แจ้งลบกระทู้ แจ้งเมื่อมีคนตอบกระทู้นี้ แนะนำกระทู้นี้ Print

 หัวข้อ 37659: บทเรียนสังคมไทยจากเรื่องกัญชา : นพ.ธีระ วรธนารัตน์  (จำนวนคนอ่าน 1264 ครั้ง)
« เมื่อ: 06/13/19 เวลา 15:02:53 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ


สนใจเรื่องกัญชาทางการแพทย์ เชิญอ่าน เห็นด้วยหรือเห็นต่างก็ควรอ่าน  เผื่อจะได้เตรียมตัวเตรียมใจไว้บ้าง  ^_^
 
 
นพ.ธีระ วรธนารัตน์ : บทเรียนสังคมไทยจากเรื่องกัญชา
Wed, 2019-06-12 14:46 -- hfocus
 
หลายเดือนก่อน ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองท่านหนึ่งได้เมสเสจคุยกับผม ถามว่าผมประเมินสถานการณ์เรื่องกัญชาในสังคมไทยอย่างไร
 
ผมบอกกับท่านตรงๆ ว่า ผมไม่เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวเพื่อปลดล็อคกัญชาในเมืองไทยในช่วงที่ผ่านมาห ลายปีนี้
 
เหตุผลหลักของผมคือ ผมไม่เชื่อว่ารัฐ และกลไกต่างๆ ในสังคมที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันนี้ จะสามารถที่จะดูแลปกป้องประชาชนจากผลร้ายที่จะเกิดขึ้นจากการปลดล็อคกัญชาได ้
 
สิทธิและเสรีภาพของประชาชนในฐานะพลเมืองของประเทศนั้นย่อมต้องมีทุกคน โดยเป็นบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบของรัฐที่จะต้องดูแลให้เกิดความเป็นธรรม และคนทุกคนในสังคมต้องอยู่ได้โดยมีความสงบสุข ปลอดภัย และมีคุณภาพชีวิตที่ดี
 
หากเกิดปัญหาหรือสิ่งคุกคามต่อความมั่นคงของประเทศทั้งโดยตรงโดยอ้อม หรือส่งผลต่อสวัสดิภาพความปลอดภัย รัฐก็จำเป็นต้องตัดสินใจควบคุม ป้องกัน และแก้ไข โดยยืนพื้นฐานบนหลักการดังกล่าว
 
จริงๆ ผมตอบผู้ใหญ่ท่านนั้นไปเพียงประโยคแรก และต่อด้วยความเห็นส่วนตัวของผมว่า ณ จุดนี้ สังคมไทยคงยากที่จะต้านทานกระแสการเคลื่อนไหวเพื่อปลดล็อคกัญชาแล้ว เพราะได้ประกาศเป็นกฎหมายเพื่ออนุญาตให้ใช้ทางการแพทย์ โดยแท้จริงแล้วเป็นการปลดล็อคโดยที่หารู้ไม่ว่าจะเกิดผลกระทบทางลบตามมาอย่า งมากมายและยากที่จะจัดการ เช่น การเข้าใจผิดของประชาชนและนำไปใช้ต่างๆ นานาโดยยากที่จะควบคุม จนเกิดผลกระทบต่อทั้งตัวผู้ป่วย ครอบครัว และกระบวนการดูแลรักษาทางการแพทย์มาตรฐานที่มีอยู่
 
ยังไม่นับเรื่องการค้าขายกัญชาและผลิตภัณฑ์อย่างผิดกฎหมายที่คาดว่าจะมีมากม าย รวมถึงปัญหาด้านสุขภาพและสังคมอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุจราจร ปัญหาจิตเวช อาชญากรรม และการนำไปสู่การเสพติดอื่นๆ ควบคู่กันไป และที่แน่ๆ คือจะมีการเคลื่อนไหวไปสู่เรียกร้องให้เกิดกัญชาเสรีตามมา
 
