Topic Summary
|
จากคุณ: M3629 |
โพสเมื่อวันที่: 06/22/20 เวลา 10:39:07 |
ตอนนี้เป็น GP intern 3 ครับ มีความสนใจจะเรียนต่อเป็นฟรีเทรน แต่ยังไม่แน่ใจว่าควรเลือกทางไหนครับ มีที่สนใจคืออายุรกรรม วิสัญญี อายุรกรรม ชอบเนื้อหา แนวทางการคิดหาคำตอบของโรค แต่ในแง่แนวการทำงาน ชอบแบบทำแล้วจบเป็นเคสๆไปมากกว่า จึงมองว่าวิสัญญีก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจครับ อยากจะขอคำแนะนำ หรือความเห็นของหลายๆท่านประกอบการตัดสินใจครับ รวมถึงเรื่องสถาบันในการเทรน โอกาสที่จะได้เรียนหากเป็นฟรีเทรนครับ โปรไฟล์คร่าวๆเกียรตินิยม 1 แต่เป็นสถาบันภูมิภาค ไม่ใช่ส่วนกลางครับ
|
จากคุณ: น้ำเน่าในเงาจันทร์ |
โพสเมื่อวันที่: 06/22/20 เวลา 11:48:00 |
แนะนำดมยาดีกว่าครับ รายได้ดีพอสมควร ไม่ต้องต่อsubboardก็ยังพอมีที่รองรับ แถมดมยาดมจบก็คือเสร็จ จบเป็นเคสๆไป ไม่ต้องตามมาเฝ้าอะไรต่อนอกเวลา
|
จากคุณ: jumpoo |
โพสเมื่อวันที่: 06/22/20 เวลา 12:50:15 |
ตามที่ชอบๆ เพราะต้องอยู่กับมันนาน
|
จากคุณ: Dr._Panya |
โพสเมื่อวันที่: 06/22/20 เวลา 15:00:30 |
สมมติว่า ชอบสองสาขานี้เท่าๆกัน...ดมยา น่าจะดีกว่าทั้ง งานรัฐและงานเอกชน ตรงที่ 1. งานจบเป็นเคสๆ ไป ภายในไม่กี่ชั่วโมง (ไม่ใช่เคสเดียว อาจจะต้องรักษาไป อีกหลายเดือน- หลายปี- ตลอดชีวิต) 2. น่าจะขาดแคลน เป็นที่ต้องการ ทั้งภาครัฐ+ เอกชน มากกว่าอายุรกรรม ที่จะต้องต่อยอด มั้ง 3. ลักษณะงานเป็น การทำหัตถการเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้น ค่าตอบแทน/ ชั่วโมง ทั้งภาครัฐ+ เอกชน (โดยเฉลี่ย) น่าจะมากกว่า อายุรกรรม
|
จากคุณ: M3629 |
โพสเมื่อวันที่: 06/22/20 เวลา 18:37:42 |
on 06/22/20 เวลา 15:00:30, Dr._Panya wrote:สมมติว่า ชอบสองสาขานี้เท่าๆกัน...ดมยา น่าจะดีกว่าทั้ง งานรัฐและงานเอกชน ตรงที่ 1. งานจบเป็นเคสๆ ไป ภายในไม่กี่ชั่วโมง (ไม่ใช่เคสเดียว อาจจะต้องรักษาไป อีกหลายเดือน- หลายปี- ตลอดชีวิต) 2. น่าจะขาดแคลน เป็นที่ต้องการ ทั้งภาครัฐ+ เอกชน มากกว่าอายุรกรรม ที่จะต้องต่อยอด มั้ง 3. ลักษณะงานเป็น การทำหัตถการเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้น ค่าตอบแทน/ ชั่วโมง ทั้งภาครัฐ+ เอกชน (โดยเฉลี่ย) น่าจะมากกว่า อายุรกรรม |
