แจ้งลบกระทู้ แจ้งเมื่อมีคนตอบกระทู้นี้ แนะนำกระทู้นี้ Print

 หัวข้อ 36736: มีลูก จงส่งลูกเรียน “วิชาการเงิน”  (จำนวนคนอ่าน 2511 ครั้ง)
« เมื่อ: 04/10/18 เวลา 08:55:35 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

มีลูก จงส่งลูกเรียน “วิชาการเงิน”
เราพึ่งรู้ความจริงข้อนี้ ก็เมื่อได้เริ่มต้นชีวิตทำงานจริงๆ ค่ะ
 
แต่เดิมที่เคยเห็นกันมา ในสังคมไทย พ่อแม่มักจะอยากให้ลูกตั้งใจเรียนแต่เด็ก
และเมื่อถึงเวลาก็อยากให้เข้าเรียนระดับอุดมศึกษา มหาวิทยาลัย
อยากให้เป็น หมอ วิศวะ สถาปัตย์ ฯลฯ ซึ่งเป็นงานสาย “วิชาชีพ”
นั่นก็คือ พ่อแม่คนไทย อยากให้เป็นอาชีพ สาย “มนุษย์เงินเดือน” ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญ (Specialist)
เป็นที่ปรึกษา (Consultant)
ซึ่งทั้งหมดทั้งปวง ได้รายได้ประจำจากเงินเดือน อาจมีได้ top-up บ้างจากงานพิเศษต่างๆ
แต่ทั้งหมดเป็นงานที่ ได้ตามแรงและเวลาที่ลงไป เปรียบเสมือน กรรมกร ที่ได้ค่าตอบแทน จากหยาดเหงื่อแรงงาน ที่หว่านลงไป
 
ซึ่งอาชีพแนวนี้ ฟังดูมั่นคง มีความรู้ มีเกียรติ ฯลฯ
นั่นคือสิ่งที่เราเข้าใจกันว่าเป็นเช่นนั้น
แต่ที่จริงแล้ว สิ่งที่เราได้ มันคุ้มกับสิ่งที่เราทำจริงหรือ
 
ในขณะที่ทุกคนบอกว่าอาชีพผู้เชี่ยวชาญ มีความสำคัญ
แต่สิ่งที่พวกเราได้ ทำไมถึงน้อย ทำไมถึงด้อยกว่าคนอื่นเขา
 
ให้คุณทำงานจนเป็นยอดของสายอาชีพคุณ หรือต่อลงมาให้หน่อยก็เป็นคนที่ทำงานได้ เหนือ mean รายได้เฉลี่ยของวิชาชีพคุณ
ให้คุณได้รายได้เดือนละแสนถึงสองแสน
... คุณซื้อรถยุโรปได้ไหม (ป้ายแดง ไม่เอามือสองค้างปีค้างชาติ)
... คุณซื้อคอนโดสุขุมวิทซอยต้นๆ ได้ไหม
... คุณพาครอบครัวไปเที่ยวเมืองนอก ปีละครั้งสองครั้งได้หรือไม่
... คุณกล้ามีลูกมั้ย แล้วคุณคิดว่าลูกคุณจะได้ของเล่น ทัดเทียมในสิ่งที่ลูกของอื่นได้กันหรือ
 
หรือคุณคิดว่าเรื่องพวกนี้มันฟุ่มเฟือย เกินกำลัง พนักงานเงินเดือน “ชนชั้นกลาง”
แต่ขอโทษค่ะ มนุษย์เงินเดือนประเทศอื่น เขาได้ในสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด ทั้งที่เราและเขามีทุกอย่างเหมือนกัน ทำงานชั่วโมงเท่ากัน
เผลอๆ เอามาจับแข่งสอบวิชาการเราอาจจะชนะด้วยซ้ำ
 
ไหนสังคมถึงบอกว่าอาชีพพวกเราสำคัญล่ะคะ?
สังคมก็แค่ให้ “กล่อง” พวกเรามา แต่กด “เงิน” เราจนมิดเท้า
เป็นหมอ มันมีเกียรติได้รักษาคน จงเสียสละต่อเถิด
เป็นวิศวกร เป็นฟันเฟืองของบริษัทให้เดินต่อ จงอดทนต่อเถิด
 
