แจ้งลบกระทู้ แจ้งเมื่อมีคนตอบกระทู้นี้ แนะนำกระทู้นี้ Print

 หัวข้อ 38320: ปรึกษาเรื่องการเรียนต่อเฉพาะทาง  (จำนวนคนอ่าน 6172 ครั้ง)
« เมื่อ: 06/22/20 เวลา 10:39:07 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ตอนนี้เป็น GP intern 3 ครับ  
มีความสนใจจะเรียนต่อเป็นฟรีเทรน  
แต่ยังไม่แน่ใจว่าควรเลือกทางไหนครับ
มีที่สนใจคืออายุรกรรม วิสัญญี  
อายุรกรรม ชอบเนื้อหา แนวทางการคิดหาคำตอบของโรค  
แต่ในแง่แนวการทำงาน ชอบแบบทำแล้วจบเป็นเคสๆไปมากกว่า
จึงมองว่าวิสัญญีก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจครับ  
 
อยากจะขอคำแนะนำ หรือความเห็นของหลายๆท่านประกอบการตัดสินใจครับ  
รวมถึงเรื่องสถาบันในการเทรน โอกาสที่จะได้เรียนหากเป็นฟรีเทรนครับ
โปรไฟล์คร่าวๆเกียรตินิยม 1 แต่เป็นสถาบันภูมิภาค ไม่ใช่ส่วนกลางครับ
ส่งโดย: M3629
สถานะ: Newbie *
จำนวนความเห็น: 7  
   
203.114.114.162 fwd for 10.0.2.*


« ความเห็นที่ #1 เมื่อ: 06/22/20 เวลา 11:48:00 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

แนะนำดมยาดีกว่าครับ รายได้ดีพอสมควร ไม่ต้องต่อsubboardก็ยังพอมีที่รองรับ  
แถมดมยาดมจบก็คือเสร็จ จบเป็นเคสๆไป ไม่ต้องตามมาเฝ้าอะไรต่อนอกเวลา

ส่งโดย: น้ำเน่าในเงาจันทร์ male
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 6054   Email
   
110.77.137.*


« ความเห็นที่ #2 เมื่อ: 06/22/20 เวลา 12:50:15 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ตามที่ชอบๆ เพราะต้องอยู่กับมันนาน
ส่งโดย: jumpoo
สถานะ: Senior Member ****
จำนวนความเห็น: 400  
   
1.46.98.*


« ความเห็นที่ #3 เมื่อ: 06/22/20 เวลา 15:00:30 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

สมมติว่า ชอบสองสาขานี้เท่าๆกัน...ดมยา น่าจะดีกว่าทั้ง งานรัฐและงานเอกชน ตรงที่
1. งานจบเป็นเคสๆ ไป ภายในไม่กี่ชั่วโมง (ไม่ใช่เคสเดียว อาจจะต้องรักษาไป อีกหลายเดือน- หลายปี- ตลอดชีวิต)
2. น่าจะขาดแคลน เป็นที่ต้องการ ทั้งภาครัฐ+ เอกชน Huh มากกว่าอายุรกรรม ที่จะต้องต่อยอด มั้ง
3. ลักษณะงานเป็น การทำหัตถการเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้น ค่าตอบแทน/ ชั่วโมง ทั้งภาครัฐ+ เอกชน (โดยเฉลี่ย) น่าจะมากกว่า อายุรกรรม Huh
ส่งโดย: Dr._Panya male
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1916  
   
184.22.98.49 fwd for 192.168.14.*


« ความเห็นที่ #4 เมื่อ: 06/22/20 เวลา 18:37:42 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

on 06/22/20 เวลา 15:00:30, Dr._Panya wrote:
สมมติว่า ชอบสองสาขานี้เท่าๆกัน...ดมยา น่าจะดีกว่าทั้ง งานรัฐและงานเอกชน ตรงที่
1. งานจบเป็นเคสๆ ไป ภายในไม่กี่ชั่วโมง (ไม่ใช่เคสเดียว อาจจะต้องรักษาไป อีกหลายเดือน- หลายปี- ตลอดชีวิต)
2. น่าจะขาดแคลน เป็นที่ต้องการ ทั้งภาครัฐ+ เอกชน Huh มากกว่าอายุรกรรม ที่จะต้องต่อยอด มั้ง
3. ลักษณะงานเป็น การทำหัตถการเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้น ค่าตอบแทน/ ชั่วโมง ทั้งภาครัฐ+ เอกชน (โดยเฉลี่ย) น่าจะมากกว่า อายุรกรรม Huh