| ถ้าเป็นอายุรกรรมฟรีเทรน (แบบไม่ใช่ฟาสแทรค) ตอนจะต่อยอด ก็ต้องหาต้นสังกัดอีกครั้งใช่มั้ยครับ หรือแบบไม่มีสังกัดก็ได้
|
จากคุณ: Hippo |
โพสเมื่อวันที่: 06/22/20 เวลา 19:13:33 |
อย่าเรียนอะไรที่ลงท้ายด้วย กรรม
|
จากคุณ: know555 |
โพสเมื่อวันที่: 06/22/20 เวลา 22:02:41 |
on 06/22/20 เวลา 19:13:33, Hippo wrote:อย่าเรียนอะไรที่ลงท้ายด้วย กรรม |
| 555
|
จากคุณ: 6699 |
โพสเมื่อวันที่: 06/23/20 เวลา 07:48:08 |
-ข้อมูลจากเวปแพทย์สภา วิสัญญีปี 2562 มีจำนวน 1877 คน เฉลี่ยแล้ว จังหวัดหนึ่งจะมีจำนวน 24.6 คน และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ความสนใจลดน้อยลง รายได้ส่วนมากจะได้จาก ค่า work load ของรัฐบาล ที่แต่ละคนจะได้ประมาณ 6-7 หมื่นบาทต่อเดือน ซึ่งรายได้นี้ ไม่แน่นอน เพราะจ่ายด้วยเงินบำรุงรพ. แต่รายได้จากรพ.เอกชนจะไม่มาก เพราะจำนวนหมอเพิ่มขึ้น -อายุรกรรม ปี 2562 ปีจำนวน 12260 คน และในจำนวนนี้ ครึ่งหนึ่งคือ 6685คน จะเป็นอนุสาขา ทำให้ระบบการแพทย์กลับมาผูกขาดในแพทย์อนุสาขาอีกครั้งหนึ่ง ในแต่ละจังหวัด จะมีแพทย์อายุรกรรม อนุสาขาประมาณ 87 คน เป็นอย่างมาก หรือสาขาละ 2-3 คน อะไรที่ผูกขาด ย่อมดีกว่า เหมือนได้ใบอนุญาตที่มีสิทธิทำแต่ผู้เดียว
|
จากคุณ: Dr._Panya |
โพสเมื่อวันที่: 06/23/20 เวลา 09:22:59 |
on 06/22/20 เวลา 18:37:42, M3629 wrote: ถ้าเป็นอายุรกรรมฟรีเทรน (แบบไม่ใช่ฟาสแทรค) ตอนจะต่อยอด ก็ต้องหาต้นสังกัดอีกครั้งใช่มั้ยครับ หรือแบบไม่มีสังกัดก็ได้ |
| ตอนสมัครเรียน บอร์ด/ สับบอร์ด...นั้นจะมีทุน/ ไม่มีทุนมา(ฟรีเทรน)ก็ได้ครับ การเอาทุนมาเรียนนั้น ก็จะมีข้อดีตรงที่ 1. มีเงินเดือนจาก รพ.ที่เราเอาทุนมา ซึ่งน่าจะมากกว่าเงินเดือนจาก สถาบันที่เรามาเรียน ซึ่งเค้าจะให้เราที่ขั้นต่ำสุด (แหงล่ะ เราสมัครมาเองนิ) ประมาณเงินเดือน ป.ตรี ครับ ในขณะที่เงินเดือนจากต้นสังกัดจะประมาณเงินเดือนของ ป.