ที่กล่าวมาข้างต้นมิได้เอ่ยขึ้นอย่างเลื่อนลอย หากแต่เป็นสิ่งที่ถูกระบุเป็นลายลักษณ์อักษรชัดเจน ทั้งจากงานวิจัยติดตามผลจากการประกาศนโยบายปลดล็อคกัญชาของประเทศอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นแคนาดา สหรัฐอเมริกา กลุ่มประเทศในสหภาพยุโรป ฯลฯ รวมถึงรายงานขององค์กรต่างประเทศที่ดูแลทั้งด้านวิชาการและนโยบาย อย่าง International Narcotics Control Board (INCB) ซึ่งเป็นกลไกทำงานของสหประชาชาติเรื่องยาเสพติดด้วย
 
ผมบอกท่านไปว่า "ตอนนี้คงไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว นอกจากหาทางช่วยกันเตือนประชาชนในสังคมไทยให้เตรียมรับมือกับปัญหาสังคมที่จ ะเกิดขึ้นจากนโยบายกัญชา"
 
"ครอบครัวเป็นหน่วยเล็กที่สุดในสังคม ที่จะต้องเลี้ยงดูลูกหลานของตนเองให้ดี ดูแลใกล้ชิด สอนให้รู้เท่าทันภัยคุกคามที่มีในสังคม รู้ว่าอะไรควรทำไม่ควรทำ"...ผมบอกท่านไปประมาณนี้ และจบการสนทนากันในวันนั้น
 
นั่นเป็นการสนทนาประมาณต้นๆ ปีที่ผ่านมา
 
ผ่านมาครึ่งปีหลังจากประกาศปลดล็อคกัญชาทางการแพทย์ในประเทศไทย เราเห็นอะไรกันบ้าง?
 
1. ปรากฏการณ์ "ความเชื่อและงมงายว่ากัญชารักษาได้ทุกโรค" จากอิสระเสรีเหนืออื่นใด ในการป่าวประกาศ ประชาสัมพันธ์ ความ "รู้" แบบลวงๆ โดยที่กลไกอำนวยความยุติธรรมของรัฐไม่สามารถทำอะไรได้ หรืออาจไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี
 
2. ปรากฏการณ์ "การเติบโตของธุรกิจซื้อขายกัญชาและผลิตภัณฑ์ต่างๆ อย่างผิดกฎหมายผ่านสื่อออนไลน์" ทั้งในไลน์กรุ๊ป เฟซบุ๊ค และอื่นๆ ราคาค่างวดขวดนึงหลายร้อยไปจนถึงพันบาท คิดค่าใช้จ่ายที่คนเต็มใจควักเงินจากกระเป๋า คาดว่าเยอะกว่าค่าใช้จ่ายรายหัวด้านสุขภาพของระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และระบบประกันสังคมเสียด้วยซ้ำ
 
3. ปรากฏการณ์ "การสร้างระบบการตลาดด้านกัญชา" ทั้งการประยุกต์ใช้แนวคิด Multi-level marketing และระบบขายตรงผ่านตัวแทนในหลากหลายลักษณะ โดยอาศัยการต่อยอดจากการเล่นกับความกลัวโรคร้ายต่างๆ ของคน ควบคู่กับการเล่นกับกิเลสด้านรายได้จากการเป็นตัวแทนขาย ทำให้สมประโยชน์ทั้งคนผลิต คนขาย ตัวแทน และคนซื้อ อย่างครบวงจร
 
4. ปรากฏการณ์ "ดีครับนาย ได้ครับผม เหมาะสมครับท่าน" นโยบายถูกดันจากเบื้องบน ขาดเหลืออะไร กลไกมดงานในระบบรัฐก็สนองได้หมด ขาดความเชี่ยวชาญด้านกัญชา แต่สามารถเนรมิตให้เกิดขึ้นได้ผ่านการอบรมระยะสั้นตีตราให้พร้อมอย่างไม่น่า เชื่อ
 