ถ้าเป็นอายุรกรรมฟรีเทรน (แบบไม่ใช่ฟาสแทรค) ตอนจะต่อยอด ก็ต้องหาต้นสังกัดอีกครั้งใช่มั้ยครับ หรือแบบไม่มีสังกัดก็ได้
ส่งโดย: M3629
สถานะ: Newbie *
จำนวนความเห็น: 7  
   
118.173.50.*


« ความเห็นที่ #5 เมื่อ: 06/22/20 เวลา 19:13:33 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

อย่าเรียนอะไรที่ลงท้ายด้วย กรรม  Grin Grin

This too, shall pass
ส่งโดย: Hippo
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 2633  
   
171.4.219.*


« ความเห็นที่ #6 เมื่อ: 06/22/20 เวลา 22:02:41 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

on 06/22/20 เวลา 19:13:33, Hippo wrote:
อย่าเรียนอะไรที่ลงท้ายด้วย กรรม  Grin Grin

 
 
555 Grin


ยามเมื่อมฤตยูรอท่าหน้าทวาร หมอเทียบเปรียบปานพระเจ้า
ยามเมื่อโรคสุมรุมเร้า หมอคือพระเจ้าจุติมา
ยามเมื่อโรคหายไข้เรื้อ หมอคือสามัญมนุสสา
ยามเมื่อคนไข้มรณา หมอคือผีห่าซาตาน..

ส่งโดย: know555 male
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 16543  
   
49.49.251.*


« ความเห็นที่ #7 เมื่อ: 06/23/20 เวลา 07:48:08 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

6699-med.JPG
-ข้อมูลจากเวปแพทย์สภา วิสัญญีปี 2562 มีจำนวน 1877 คน เฉลี่ยแล้ว จังหวัดหนึ่งจะมีจำนวน 24.6 คน และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ  ความสนใจลดน้อยลง รายได้ส่วนมากจะได้จาก ค่า work load ของรัฐบาล ที่แต่ละคนจะได้ประมาณ 6-7 หมื่นบาทต่อเดือน ซึ่งรายได้นี้ ไม่แน่นอน เพราะจ่ายด้วยเงินบำรุงรพ. แต่รายได้จากรพ.เอกชนจะไม่มาก เพราะจำนวนหมอเพิ่มขึ้น  
 
-อายุรกรรม ปี 2562 ปีจำนวน 12260 คน และในจำนวนนี้ ครึ่งหนึ่งคือ 6685คน จะเป็นอนุสาขา ทำให้ระบบการแพทย์กลับมาผูกขาดในแพทย์อนุสาขาอีกครั้งหนึ่ง ในแต่ละจังหวัด จะมีแพทย์อายุรกรรม อนุสาขาประมาณ 87 คน เป็นอย่างมาก หรือสาขาละ 2-3 คน  
 
อะไรที่ผูกขาด ย่อมดีกว่า เหมือนได้ใบอนุญาตที่มีสิทธิทำแต่ผู้เดียว
ส่งโดย: 6699
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1520  
   
223.205.249.*


« ความเห็นที่ #8 เมื่อ: 06/23/20 เวลา 09:22:59 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

on 06/22/20 เวลา 18:37:42, M3629 wrote:

ถ้าเป็นอายุรกรรมฟรีเทรน (แบบไม่ใช่ฟาสแทรค) ตอนจะต่อยอด ก็ต้องหาต้นสังกัดอีกครั้งใช่มั้ยครับ หรือแบบไม่มีสังกัดก็ได้