โท ครับ 2. (สมมติว่า ทุกๆอย่างอื่นๆนั้นพอๆกัน) คนเอาทุนมาเรียนนั้น มีโอกาสได้เรียนต่อมากกว่าโดยเฉพาะการสมัครเรียนกับ โรงเรียนแพทย์ชั้นนำ เพราะเค้าถือว่า เป็นการช่วยเหลือโรงพยาบาลต้นสังกัดที่ขาด หรือต้องการ ผู้เชี่ยวชาญสาขาที่เราสมัครมาเรียน/ ถูกส่งมาเรียน (เหมือนเมื่อ 10+ ปีก่อนที่ แพทย์ที่ทำงานในสามจังหวัดภาคใต้ ครบ 3+ ปี แล้วสมัครมาเรียนต่อ ที่ถ้าคุณจบแล้วต้องกลับไปใช้ทุนเป็น 2 เท่าคือ 6 หรือ 8 ปี นั้นไม่ว่าคุณจะจบแพทย์จากที่ไหน ได้เกรดเท่าไหร่ ให้คุณเข้าไปที่ สำนักงาน สสจ. แล้วคุณจิ้มเลือกเอาได้เลย ว่า คุณอยากจะเรียนต่ออะไร/ ที่สถาบันไหน ได้เลยครับ อิ อิ อิ)...ไม่ใช่ช่วยเหลือเราเป็นการส่วนตัว(ในกรณีที่เราสมัครแบบฟรีเทรน) ดังนั้นคนที่จะมาสมัครเรียนฟรีเทรนกับสถาบันยอดฮิต+ สาขายอดฮิต นั้นไม่ต้องพูดเลยว่า โปรไฟล์จะ "มหาเทพ" ขนาดไหน ที่แน่ๆคือว่าที่ อาจารย์ในโรงเรียนแพทย์ นั่นแหละครับ อิ อิ อิ
|
จากคุณ: M3629 |
โพสเมื่อวันที่: 06/23/20 เวลา 10:29:05 |
on 06/23/20 เวลา 09:22:59, Dr._Panya wrote: ตอนสมัครเรียน บอร์ด/ สับบอร์ด...นั้นจะมีทุน/ ไม่มีทุนมา(ฟรีเทรน)ก็ได้ครับ การเอาทุนมาเรียนนั้น ก็จะมีข้อดีตรงที่ 1. มีเงินเดือนจาก รพ.ที่เราเอาทุนมา ซึ่งน่าจะมากกว่าเงินเดือนจาก สถาบันที่เรามาเรียน ซึ่งเค้าจะให้เราที่ขั้นต่ำสุด (แหงล่ะ เราสมัครมาเองนิ) ประมาณเงินเดือน ป.ตรี ครับ ในขณะที่เงินเดือนจากต้นสังกัดจะประมาณเงินเดือนของ ป.โท ครับ 2. (สมมติว่า ทุกๆอย่างอื่นๆนั้นพอๆกัน) คนเอาทุนมาเรียนนั้น มีโอกาสได้เรียนต่อมากกว่าโดยเฉพาะการสมัครเรียนกับ โรงเรียนแพทย์ชั้นนำ เพราะเค้าถือว่า เป็นการช่วยเหลือโรงพยาบาลต้นสังกัดที่ขาด หรือต้องการ ผู้เชี่ยวชาญสาขาที่เราสมัครมาเรียน/ ถูกส่งมาเรียน (เหมือนเมื่อ 10+ ปีก่อนที่ แพทย์ที่ทำงานในสามจังหวัดภาคใต้ ครบ 3+ ปี แล้วสมัครมาเรียนต่อ ที่ถ้าคุณจบแล้วต้องกลับไปใช้ทุนเป็น 2 เท่าคือ 6 หรือ 8 ปี นั้นไม่ว่าคุณจะจบแพทย์จากที่ไหน ได้เกรดเท่าไหร่ ให้คุณเข้าไปที่ สำนักงาน สสจ. แล้วคุณจิ้มเลือกเอาได้เลย ว่า คุณอยากจะเรียนต่ออะไร/ ที่สถาบันไหน ได้เลยครับ อิ อิ อิ)...ไม่ใช่ช่วยเหลือเราเป็นการส่วนตัว(ในกรณีที่เราสมัครแบบฟรีเทรน) ดังนั้นคนที่จะมาสมัครเรียนฟรีเทรนกับสถาบันยอดฮิต+ สาขายอดฮิต นั้นไม่ต้องพูดเลยว่า โปรไฟล์จะ "มหาเทพ" ขนาดไหน ที่แน่ๆคือว่าที่ อาจารย์ในโรงเรียนแพทย์ นั่นแหละครับ อิ อิ อิ |