5. ปรากฏการณ์ "โยนบาปให้เหยื่อ" เห็นได้จากจำนวนเหยื่อ ในรูปแบบของผู้ป่วย และผู้ที่ไม่ป่วยแต่หลงเชื่องมงาย ตัดสินใจหาผลิตภัณฑ์มาใช้เอง หรือมีตัวแทนมาเสนอให้ลอง หรืออื่นๆ ใช้แล้วเกิดปัญหาตามมาตามพาดหัวข่าว เช่น ใช้กัญชาแล้วน็อคต้องหามส่ง รพ.ด้วยอาการต่างๆ มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว สุดท้ายก็โดนโยนบาปจากกลุ่มคลั่งกัญชาว่า ใช้ไม่เป็นเลยเกิดปัญหา แต่ไม่เคยยอมรับผิดว่า ที่มันเกิดปัญหาเช่นนี้ เพราะอะไรกันแน่ เพราะการสื่อสารสาธารณะที่ไม่เหมาะสม? เพราะการเร่งผลักดันโดยที่ไม่คิดหน้าคิดหลังและไม่เตรียมกลไกที่จำเป็นให้พร ้อม รวมถึงไม่เตรียมคนในสังคมให้พร้อมก่อนจะผลักดัน?
 
6. ปรากฏการณ์ "คนทำงานในระบบสุขภาพน้ำตาตก" หลายคนน้ำตาตกเพราะคิดไม่ถึงเลยว่า เฮ้ย...มาตรฐานการแพทย์และการวิจัยที่เราร่ำเรียนตลอดมานั้นมีขั้นตอนต่างๆ มากมายกว่าจะเข็นยาแต่ละตัวออกมาใช้ในระบบการแพทย์ได้ แต่ละตัวใช้เวลาเฉลี่ย 12-15 ปี ลงทุนมากกว่า 800 ล้านเหรียญ มีทั้งขั้นตอนในหลอดทดลองก่อนจะไปถึงสัตว์ทดลอง และค่อยเข้ามาสู่ระยะการทดลองวิจัยในคน ซึ่งมีอีก 4 ระยะ ที่ต้องใช้เวลาและทรัพยากรเยอะมากมาย ก็เพื่อให้แน่ใจใน 2 เรื่องหลักคือ สิ่งที่คิดว่าจะเป็นยานั้นจะต้องมีสรรพคุณรักษาโรคนั้นๆ ได้จริง และสิ่งที่คิดว่าจะเป็นยานั้นต้องมีความปลอดภัยจริง
 
แต่ปรากฏว่า ที่ผ่านมากัญชากลับถูกนำมาตีรวนให้สับสน และหาทางลัดเลาะให้นำมาใช้ทันทีในระบบการดูแลรักษาโดยกล่าวอ้างข้อมูลวิจัยท ี่จับแพะมาชนแกะ
 
งานวิจัยทั้งหลายของสากลที่ทำกันนั้น ส่วนใหญ่แล้วเป็นการวิจัยทางการแพทย์แผนปัจจุบัน ที่ต้องทำการสกัดสารเคมีจากวัตถุดิบให้ได้ สามารถวัดปริมาณได้ ทำให้คงตัวได้ ทำให้บริสุทธิ์ไม่มีสิ่งเจือปน และค่อยนำมาทดสอบในสัตว์และในคนตามที่กล่าวมา จนทราบได้แน่ชัดว่าปริมาณแค่ไหนปลอดภัย ให้ทางการกินการฉีดการหยดจะให้อย่างไร และจะมีสรรพคุณรักษาโรคใดได้จริงบ้าง และเมื่อเทียบกับยามาตรฐานต่างๆ ที่มีอยู่นั้น มันดีกว่า เท่ากัน หรือด้อยกว่า
 