ในขณะที่อาชีพที่เป็นคน “ปฏิบัติ” ที่เชี่ยวชาญจริงๆ ได้ค่าตอบแทนประมาณหนึ่ง
แต่การที่ได้คุมอยู่จากเบื้องหลังนั้น กลับได้ค่าตอบแทนมหาศาล
ตัวเราก็เป็นหมอ specialist และทำงานได้เงินหลักหมื่นเท่านั้น
แต่มันเทียบไม่ได้เลยกับเพื่อนของเราบางคนที่เป็น trader หรือ investor ที่พูดกันถึงกระแสเงินหลักแสนหรือล้าน
ถึงจะเสี่ยงมากก็จริง แต่ก็ยังมีความรู้ เพื่อผ่อนความเสี่ยงเหล่านั้น
เราจึงเห็นว่าวิชา “การเงิน” คือสิ่งที่ควรให้ลูกของพวกเราเรียนที่สุดในยุคของพวกเขา (เพราะมันก็ผ่านพ้นวัยเรียนของเราไปแล้ว)
และมันก็ไปไกลกว่าการที่คุณไปซื้อหนังสือมาเล่มสองเล่มแล้วสถาปนาตัวเป็นนัก ลงทุนมากนัก
 
ถ้าพวกคุณยังมองภาพไม่ออก คุณลองมองดูสิ่งต่างๆ รอบตัวถึงสิ่งที่เกิดขึ้นมาไม่กี่ปีนี้
กระแสการต่อต้านการเป็นลูกจ้างประจำ การเพิ่มขึ้นของฟรีแลนซ์ การผุดของกิจการเล็กๆ ของคนหนุ่มสาวประเภท ร้านกาแฟ ฟู๊ดทรัก ฯลฯ
(แต่ก็ยอมรับว่ามันเป็นกระแสเกินไป ไปตามๆ กัน ไม่มีจุดขายก็เจ๊งกันหมด)
รวมไปถึงชั้นวางหนังสือขายดีที่เต็มไปด้วยหนังสือหุ้นและการลงทุน ทั้งเทคนิกหรือวีไอ
ทุกอย่างผุดขึ้นอย่างรวดเร็วมาก
มันเป็นเสียงประท้วงมาตลอดว่า อาชีพที่สร้าง productivity ให้กับสังคม หรืออาชีพที่ค้ำยันสังคม
กลับไม่ได้สามารถมีรายได้ตามที่สมควรจะเป็น
 
มีคนเยอะมากที่เป็นพนักงานประจำ ทั้งที่เรียนตรี โท เอก สายอาชีพตัวเองสิบๆ ปี แล้วสุดท้ายผันตัวลาออกไปเป็นนักลงทุน
ทิ้งวิชาที่เค้าว่ามีค่า ไม่ได้ใช้อีก
ยังไม่รวมคนที่ลงทุนแต่ยังไม่ลาออกจากงาน เพราะอาจยังไม่ประสบความสำเร็จหรือไม่มั่นใจ
แต่เชื่อว่าจะสำเร็จหรือมีแนวโน้มสำเร็จ ลาออกแน่นอนค่ะ เพราะเราก็จะออกเหมือนกันถ้าสำเร็จในการลงทุน (ตอนนี้ก็ได้แต่เอาเงินน้อยนิดที่ได้มาจากงานหมอ เอาไปลงทุนความเสี่ยงสูง หวังว่าวันนึงจะรวยกับคนอื่นบ้าง)
 
มันก็เหมือนจะตกผลึกได้ส่วนหนึ่งว่า ถ้าคุณจะมีลูก
ถ้าลูกคุณอยากได้กล่อง ให้เลือกวิชาที่สร้าง productivity
แต่ถ้าลูกคุณอยากได้เงิน ก็ต้องเลือกวิชาการเงินค่ะ
บางทีโลกนี้เราก็ต้องเลือก และเราคงไม่ได้ทุกอย่าง
แต่อย่างน้อยเราก็ควรรู้ว่ามีตัวเลือกอะไรบ้าง
และถ้าเราย้อนกลับไปได้ เราก็อยากลองดูค่ะ
 
