ThaiClinic.Com (http://www.thaiclinic.com/cgi-bin/wb_xp/YaBB.pl)
For MD. >> Doctor Room l ห้องพักแพทย์ >> แตกประเด็น คำสารภาพของคนเบี้ยวทุน
(Message started by: Hippo on 07/22/18 เวลา 22:48:20)

Title: แตกประเด็น คำสารภาพของคนเบี้ยวทุน
ส่งโดย Hippo on 07/22/18 เวลา 22:48:20
เป็นคนนึงที่ขอทุน แต่เรียนจบแล้วกลับไปอยู่ได้ปีเดียว ต้องขอเบี้ยวก่อนกำหนด เพราะไม่ไหวกับระบบ เครื่องไม้เครื่องมือก็ไม่ค่อยมี ต่อสู้กับลักษณะทำงานของพี่คนเก่า  และปัจจัยที่สำคัญในตอนนั้นคือ ค่าตอบแทนที่น้อยกว่าที่เคยคิดไว้เยอะ  .... ตอนนั้นอายุเกือบ 30 ละกำลังสร้างครอบครัว เครียดมากกับอนาคตจะเอาไงดี พ่อแม่ก็อยู่อีกที่ไม่เคยดูแลเลย สับสนไปหมด สุดท้ายก็เลือกเบี้ยว....อยู่ไม่ครบตามกำหนด

ตอนนี้อายุมากขึ้น มองย้อนกลับไป เสียใจนะครับที่วันนั้นตัดสินใจแบบนั้น อยากจะกลับไปรักษาสัญญา   รู้สึกว่าในเวลานั้นเราไม่ได้ใช้สตินำทาง ใช้แต่ตัวความคิด ใช้แต่กิเลสนำทาง คือ ความอยากและความไม่อยาก ...

สิ่งที่ผ่านมาแล้วไม่อาจแก้ไข อาจจะมีเรื่องเวรกรรมตามมาหรือไม่ผมก็ไม่รู้ แต่สิ่งที่อยากจะบอก ท่านอื่นๆ ให้มองรุ่นน้อง ว่า

1. ในวัยวุฒิ ขณะไปขอทุน ขณะนั้น ยังมองไม่ออกหรอกครับว่าชีวิตจริงของ specialist จะเป็นยังไง สภาพการทำงานจริงๆใน รพ.ที่ขอทุนเป็นยังไง รุ่นพี่ส่วนใหญ่ก็ต่างคนต่างอยู่ สภาพแวดล้อมต่างจากที่คิดไว้เยอะ

2. เวลาที่ไปเรียน specialist 3-4 ปี ในเมืองหลวง มันทำให้เกิดโลกทรรศน์อีกแบบ เช่น เพิ่งรู้ตัวว่าชอบสายวิชาการ อยากจะไปให้สุดในสายวิชา เห็นความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี รวมถึง condition มากมายที่เปลี่ยนแปลง เช่น มีเมีย พ่อป่วยแม่ป่วย มีลูก ฯลฯ

3. ค่าตอบแทนและภาระงานเมื่อกลับไปเป็น specialist มันสวนทางกับภาระในชีวิตที่เพิ่มขึ้น

สรุปคือ คนจะเบี้ยวมันมีสารพันเหตุผลที่จะเอามาอ้าง ให้ตัวเองดูไม่แย่ ผมขอน้อมรับเวรกรรมของการผิดสัญญา ผมขอโทษสำหรับความเขลาและเห็นแก่ตัวในวัยเยาว์ และ เสียดายที่ตัวเองรู้จักพุทธศาสนาช้าเกินไป

:'(

ปล. หากเป็นไปได้ ผมอยากให้เลิกระบบการให้ทุน เนื่องจากปัจจุบันเรามีแพทย์จบเยอะขึ้น  แต่ละ รพ. ประกาศไปเลยรับแพทย์ที่จบ specialist แล้ว จะเสนอ incentive หรือ สวัสดิการ อะไรก็ว่าไปเพื่อดึงดูดให้คนอยากมาทำงานในรพ.ของรัฐ

Title: Re: แตกประเด็น คำสารภาพของคนเบี้ยวทุน
ส่งโดย SantaNiCo on 07/23/18 เวลา 03:20:00
เหตุผลเห็นแก่ตัวล้วนๆค่ะ
เบื่อจะพูด