| ถ้าเป็นแบบนี้ เราควรเลือกสถาบันกลางๆ โอกาสได้ก็จะมากกว่าสินะครับ อย่างอายุรกรรมที่เป็นfast track ปัจจุบันมีคนสนใจเยอะไหมครับ อย่าง neuro น่าจะมีคนสนใจเยอะ แต่ hemato onco ทำไมถึงไม่ค่อยมีคนสนใจ(เท่าที่ทราบมา) หรือ ถ้าสนใจอายุรกรรม ควรเรียน gen med ไปก่อน
|
จากคุณ: M3629 |
โพสเมื่อวันที่: 06/23/20 เวลา 10:32:21 |
on 06/23/20 เวลา 07:48:08, 6699 wrote:-ข้อมูลจากเวปแพทย์สภา วิสัญญีปี 2562 มีจำนวน 1877 คน เฉลี่ยแล้ว จังหวัดหนึ่งจะมีจำนวน 24.6 คน และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ความสนใจลดน้อยลง รายได้ส่วนมากจะได้จาก ค่า work load ของรัฐบาล ที่แต่ละคนจะได้ประมาณ 6-7 หมื่นบาทต่อเดือน ซึ่งรายได้นี้ ไม่แน่นอน เพราะจ่ายด้วยเงินบำรุงรพ. แต่รายได้จากรพ.เอกชนจะไม่มาก เพราะจำนวนหมอเพิ่มขึ้น -อายุรกรรม ปี 2562 ปีจำนวน 12260 คน และในจำนวนนี้ ครึ่งหนึ่งคือ 6685คน จะเป็นอนุสาขา ทำให้ระบบการแพทย์กลับมาผูกขาดในแพทย์อนุสาขาอีกครั้งหนึ่ง ในแต่ละจังหวัด จะมีแพทย์อายุรกรรม อนุสาขาประมาณ 87 คน เป็นอย่างมาก หรือสาขาละ 2-3 คน อะไรที่ผูกขาด ย่อมดีกว่า เหมือนได้ใบอนุญาตที่มีสิทธิทำแต่ผู้เดียว |
| ค่า workload (P4P เข้าใจถูกไหมครับ) แล้วอย่างอายุรกรรม ได้ตรงนี้น้อยกว่า เพราะไม่เน้นหัตถการรึเปล่าครับ แต่จะได้รายได้เสริมจากคลินิกและเอกชนแทน เข้าใจถูกไหมครับ
|
จากคุณ: Dr._Panya |
โพสเมื่อวันที่: 06/23/20 เวลา 13:19:45 |
on 06/23/20 เวลา 10:29:05, M3629 wrote: ถ้าเป็นแบบนี้ เราควรเลือกสถาบันกลางๆ โอกาสได้ก็จะมากกว่าสินะครับ อย่างอายุรกรรมที่เป็นfast track ปัจจุบันมีคนสนใจเยอะไหมครับ อย่าง neuro น่าจะมีคนสนใจเยอะ แต่ hemato onco ทำไมถึงไม่ค่อยมีคนสนใจ(เท่าที่ทราบมา) หรือ ถ้าสนใจอายุรกรรม ควรเรียน gen med ไปก่อน |
