ภาวะแทรกซ้อนของการ Iontophoresis เพื่อความสวยความงามนั้น ก็มีหลายประการ
เช่น ยิ่งทำไปยิ่งดำขึ้น หน้าแดง หน้าลอก แสบหน้า
เป็นต้น ทั้งนี้เพราะหลักการของ Iontophoresis
ก็คือ การใช้กระแสไฟฟ้าช่วยพาเอาสารเคมีหรือยาลงไปใต้ผิวหนัง ธรรมชาติของผิวหนังจะมีชั้นขี้ไคล
เป็นฉนวนหรือเกราะที่คอยปกป้องผิวหนังไม่ให้ได้รับอันตราย กระแสไฟฟ้าจะต้องไปทำให้ฉนวน
หรือเกราะนี้เสื่อมสภาพไปบ้างไม่มากก็น้อย ยาหรือสารเคมีจึงจะลงไปได้
กระแสไฟฟ้าที่ใช้จึงเป็น
Physical Agent ที่ทำให้เกิด Physical Injury ต่อผิวหนัง
ขณะที่ได้รับการทำ Iontophoresis อยู่ผู้ที่ได้รับการทำ จะรู้สึกแปลบ ๆ
เหมือนไฟฟ้า
ดูดอยู่น้อย ๆ การที่มีการใช้อุปกรณ์สื่อนำไฟฟ้าสัมผัสกับบริเวณผิวหน้าและวนไปวนมา
นั่นก็เป็นการช่วยลดความรู้สึกแปลบ ๆของการถูกไฟฟ้าดูดน้อย ๆ นั่นเอง
เมื่อเสร็จสิ้นการทำ Iontophoresis
บริเวณที่ได้รับการทำก็อาจจะแดงหรือเป็นสีชมพู
อยู่ชั่วคราว การทำ Iontophoresis นั้นมักจะมีการนัดให้มาทำบ่อยพอสมควร
เช่น 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์
และเป็นระยะเวลาต่อเนื่องหลายสัปดาห์ ไม่ว่าสารเคมีหรือยานั้นจะออกฤทธิ์ต่อผิวหนังอย่างไร แต่
Electrical Injury ของผิวหนังก็จะยังผลให้ผิวหนังชั้นบนเกิดการลอกตัว อาจเป็นน้อย ๆ
จนมองไม่เห็น
ว่า เป็นขุยหรือเป็นมากจนเป็นขุยให้เห็นได้
การที่ผู้ที่ได้รับการรักษาเห็นว่า ผิวหนังขาวขึ้น
อาจเกิดขึ้นได้ด้วยเหตุผลหลายอย่าง
โดยไม่เกี่ยวกับวิตามินซีหรือยาที่ให้เลยก็ได้ เช่น เมื่อมี Electrical Injury บ่อยพอ
ก็อาจทำให้เกิดเป็นรอยด่างหรือขาวที่เราเรียกว่า
Postinflammatory Hypopigmentation
เช่นเดียวกับกลไกที่ทำให้เกิดรอยขาวในเกลื้อนแดด
(Pityriasis Alba)
หรือผิวหนังอักเสบชนิดอื่น หรืออาจจะขาวขึ้นเพราะผิวหนังชั้นขี้ไคลลอกหลุดเร็วขึ้นเช่นในกรณีที่ใช้ยากินหรือยาทา
ในกลุ่มของกรดวิตามินเอ (Vitamin A acid)
ด้วยเหตุผลดังกล่าวมานี้
จึงอาจทำให้เกิดข้อแทรกซ้อนในระยะยาวได้คือ
การที่ผิวหนัง
หรือผิวหน้าเกิดการแพ้หรือการระคายเคืองได้ง่าย
โดยเฉพาะในผู้ที่ได้รับการรักษาบ่อยและนานเกินไป
คล้ายกับคนที่เคยได้รับการทำ Baby Face มา
การที่จะตัดสินใจทำIontophoresisนั้นควรจะใช้ความพินิจพิเคราะห์เช่นเดียวกับ
การที่ไปให้ร้านเสริมสวยบำรุงรักษาผิวหน้า ซึ่งแม้ว่าบางแห่งจะมีแพทย์เป็นผู้รับผิดชอบ
แต่
ผู้ที่ให้บริการนั้นก็เป็นผู้ที่ผ่านการฝึกหรืออบรมมาเท่านั้น
ไม่ได้มีความรู้อย่างลึกซึ้ง
ถึงผลดี ผลเสีย ในการทำแต่อย่างใด และผลที่ได้ก็เป็นผลชั่วคราวเท่านั้น
ถ้าไม่ได้ทำอีกผิวหน้าก็อาจจะหมองหรือไม่สดใสเช่นเดิม แต่ถ้าจะทำตลอดไป
ก็อาจจะทำให้ผิว
เกิดการแพ้หรือระคายเคืองได้ง่าย
โดย นพ.ปริทัศน์
ศุกรีเขตร
แพทย์ผิวหนัง