 
ตอนสมัครเรียน บอร์ด/ สับบอร์ด...นั้นจะมีทุน/ ไม่มีทุนมา(ฟรีเทรน)ก็ได้ครับ
 การเอาทุนมาเรียนนั้น ก็จะมีข้อดีตรงที่  
1. มีเงินเดือนจาก รพ.ที่เราเอาทุนมา ซึ่งน่าจะมากกว่าเงินเดือนจาก สถาบันที่เรามาเรียน ซึ่งเค้าจะให้เราที่ขั้นต่ำสุด (แหงล่ะ เราสมัครมาเองนิ) ประมาณเงินเดือน ป.ตรี ครับ ในขณะที่เงินเดือนจากต้นสังกัดจะประมาณเงินเดือนของ ป.โท ครับ
2. (สมมติว่า ทุกๆอย่างอื่นๆนั้นพอๆกัน) คนเอาทุนมาเรียนนั้น มีโอกาสได้เรียนต่อมากกว่าโดยเฉพาะการสมัครเรียนกับ โรงเรียนแพทย์ชั้นนำ เพราะเค้าถือว่า เป็นการช่วยเหลือโรงพยาบาลต้นสังกัดที่ขาด หรือต้องการ ผู้เชี่ยวชาญสาขาที่เราสมัครมาเรียน/ ถูกส่งมาเรียน (เหมือนเมื่อ 10+ ปีก่อนที่ แพทย์ที่ทำงานในสามจังหวัดภาคใต้ ครบ 3+ ปี แล้วสมัครมาเรียนต่อ ที่ถ้าคุณจบแล้วต้องกลับไปใช้ทุนเป็น 2 เท่าคือ 6 หรือ 8 ปี นั้นไม่ว่าคุณจะจบแพทย์จากที่ไหน ได้เกรดเท่าไหร่ ให้คุณเข้าไปที่ สำนักงาน สสจ. แล้วคุณจิ้มเลือกเอาได้เลย ว่า คุณอยากจะเรียนต่ออะไร/ ที่สถาบันไหน ได้เลยครับ อิ อิ อิ)...ไม่ใช่ช่วยเหลือเราเป็นการส่วนตัว(ในกรณีที่เราสมัครแบบฟรีเทรน) ดังนั้นคนที่จะมาสมัครเรียนฟรีเทรนกับสถาบันยอดฮิต+ สาขายอดฮิต นั้นไม่ต้องพูดเลยว่า โปรไฟล์จะ "มหาเทพ" ขนาดไหน ที่แน่ๆคือว่าที่ อาจารย์ในโรงเรียนแพทย์ นั่นแหละครับ อิ อิ อิ
« แก้ไขครั้งสุดท้ายเมื่อ: 06/23/20 เวลา 09:24:39 by Dr._Panya »
ส่งโดย: Dr._Panya male
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1916  
   
184.22.98.49 fwd for 192.168.14.*


« ความเห็นที่ #9 เมื่อ: 06/23/20 เวลา 10:29:05 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

on 06/23/20 เวลา 09:22:59, Dr._Panya wrote:

 
ตอนสมัครเรียน บอร์ด/ สับบอร์ด...นั้นจะมีทุน/ ไม่มีทุนมา(ฟรีเทรน)ก็ได้ครับ
 การเอาทุนมาเรียนนั้น ก็จะมีข้อดีตรงที่  
1. มีเงินเดือนจาก รพ.ที่เราเอาทุนมา ซึ่งน่าจะมากกว่าเงินเดือนจาก สถาบันที่เรามาเรียน ซึ่งเค้าจะให้เราที่ขั้นต่ำสุด (แหงล่ะ เราสมัครมาเองนิ) ประมาณเงินเดือน ป.ตรี ครับ ในขณะที่เงินเดือนจากต้นสังกัดจะประมาณเงินเดือนของ ป.โท ครับ
2. (สมมติว่า ทุกๆอย่างอื่นๆนั้นพอๆกัน) คนเอาทุนมาเรียนนั้น มีโอกาสได้เรียนต่อมากกว่าโดยเฉพาะการสมัครเรียนกับ โรงเรียนแพทย์ชั้นนำ เพราะเค้าถือว่า เป็นการช่วยเหลือโรงพยาบาลต้นสังกัดที่ขาด หรือต้องการ ผู้เชี่ยวชาญสาขาที่เราสมัครมาเรียน/ ถูกส่งมาเรียน (เหมือนเมื่อ 10+ ปีก่อนที่ แพทย์ที่ทำงานในสามจังหวัดภาคใต้ ครบ 3+ ปี แล้วสมัครมาเรียนต่อ ที่ถ้าคุณจบแล้วต้องกลับไปใช้ทุนเป็น 2 เท่าคือ 6 หรือ 8 ปี นั้นไม่ว่าคุณจะจบแพทย์จากที่ไหน ได้เกรดเท่าไหร่ ให้คุณเข้าไปที่ สำนักงาน สสจ. แล้วคุณจิ้มเลือกเอาได้เลย ว่า คุณอยากจะเรียนต่ออะไร/ ที่สถาบันไหน ได้เลยครับ อิ อิ อิ)...ไม่ใช่ช่วยเหลือเราเป็นการส่วนตัว(ในกรณีที่เราสมัครแบบฟรีเทรน) ดังนั้นคนที่จะมาสมัครเรียนฟรีเทรนกับสถาบันยอดฮิต+ สาขายอดฮิต นั้นไม่ต้องพูดเลยว่า โปรไฟล์จะ "มหาเทพ" ขนาดไหน ที่แน่ๆคือว่าที่ อาจารย์ในโรงเรียนแพทย์ นั่นแหละครับ อิ อิ อิ