| ...ถ้าคุณสมบัติอื่นๆ พอๆกัน การเลือกเรียนต่อ สาขาใดๆที่ สถาบันรองๆ ย่อมมีโอกาสได้เข้าเรียนมากกว่าแน่นอนครับ เพราะว่าคู่แข่งมีจำนวนน้อยกว่า (เมื่อเทียบเป็นสัดส่วน หรือ เปอร์เซ็นต์ )+ คู่แข่งก็มีโปรไฟล์ธรรมดาๆมากกว่าระดับเทพ/ มหาเทพ (คิดถึงตอน สอบเข้าเรียนต่อในโรงเรียนมัธยมชื่อดัง หรือตอนสอบเข้าแพทย์ ในโรงเรียนแพทย์ชั้นนำ ดูสิครับ อิ อิ อิ)
|
จากคุณ: Dr._Panya |
โพสเมื่อวันที่: 06/23/20 เวลา 13:38:31 |
on 06/23/20 เวลา 10:32:21, M3629 wrote: ค่า workload (P4P เข้าใจถูกไหมครับ) แล้วอย่างอายุรกรรม ได้ตรงนี้น้อยกว่า เพราะไม่เน้นหัตถการรึเปล่าครับ แต่จะได้รายได้เสริมจากคลินิกและเอกชนแทน เข้าใจถูกไหมครับ |
| ตอนผมไปใช้ทุนที่ รพ. ทางภาคใต้เมื่อนานๆๆๆมาแล้ว (ไม่บอกที่แน่นอน ละกัน เดี๋ยวไล่อายุถูก อิ อิ) รพท. นั้นมีแพทย์ผ่าตัดทุกๆสาขารวมกัน 16 คน แต่มีแพทย์ดมยา แค่ 1 คน...ตารางเวรอาจารย์ดมยานั้น มีการเซ็นต์ทุกวันของเดือน คิดดูว่าอาจารย์ดมยาท่านนั้น (เงินเดือนเท่าๆกันใช่ไหมครับ) จะได้ค่าเวร/ ค่าหัตถการมากกว่าแพทย์ท่านอื่นๆกี่เท่า ใน รพ.เอกชนก็เช่นกัน จะมีจำนวนแพทย์ดมยาน้อยกว่าแพทย์ผ่าตัดทุกๆสาขาเสมอ ชนิดที่ว่าอาจารย์ดมยาคนนึง สามารถดูแลเคสผ่าตัดที่ไม่มีภาวะแทรกซ้อนอะไร ที่เปิดพร้อมกันได้คราวละ 3- 4 ห้อง (ถึงแม้ค่า DF/ Case ของแพทย์ดมยาจะน้อยกว่าแพทย์ที่ผ่าตัดก็เถอะ และก็นั่งเฝ้าเคส ไม่ใช่ยืนผ่าตัด 3- 4 ชั่วโมง/ เคส เหมือนหมอที่ผ่าตัด) ป.ล. แต่ ส่วนตัวผมแล้ว ผมไม่ได้ชอบสาขาดมยา และไม่ได้มองเรื่องเงินเป็นหลัก ผมจึงไม่ได้เลือกเรียนต่อดมยา
|
จากคุณ: Pandermonium |
โพสเมื่อวันที่: 06/23/20 เวลา 14:40:15 |
on 06/23/20 เวลา 07:48:08, 6699 wrote:-ข้อมูลจากเวปแพทย์สภา วิสัญญีปี 2562 มีจำนวน 1877 คน เฉลี่ยแล้ว จังหวัดหนึ่งจะมีจำนวน 24.6 คน และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ความสนใจลดน้อยลง รายได้ส่วนมากจะได้จาก ค่า work load ของรัฐบาล ที่แต่ละคนจะได้ประมาณ 6-7 หมื่นบาทต่อเดือน ซึ่งรายได้นี้ ไม่แน่นอน เพราะจ่ายด้วยเงินบำรุงรพ. แต่รายได้จากรพ.