ขอบคุณค่ะ
ส่งโดย: 921684
สถานะ: Newbie *
จำนวนความเห็น: 41  
   
223.24.159.*


« ความเห็นที่ #1 เมื่อ: 04/10/18 เวลา 10:35:40 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ปัญหาคือยังไม่มีผัว
ส่งโดย: Ines_de_BK
สถานะ: Full Member ***
จำนวนความเห็น: 134  
   
223.24.94.*


« ความเห็นที่ #2 เมื่อ: 04/10/18 เวลา 12:57:11 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

     วิชาการเงินสำหรับแพทย์เหมือนดาบ๒คม  เผลอเป็นบาดมือเหวอะหวะ   ส่วนวิชาชีพแพทย์เป็นดาบคมเดียว (กัดได้เน้นๆ)ครับ...
ส่งโดย: หมอเมืองสยาม
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 11432  
   
124.120.192.*


« ความเห็นที่ #3 เมื่อ: 04/10/18 เวลา 13:51:50 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

จริงๆตนที่ประสบความสำเร็จในเรื่องการหาเงินมากๆมีตัวอย่างมากมาย  ถ้าอยากได้แบบนี้ไม่ยากครับแต่ต้องเรียนแบบเขามาเลยทั้งหมดนะครับ  ไม่ใช่แค่ไปเรียนวิชาการเงินอย่างเดียวแล้วคุณจะเป็นเศรษฐีกันหมดซะที่ไหน
 
ในทางกลับกันคนที่เรีนหมอมาบางคนประสบความสำเร็จเรื่องการเงินในภายหลังก็ได ้  เพราะเขามีคุณสมบัติที่จะรวยไงครับยกตัวอย่างเช่น นพ ปราเสริฐ ปราสาททองโอส( https://www.thairath.co.th/content/804567)ที่เป็นหมอมาก่อนแล้วจึงค่อยมาเ รียนการเงินภายหลัง


ยามเมื่อมฤตยูรอท่าหน้าทวาร หมอเทียบเปรียบปานพระเจ้า
ยามเมื่อโรคสุมรุมเร้า หมอคือพระเจ้าจุติมา
ยามเมื่อโรคหายไข้เรื้อ หมอคือสามัญมนุสสา
ยามเมื่อคนไข้มรณา หมอคือผีห่าซาตาน..

ส่งโดย: know555 male
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 16543  
   
1.46.230.*


« ความเห็นที่ #4 เมื่อ: 04/10/18 เวลา 14:01:31 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ในอนาคต อาจเผชิญ ขาดแรงงานในภาคธุรกิจที่แท้จริง
 
ผมยังคิดว่า ถ้าจะเล่นหุ้นให้ดี ก็ต้องหัดทำงานในภาคธุรกิจที่แท้จริงมานะครับ จะได้รู้อะไรที่ลึกกว่าคนอื่นๆโดยค่าเฉลี่ย ในสาขาใดสาขาหนึ่ง แล้วเอามาต่อยอดวิเคราะห์หุ้นในธุรกิจที่เกี่ยวข้อง  
ไม่ต้องโดน งบการเงินหลอกเอา  
 
จบออกมายังไม่รู้จักโลกอะไรเลย จะมาเล่นหุ้นกำไร ก็คงต้องเก่งจริงๆ
 
 
หิ้วกระเป๋าเดินเข้าโรงงาน ไปเป็นที่ปรึกษา ไม่ใช่ได้แต่ค่าแรงนะครับ
สิ่งที่ได้มากกว่านั้น คือ ได้รู้จัก กระบวนการผลิตใหม่ๆ รู้จักเพื่อนใหม่ๆ ที่มีความรู้ ดีกว่าเรา ที่เราจะได้ไต่ถาม ได้ปรึกษา ในอนาคตด้วย  
 
« แก้ไขครั้งสุดท้ายเมื่อ: 04/10/18 เวลา 14:03:33 by teetotal »

หยดหนึ่งน้ำนมกิน ทดแทนไม่สิ้นพระคุณแม่เอย
ส่งโดย: teetotal male
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 6181   Email
   
202.183.207.81 fwd for 1.1.1.*


« ความเห็นที่ #5 เมื่อ: 04/10/18 เวลา 14:02:17 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