Title: Re: แตกประเด็น คำสารภาพของคนเบี้ยวทุน
ส่งโดย doreus on 07/23/18 เวลา 09:11:59
มันผิดตั้งแต่ตั้งทุนแล้ว ถ้าจะเปลี่ยน ต้องเป็นระบบกู้เงิน รพ ขอทุนไป กระทรวงก็ตั้งทุนมา 12ล้านอะไรว่าไป ใครมาขอทุนก็กู้รพ ไปจ่าย รรพ
รรพ ก็รับเงินไป รัฐก็ไม่ต้องจ่ายเงินสนับสนุน รรพ. เมื่อรัฐไม่จ่าย รรพ.ต้องหาเงิน ก็จะเปิดสอนมากขึ้น ไม่งั้นอยู่ไม่ได้ ใครขอทุนไม่ไปใช้ทุนก็จ่ายต้นพร้อมดอก ใครมีตังค์เองก็ไปเรียน แฟร์ๆไม่ต้องมีเส้นสายใหญ่คับฟ้า
ระบบมันบิดเบี้ยวมานานละ
อ่อไม่ต้องมาร้องโอดโอยว่าทำไมต้องเอาเรื่องเงินมาเกี่ยวกับเรื่องเรียนนะ เพราะพวกเบี้ยวทุนมันก็เบี้ยวไปหาเงินกันทั้งนั้นล่ะ ไม่ใช่ระบบทำให้อยู่ไม่ได้หรอก ที่รัฐยอมให้เบี้ยวทุกวันนี้บอกได้เลยว่า. โง่เอง

Title: Re: แตกประเด็น คำสารภาพของคนเบี้ยวทุน
ส่งโดย megacure on 07/23/18 เวลา 09:30:44
รัฐแก้ปัญหาผิดวิธีมานาน

ในประเทศประชาธิปไตย นิติรัฐ ต้องปกครองด้วยกฏหมายที่ไม่มีการเลือกปฏิบัติ มีสิทธิเสรีภาพ

การจัดการควรใช้หลัก demand supply กลไกการตลาดให้มากที่สุด ซึ่งหลายครั้งไม่ต้องใช้เงินก็ได้ อาจใช้การให้ license จำกัดพื้นที่การ practice ให้กับคนที่มีภูมิลำเนาในที่ห่างไกลได้เรียนเป็นพิเศษ ให้ค่าเสี่ยงภัย ค่ากันดาร ให้ที่พัก สวัสดิการ และไม่ควรเบี้ยวเงินค่าตอบแทนพิเศษ จัดตำแหน่งให้เพียงพอกับภาระงาน หากรัฐไม่มีเงินก็เก็บเงินเพิ่มกับประชาชนได้ จะภาษีหรือร่วมจ่ายก็ว่าไป แต่คุณภาพการรักษาควรมาก่อนการคิดว่าต้องฟรีราคาถูกกับประชาชน อาจปล่อยให้คนไข้ติดหนี้รัฐได้มีแผนกติดตามหนี้ทีหลังคือรักษาให้ทุกคนเหมือนเดิม ไม่ว่าจ่ายได้หรือไม่

คนเบี้ยวทุนนั้นผิดแน่นอน คนให้ทุนก็พลาดมองคนผิด

แต่ผิดที่น่าจะต้องพูดถึงมากที่สุด เป็นต้นเหตุของความเละเทะทุกอย่าง คือ รัฐผิด ที่ใช้ระบบใช้ทุนมาแก้ปัญหาความขาดแคลน แก้ไม่ตรงจุด เกิดปัญหาใหม่แทรกซ้อนมากมาย

ปล. หมายถึงทุน resident และทุน พบ.

Title: Re: แตกประเด็น คำสารภาพของคนเบี้ยวทุน
ส่งโดย zinc on 07/23/18 เวลา 09:53:11
ข้ออ้างมันเยอะเนาะ ฮา....