เอกชนจะไม่มาก เพราะจำนวนหมอเพิ่มขึ้น -อายุรกรรม ปี 2562 ปีจำนวน 12260 คน และในจำนวนนี้ ครึ่งหนึ่งคือ 6685คน จะเป็นอนุสาขา ทำให้ระบบการแพทย์กลับมาผูกขาดในแพทย์อนุสาขาอีกครั้งหนึ่ง ในแต่ละจังหวัด จะมีแพทย์อายุรกรรม อนุสาขาประมาณ 87 คน เป็นอย่างมาก หรือสาขาละ 2-3 คน อะไรที่ผูกขาด ย่อมดีกว่า เหมือนได้ใบอนุญาตที่มีสิทธิทำแต่ผู้เดียว |
| ป้าคะ ป้าคิดแบบนั้นมันไม่ถูกนะคะ จะเอาจำนวนคนมาหารด้วยจังหวัดดื้อๆไม่ได้นะคะ การกระจายตัวมันไม่เท่ากันค่ะ //คุณป้าเป็นคนจังหวัดอะไรคะ ? //ยื่นไมค์
|
จากคุณ: megacure |
โพสเมื่อวันที่: 06/23/20 เวลา 18:08:02 |
on 06/23/20 เวลา 10:29:05, M3629 wrote: ถ้าเป็นแบบนี้ เราควรเลือกสถาบันกลางๆ โอกาสได้ก็จะมากกว่าสินะครับ อย่างอายุรกรรมที่เป็นfast track ปัจจุบันมีคนสนใจเยอะไหมครับ อย่าง neuro น่าจะมีคนสนใจเยอะ แต่ hemato onco ทำไมถึงไม่ค่อยมีคนสนใจ(เท่าที่ทราบมา) หรือ ถ้าสนใจอายุรกรรม ควรเรียน gen med ไปก่อน |
| Hemato Onco เป็นสาขาที่ไม่ทำเงินในเอกชนครับ และสามารถ teleconsult ได้ โดนอาจารย์แพทย์จากศูนย์กลางกินรวบหมด สรุปว่าเรียน Hemato Onco มาไม่รวย แต่งานก็ไม่หนัก ถ้าเป็นคนสมถะก็น่าจะชอบ
|
จากคุณ: 6699 |
โพสเมื่อวันที่: 06/23/20 เวลา 19:11:05 |
on 06/23/20 เวลา 14:40:15, Pandermonium wrote: ป้าคะ ป้าคิดแบบนั้นมันไม่ถูกนะคะ จะเอาจำนวนคนมาหารด้วยจังหวัดดื้อๆไม่ได้นะคะ การกระจายตัวมันไม่เท่ากันค่ะ //คุณป้าเป็นคนจังหวัดอะไรคะ ? //ยื่นไมค์ |
| 555
|
จากคุณ: M3629 |
โพสเมื่อวันที่: 06/23/20 เวลา 19:55:23 |
on 06/23/20 เวลา 18:08:02, megacure wrote: Hemato Onco เป็นสาขาที่ไม่ทำเงินในเอกชนครับ และสามารถ teleconsult ได้ โดนอาจารย์แพทย์จากศูนย์กลางกินรวบหมด สรุปว่าเรียน Hemato Onco มาไม่รวย แต่งานก็ไม่หนัก ถ้าเป็นคนสมถะก็น่าจะชอบ |
| ส่วนใหญ่เป็นเคสมะเร็ง การตอบสนองการรักษาน่าจะเห็นผลยากกว่าสาขาอื่น เวลาทำงานคงรู้สึกเสียกำลังใจแน่ๆเลยครับ
|
จากคุณ: jumpoo |
โพสเมื่อวันที่: 06/24/20 เวลา 10:13:18 |