อันนี้เอามาจากหนังสือ the ten roads to riches เขียนโดยนาย Ken Fisher  
 
"หมออาจหาเงินได้มากกว่าอาชีพอื่นๆโดยเฉลี่ย แต่ไม่ได้หมายความว่าเป็น  
หมอแล้วจะออมได้มากกว่าเสมอไป เพราะคนเป็นหมอขึ้นชื่อเรื่องออมไม่เป็น  
อยู่แล้ว แค่มีความเป็นไปได้มากกว่าเท่านั้น"  
   
   
 
   
เท่าที่สัมผัสมาในวงการเรา มีน้อยคนนัก ที่จะมีความรู้ ความเข้าใจเรื่อง  
วางแผนทางการเงิน ซึ่งจริงๆแล้วมันสำคัญพอๆกับการทำงานเพื่อหาเงิน  
หรืออาจจะมากกว่า มันช่วยทำให้เงินของเรางอกเงย  
 
ช่วยให้เรามีอิสระพอที่จะได้ใช้ชีวิตในแบบที่เราต้องการ  
 
พึงพอใจในชีวิตอย่างแท้จริง

"Whether you think you can,
or you think you can't--you're right."

-- Henry Ford--
ส่งโดย: <<GOOD LIFE>>
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 938  
   
182.53.168.*


« ความเห็นที่ #6 เมื่อ: 04/10/18 เวลา 15:36:57 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ไม่แน่ว่าเรียนการเงินจะดีกว่า หมอบางคนเรียนปานกลาง ไม่ได้ต่อเฉพาะทางแต่ไปเปิดคลินิกต่างจังหวัดได้เงินเยอะมาก ถ้าเรียนอาชีพอื่นคงไม่ได้ขนาดนี้
ส่งโดย: 123321
สถานะ: Newbie *
จำนวนความเห็น: 6  
   
103.10.229.*


« ความเห็นที่ #7 เมื่อ: 04/10/18 เวลา 15:59:42 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

on 04/10/18 เวลา 14:01:31, teetotal wrote:
ในอนาคต อาจเผชิญ ขาดแรงงานในภาคธุรกิจที่แท้จริง
 
ผมยังคิดว่า ถ้าจะเล่นหุ้นให้ดี ก็ต้องหัดทำงานในภาคธุรกิจที่แท้จริงมานะครับ จะได้รู้อะไรที่ลึกกว่าคนอื่นๆโดยค่าเฉลี่ย ในสาขาใดสาขาหนึ่ง แล้วเอามาต่อยอดวิเคราะห์หุ้นในธุรกิจที่เกี่ยวข้อง  
ไม่ต้องโดน งบการเงินหลอกเอา  
 
จบออกมายังไม่รู้จักโลกอะไรเลย จะมาเล่นหุ้นกำไร ก็คงต้องเก่งจริงๆ
 
 
หิ้วกระเป๋าเดินเข้าโรงงาน ไปเป็นที่ปรึกษา ไม่ใช่ได้แต่ค่าแรงนะครับ
สิ่งที่ได้มากกว่านั้น คือ ได้รู้จัก กระบวนการผลิตใหม่ๆ รู้จักเพื่อนใหม่ๆ ที่มีความรู้ ดีกว่าเรา ที่เราจะได้ไต่ถาม ได้ปรึกษา ในอนาคตด้วย  
 

เราเห็นคนเล่นหุ้นแล้วรวยจริงๆ  มองว่าทำกำไรได้ก็เอาแล้วนะ  แต่เขาจับตามองอย่างจริงจัง  อ่านหนังสือเกี่ยวกับการลงทุนเฉพาะทางที่สนใจหลายๆสิบเล่มเลย  จนเข้าใจว่าทำกำไรจากไหน ต้นทุนคืออะไร  เข้าบอกว่ามองตรงนี้ได้จะเข้าใจเลยบริษัทไหนเขียนงบหลอกตา  เป็นการลงทุนที่ดีไหม  ก่อนจะคัดหุ้นว่าตัวนี้สมควรลงทุนไหม  เขามองโลกในแง่ดีนะ  เขาว่าหุ้นที่คัดทิ้งคือการลดจำนวนหุ้นที่ไม่ต้องการ  กรอบจำนวนหุ้นที่อยากได้จะแคบลง  ไม่ได้มองว่าล้มเหลว  ต้องมั่นใจจริงๆว่าจะได้กำไรจะซื้อ
ส่งโดย: nicenick
สถานะ: Full Member ***
จำนวนความเห็น: 171  
   