 
ถ้าเป็นแบบนี้ เราควรเลือกสถาบันกลางๆ โอกาสได้ก็จะมากกว่าสินะครับ อย่างอายุรกรรมที่เป็นfast track ปัจจุบันมีคนสนใจเยอะไหมครับ อย่าง neuro น่าจะมีคนสนใจเยอะ แต่ hemato onco ทำไมถึงไม่ค่อยมีคนสนใจ(เท่าที่ทราบมา) หรือ ถ้าสนใจอายุรกรรม ควรเรียน gen med ไปก่อน
ส่งโดย: M3629
สถานะ: Newbie *
จำนวนความเห็น: 7  
   
203.114.114.162 fwd for 10.0.2.*


« ความเห็นที่ #10 เมื่อ: 06/23/20 เวลา 10:32:21 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

on 06/23/20 เวลา 07:48:08, 6699 wrote:
-ข้อมูลจากเวปแพทย์สภา วิสัญญีปี 2562 มีจำนวน 1877 คน เฉลี่ยแล้ว จังหวัดหนึ่งจะมีจำนวน 24.6 คน และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ  ความสนใจลดน้อยลง รายได้ส่วนมากจะได้จาก ค่า work load ของรัฐบาล ที่แต่ละคนจะได้ประมาณ 6-7 หมื่นบาทต่อเดือน ซึ่งรายได้นี้ ไม่แน่นอน เพราะจ่ายด้วยเงินบำรุงรพ. แต่รายได้จากรพ.เอกชนจะไม่มาก เพราะจำนวนหมอเพิ่มขึ้น  
 
-อายุรกรรม ปี 2562 ปีจำนวน 12260 คน และในจำนวนนี้ ครึ่งหนึ่งคือ 6685คน จะเป็นอนุสาขา ทำให้ระบบการแพทย์กลับมาผูกขาดในแพทย์อนุสาขาอีกครั้งหนึ่ง ในแต่ละจังหวัด จะมีแพทย์อายุรกรรม อนุสาขาประมาณ 87 คน เป็นอย่างมาก หรือสาขาละ 2-3 คน  
 
อะไรที่ผูกขาด ย่อมดีกว่า เหมือนได้ใบอนุญาตที่มีสิทธิทำแต่ผู้เดียว

 
ค่า workload (P4P เข้าใจถูกไหมครับ) แล้วอย่างอายุรกรรม ได้ตรงนี้น้อยกว่า เพราะไม่เน้นหัตถการรึเปล่าครับ  
แต่จะได้รายได้เสริมจากคลินิกและเอกชนแทน เข้าใจถูกไหมครับ
ส่งโดย: M3629
สถานะ: Newbie *
จำนวนความเห็น: 7  
   
203.114.114.162 fwd for 10.0.2.*


« ความเห็นที่ #11 เมื่อ: 06/23/20 เวลา 13:19:45 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

on 06/23/20 เวลา 10:29:05, M3629 wrote:

 
ถ้าเป็นแบบนี้ เราควรเลือกสถาบันกลางๆ โอกาสได้ก็จะมากกว่าสินะครับ อย่างอายุรกรรมที่เป็นfast track ปัจจุบันมีคนสนใจเยอะไหมครับ อย่าง neuro น่าจะมีคนสนใจเยอะ แต่ hemato onco ทำไมถึงไม่ค่อยมีคนสนใจ(เท่าที่ทราบมา) หรือ ถ้าสนใจอายุรกรรม ควรเรียน gen med ไปก่อน

...ถ้าคุณสมบัติอื่นๆ พอๆกัน การเลือกเรียนต่อ สาขาใดๆที่ สถาบันรองๆ ย่อมมีโอกาสได้เข้าเรียนมากกว่าแน่นอนครับ เพราะว่าคู่แข่งมีจำนวนน้อยกว่า (เมื่อเทียบเป็นสัดส่วน หรือ เปอร์เซ็นต์ )+ คู่แข่งก็มีโปรไฟล์ธรรมดาๆมากกว่าระดับเทพ/ มหาเทพ (คิดถึงตอน สอบเข้าเรียนต่อในโรงเรียนมัธยมชื่อดัง หรือตอนสอบเข้าแพทย์ ในโรงเรียนแพทย์ชั้นนำ ดูสิครับ อิ อิ อิ)
ส่งโดย: Dr._Panya male
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1916  
   