on 06/23/20 เวลา 18:08:02, megacure wrote: Hemato Onco เป็นสาขาที่ไม่ทำเงินในเอกชนครับ และสามารถ teleconsult ได้ โดนอาจารย์แพทย์จากศูนย์กลางกินรวบหมด สรุปว่าเรียน Hemato Onco มาไม่รวย แต่งานก็ไม่หนัก ถ้าเป็นคนสมถะก็น่าจะชอบ |
| อยู่เอกชนประกันสังคม ได้
|
จากคุณ: only2b |
โพสเมื่อวันที่: 06/24/20 เวลา 11:23:55 |
คนไข้ต้องการหมอ Onco มาก เพราะคนไข้หลังให้ยารักษามะเร็ง มีปัญหามากมาย เป็นระยะต่อเนื่องไปตลอด ไม่ใช่รักษาแล้วตาย ถ้าได้แพทย์ดูแลดีๆอยู่ได้นานถึงแม้จะมีปัญหาบ้าง เสียดายที่หลักสูตร Onco ไม่ต้องใช้ทุน (ไม่งั้นไม่มีคนเรียน) และเวลาเรียนดูเหมือนราวนด์หรือดูคนไข้อย่างกับนักศึกษาแพทย์ ไม่สมกับที่เป็นresident เฉพาะทาง ถ้ามีความรู้พื้นฐานทางแพทย์โดยเฉพาะmedร่วมด้วย คนไข้จะมาให้หมอช่วยแก้ปัญหาซึ่งมีตลอด ไม่ใช่มีความรู้แค่การให้ยามะเร็งและแก้ไขอาการช่วงให้chemo พอมีปัญหาทางmed พื้นฐานความรู้ทางmed ไม่แน่น investigateไม่เป็น เปะปะไปเรื่อย หรือ ให้ยาแบบเข้าป่าไปเลย คนไข้ไม่หนีไปหาหมออื่นก็ตาย ถ้ามีความรู้ดีๆหรืออันไหนไม่รู้ก็ยอมconsultแพทย์เฉพาะทาง คนไข้จะมากแน่นอน
|
จากคุณ: Yaso |
โพสเมื่อวันที่: 06/25/20 เวลา 07:55:34 |
workload ไม่ใช่ P4P ค่ะ เช่นเวร med อาจจะ 550 /8 hr ถ้ามีเคส admit , ETT , CPR , septic shock เกิน ค่า 550 ก็จะคิด workload ได้ ส่วนของ Anesth ก็คิด / case เช่น GA , spinal block, local nerve block อะไรประมาณนี้
|
จากคุณ: blitzs |
โพสเมื่อวันที่: 06/25/20 เวลา 11:50:03 |
เรียนอะไรก็ได้ อยู่ รพ.รัฐไปอยู่ที่ไกลๆ โอกาศทำเงินอยู่นอก รพ. ลงทุนอสังหา หรือทำคลินิก อย่าสนใจp4p อะไรนั่นเลย นั่นคือฝั่งรัฐบาล ส่วนฝั่งเอกชน ก็คือฝึกรัฐสักระยะ เก่งจริงแล้วไปเอกชน ทำงานไปเรื่อยๆอู้ฟู่สุดก็ดมยา สาขาอื่นก็มีกินมีใช้ ที่ผมเห็นมาประมาณนี้ครับ
|
จากคุณ: หมอเมืองสยาม |
โพสเมื่อวันที่: 06/25/20 เวลา 17:40:32 |
อะไรดี อายุรกรรม-วิสัญญี ? - "ทั้งคู่ก็ดีอยู่ "
|
จากคุณ: Pandermonium |
โพสเมื่อวันที่: 06/25/20 เวลา 18:22:09 |
อันนี้ขอถามหน่อย ขี้เกลียดแตกกระทู้ ถ้าคุณน้องเรียนmedเป็นแค่gen Medจะหางานยากมั้ยคะ?