182.53.234.*


« ความเห็นที่ #8 เมื่อ: 04/10/18 เวลา 21:06:58 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

เราจบการเงินมา ข้อดีของสายนี้คือการวางแผนทางการเงินในอนาคต
ได้เอามาใช้แน่ๆกับตัวเอง งานหาง่ายค่ะ เพราะไม่ว่าที่ไหนต้องการคนจบสายนี้แน่นอน ส่วนเงินเดือนถ้ายังไม่มีประสบการณ์ก็ถือว่าไม่มากค่ะ
เมื่อเทียบกับวิชาชีพเฉพาะ แพทย์ วิศวะ หรือสายอาชีพอื่นๆ เราเองเคยเล่นหุ้นนะ แต่รู้สึกว่าเราไม่ใช่แนวค่ะ ทุกอย่างเราว่าขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลด้วยค่ะ สายอาชีพเราเหมือนจะสบายๆ แต่ความเครียด ความกดดันสูงนะคะ แถมคู่แข่งก็เยอะด้วย การรักษาดูแลผลประโยชน์ให้คนอื่นมันก็ไม่ง่ายค่ะ เราคิดว่าเลือกทำ เลือกเรียนในสิ่งที่ชอบน่าจะมีความสุขมากกว่า คนล้มละลายจากการเล่นหุ้นก็มีถมไปค่ะ ทุกอย่างมีสองด้านเสมอค่ะ Grin

~คนดื้อ.....อย่าสอน คนจร.....อย่าคบ
คนประจบ.....อย่ารัก คนทัก.....อย่านิ่ง
คนจริง.....อย่าหน่าย คนอาย.....อย่าล้อ
คนง้อ.....อย่าโกรธ คนโฉด.....อย่าเข้าใกล้
คนตาย.....อย่ากลัว คนชั่ว.....อย่านำพา ~
ส่งโดย: Alice female
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 616  
   
58.10.64.*


« ความเห็นที่ #9 เมื่อ: 04/11/18 เวลา 13:21:34 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

    อาชีพเสริม ? - " พ่อค้ารถพุ่มพวง ครับ กำไรดี "
ส่งโดย: หมอเมืองสยาม
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 11432  
   
171.96.189.*


« ความเห็นที่ #10 เมื่อ: 04/11/18 เวลา 15:57:11 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

เลิศมาก Cheesy Cheesy Cheesy

เมื่อไหร่ที่การตัดสินบนโลกนี้ไร้ซึ่งความยุติธรรม เมื่อนั้นฟ้าดินจะแสดงออกซึ่งความยุติธรรม

อย่าเห็นว่าเป็นความผิดเล็กๆน้อยๆแล้วไปทำ
อย่าเห็นว่าเป้นความดีเล็กๆน้อยๆแล้วไม่ทำ
ฝนไม่อาจคืนชีวิตให้แก่หญ้าที่ไร้ราก ธรรมไม่มีประโยชน์ต่อคนที่หลบหลีกธรรมะ
ส่งโดย: Pang_John
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 2477  
   
134.196.23.*


« ความเห็นที่ #11 เมื่อ: 04/12/18 เวลา 11:11:16 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

  วิชาการเงิน กับ แพทย์ ? - " ไม่ต้องสนใจครับ   เรามีปลาใหญ่ให้จับ (ฝูงคนไข้)"
ส่งโดย: หมอเมืองสยาม
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 11432  
   
124.120.192.*


« ความเห็นที่ #12 เมื่อ: 04/12/18 เวลา 12:29:51 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

เห็นด้วยกับ จขกท ครับ
ถ้าใครไม่ได้เกิดจาก Lucky sperm ก้อซวย  
การทำงานในสายวิชาชีพ ก้อคือ การทำงานให้พวก Lucky sperm นั่นเอง
พวก Lucky sperm ก้อสบายไป รับช่วงถือหุ้นเป็นเจ้าของธุรกิจต่อจากพ่อแม่ มีพวกสายวิชาชีพมาทำงานให้  
ขับเคลื่อนสังคมด้วยหนี้ ออกใบรับรองเงินเดือนให้ลูกจ้างไปสร้างหนี้
ถ้าไม่มีหนี้จาก บ้าน รถ ลูก เมีย  มาบีบคอไม่มีใครยอมทำงานหนักหรอกครับ  
ถ้าตัว Lucky sperm บริหารธุรกิจไม่เป็น ก้อไปจ้างคนเก่งๆมาเป็น CEO ก้อได้
« แก้ไขครั้งสุดท้ายเมื่อ: 04/12/18 เวลา 12:36:24 by carter »
ส่งโดย: carter
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1839  
   