Title: Re: แตกประเด็น คำสารภาพของคนเบี้ยวทุน
ส่งโดย -=Jfk=- on 07/23/18 เวลา 10:13:59
สำหรับผมคนเบี้ยวทุน คือไม่ไปใช้ทุน แต่จ่ายเงินให้ตามกติกา ไม่ได้เบี้ยวชักดาบ ก็ถือว่าทำตามกติกา ที่เปิดไว้ให้เลือก

แต่ถ้า ไม่ใช้ทุน แล้วไม่ยอมใช้เงินด้วย อันนี้ ไม่ถูก ถือว่าไม่เคารพ ข้อตกลงที่ รับทราบไว้แล้ว

ส่วนฝ่ายรัฐ ถ้าคิดว่า คนเบี้ยวมากไป นอกจากปรับระบบตัวเองให้ ดีขึ้นคนอยากอยู่แล้ว ก็อาจจะเพิ่มเบี้ยปรับให้สูงขึ้น

ถ้าข้อตกลง มันไม่แฟร์เช่นรู้สึกเบี้ยปรับสูงไปคนที่จะมายอมรับก็จะน้อยลงไปเอง ทุกอย่างมันจะสมดุลย์

แต่ต้องเคารพ ข้อตกลงกัน

Title: Re: แตกประเด็น คำสารภาพของคนเบี้ยวทุน
ส่งโดย know555 on 07/23/18 เวลา 12:19:00
ผมก็เบียวทุน  แต่ไม่เบี้ยวหนี้  


ผมว่าอย่าด่ากันเลยเพราะระบบมันทำให้เกิดแบบนี้   จริงๆตอนนั้นผมเจ็บใจมากเลยที่ไปขอทุน  ถ้าไม่ขอทุนก็ได้เรียนและแถมไม่ต้องมาเป็นทาสใครอีก  นึกอยากจะอยู่ที่ไหนก็อิสระ    ถ้าวันนั้นผมไปฟรีเทรนก็คงไม่ต้องเสียเงินล้านเลย เสียดายเงินมาถึงวันนี้555  ยอมรับว่าตอนนั้นเด็กมากไม่รู้อะไรสักย่างทำไปตามค่านิยมและคิดว่าจะกลับมาอยู่ที่นั่นจริงๆนะ(ไม่ได้คิดหลอก)  

เห็นด้วยกับจขกท ที่ต่อไปไม่ควรมีเรื่องขอทุน  แต่ควรรับสมัครคนที่จบแล้วเลยดีกว่า  มีก็มี ไม่มีก็คือไม่มี ;D ;D

Title: Re: แตกประเด็น คำสารภาพของคนเบี้ยวทุน
ส่งโดย crv01 on 07/23/18 เวลา 13:03:52
คนเบี้ยวทุนเยอะนะ.   ระบบไม่เวอร์.

Title: Re: แตกประเด็น คำสารภาพของคนเบี้ยวทุน
ส่งโดย WeaReGroot on 07/23/18 เวลา 22:10:42
สุดท้ายหลายคนก็เอาเงินมาฟาดสัจจะตัวเอง
คิดว่าทำถูกจริงๆหรอ
??? ??? ???

เงินซื้อได้ทุกอย่างแม้กระทั้งคุณธรรมพื้นฐาน

Title: Re: แตกประเด็น คำสารภาพของคนเบี้ยวทุน
ส่งโดย Tennoji on 07/23/18 เวลา 22:47:20
เพิ่มเงินค่าปรับ น่าจะลดปัญหาได้

Title: Re: แตกประเด็น คำสารภาพของคนเบี้ยวทุน
ส่งโดย Ines_de_BK on 07/23/18 เวลา 23:08:40
ถามเลย เชื่อในบุญกรรมหรือไม่
ขอตอบเลยว่าม่าย
แต่ถามว่าเส้นสายมันมีอยู่ไหม
ขอตอบเลยว่าช่ายยยยยยยยยย

เชื่อในโลกเสรี กลไกตลาด ปัจเจกบุคคล เหตุและผล เลยงงในตรรกะว่าจะไม่มีวันดีไปกว่านี้ได้ หรือเปลี่ยนอะไรได้ในชาตินี้

พอดีเกิดช้าไปหน่อย เกิดผิดที่ผิดทางไปหน่อย  เลยรู้สึกเหมือนปริ่มจะจมน้ำ

ถ้าเป็นสี่ห้าปีก่อน คงโดนไล่ไปเล่นตรงอื่น ประเทศอื่น โดนไล่ไปทำบุญเยอะๆ ไล่ไปเกิดใหม่