184.22.98.49 fwd for 192.168.14.*


« ความเห็นที่ #12 เมื่อ: 06/23/20 เวลา 13:38:31 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

on 06/23/20 เวลา 10:32:21, M3629 wrote:

 
ค่า workload (P4P เข้าใจถูกไหมครับ) แล้วอย่างอายุรกรรม ได้ตรงนี้น้อยกว่า เพราะไม่เน้นหัตถการรึเปล่าครับ  
แต่จะได้รายได้เสริมจากคลินิกและเอกชนแทน เข้าใจถูกไหมครับ

 
ตอนผมไปใช้ทุนที่ รพ. ทางภาคใต้เมื่อนานๆๆๆมาแล้ว (ไม่บอกที่แน่นอน ละกัน เดี๋ยวไล่อายุถูก อิ อิ) รพท. นั้นมีแพทย์ผ่าตัดทุกๆสาขารวมกัน 16 คน แต่มีแพทย์ดมยา แค่ 1 คน...ตารางเวรอาจารย์ดมยานั้น มีการเซ็นต์ทุกวันของเดือน คิดดูว่าอาจารย์ดมยาท่านนั้น (เงินเดือนเท่าๆกันใช่ไหมครับ) จะได้ค่าเวร/ ค่าหัตถการมากกว่าแพทย์ท่านอื่นๆกี่เท่า  
ใน รพ.เอกชนก็เช่นกัน จะมีจำนวนแพทย์ดมยาน้อยกว่าแพทย์ผ่าตัดทุกๆสาขาเสมอ ชนิดที่ว่าอาจารย์ดมยาคนนึง สามารถดูแลเคสผ่าตัดที่ไม่มีภาวะแทรกซ้อนอะไร ที่เปิดพร้อมกันได้คราวละ 3- 4 ห้อง (ถึงแม้ค่า DF/  Case ของแพทย์ดมยาจะน้อยกว่าแพทย์ที่ผ่าตัดก็เถอะ และก็นั่งเฝ้าเคส ไม่ใช่ยืนผ่าตัด 3- 4 ชั่วโมง/ เคส เหมือนหมอที่ผ่าตัด)
 
ป.ล. แต่ ส่วนตัวผมแล้ว ผมไม่ได้ชอบสาขาดมยา และไม่ได้มองเรื่องเงินเป็นหลัก ผมจึงไม่ได้เลือกเรียนต่อดมยา
ส่งโดย: Dr._Panya male
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1916  
   
184.22.98.49 fwd for 192.168.14.*


« ความเห็นที่ #13 เมื่อ: 06/23/20 เวลา 14:40:15 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

on 06/23/20 เวลา 07:48:08, 6699 wrote:
-ข้อมูลจากเวปแพทย์สภา วิสัญญีปี 2562 มีจำนวน 1877 คน เฉลี่ยแล้ว จังหวัดหนึ่งจะมีจำนวน 24.6 คน และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ  ความสนใจลดน้อยลง รายได้ส่วนมากจะได้จาก ค่า work load ของรัฐบาล ที่แต่ละคนจะได้ประมาณ 6-7 หมื่นบาทต่อเดือน ซึ่งรายได้นี้ ไม่แน่นอน เพราะจ่ายด้วยเงินบำรุงรพ. แต่รายได้จากรพ.เอกชนจะไม่มาก เพราะจำนวนหมอเพิ่มขึ้น  
 
-อายุรกรรม ปี 2562 ปีจำนวน 12260 คน และในจำนวนนี้ ครึ่งหนึ่งคือ 6685คน จะเป็นอนุสาขา ทำให้ระบบการแพทย์กลับมาผูกขาดในแพทย์อนุสาขาอีกครั้งหนึ่ง ในแต่ละจังหวัด จะมีแพทย์อายุรกรรม อนุสาขาประมาณ 87 คน เป็นอย่างมาก หรือสาขาละ 2-3 คน  
 
อะไรที่ผูกขาด ย่อมดีกว่า เหมือนได้ใบอนุญาตที่มีสิทธิทำแต่ผู้เดียว

ป้าคะ  ป้าคิดแบบนั้นมันไม่ถูกนะคะ   จะเอาจำนวนคนมาหารด้วยจังหวัดดื้อๆไม่ได้นะคะ
การกระจายตัวมันไม่เท่ากันค่ะ
//คุณป้าเป็นคนจังหวัดอะไรคะ ?
//ยื่นไมค์
ส่งโดย: Pandermonium
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 662  
   