ในขณะที่การวิจัยการแพทย์แบบพื้นบ้านหรือการแพทย์ทางเลือกนั้น จะใช้ระบบการศึกษาวิจัยที่เป็นคนละแบบกัน และมีความยากลำบากพอสมควรในการพิสูจน์ทั้งเรื่องความปลอดภัยและสรรพคุณ เนื่องจากหากศึกษาพืช สมุนไพร หรือตำรับยาต่างๆ ว่าจะรักษาโรคได้หรือไม่นั้น พืช สมุนไพร หรือตำรับยาต่างๆ นั้นมักประกอบด้วยสารมากมายหลายอย่าง บางครั้งก็ยากมากที่จะกำหนดปริมาณตายตัว กำนึงของพืชชนิดเดียวกัน ใบนึงของพืชชนิดเดียวกัน ก็มีปริมาณสารต่างๆ แตกต่างกันไปด้วย เราจึงเห็นได้ว่าจากอดีตจนถึงปัจจุบัน การแพทย์พื้นบ้านหรือการแพทย์ทางเลือกนั้นมักจะมีงานวิจัยที่สามารถพิสูจน์ส รรพคุณและความปลอดภัยได้ค่อนข้างจำกัด และยากที่จะฟันธงถึงความเป็นเหตุและผลได้อย่างแม่นยำ
 
ช่วงที่ผ่านมา กระแสกัญชาในเมืองไทยนั้นจึงสร้างความสับสนให้กับคนในสังคม และส่งผลให้เกิดปัญหาดังกล่าวตามมา
 
บุคลากรทางการแพทย์จึงได้แต่น้ำตาตกที่เห็นการสื่อสารสาธารณะที่มุ่งแต่ผลัก ดัน แต่ไม่สนใจว่าคนรับนั้นจะเข้าใจอย่างไร
 
ทั้งๆ ที่การสื่อสารที่ดีนั้น ควรเป็นดังคำที่เราเคยได้ยินว่า "Words that work: It's not what you say, it's what people hear"
 
นอกจากนี้อีกเหตุผลหลักที่บุคลากรทางการแพทย์ในระบบสุขภาพน้ำตาตกคือ ความสงสารต่อผู้ที่ได้รับผลกระทบจากข่าวสารกัญชาเหล่านั้น นอกจากเสียตังค์โดยไม่จำเป็น ตกเป็นเหยื่อเหล่าเสือหิวแล้ว ยังต้องเจ็บป่วยไม่สบายจากผลข้างเคียงต่างๆ จากกัญชา และการเสียโอกาสจากการไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานการรักษาทางการแพทย์ จนทำให้โรคกำเริบหรือเป็นรุนแรงยิ่งขึ้น
 
จำนวนเหยื่อมีมากขึ้นเรื่อยๆ และส่งผลต่อเนื่องไปถึงภาระค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพที่ประเทศจะต้องจ่ายไปจากปร ากฏการณ์นี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
 
เอาล่ะ...แล้วจะทำอย่างไรดี?
 
สารภาพตรงๆ ว่า ผมเริ่มเห็นทางตันครับ เท่าที่คิดได้คงมีเพียง...
 
1.รัฐต้องยึดหลักการดูแลประชาชนในสังคม โดยคำนึงถึงความปลอดภัยมั่นคงของประเทศ สวัสดิภาพและคุณภาพชีวิต ไม่ตัดสินใจโดยอิงแต่ตัวเลขเศรษฐกิจที่อาจถูกปั่นให้เกิดกิเลสแบบได้ไม่คุ้ม เสีย
 
2.นายกรัฐมนตรีโปรดพิจารณาคัดเลือกเสนาบดีที่จะมาคุมกระทรวงต่างๆ ให้ดี อย่าให้ใช้เป็นสะพานในการดำเนินการที่ส่งผลเสียต่อประเทศโดยรวม
 
3.นายกรัฐมนตรีโปรดทบทวนโครงสร้างหน่วยงาน และคณะกรรมการต่างๆ ทั้งด้านการปฏิรูปประเทศ ด้านสาธารณสุข ด้านพาณิชย์ และอื่นๆ โดยตรวจสอบเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน และพฤติกรรมที่ผ่านมาว่าสุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอคติในการดำเนินงานหรือปฏิบัติ หน้าที่หรือไม่
 