เงินที่ใช้ทุนเทียบไม่ได้กับการเสียโอกาสต่างๆ ทั้งหมอ คนไข้ รพ มันเป็นสถานการณ์แพ้-แพ้ในยุคนี้
ล้มทุนเถอะแล้วเปิดเสรี

Title: Re: แตกประเด็น คำสารภาพของคนเบี้ยวทุน
ส่งโดย Ines_de_BK on 07/23/18 เวลา 23:21:02
อีกข้อสังเกตที่อาจเปลี่ยนในชาตินี้คืออาชีพเราอาจไม่ได้เป็นราชการในอนาคต ดังนั้น ความต้องทำตามสัญญาทาสหากยังมีอยู่อาจลดลง อาจเป็นแค่ลูกจ้างหรือพนักงานรัฐ การลาออกโยกย้ายจะอิสระขึ้น มืคนเยอะ พร้อมแทนที่ได้ตลอด ถ้ายังคงระบบเดิม. ภาครัฐก็ขึ้นเมรุพร้อมคนไข้ไปเลย

ถึงจุดนั้นคนมีความสามารถ จะไม่เลือกอาชีพนี้เป็นอันดับต้นๆ. ซึ่งตอนนี้ก็เป็นแบบนั้นแล้ว

Title: Re: แตกประเด็น คำสารภาพของคนเบี้ยวทุน
ส่งโดย Something in the rain on 07/24/18 เวลา 15:55:59
มาสารภาพด้วยคนตอนเป็นGPก็ใช้ทุนไม่ครบครับ แฮ่ๆ แต่ตอนเรียนboard กะ subboardก็free trainตลอดครับ

อยากให้ นศพ. ที่เข้าเรียนปี1ใหม่ มีทางเลือกไม่ต้องไปใช้ทุน แต่จ่ายค่าเทอมแพงแทนอะไรแบบนี้ เพราะรู้สึกว่าในปัจจุบันก็ผลิตGPเกินพอแล้ว น่าจะเปลี่ยนไปผลิต อาจารย์แพทย์กับนักวิจัยแทนอะไรแบบนี้หรือsubspecialtyที่มันadvanceลงไปมากๆ แทนที่จะเอาเวลา3ปีไปใช้ทุนโดยไม่รู้ที่ตัวเองทำไปถูกหรือผิด ไม่มีใครคอยfeedback มันไม่ปลอดภัยทั้งตัวเองและผู้ป่วย น่าจะมีทางเลือกให้น้องที่จบใหม่เรียนต่อboardที่ตัวเองชอบได้เลย

Title: Re: แตกประเด็น คำสารภาพของคนเบี้ยวทุน
ส่งโดย brownie on 07/24/18 เวลา 23:13:36
รายนี้ใช้ทุน 1 ปี ยังพอทำเนา
ที่เห็นหลายคน ใช้ทุน 2 ใน 3 ปี  แล้วมาต่อยอดเมด

ที่น่าเกลียดจริงๆ คือไม่ใช้ทุนเลย ลาออกทันทีหลังเรียนจบ

Title: Re: แตกประเด็น คำสารภาพของคนเบี้ยวทุน
ส่งโดย Dr._Panya on 07/25/18 เวลา 14:15:29

on 07/24/18 เวลา 23:13:36, brownie wrote:
รายนี้ใช้ทุน 1 ปี ยังพอทำเนา
ที่เห็นหลายคน ใช้ทุน 2 ใน 3 ปี  แล้วมาต่อยอดเมด

ที่น่าเกลียดจริงๆ คือไม่ใช้ทุนเลย ลาออกทันทีหลังเรียนจบ


ใครไม่ไปใช้ทุนต่างจังหวัด ครบ 1 ปี ก็จะไม่ได้หนังสือรับรองการ " เพิ่มพูนทักษะ" ก็จะไม่ได้เรียนต่อเฉพาะทางในเมืองไทย น่ะสิครับ

