื่อไม่ให้ตัวเองหลงทางไปกับสิ่งเร้าเหล่านั้นมากจนลืมตัว . . มีแง่คิดดี ๆ ที่ผมได้เรียนรู้ จากการฟังสัมมนา "Living a life of presence" ของ Eckhart Tolle . เจ้าของหนังสือ The Power of Now (พลังแห่งจิตปัจจุบันขณะ) ผู้ถูกจัดเป็นบุคคลผู้ทรงอิทธิผลด้านจิตวิญญาณอันดับ 4 ของโลก . . ผมขอหยิบแง่คิดบางส่วน มาแบ่งปันดังนี้... . . 1. Enjoy กับการอยู่เฉย ๆ บ้าง . . สาขาจิตวิทยาของ University of Virginia และ Harvard University ได้ทำงานวิจัยที่ชื่อว่า Just think . พบว่า ผู้ชาย 67% และผู้หญิง 25% เลือกที่จะกดปุ่มให้ช็อตไฟฟ้ากับตัวเอง มากกว่าที่จะยอมอยู่เฉย ๆ กับความคิดตัวเองเป็นเวลา 15 นาที!! . . การ Enjoy กับการอยู่เฉย ๆ ดูจะเป็นเรื่องยากและขัดกับความเชื่อของกระแสโลกส่วนใหญ่ แต่มันคือช่วงเวลาที่พิเศษและล้ำค่าจริง ๆ เมื่อได้สัมผัสมัน . . หากลองเปิดใจที่จะอยู่เฉย ๆ วางมือถือ ปิดโทรทัศน์ ตัดสิ่งรบกวนออกไปทั้งหมด . เมื่อได้อยู่กับตัวเอง อยู่กับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าแบบมีสติ อยู่กับลมหายใจ นั่นอาจเป็นวินาทีที่เราได้ค้นพบว่า... เรามีทุกสิ่งที่ต้องการ เพื่อที่จะให้ชีวิตมีความสุขอยู่แล้ว . . 2. ไม่มีบ้าง ก็ไม่เป็นอะไร . . Eckhart กล่าวว่า... . เราเป็นผู้สร้างความทุกข์ขึ้นมาเอง จากความคิดอันผิดเพี้ยน ที่ถูกสร้างขึ้นโดยไม่รู้ตัว . บางทีสิ่งที่เราคิดว่าจำเป็นต้องมีนั้น ความคิดนั้นถูกสร้างมาเพราะเราเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น . ทั้งที่จริงแล้วชีวิตเราอาจไม่ได้จำเป็นต้องมีเหมือนอย่างเขาก็ได้ . . บางเรื่องจำเป็นต้องมีจริง ๆ แต่หลายเรื่องมันเป็นแค่ ถ้าได้ก็ดี ถ้าไม่มีก็ไม่ตาย . . เมื่อมองออกไปภายนอกมากเกินไป ความคิดจะถูกหล่อหลอมให้เชื่อว่า จำเป็นจะต้องมี สิ่งเหล่านั้น . แต่อาจหลงลืมไปว่าสิ่งที่ จำเป็นและมีความหมาย ของเราคืออะไร . . 3. โอบรับธรรมชาติและสิ่งที่เกิดขึ้น . . ทุกข์เกิดขึ้น เมื่อเราไม่โอบรับ "ธรรมชาติ" หรือ "สิ่งที่เกิดขึ้น" . เมื่ออะไร ๆ ไม่ได้เป็นอย่างที่ใจคิดฝัน เราไม่อยากให้สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วนั้นเป็นเรื่องจริง . บางคนระบายความไม่พอใจนั้นด้วยการกล่าวโทษดินฟ้า บางคนกล่าวโทษเศรษฐกิจ บางคนกล่าวโทษสังคม . หรือบางคนอาจกล่าวโทษและตำหนิตัวเอง และไม่ว่าจะกล่าวโทษหรือตำหนิอะไรก็ตาม ความทุกข์ก็เกิดขึ้นตามมาเสมอ . แต่หากเปิดใจโอบรับว่าสิ่งเหล่านั้นมันเกิดขึ้นยอมรับว่ามันเกิดขึ้นจริง . ยอมรับว่ามันมีความผิดพลาด ยอมรับว่ามันไม่ได้ดังหวัง ยอมรับว่า... มันเกิดขึ้นแล้ว . เมื่อยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นตามความจริง ใจก็จะคลายจากความทุกข์ และกลับมาอยู่กับปัจจุบันขณะได้ . . 