1.10.229.*


« ความเห็นที่ #14 เมื่อ: 06/23/20 เวลา 18:08:02 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

on 06/23/20 เวลา 10:29:05, M3629 wrote:

 
ถ้าเป็นแบบนี้ เราควรเลือกสถาบันกลางๆ โอกาสได้ก็จะมากกว่าสินะครับ อย่างอายุรกรรมที่เป็นfast track ปัจจุบันมีคนสนใจเยอะไหมครับ อย่าง neuro น่าจะมีคนสนใจเยอะ แต่ hemato onco ทำไมถึงไม่ค่อยมีคนสนใจ(เท่าที่ทราบมา) หรือ ถ้าสนใจอายุรกรรม ควรเรียน gen med ไปก่อน

 
Hemato Onco เป็นสาขาที่ไม่ทำเงินในเอกชนครับ และสามารถ teleconsult ได้ โดนอาจารย์แพทย์จากศูนย์กลางกินรวบหมด
 
สรุปว่าเรียน Hemato Onco มาไม่รวย แต่งานก็ไม่หนัก ถ้าเป็นคนสมถะก็น่าจะชอบ
ส่งโดย: megacure
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 2283  
   
125.26.70.*


« ความเห็นที่ #15 เมื่อ: 06/23/20 เวลา 19:11:05 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

on 06/23/20 เวลา 14:40:15, Pandermonium wrote:

ป้าคะ  ป้าคิดแบบนั้นมันไม่ถูกนะคะ   จะเอาจำนวนคนมาหารด้วยจังหวัดดื้อๆไม่ได้นะคะ
การกระจายตัวมันไม่เท่ากันค่ะ
//คุณป้าเป็นคนจังหวัดอะไรคะ ?
//ยื่นไมค์

 
555
ส่งโดย: 6699
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1520  
   
223.205.249.*


« ความเห็นที่ #16 เมื่อ: 06/23/20 เวลา 19:55:23 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

on 06/23/20 เวลา 18:08:02, megacure wrote:

 
Hemato Onco เป็นสาขาที่ไม่ทำเงินในเอกชนครับ และสามารถ teleconsult ได้ โดนอาจารย์แพทย์จากศูนย์กลางกินรวบหมด
 
สรุปว่าเรียน Hemato Onco มาไม่รวย แต่งานก็ไม่หนัก ถ้าเป็นคนสมถะก็น่าจะชอบ

ส่วนใหญ่เป็นเคสมะเร็ง การตอบสนองการรักษาน่าจะเห็นผลยากกว่าสาขาอื่น เวลาทำงานคงรู้สึกเสียกำลังใจแน่ๆเลยครับ
ส่งโดย: M3629
สถานะ: Newbie *
จำนวนความเห็น: 7  
   
27.55.72.*


« ความเห็นที่ #17 เมื่อ: 06/24/20 เวลา 10:13:18 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

on 06/23/20 เวลา 18:08:02, megacure wrote:

 
Hemato Onco เป็นสาขาที่ไม่ทำเงินในเอกชนครับ และสามารถ teleconsult ได้ โดนอาจารย์แพทย์จากศูนย์กลางกินรวบหมด
 
สรุปว่าเรียน Hemato Onco มาไม่รวย แต่งานก็ไม่หนัก ถ้าเป็นคนสมถะก็น่าจะชอบ

 อยู่เอกชนประกันสังคม ได้
ส่งโดย: jumpoo
สถานะ: Senior Member ****
จำนวนความเห็น: 400  
   
1.47.75.*


« ความเห็นที่ #18 เมื่อ: 06/24/20 เวลา 11:23:55 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

คนไข้ต้องการหมอ Onco มาก เพราะคนไข้หลังให้ยารักษามะเร็ง มีปัญหามากมาย เป็นระยะต่อเนื่องไปตลอด ไม่ใช่รักษาแล้วตาย ถ้าได้แพทย์ดูแลดีๆอยู่ได้นานถึงแม้จะมีปัญหาบ้าง
 