171.6.135.*


« ความเห็นที่ #13 เมื่อ: 04/12/18 เวลา 21:33:13 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

เห็นด้วยครึ่งนึงครับ
คือด้วย trend เราเข้าสู่ทุนนิยมเต็มรูปแบบแน่ๆ เพราะฉะนั้นอะไรๆ ก็ใช้เงินเป็นสิ่งแลกเปลี่ยน ถ้าได้ครอบครองเงินมากก็หมายถึงมีอำนาจมากไปด้วย และการจะครอบครองเงินได้มากก็คงต้องเรียนรู้การเงิน การลงทุน อย่างที่ทุกท่านว่ามาครับ
 
อีกครึ่งที่ไม่เห็นด้วย คือ
1. ถ้าความต้องการไม่มาก เราไม่ต้องมีเงินมากก็ได้ เช่น เราจำเป็นต้องมีรถยุโรป คอนโดสุขุมวิท จริงหรือไม่ ตอนไม่มีรถเราอยากมีรถ พอมีรถเราอยากได้รถยุโรป พอมีรถยุโรปเราก็อยากได้รถสปอร์ต พอมีรถสปอร์ตเราอาจจะอยากได้เครื่องบินเจ็ทส่วนตัวก็ได้ มันคือ ความต้องการแท้จริง หรือมันคือความต้องการเหนือกว่าคนอื่นกันแน่
2. ถ้าเงินทำให้ได้เปรียบได้ทุกด้านอย่างแท้จริงๆ คนรวยคงไม่มีความทุกข์ ไม่มีความเจ็บป่วย ไม่มีการหย่าร้าง ไม่มีปัญหาเรื่องลูก ซึ่งความจริงมันก็ยังมีอยู่ ในทางกลับกันคนที่ฐานะปานกลาง อาจจะมีความทุกข์น้อยกว่าก็เป็นได้
 
เค้าว่ากันว่า ความรู้ทางการเงินระดับสูงสุด คือ การรู้จักตัวเอง รู้ว่าตัวเองต้องการอะไรจริงๆ
หรืออาจคิดไปถึงว่า รู้ว่ามีแค่ไหนถึงมีเหตุผล พอประมาณ มีภูมิคุ้มกัน
ไม่อย่างนั้น ขณะที่กำลังเร่งทำให้มีเหมือนคนอื่น แล้วเกิดตายไปซะก่อน เท่ากับว่าชีวิตนี้ยังไม่ทันเสพสุข ก็หมดลมไปเสียแล้ว

You may say I'm a dreamer.
But I'm not the only one.
I hope some day you'll join us.
And the world will be as one.
ส่งโดย: ชายไทยไม่ทราบชื่อ male
สถานะ: Newbie *
จำนวนความเห็น: 20  
   
184.22.40.*


« ความเห็นที่ #14 เมื่อ: 04/13/18 เวลา 09:40:54 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

I want lucky sperm
ส่งโดย: Ines_de_BK
สถานะ: Full Member ***
จำนวนความเห็น: 134  
   
202.29.153.*


« ความเห็นที่ #15 เมื่อ: 04/13/18 เวลา 11:28:07 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

       วิชาการเงิน ? - " วิชาทำนาบนหลังคน"...
ส่งโดย: หมอเมืองสยาม
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 11432  
   
171.96.190.*


« ความเห็นที่ #16 เมื่อ: 04/13/18 เวลา 16:35:06 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ขัดใจนิดนึงเรื่องคอนโดสุขุมวิทซอยต้นๆ ที่บอกว่ามนุษย์เงินเดือนประเทศอื่นซื้อได้นี่แหละ
 
