« เมื่อ: 07/22/18 เวลา 22:48:20 » |
|
เป็นคนนึงที่ขอทุน แต่เรียนจบแล้วกลับไปอยู่ได้ปีเดียว ต้องขอเบี้ยวก่อนกำหนด เพราะไม่ไหวกับระบบ เครื่องไม้เครื่องมือก็ไม่ค่อยมี ต่อสู้กับลักษณะทำงานของพี่คนเก่า และปัจจัยที่สำคัญในตอนนั้นคือ ค่าตอบแทนที่น้อยกว่าที่เคยคิดไว้เยอะ .... ตอนนั้นอายุเกือบ 30 ละกำลังสร้างครอบครัว เครียดมากกับอนาคตจะเอาไงดี พ่อแม่ก็อยู่อีกที่ไม่เคยดูแลเลย สับสนไปหมด สุดท้ายก็เลือกเบี้ยว....อยู่ไม่ครบตามกำหนด ตอนนี้อายุมากขึ้น มองย้อนกลับไป เสียใจนะครับที่วันนั้นตัดสินใจแบบนั้น อยากจะกลับไปรักษาสัญญา รู้สึกว่าในเวลานั้นเราไม่ได้ใช้สตินำทาง ใช้แต่ตัวความคิด ใช้แต่กิเลสนำทาง คือ ความอยากและความไม่อยาก ... สิ่งที่ผ่านมาแล้วไม่อาจแก้ไข อาจจะมีเรื่องเวรกรรมตามมาหรือไม่ผมก็ไม่รู้ แต่สิ่งที่อยากจะบอก ท่านอื่นๆ ให้มองรุ่นน้อง ว่า 1. ในวัยวุฒิ ขณะไปขอทุน ขณะนั้น ยังมองไม่ออกหรอกครับว่าชีวิตจริงของ specialist จะเป็นยังไง สภาพการทำงานจริงๆใน รพ.ที่ขอทุนเป็นยังไง รุ่นพี่ส่วนใหญ่ก็ต่างคนต่างอยู่ สภาพแวดล้อมต่างจากที่คิดไว้เยอะ 2. เวลาที่ไปเรียน specialist 3-4 ปี ในเมืองหลวง มันทำให้เกิดโลกทรรศน์อีกแบบ เช่น เพิ่งรู้ตัวว่าชอบสายวิชาการ อยากจะไปให้สุดในสายวิชา เห็นความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี รวมถึง condition มากมายที่เปลี่ยนแปลง เช่น มีเมีย พ่อป่วยแม่ป่วย มีลูก ฯลฯ 3. ค่าตอบแทนและภาระงานเมื่อกลับไปเป็น specialist มันสวนทางกับภาระในชีวิตที่เพิ่มขึ้น สรุปคือ คนจะเบี้ยวมันมีสารพันเหตุผลที่จะเอามาอ้าง ให้ตัวเองดูไม่แย่ ผมขอน้อมรับเวรกรรมของการผิดสัญญา ผมขอโทษสำหรับความเขลาและเห็นแก่ตัวในวัยเยาว์ และ เสียดายที่ตัวเองรู้จักพุทธศาสนาช้าเกินไป ปล. หากเป็นไปได้ ผมอยากให้เลิกระบบการให้ทุน เนื่องจากปัจจุบันเรามีแพทย์จบเยอะขึ้น แต่ละ รพ. ประกาศไปเลยรับแพทย์ที่จบ specialist แล้ว จะเสนอ incentive หรือ สวัสดิการ อะไรก็ว่าไปเพื่อดึงดูดให้คนอยากมาทำงานในรพ.ของรัฐ
|
|
This too, shall pass
|
ส่งโดย: Hippo
สถานะ: Executive Member
จำนวนความเห็น: 2633
|
|
171.4.249.* |
|
|
|