Lawrence Gostin ผู้เชี่ยวชาญด้านกฏหมายจาก Georgetown University กล่าวถึงข้อแนะนำอันนำมาซึ่งข้อโต้แย้งดังกล่าวว่าเป็นสิ่งที่ควรจะทำ ตามหลักมนุษยธรรม แม้จะมีรายงานเมื่อไม่นานมานี้ว่า
โอกาศในความเสี่ยงของการติดเชื้อ HIV จากแพทย์ไปสู่ผู้ป่วยนั้นมีน้อยมากก็ตาม
อย่างไรก็ตามข้อแนะนำที่ระบุว่าแพทย์ควรบอกผู้ป่วยถึงสภาวะการติดเชื้อ HIV นั้น ได้ถูกหยิบยกขึ้นมาโดยศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคติดต่อของสหรัฐ ขณะเดียวกันแนวคิดของ Lawrence Gostin ก็ได้รับการนำไปตีพิมพ์เผยแพร่ใน Journal of the American Medical Association แล้ว
ในส่วนของการเสียชีวิตของ Kimberly Bergalis วัย 23 ปี เมื่อ 9 ปีที่แล้ว ทำให้ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคติดต่อของสหรัฐ กำหนดข้อแนะนำขึ้นมาในปี 1999 ว่า ผู้ที่ทำงานด้านสุขภาพที่ติดเชื้อ HIV ควรจะเปิดเผยให้ผู้ป่วยที่ตนเองจะเข้าดูแลรักษาได้ทราบ ซึ่งข้อกำหนดดังกล่าว ถูกวิพากษ์วิจารณ์มาก และ Lawrence Gostin ก็เป็นผู้หนึ่งที่ออกมากระตุ้นให้ทางศูนย์นำเอาข้อกำหนดนั้นมาใช้อย่างเป็นเรื่องเป็นราว
Lawrence Gostin กล่าวอีกว่า นับตั้งแต่กรณีของ Bergalis กับทันตแพทย์ ที่เกิดขึ้นในฟอริด้าแล้ว
ยังมีกรณีคล้ายคลึงกันนี้เกิดขึ้นอีกอย่างน้อยสองครั้งในฝรั่งเศส ซึ่งก็คือผู้ป่วยติดเชื้อ AIDS จากพนักงานด้านสุขภาพ และ พ่อของ Kimberly Bergalis ก็ออกมาแสดงความเห็นต่อกรณีดังกล่าวว่า ข้อโต้แย้งที่เกิดขึ้นครั้งนี้ก็ไม่ต่างอะไรจากเมื่อ 10 ปีก่อน เมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นกับลูกสาวของตน กรณีที่เหมือนกัน มีผู้สูญเสียบุตรสาวจากพนักงานเหล่านี้เช่นกัน ซึ่งเราก็ได้บอกพวกเขาไปแล้ว และลูกสาวของตนก็ได้บอกกับพวกเขาไปตั้งแต่ 10 ปีที่แล้ว แต่ไม่มีใครฟัง
ในข้อเขียนของ Gostin ใน JAMA ยังแนะนำคนไข้ว่า พวกเขาควรจะมีความรู้สึกอยากรู้ว่า แพทย์ และเจ้าหน้าที่ที่คอยดูแลสุขภาพของตนนั้นปลอดจากเชื้อไวรัสดังกล่าวหรือไม่ ซึ่งในจุดนี้ Dr.Norman Fost ผู้ดำรงตำแหน่ง Director of Medical Ethics แห่ง University of Wisconsin กล่าวเสริมว่า สำหรับตนเองแล้วมีความเห็นว่า คนไข้มีสิทธิ์ที่จะได้รับรู้ ซึ่งไม่เพียงแต่ HIV เท่านั้น การติดเชื้อโรคอื่น ๆ อย่าง Hepatitis B จากแพทย์ไปสู่คนใข้นั้น ก็เคยเกิดขึ้นมาแล้ว และโรคนี้ก็เป็นโรคร้ายที่ทำลายชีวิตของคนในโลกมากถึง 1 ล้านคน ต่อปี
อย่างไรก็ตาม The American Medical Association
ไม่เห็นด้วยกับการเปิดเผย
ภาวะการติดเชื้อของแพทย์
Cover Story from CNN Health
http://www.cnn.com/2000/HEALTH/AIDS/10/17/doctors.aids.ap/index.html