4.หน่วยงานด้านสาธารณสุข โดยเฉพาะ อย. กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองผู้บริโภค โปรดยึดมั่นในหลักเกณฑ์มาตรฐาน อย่าหวั่นไหวกับการปั่นสังคมใช้กฎหมู่มาเหนือกฎหมาย
 
5.ราชวิทยาลัยแพทย์สาขาต่างๆ สมาคมวิชาชีพแพทย์และบุคลากรสาขาสุขภาพต่างๆ ตลอดจนโรงเรียนแพทย์ชั้นนำของประเทศควรพิจารณาประกาศจุดยืนทางวิชาชีพของท่า น ในการนำกัญชาหรือผลิตภัณฑ์จากกัญชามาใช้ดูแลรักษา โดยขอให้ยึดมั่นหลักฐานทางวิชาการที่หนักแน่น จนกว่าจะพิสูจน์เรื่องความปลอดภัยและสรรพคุณได้ตามมาตรฐานสากล ย่างก้าวนี้สำคัญยิ่งที่จะช่วยเป็นประทีปส่องทางให้ประชาชน และบุคลากรทางการแพทย์มีหลักยึด
 
6.โรงพยาบาลต่างๆ โปรดพิจารณาออกประกาศนโยบายของโรงพยาบาล (Hospital policy) ในการใช้กัญชาหรือผลิตภัณฑ์จากกัญชาในการดูแลรักษา โดยยึดมั่นในหลักวิชาการ เพื่อช่วยปกป้องทั้งผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์ของท่าน และช่วยป้องกันปัญหาในอนาคตที่อาจเกิดขึ้น ทั้งจากระบบประกันสุขภาพ และปัญหาทางกฎหมาย
 
7.เรื่องนี้ยากสุดสำหรับทั้งสังคมไทยและสังคมโลก คือ รัฐควรพัฒนากลไกตรวจ ติดตาม กำกับ การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารด้านสุขภาพที่เป็นเท็จ ทั้งนี้ยังไม่มี best practice ใดๆ ที่จะมาต้านทานกระแส Fake information อย่างมีประสิทธิภาพ จึงต้องช่วยกันคิดช่วยกันทำครับ
 
ด้วยรักต่อทุกคน
 
ผศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
 
 
นพ.ธีระ วรธนารัตน์ : บทเรียนสังคมไทยจากเรื่องกัญชา  
https://www.hfocus.org/content/2019/06/17257
#กัญชาไม่ใช่ยาวิเศษ ข้อดีก็มีข้อเสียก็มาก
 
แถม ..
กัญชาทางการแพทย์ (ฉบับ Evidence-based) คัดลอกจาก SISO Magazine
https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=21-04-2019& ;group=2 8&gblog=17
 
กัญชายาครอบจักรวาล ไม่จริง ? กัญชาเพื่อความเพลิดเพลิน อันตรายรึเปล่า ? และ บทเรียนจากอเมริกา
https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=26-03-2019& ;group=2 8&gblog=15

ยืนยันว่าจะทำหน้าที่แพทย์ให้ดีที่สุด ( เท่าที่จะทำได้ )
DO NO HARM [ PATIENT AND MYSELF ]
ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ก็เป็นหมอที่ดี ได้เสมอ
www.bloggang.com/mainblog.php?id=cmu2807
ส่งโดย: หมอหมู male
สถานะ: Moderator, ThaiClinic Staff *****
จำนวนความเห็น: 35073 63156014 63156014   หมอหมู หมอหมู WWW Email
   
125.25.203.*


« ความเห็นที่ #1 เมื่อ: 06/13/19 เวลา 17:16:41 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ถ้ายังไม่มีมาตรการที่จะควบคุมได้ ควรให้ ผิด กม ไปก่อนค่ะ
 เอาไปลงใต้ดินเหมือนเดิม
   คุณหมอ เอาโพสลงเฟส ยังไงดีคั จะได้ช่วยแชร์
« แก้ไขครั้งสุดท้ายเมื่อ: 06/13/19 เวลา 17:33:02 by jumpoo »
ส่งโดย: jumpoo
สถานะ: Senior Member ****
จำนวนความเห็น: 400  
   