มนุษย์เงินเดือนฮ่องกงทั่วไปไม่มีปัญญาซื้อคอนโดย่านเซ็นทรัล
มนุษย์เงินเดือนญี่ปุ่นทั่วไปไม่มีปัญญาซื้อคอนโดย่านชิบูย่า,ชินจูกุ
มนุษย์เงินเดือนอเมริกาทั่วไปไม่มีปัญญาซื้อคอนโดใกล้เซ็นทรัลพาร์ค
มนุษย์เงินเดือนเกาหลีทั่วไปไม่มีปัญญาซื้อคอนโดย่านกังนัม
มนุษย์เงินเดือนเซี่ยงไฮ้ทั่วไปไม่มีปัญญาซื้อคอนโดย่านผู่ตง
 
ฯลฯ
 
เรื่องบ้าน คอนโด นี่ผมว่าเมืองไทยถูกที่สุดแล้วนะ สำหรับ คนจีน ญี่ปุ่น ฮ่องกง การจะมีบ้านชานเมืองแบบนั่งรถไฟฟ้าวันละ 2 ชั่วโมงถึงกลางเมืองนี่ก็ผ่อนกันทั้งชีวิตแล้ว
ส่งโดย: simath
สถานะ: Senior Member ****
จำนวนความเห็น: 328  
   
49.49.235.*


« ความเห็นที่ #17 เมื่อ: 04/13/18 เวลา 16:40:26 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ส่วนเรื่องการเงิน ผมว่ามันขึ้นกับแต่ละบุคคลมากกว่า
 
ผมเริ่มเก็บเงินมาลงทุนในหุ้นตั้งแต่เรียนมัธยม จนเรียนจบหมอก็ยังลงทุน ได้ผลตอบแทนตามสมควร ขณะที่คนเรียนหมอส่วนใหญ่เลือกที่จะไม่สนใจเอง ไม่ใช่ไม่มีโอกาส
 
ที่จริงแล้วอาชีพแพทย์ ออกจะได้เปรียบคนอื่นด้วยซ้ำ เพราะมีรายได้ที่ค่อนข้างแน่นอนทุกเดือนแบบไม่ต้องห่วงตกงาน ทำให้สามารถรับความเสี่ยงจากการลงทุนได้มากกว่าอาชีพอื่นๆ
ส่งโดย: simath
สถานะ: Senior Member ****
จำนวนความเห็น: 328  
   
49.49.235.*


« ความเห็นที่ #18 เมื่อ: 04/14/18 เวลา 13:56:21 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

     เป็นแพทย์แต่ไม่รวย(ทำไม)? - " รนหาที่เอง "...
ส่งโดย: หมอเมืองสยาม
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 11432  
   
171.96.187.*


« ความเห็นที่ #19 เมื่อ: 04/15/18 เวลา 11:19:37 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

    วิชาการเงิน - ลึกๆคือหลอกขายความคิด  แล้วนำเงินไปลงทุนสูญเปล่า ...
ส่งโดย: หมอเมืองสยาม
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 11432  
   
171.96.191.*


« ความเห็นที่ #20 เมื่อ: 04/15/18 เวลา 13:41:03 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

on 04/15/18 เวลา 11:19:37, หมอเมืองสยาม wrote:
                        วิชาการเงิน - ลึกๆคือหลอกขายความคิด  แล้วนำเงินไปลงทุนสูญเปล่า ...

พูดเหมือนเจ๊งหุ้น  ป๊ะป๊าศึกษาตัวหุ้นที่จะซื้อแล้ววิเคราะห์บางจิ
ส่งโดย: nicenick
สถานะ: Full Member ***
จำนวนความเห็น: 171  
   
125.25.93.*


« ความเห็นที่ #21 เมื่อ: 04/16/18 เวลา 11:14:21 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

     วิชาการเงิน - วิชาตักตวงเยอะๆจากคนรู้น้อยกว่า/ไม่รู้...
ส่งโดย: หมอเมืองสยาม
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 11432  
   
171.96.190.*


« ความเห็นที่ #22 เมื่อ: 04/17/18 เวลา 13:45:25 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

  ส่งเรียนสิ่งที่ชอบ จะได้มีงานที่ชอบทำ  
   ส่วนเงินให้หาความรู้ไว้บ้าง มีมรดกไว้ให้เขาบ้าง จะได้ไม่ลำบาก
   ชีวิตมีเรื่องให้ทำเยอะกว่าหาเงินครับ
 