เสียดายที่หลักสูตร Onco ไม่ต้องใช้ทุน (ไม่งั้นไม่มีคนเรียน) และเวลาเรียนดูเหมือนราวนด์หรือดูคนไข้อย่างกับนักศึกษาแพทย์ ไม่สมกับที่เป็นresident เฉพาะทาง  ถ้ามีความรู้พื้นฐานทางแพทย์โดยเฉพาะmedร่วมด้วย คนไข้จะมาให้หมอช่วยแก้ปัญหาซึ่งมีตลอด ไม่ใช่มีความรู้แค่การให้ยามะเร็งและแก้ไขอาการช่วงให้chemo พอมีปัญหาทางmed พื้นฐานความรู้ทางmed ไม่แน่น  investigateไม่เป็น เปะปะไปเรื่อย หรือ ให้ยาแบบเข้าป่าไปเลย คนไข้ไม่หนีไปหาหมออื่นก็ตาย ถ้ามีความรู้ดีๆหรืออันไหนไม่รู้ก็ยอมconsultแพทย์เฉพาะทาง คนไข้จะมากแน่นอน
« แก้ไขครั้งสุดท้ายเมื่อ: 06/24/20 เวลา 11:28:32 by only2b »
ส่งโดย: only2b male
สถานะ: Full Member ***
จำนวนความเห็น: 166  
   
184.22.163.*


« ความเห็นที่ #19 เมื่อ: 06/25/20 เวลา 07:55:34 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

workload ไม่ใช่ P4P ค่ะ เช่นเวร med อาจจะ 550 /8 hr  ถ้ามีเคส admit , ETT , CPR , septic shock เกิน ค่า 550 ก็จะคิด workload ได้
ส่วนของ Anesth ก็คิด / case เช่น GA , spinal block, local nerve block อะไรประมาณนี้
ส่งโดย: Yaso
สถานะ: Junior Member **
จำนวนความเห็น: 62  
   
223.205.243.*


« ความเห็นที่ #20 เมื่อ: 06/25/20 เวลา 11:50:03 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

  เรียนอะไรก็ได้ อยู่ รพ.รัฐไปอยู่ที่ไกลๆ  โอกาศทำเงินอยู่นอก รพ. ลงทุนอสังหา หรือทำคลินิก อย่าสนใจp4p อะไรนั่นเลย นั่นคือฝั่งรัฐบาล
   ส่วนฝั่งเอกชน ก็คือฝึกรัฐสักระยะ เก่งจริงแล้วไปเอกชน ทำงานไปเรื่อยๆอู้ฟู่สุดก็ดมยา  สาขาอื่นก็มีกินมีใช้
    ที่ผมเห็นมาประมาณนี้ครับ
ส่งโดย: blitzs
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 2998  
   
110.164.66.*


« ความเห็นที่ #21 เมื่อ: 06/25/20 เวลา 17:40:32 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

    อะไรดี อายุรกรรม-วิสัญญี ? - "ทั้งคู่ก็ดีอยู่ "
ส่งโดย: หมอเมืองสยาม
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 11432  
   
171.96.191.*


« ความเห็นที่ #22 เมื่อ: 06/25/20 เวลา 18:22:09 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

อันนี้ขอถามหน่อย  ขี้เกลียดแตกกระทู้
ถ้าคุณน้องเรียนmedเป็นแค่gen Medจะหางานยากมั้ยคะ?
ส่งโดย: Pandermonium
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 662  
   
1.2.190.*


« ความเห็นที่ #23 เมื่อ: 06/25/20 เวลา 18:33:37 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

on 06/25/20 เวลา 18:22:09, Pandermonium wrote:
อันนี้ขอถามหน่อย  ขี้เกลียดแตกกระทู้
ถ้าคุณน้องเรียนmedเป็นแค่gen Medจะหางานยากมั้ยคะ?

สงสัยเหมือนกันครับ ในระยะยาวไม่น่าจะเป็นเรื่องดีเท่าไหร่
 
สงสัยอีกอย่างคือ gen med กับ subspec ในรพรัฐทั่วๆไป workload ต่างกันมั้ยครับ หรือ ก็แชร์พอๆกัน
 
ส่งโดย: M3629
สถานะ: Newbie *
จำนวนความเห็น: 7  
   
113.53.6.*


« ความเห็นที่ #24 เมื่อ: 06/26/20 เวลา 10:40:39 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

on 06/25/20 เวลา 18:33:37, M3629 wrote:

สงสัยเหมือนกันครับ ในระยะยาวไม่น่าจะเป็นเรื่องดีเท่าไหร่
 
สงสัยอีกอย่างคือ gen med กับ subspec ในรพรัฐทั่วๆไป workload ต่างกันมั้ยครับ หรือ ก็แชร์พอๆกัน
 