Title: Re: แตกประเด็น คำสารภาพของคนเบี้ยวทุน
ส่งโดย cmumed on 07/25/18 เวลา 18:03:02
อยากจะบอกว่าที่มีคนให้ความเห็นว่าน่าจะเลิกการใช้ทุนเสีย และให้ไปสมัครในภายหลังที่เทรนจบ
ผมชักมีความรู้สึกเห็นด้วยขึ้นมาแล้วนะ เพราะในข้อเท็จจริงที่เห็นข้อมูลจำนวนแพทย์เฉพาะทางทั้งประเทศ
มีความรู้สึกว่ากลุ่ม รพศ/รพท ชักจะมีมากเกินความจำเป็นแล้ว และต้องมีภาระที่จะต้องขอทุนให้กับโรงพยาบาล
ทั้งๆที่ รพ ก็ไม่ได้ต้องการมากมายอะไร โดยเฉพาะในบางสาขามีมากเกินไปแล้ว
สวนทางกับคนที่อยากไปเทรน เช่น ENT ก็ไม่รู้จะอยากไปทำไม เพราะทุกวันนี้งานก็น้อยลงไปเยอะแล้ว
ถ้าไม่ต้องขอ ทุน ให้ทุนก็ไม่ต้องเป็นภาระ แล้วให้คนที่อยากเทรนอะไรก็ไปสมัครหาที่เทรนกันเอง
จบมาก็หาที่อยู่กันเอง รพ อาจมีโอกาสเลือกมากขึ้น
ไม่ต้องคอยกังวลว่าน้องคนใหนจะเบี้ยวทุน
และอาจทำให้โรงพยาบาลปรับตัวและพัฒนาตัวเอง เพื่อให้เป็นทางเลือกให้น้องมาเลือกสมัครมากขึ้น
ข้อดีอาจจะมากกว่าข้อเสียก็ได้

Title: Re: แตกประเด็น คำสารภาพของคนเบี้ยวทุน
ส่งโดย หมอเมืองสยาม on 07/25/18 เวลา 19:16:20
                            ผิดสัญญา..(รึ)..?  คำตอบ  " หากินไม่เต็มปากเต็มท้องจะเอาอะไรมาทำตามสัญญา "

Title: Re: แตกประเด็น คำสารภาพของคนเบี้ยวทุน
ส่งโดย philosophy on 07/25/18 เวลา 20:36:29

หมอหนีทุน
.......................................

ครูเบี้ยวหนี้
https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_1350064

นักเรียนเบี้ยวหนี้
https://mgronline.com/qol/detail/9610000074131


คนละเรื่องเดียวหัน   แต่มันก็หลักเดียวกัน คือ  เป็นไปตามกฎแห่งกรรม

*************************************************

เมื่อทำกรรมไว้แล้วต้องขดใช้  ไม่มีใครหนีกฎแห่งกรรมได้    เรื่องใช้ทุนหนีทุน ก็เหมือนกัน


ส่วนตัวเป็นคนเชื่อกฎแห่งกรรม  บางครั้งกรรมไม่ได่ตกที่เราเองแต่จะไปตกกับคนที่เรารัก  ส่วนตัวเห็นมาแล้วมากมาย


กรรมคือการกระทำ  ดังนั้น  เมื่อสัญญา  ก็คือ ต้องชดใช้  ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง


หากคุณ  หนี  กรรมจะตามคุณ  จนกว่าคุณจะได้ชดใช้มัน  เรื่องทั้งหมดถึงจะยุติ


ส่วนใครจะเชื่อ  หรือไม่เชื่อ  ก็เป็นสิทธิส่วนบุคคล

*************************************************

การไปขอทุนนั้น  ก่อนไป  คนที่ขอ  รู้ว่าโรงพยาบาลมีอะไร  หรือไม่มีอะไร  อยากได้อะไรก็สามารถจัดซื้อได้ระหว่างเรียน  หรือหาซื้อได้เมื่อจบออกมา  และคาดการณ์ได้ว่าจะเจออะไรเมื่อจบออกมา


เมื่อจบออกมา ไม่ว่า board หรื subboard  หากทุนนั้นทุนแรก
คุณก็รู้อยู่แล้วว่าจบออกมาต้องอยู่ในฐานะผุ้บุกเบิกเพื่อให้  หมอรุ่นน้องมาช่วยเพื่อสร้างทีม  เพื่อพัฒนา  เป็นทีมขึ้นมา

หากไม่พร้อม  คุณก็ไม่ควรไปขอ   เพราะ  ผลกระทบคือ  ผู้ป่วยในจังหวัดนั้นๆ  ชนิดที่คุณอาจคาดคิไม่ถึงกันทีเดียว  