1.46.41.*


« ความเห็นที่ #2 เมื่อ: 06/14/19 เวลา 01:32:25 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ไม่ทันแล้ว ไอ้เสี่ยหนูมันจะดันกัญชาเสรี ปลูกได้เองหลังบ้านแล้ว  
ไอ้พวกขี้ยาก็เลือกไป อยากจะได้นโยบายกัญชาเสรี ไม่ได้เอาไปรักษาโรคอะไรหรอก มันอยากเสพมากกว่า แสร่ดเอ๊ยย
ส่งโดย: Hybrid VI
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 6180  
   
223.24.168.*


« ความเห็นที่ #3 เมื่อ: 06/14/19 เวลา 07:07:47 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

โพสต์นี้ตรงใจจริงๆ  Smiley

to cure, sometimes
to relieve, often
to comfort, always
ส่งโดย: Sound_of_silence
สถานะ: Full Member ***
จำนวนความเห็น: 222  
   
223.205.247.*


« ความเห็นที่ #4 เมื่อ: 06/14/19 เวลา 09:30:52 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ผมว่าแรงผลักดันส่วนใหญ่  ไม่ได้มาจากเหตุผลทางการแพทย์  
 
แต่เป็นเรื่อง คนอยากเสพ กับ คนอยากขาย
ส่งโดย: positive male
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1020  
   
101.109.106.*


« ความเห็นที่ #5 เมื่อ: 06/14/19 เวลา 18:19:00 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

การศึกษาไทยไม่สามารถสร้างทักษะที่สำคัญในศตวรรษนี้ได้ คือ data literacy ตรงนี้ทำให้คุณภาพของประชากรเราถดถอยกว่าชาติอื่นมากๆครับ มีความเสี่ยงถูกกลืนกินในอนาคต

This too, shall pass
ส่งโดย: Hippo
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 2633  
   
171.4.251.*


« ความเห็นที่ #6 เมื่อ: 06/15/19 เวลา 12:49:30 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

  บทความนี้  กระผมคิดยังไง? - ตัวกัญชาเองไม่มีปัญหา   ปัญหาอยู่ที่คน   ผู้เขียนบทความแค่ขาดทักษะชีวิตที่จะรับมือกับความเปลี่ยนแปลง.....
ส่งโดย: หมอเมืองสยาม
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 11432  
   
171.96.187.*


« ความเห็นที่ #7 เมื่อ: 06/17/19 เวลา 11:13:02 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

       กัญชา ใครควรเป็นผู้เชี่ยวชาญ ? - ตอนนี้  อยู่ที่ใครแต่งเรื่องเก่งกว่า ครับ"
ส่งโดย: หมอเมืองสยาม
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 11432  
   
171.96.187.*


« ความเห็นที่ #8 เมื่อ: 06/19/19 เวลา 11:13:16 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

 เรื่องแต่งที่ดี(คนเชื่อเยอะ)  ทำยังไง? - อย่าโกหกทั้งแท่ง  ต้องจริง๑-๒ส่วน โกหก ๘- ๙ส่วน ครับ  มีจริงผสมหน่อยนึง..
ส่งโดย: หมอเมืองสยาม
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 11432  
   
124.120.192.*


« ความเห็นที่ #9 เมื่อ: 06/21/19 เวลา 16:05:56 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

    ....กัญชา-บุหรี่ ? - " ตลาดเดียวกัน"....
ส่งโดย: หมอเมืองสยาม
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 11432  
   
124.120.216.*


« ความเห็นที่ #10 เมื่อ: 06/22/19 เวลา 14:55:08 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

      เชี่ยวชาญกัญชา ลึกๆแปลว่า ผูกขาดกัญชา   ตอนนี้ แย่งกันผูกขาด    กัญชาไม่ควรมีใครผูกขาด........
ส่งโดย: หมอเมืองสยาม
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 11432  
   