 
ถ้าgen med โรงพยาบาลเอกชนระดับ tertiaryก็เริ่มลำบากแน่ครับ เพราะsubboardมันดูเคสได้ทั้งsub ตัวเองแล้วก็gen med อย่างผมก็ทำงานทั้งGI+Gen med ครับ  
ส่วนงานในเอกชนไม่ใหญ่มากในต่างจังหวัดน่าจะยังมีงานอยู่ครับ  
โรงพยาบาลรัฐคิดว่าแค่Gen medก็ยังพอถูไถ แต่การดูเคสยากๆอาจจะยังไม่ค่อยมั่นใจเท่าเป็นsubboard แล้วมันจะเครียดเอง

ส่งโดย: น้ำเน่าในเงาจันทร์ male
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 6054   Email
   
110.77.137.*


« ความเห็นที่ #25 เมื่อ: 06/26/20 เวลา 11:32:30 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

Grin
หนทางดูยาวไกล...

The day you went away . . .
ส่งโดย: SantaNiCo female
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1378  
   
1.2.190.*


« ความเห็นที่ #26 เมื่อ: 07/05/20 เวลา 06:39:47 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ไม่สนใจเวชศาสตร์ครอบครัวเหรอครับ

Professor of Defensive Medicine
Practice defensive medicine or retire
ส่งโดย: Nomad Physician male
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 518  
   
72.202.17.*


« ความเห็นที่ #27 เมื่อ: 07/05/20 เวลา 08:19:56 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

on 07/05/20 เวลา 06:39:47, Nomad Physician wrote:
ไม่สนใจเวชศาสตร์ครอบครัวเหรอครับ

เราไม่เคยคิดว่ามันน่าสนใจเลยค่ะ
ก็เหมือนตรวจGPอ่ะ  หมอเก่งแค่ไหนก็คุมDM HT DLPไม่ได้
น่าเบื่อ
ร้านชาไข่มุกก็เปิดทุก4แยกถนนหมอจะไปสู้ยังไงได้
ส่งโดย: Pandermonium
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 662  
   
182.232.183.*


« ความเห็นที่ #28 เมื่อ: 07/05/20 เวลา 10:14:10 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

on 07/05/20 เวลา 06:39:47, Nomad Physician wrote:
ไม่สนใจเวชศาสตร์ครอบครัวเหรอครับ

คิดว่าทำไปนานๆ อาจจะเบื่อได้น่ะครับ
เพราะในแง่ของ holistic แล้ว ไม่ได้ชอบแนวนั้นมากนัก  
 
ไม่ได้หมายถึงไม่สนใจเลยขนาดนั้นนะครับ แต่แนวๆว่า เราไม่ได้สนุกกับมันเท่าไหร่
« แก้ไขครั้งสุดท้ายเมื่อ: 07/05/20 เวลา 10:14:51 by M3629 »
ส่งโดย: M3629
สถานะ: Newbie *
จำนวนความเห็น: 7  
   
203.114.114.162 fwd for 10.0.2.*


« ความเห็นที่ #29 เมื่อ: 12/01/20 เวลา 22:30:06 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ


รพ.ก็ไม่ได้เปิดเพิ่มขึ้น หมอวิสัญญี มีมากๆขึ้นเรื่อยๆ  
เริ่มจะตกงานกันละค่า  
 
เป็นอายุรกรรมดีกว่าค่ะ คนไข้เยอะดี ผู้สูงอายุเยอะขึ้น ดูน่าจะเป็นที่ต้องการมากกว่าค่ะ  
 
เอาที่สนใจดีกว่าค่า
ส่งโดย: luzeus
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1170  
   
184.22.145.*


Page(s) : 1 


แจ้งลบกระทู้ แจ้งเมื่อมีคนตอบกระทู้นี้ แนะนำกระทู้นี้ Print



Reply this Topic reserved for registed member only. Register



  • ข้อความและรูปภาพที่ท่านเห็นส่วนใหญ่ ได้ถูกส่งมาจาก ทางบ้าน
    ทางเว็บไซต์ Thaiclinic.com ไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ของข้อความและรูปภาพที่ถูกส่งมา

  • ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชนและส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ
    เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้นเพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง
    ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง

  • ถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมหรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล
    หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ webmaster@thaiclinic.com หรือ กดแจ้งที่ปุ่ม
    "แจ้งลบกระทู้"
    เพื่อให้ทีมงานทราบและทำการลบข้อความนั้นออกจากระบบต่อไป ขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกันทำให้สังคมน่าอยู่ครับ

ThaiClinic.Com . All Rights Reserved. !--BEGIN WEB STAT CODE-->

Powered by