|
จากคุณ: M3629 |
โพสเมื่อวันที่: 06/25/20 เวลา 18:33:37 |
on 06/25/20 เวลา 18:22:09, Pandermonium wrote:อันนี้ขอถามหน่อย ขี้เกลียดแตกกระทู้ ถ้าคุณน้องเรียนmedเป็นแค่gen Medจะหางานยากมั้ยคะ? |
| สงสัยเหมือนกันครับ ในระยะยาวไม่น่าจะเป็นเรื่องดีเท่าไหร่ สงสัยอีกอย่างคือ gen med กับ subspec ในรพรัฐทั่วๆไป workload ต่างกันมั้ยครับ หรือ ก็แชร์พอๆกัน
|
จากคุณ: น้ำเน่าในเงาจันทร์ |
โพสเมื่อวันที่: 06/26/20 เวลา 10:40:39 |
on 06/25/20 เวลา 18:33:37, M3629 wrote: สงสัยเหมือนกันครับ ในระยะยาวไม่น่าจะเป็นเรื่องดีเท่าไหร่ สงสัยอีกอย่างคือ gen med กับ subspec ในรพรัฐทั่วๆไป workload ต่างกันมั้ยครับ หรือ ก็แชร์พอๆกัน |
| ถ้าgen med โรงพยาบาลเอกชนระดับ tertiaryก็เริ่มลำบากแน่ครับ เพราะsubboardมันดูเคสได้ทั้งsub ตัวเองแล้วก็gen med อย่างผมก็ทำงานทั้งGI+Gen med ครับ ส่วนงานในเอกชนไม่ใหญ่มากในต่างจังหวัดน่าจะยังมีงานอยู่ครับ โรงพยาบาลรัฐคิดว่าแค่Gen medก็ยังพอถูไถ แต่การดูเคสยากๆอาจจะยังไม่ค่อยมั่นใจเท่าเป็นsubboard แล้วมันจะเครียดเอง
|
จากคุณ: SantaNiCo |
โพสเมื่อวันที่: 06/26/20 เวลา 11:32:30 |
หนทางดูยาวไกล...
|
จากคุณ: Nomad Physician |
โพสเมื่อวันที่: 07/05/20 เวลา 06:39:47 |
ไม่สนใจเวชศาสตร์ครอบครัวเหรอครับ
|
จากคุณ: Pandermonium |
โพสเมื่อวันที่: 07/05/20 เวลา 08:19:56 |
on 07/05/20 เวลา 06:39:47, Nomad Physician wrote:ไม่สนใจเวชศาสตร์ครอบครัวเหรอครับ |
| เราไม่เคยคิดว่ามันน่าสนใจเลยค่ะ ก็เหมือนตรวจGPอ่ะ หมอเก่งแค่ไหนก็คุมDM HT DLPไม่ได้ น่าเบื่อ ร้านชาไข่มุกก็เปิดทุก4แยกถนนหมอจะไปสู้ยังไงได้
|
จากคุณ: M3629 |
โพสเมื่อวันที่: 07/05/20 เวลา 10:14:10 |
on 07/05/20 เวลา 06:39:47, Nomad Physician wrote:ไม่สนใจเวชศาสตร์ครอบครัวเหรอครับ |
| คิดว่าทำไปนานๆ อาจจะเบื่อได้น่ะครับ เพราะในแง่ของ holistic แล้ว ไม่ได้ชอบแนวนั้นมากนัก ไม่ได้หมายถึงไม่สนใจเลยขนาดนั้นนะครับ แต่แนวๆว่า เราไม่ได้สนุกกับมันเท่าไหร่
|
จากคุณ: luzeus |
โพสเมื่อวันที่: 12/01/20 เวลา 22:30:06 |
รพ.ก็ไม่ได้เปิดเพิ่มขึ้น หมอวิสัญญี มีมากๆขึ้นเรื่อยๆ เริ่มจะตกงานกันละค่า เป็นอายุรกรรมดีกว่าค่ะ คนไข้เยอะดี ผู้สูงอายุเยอะขึ้น ดูน่าจะเป็นที่ต้องการมากกว่าค่ะ เอาที่สนใจดีกว่าค่า
|