58.11.1.*


« ความเห็นที่ #11 เมื่อ: 06/25/19 เวลา 11:43:28 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

      กัญชายาเสพติด จริงมั้ย ? - " เรื่องแต่งที่ผู้คนเชื่อหวิดๆ๑๐๐ปี  คล้ายๆศาสนาเป็นเรื่องแต่งที่ผู้คนเชื่อ๑๐๐๐ปี"
ส่งโดย: หมอเมืองสยาม
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 11432  
   
115.87.151.*


« ความเห็นที่ #12 เมื่อ: 06/26/19 เวลา 18:56:52 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

   เสพกัญชา...ชั่วมั้ย? - " เมื่อดูข้อมูลจำนวนมากพอก็จะเห็นภาพรวมของกัญชาว่า ไม่ใช่สิ่งชั่วช้า ครับ"
ส่งโดย: หมอเมืองสยาม
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 11432  
   
124.120.197.*


« ความเห็นที่ #13 เมื่อ: 06/27/19 เวลา 19:51:14 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

       กัญชา ? - " มีเหตุผลมากมายที่กัญชาถูกบิดเบนไปจากความเป็นจริงจนไม่มีใครตั้งคำถาม ครับ "
ส่งโดย: หมอเมืองสยาม
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 11432  
   
124.120.217.*


« ความเห็นที่ #14 เมื่อ: 06/28/19 เวลา 16:31:25 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

 อยากผูกขาด ทำไง ? - เริ่มจาก ปั้นเรื่อง(แต่งเรื่อง)  เผยแพร่ออกไปทั่วๆ  โน้มน้าวผู้คนเชื่อถือ  ที่สำคัญ  อุปโลกน์ฝ่ายอื่นเป็นศัตรูของสังคม ครับ....
ส่งโดย: หมอเมืองสยาม
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 11432  
   
124.120.214.*


« ความเห็นที่ #15 เมื่อ: 07/03/19 เวลา 19:26:51 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

        ถ้า(แพทย์)อยากผูกขาดกัญชา ทำไง? - " ทำเรื่องราวให้ยุ่งยากไปหมด  อุปโลกน์ฝ่ายอื่นๆเป็นคนบาป   แล้วรวบมาไว้ในอุ้งมือ "
ส่งโดย: หมอเมืองสยาม
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 11432  
   
124.120.217.*


« ความเห็นที่ #16 เมื่อ: 07/04/19 เวลา 12:08:57 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

       กัญชายาเสพติด ถูกหรือผิด ? - " ผิด "...
ส่งโดย: หมอเมืองสยาม
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 11432  
   
171.96.189.*


« ความเห็นที่ #17 เมื่อ: 07/09/19 เวลา 12:19:19 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

     ...ถ้ามองกัญชาอย่างที่มันเป็น  กัญชาก็ไม่ใช่ยาเสพย์ติด.....
ส่งโดย: หมอเมืองสยาม
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 11432  
   
171.96.191.*


Page(s) : 1 


แจ้งลบกระทู้ แจ้งเมื่อมีคนตอบกระทู้นี้ แนะนำกระทู้นี้ Print



Reply this Topic reserved for registed member only. Register



  • ข้อความและรูปภาพที่ท่านเห็นส่วนใหญ่ ได้ถูกส่งมาจาก ทางบ้าน
    ทางเว็บไซต์ Thaiclinic.com ไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ของข้อความและรูปภาพที่ถูกส่งมา

  • ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชนและส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ
    เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้นเพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง
    ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง

  • ถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมหรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล
    หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ webmaster@thaiclinic.com หรือ กดแจ้งที่ปุ่ม
    "แจ้งลบกระทู้"
    เพื่อให้ทีมงานทราบและทำการลบข้อความนั้นออกจากระบบต่อไป ขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกันทำให้สังคมน่าอยู่ครับ

ThaiClinic.Com . All Rights Reserved. !--BEGIN WEB STAT CODE-->

Powered by