กาขาดหมอที่หนีทุนบอร์ด หรือสับบอร์ด  จะทำให้จังหวัดนั้นๆ ขาดการพัฒา การแพทย์สาขานั้นๆ ไม่ต่ำกว่า 3 ปี

หากหนีไป 3  คน  โรงพยาบาลก็จะล้าหลังไปเป็น 10 ปีเลยครับ

**************************************************

การให้ทุน  ของแพทย์ บอร์ด หรือสับบอร์ด ส่วนใหญ่ เป็นการให้เกียรติ ไม่มีสัญญาผูกมัด  

เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อเนื่อง  หากไม่ตั้งใจจะอยู่แต่แรก  ก็ไม่ควรไปขอ  ครับ   ไปฟรีเทรนด์เลยครับ  อย่าไปแย่งคนที่เขาตั้งใจจะอยู่

หรือ  หากไปขอทุน  แล้วไม่ได้จะอยู่นานก็บอกไปเลยว่าอยู่ 3  ปีแล้วย้ายกลับ  หรือ ปีเดียว  แล้วย้าย



ส่วนคนที่พิจารณาทุนก็เช่นกัน   อยา่ให้ถือสายสัมพันธ์ส่วนตัว  เหนือผลประโยชน์ส่วนรม


ปล  ว่าจะไม่เขียนแล้วเชียว    พอดีอ่านข่าว  เห็นแต่คนเบี้ยวหนี้กันบ่อยเหลือเกิน  ไม่เว้นแม้แต่หมอ

Title: Re: แตกประเด็น คำสารภาพของคนเบี้ยวทุน
ส่งโดย avatar33 on 07/25/18 เวลา 21:19:25
มีเรื่องตลก เดือนก่อนนี้เอง จังหวัดผมพึ่งจัดสรรแพทย์ใช้ทุนปี2 (intern1จบแล้ว) ไปใช้ทุนปี2ตามรพช.
น้องคนนึง ผญ ก็ได้ไปลง รพช.เกิดใหม่ขนาด 10เตียง อำเภอห่างจากอำเภอเมืองประมาณ 60กิโล ด้วยอุดมการณ์แรงกล้าจะรักษาคนยากคนชนบท
ไปทำงานวันแรกเสร็จ วันรุ่งขึ้นเขียนใบลาออกเลยจ้า 55555
ก่อนหน้านี้ Intern2 จะขึ้น3 ลาออกพร้อมกัน2คน (มีหมอ3คนรวมผอ.)
ได้น้องใหม่มา 2 วันเดียว ลาออกเลย
สสจ.ก็ไม่รั้งไว้เลย น่าจะให้น้องไปลองดู รพช.อื่นดูก่อนจะได้มีหมออยู่ในระบบไว้ (เหมือนว่าน้องจะไปคุยกับสสจ. แล้วสสจ.บอกคำเดียว ยูต้องอยู่รพ.นี้ น้องก็ลาออกเลย)

Title: Re: แตกประเด็น คำสารภาพของคนเบี้ยวทุน
ส่งโดย Ines_de_BK on 07/25/18 เวลา 21:35:21
การให้ทุน ใช้ทุน ถ้าคิดเป็นบุญกรรมก็ทำได้

แต่การที่เรารู้ตัวว่าต้องการเรียนอะไรต่อ ชอบอะไร ฉันทะที่จะทำให้เราเริ่มต้นชีวิตได้ทำในสิ่งทีรัก มันควรหรือที่เอาบุญกรรมมากดหัว. เอาเส้นสายการเปิดทุนมาตัดโอกาส


ถ้าเรารู้ว่าเราต้องการเรียนอะไร มันก็ต้องทำทุกทางให้ได้เรียน


ความพยายามพวกนี้ควรใช้ในทางสร้างสรรค์ต่อสังคม ไม่ใช่ทุกวันนี้ พยายามหาทุนหาเส้นๆๆๆบลาๆๆ
คหสต ไม่ได้เหมารวม พูดเท่าที่เห็นหมอๆคนใกล้ตัว


