|
||
Title: อาการโคลิค รับมือได้ พ่อแม่มือใหม่ต้องอ่าน! ส่งโดย unyana on 03/17/20 เวลา 11:30:53 อาการโคลิค (https://pantip.com/topic/30636323)ที่เกิดขึ้นในทารกนี้ อาจจะดูเหมือนเป็นอาการเด็กร้องไห้อย่างเป็นปกติ แต่ก็ไม่ควรไว้วางใจ เพราะอาการนี้ส่งผลเสียในระยะยาวต่อทารกและคนรอบข้าง ทั้งด้านสุขภาพจิต ทั้งด้านสุขภาพร่างกาย คงไม่ดีแน่หากคุณต้องนั่งฟังเสียงลูกร้องไม่หยุดนานหลายชั่วโมงติดต่อกันตลอดระยะเวลา 4 เดือน จะดีกว่าไหม หากคุณพ่อคุณแม่มารวมพลังเตรียมรับมือกับ อาการโคลิค เพื่อร่วมแก้ปัญหานี้ไปพร้อมกัน 1. ปรึกษาแพทย์ เพื่อติดตามอาการอย่างใกล้ชิด โคลิค (https://www.thairath.co.th/lifestyle/life/1729148)ยังไม่สามารถระบุสาเหตุได้อย่างแน่ชัด โดยอาจจะเกิดจากอารมณ์พื้นฐาน อาหารไม่ย่อย ภูมิแพ้ หรืออาจเกิดจากการไม่คุ้นชินกับสภาวะโดยรอบ เพราะฉะนั้นหากไม่แน่ใจว่าทารกมีอาการโคลิค ลูกร้องไม่หยุด (https://pantip.com/topic/32266960)หรือไม่ ควรไปปรึกษาแพทย์จะดีที่สุด 2. ให้ลูกน้อยทานนมที่มีโปรไบโอติค เด็กที่ผ่าคลอดและไม่สามารถดื่มนมแม่ได้ มักจะมีความผิดปกติในระบบย่อยอาหาร ภาวะ Dysbiosis หรือจุลินทรีย์ในลำไส้ไม่สมดุล มีจุลินทรีย์ไม่ดีมากกว่าจุลินทรีย์ชนิดดี ส่งผลให้เกิดอาการลำไส้แปรปรวน ขับถ่ายยาก บางรายท้องเสียบ่อย ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิด อาการโคลิค เพราะฉะนั้นพ่อแม่อาจจะต้องมองหานมที่มีโปรไบโอติคผสมอยู่ด้วย 3. จัดการทุกอย่างให้พร้อมเมื่อถึงเวลา อาการโคลิคนี้ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นตอนหัวค่ำ ก่อนจะถึงเวลาคุณพ่อคุณแม่ต้องรีบจัดการกิจวัตรทุกอย่างให้เรียบร้อย พร้อมทำอารมณ์ให้แจ่มใส เพื่อจะได้ดูแลเจ้าตัวเล็กได้เต็มที่ โดยหากเด็กร้องไห้ (https://pantip.com/topic/31549111)แนะนำให้อุ้มให้ชิดอก โยกตัวลูกเบาๆ และอาจจะลองพาลูกไปเดินเปลี่ยนบรรยากาศ 4. สิ่งที่ห้ามทำ เมื่อ ทารกร้องไห้ แบบโคลิค สิ่งที่สำคัญที่สุดเลยก็คือ พ่อแม่ต้องเข้าใจถึงอาการโคลิคนี้ แม้จะทำให้เราหงุดหงิด เครียดได้ ต่อให้อารมณ์เสียแต่ไหนก็ห้ามเขย่าตัวและตะคอกทารกเด็ดขาด เพราะอาจทำให้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงส่งผลต่ออารมณ์ของเด็กในระยะยาว ห้ามปล่อยทารกไว้เพียงลำพัง เพราะเด็กอาจมีอาการอื่นแทรกซ้อน เช่น ชักเกร็ง ตัวเขียว หรือดึงสิ่งของมาปิดปาก ปิดจมูกตนเองจนได้รับอันตรายถึงชีวิต เด็กส่วนมากที่มีพฤติกรรมก้าวร้าว มีปัญหาในการนอนหลับ เป็นภูมิแพ้ มีปัญหาในการขับถ่าย ส่วนมากเป็นผลกระทบจากโคลิคในวัยเด็ก เพราะฉะนั้นหากลูกมีอาการโคลิค หรือเข้าข่ายแนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อได้รับคำแนะนำ และการรักษาที่ถูกต้อง |
||
ThaiClinic.Com . All Rights Reserved. |