     เป็นหมอ ผมว่าได้ทั้งกล่องได้ทั้งเงินนะ  อยู่เมืองไทย อาชีพที่รายได้ดีกว่าหมอเอกชนก็มีแค่นักบิน  ส่วนข้าราชการปฏิบัติการ หมอ กะศาล ก็มาเป็นระดับต้นๆ
ส่งโดย: blitzs
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 2998  
   
180.183.148.*


« ความเห็นที่ #23 เมื่อ: 04/17/18 เวลา 16:55:03 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

      วิชาการเงิน (ลงทุน) กับ แพทย์? - " สะเออะรนหาที่ ครับ"....
ส่งโดย: หมอเมืองสยาม
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 11432  
   
171.96.189.*


« ความเห็นที่ #24 เมื่อ: 04/18/18 เวลา 14:22:13 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

     แพทย์ กับ วิชาการเงิน - ลงท้าย  เครดิตคุณจะเน่าหมดเพราะวิชาการเงิน...
ส่งโดย: หมอเมืองสยาม
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 11432  
   
171.96.190.*


« ความเห็นที่ #25 เมื่อ: 04/20/18 เวลา 12:56:34 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

    วิชาการเงิน - วิชาของคนขี้เกียจ...
ส่งโดย: หมอเมืองสยาม
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 11432  
   
171.96.189.*


« ความเห็นที่ #26 เมื่อ: 04/24/18 เวลา 13:13:57 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

      วิชาการเงิน - วิชาล่อปลาตัวใหญ่เข้ามาติดกับ...
ส่งโดย: หมอเมืองสยาม
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 11432  
   
171.96.189.*


« ความเห็นที่ #27 เมื่อ: 04/25/18 เวลา 13:02:23 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

     วิชาการเงิน - บัดซบจริงๆเลย..
ส่งโดย: หมอเมืองสยาม
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 11432  
   
171.96.189.*


« ความเห็นที่ #28 เมื่อ: 04/26/18 เวลา 14:00:03 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

    วิชาการเงิน กับ แพทย์ ดีมั้ย ? -  " เอาวิชาแพทย์เป็นขอนไม้ว่ายขึ้นฝังดีกว่า ครับ , ชัวร์ป้าบ "
ส่งโดย: หมอเมืองสยาม
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 11432  
   
58.11.1.*


« ความเห็นที่ #29 เมื่อ: 04/30/18 เวลา 12:20:03 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

   วิชาการเงิน -แพทย์ ? , คำตอบ" ลงท้าย ชีวิตติดลบ "....
ส่งโดย: หมอเมืองสยาม
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 11432  
   
171.96.190.*


« ความเห็นที่ #30 เมื่อ: 05/02/18 เวลา 12:57:19 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

     วิชาการเงิน , แก่นแท้คือ ? - " ขายสิ่งที่เรารู้ดีว่าไม่มีค่า"
ส่งโดย: หมอเมืองสยาม
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 11432  
   
171.96.191.*


« ความเห็นที่ #31 เมื่อ: 05/03/18 เวลา 12:43:05 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

    วิชาการเงิน - วิชาพูดดำเป็นขาว-พูดขาวเป็นดำ..
ส่งโดย: หมอเมืองสยาม
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 11432  
   
124.120.192.*


Page(s) : 1 


แจ้งลบกระทู้ แจ้งเมื่อมีคนตอบกระทู้นี้ แนะนำกระทู้นี้ Print



Reply this Topic reserved for registed member only. Register



  • ข้อความและรูปภาพที่ท่านเห็นส่วนใหญ่ ได้ถูกส่งมาจาก ทางบ้าน
    ทางเว็บไซต์ Thaiclinic.com ไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ของข้อความและรูปภาพที่ถูกส่งมา

  • ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชนและส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ
    เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้นเพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง
    ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง

  • ถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมหรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล
    หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ webmaster@thaiclinic.com หรือ กดแจ้งที่ปุ่ม
    "แจ้งลบกระทู้"
    เพื่อให้ทีมงานทราบและทำการลบข้อความนั้นออกจากระบบต่อไป ขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกันทำให้สังคมน่าอยู่ครับ

ThaiClinic.Com . All Rights Reserved. !--BEGIN WEB STAT CODE-->

Powered by