4. เป็นธรรมดาที่จะทุกข์ . . แต่ถึงจะรู้ว่าการอยู่กับปัจจุบันนั้นจะทำให้ไม่ทุกข์ แต่ก็อย่าได้หวังที่จะสุขตลอดเวลา ความทุกข์ย่อมเกิดขึ้นอยู่เป็นปกติ . Eckhart บอกว่า... . . ตัวตนนั้นชอบหาศัตรู เพราะเมื่อมีศัตรู ก็จะทำให้เกิดการโต้เถียง เกิดการโมโห เกิดการพยายามทำให้ตัวเองเป็นฝ่ายที่ถูกต้อง ซึ่งอาการเหล่านั้น ทำให้ตัวตนแข็งแรงมากขึ้น และทำให้เรารู้สึกว่าเรายังมีตัวตนอยู่ . . แม้จะรู้ว่าการเปรียบเทียบทำให้เป็นทุกข์ แต่ในขณะเดียวกันก็ยังอยากเด่น อยากดี อย่างมี อยากได้ . ความอยากยังเป็นอาหารหล่อเลี้ยงให้เรารู้สึกว่ายังมีตัวตนอยู่ มันจึงเป็นเรื่องธรรมดามาก ๆ ที่เราจะทุกข์ . ลองวางความหวังที่จะมีความสุขเพียงอย่างเดียว และเปิดใจโอบรับที่จะทุกข์บางในบางจังหวะชีวิตก็ไม่เสียหาย . . 5. การเปิดรับความทุกข์เป็นประตูสู่ความก้าวหน้า . Eckhart ยังได้กล่าวว่า... . . ความทุกข์ คือเครื่องมือนำพาเราไปสู่การตื่นรู้ เพราะความทุกข์ที่แสนสาหัสกำลังสอนให้เรายอมศิโรราบ และยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น ในแบบที่มันเป็น . และ ความทุกข์เกิดขึ้นเพื่อทำลาย และทำให้ตัวตนของคุณมีรอยแตกร้าว ซึ่งรอยแตกร้าวนั้น จะทำให้สิ่งที่งดงามที่ซ่อนอยู่ภายใต้ตัวตนได้เบ่งบาน . . หากขาดสมดุลด้านความทุกข์ไป เราก็อาจหลงใหลไปกับความสุขและความพึงพอใจได้ . ลองมองย้อนกลับไปในชีวิตในช่วง 2 5 ปีที่ผ่านมานี้ดูสิ . ทบทวนถึงเหตุการณ์ที่เป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญบางอย่างในชีวิต . ไม่ว่าคุณจะตัดสินใจย้ายงานใหม่ ตัดสินใจดูแลสุขภาพ ตัดสินใจฝึกใจหาความสงบ หรือตัดสินใจเปลี่ยนแปลงอะไรก็ตาม . มันคือ ความสุข หรือ ความทุกข์ กันล่ะ ที่เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้คุณเปลี่ยนแปลง?? . เมื่อมองความทุกข์ว่าเป็น เรื่องธรรมดา คุณจะมีสติ และสามารถเติบโตเพราะความทุกข์นั้นได้ . . และถ้ายังไม่เข้าใจมากพอว่าจะเปิดใจยอมรับความทุกข์ไปทำไม . ก็ลองทบทวนดูว่า... . เพราะความทุกข์จากการเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นหรือเปล่าล่ะ ที่ทำให้คุณได้อ่านบทความและรู้สึกแบบที่คุณกำลังรู้สึกในตอนนี้ . . กิตติ ไตรรัตน์ #พาใจกลับบ้าน #SelfLeadershipFacilitator
|
|
"Whether you think you can, or you think you can't--you're right."
-- Henry Ford--
|
ส่งโดย: <<GOOD LIFE>>
สถานะ: Executive Member
    
จำนวนความเห็น: 963
| 
|
1.2.201.* |
|
|
|