Title: Re: แตกประเด็น คำสารภาพของคนเบี้ยวทุน
ส่งโดย Chimerism on 07/26/18 เวลา 09:33:55
เห็นด้วยกับการไปเรียนแล้วค่อยมาสมัครเลือกที่ทำงานค่ะ
เป็นแบบโควต้าทั้งประเทศส่งไปเรียนก่อน
แล้วค่อยมาเลือกที่ใช้ทุนเหมือนอินเทิร์น  ดีมั้ยคะ
แต่ในรายละเอียดว่าจะเลือกยังไง เช่นระบบเอนทรานซ์คัดคะแนน
ระบบบ้านใกล้ได้ก่อน ระบบสัมภาษณ์ ค่อยว่ากัน
(คือมันฟรีเทรนไม่ได้เพราะยังต้องอยู่ในระบบราชการอยู่ไม่ได้ลาออก)

Title: Re: แตกประเด็น คำสารภาพของคนเบี้ยวทุน
ส่งโดย ชายไทยไม่ทราบชื่อ on 07/30/18 เวลา 01:37:50
ถ้าเราแยกเป็น 2 แบบ ล่ะครับ
1. ทุนที่ต้องรับตอนจบ พบ. คือการไปเป็น intern สำหรับผมมันคือการบังคับรับน่ะครับ เป็นการทำสัญญาแบบมัดมือชก อันนี้ถ้ามีคนใ่ช้เงินแทนไปทำงาน ผมว่าเราก็บ่นไม่ได้เต็มปาก
2. ทุนที่ไปขอเพื่อไปเทรน อันนี้คือ ไปขอเอง สัญญาเอง อันนี้ควรตำหนิ ถ้าบอกว่าจบมาแล้วไม่ได้ทำตามที่เรียน เครื่องมือไม่มี ก็ต้องถามกลับว่าตอนไปขอไม่ได้ดู Setting ของ รพ.ที่ไปขอไว้เหรอ

Title: Re: แตกประเด็น คำสารภาพของคนเบี้ยวทุน
ส่งโดย Sazuke on 08/02/18 เวลา 14:38:24
ผมเสนอว่า  
***** ให้ทุนไปเรียนจนจบ แต่ไม่ต้องให้ใบจบ( ไม่ให้วุฒิบัตร) ให้ทำงานในรัฐบาลได้เต็มศักยภาพ
จากนั้นรอให้เขาทำงานใช้ทุนครบถึงให้ใบจบ  รับรองไม่กล้าเบี้ยวแน่ๆ  555

เช่น จะเรียนสาขาที่คนแย่งเยอะ ขอทุนจาก3จว.ชายแดน  จบแล่้วก็ไปทำงานที่นั่นจนครบสิ ค่อยให้ใบจบ
ก็ตอนขอทุนบอกอยากจะทำงานที่นั่นไม่ใช่รึ ( ตอนสัมภาษน์ น่าจะตอไว้ว่า รักจังหวัดนี้มากๆ อยากเสียสละช่วยคนป่วยที่นี่จริงๆนะ ไม่ได้อยากทำเอกชน  บลาๆๆ)
  ถ้ารับเงื่อนไขนี้ไม่ได้ก็ไม่ต้องมาหลอกขอทุน หาทางเรียนฟรีเทรนเอาเองดีกว่าไหม  
  ส่วนคนที่สตาฟรู้แต่แรกว่าจะเบี้ยวทุน(แสดงเจตนาเลยว่า ขอไปเพื่อเรียน แต่ไม่สะดวกมาใช้ทุนหลังจบ) แต่ให้ไปเพราะเส้นหรือเพราะสนิทกัน อันนั้นก็โทษคนขอทุนฝ่ายเดียวไม่ได้นะ ไปตามด่ากันเองว่าใครให้ อันนั้นผิดร่วม

Title: Re: แตกประเด็น คำสารภาพของคนเบี้ยวทุน
ส่งโดย SantaNiCo on 08/02/18 เวลา 17:36:29
ไม่มีใบจบ  ทั้งๆที่เทรน
คนตั้งใจใช้ทุนก้โดนร่างแหไปด้วย
เกิดมีเคสผิดพลาดขึ้นมา  ก้โดนเล่นเพราะ  ไม่ใช่ผู้ชำนาญแต่ผ่าตัด  /รักษาได้ไง



ThaiClinic.Com . All Rights Reserved.