แจ้งลบกระทู้ แจ้งเมื่อมีคนตอบกระทู้นี้ แนะนำกระทู้นี้ Print

 หัวข้อ 6: ถ้าตัวคุณ(หมอ) HIV +ve จะทำอย่างไร  (จำนวนคนอ่าน 82909 ครั้ง)
« เมื่อ: 07/07/07 เวลา 21:12:58 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

เพื่อนๆหมอเคยคิดไหมครับ ว่าวันหนึ่งถ้าเรากลับมามีเชื้อ HIV เราจะสามารถทำงานหนักได้อย่างเดิมไหม แล้วเราจะมีโอกาสแพร่เชื้อให้คนไข้ได้หรือไม่ แล้วสุดท้าย เราควรจะเป็นหมอต่อไปหรือไม่
ส่งโดย: bvm
สถานะ: Newbie *
จำนวนความเห็น: 9  
   
161.200.255.*


« ความเห็นที่ #1 เมื่อ: 07/07/07 เวลา 22:06:14 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

26 มค. 49 เป็นวันแรกที่ผมรู้่ว่าผลเลือดผิดปกติ ซึ่งจริงจริงแล้วผมไม่ได้ตั้งใจอยากจะเจาะเลือดเท่าไร แค่เจาะไปตามหน้าที่ แต่พี่เฉาฝ่ายการพยาบาลบอกว่า หมอต้องไปเจาะให้ครบครบนะ หมอโดนเข็มตำมา พี่ต้องเขียนรายงานให้ผู้้้้้อำนวยการ มันทำให้ผมรู้สึกว่าถ้าผมไม่ยอมไปเจาะเลือดคงทำให้พี่เฉาลำบาก
 
เช้าวันนี้ผมก็ไปเจาะเลือดเหมือน3ครั้้งก่อน ผมเดินไปที่่ห้องฉุกเฉิน เข้าไปหาพี่อาร์ทให้ช่วยเจาะเลือดให้ พี่อาร์ทป็นพยาบาลสาวสวยใจดีที่น่ารกมากคนนึง ผมไม่เคยรู้เลยว่าพี่อาร์ทมือเบาขนาดนี้ ผมแทบไม่รู้สึกเจ็บเลย ทุกอย่างช่างเป้นไปอย่างเรียบร้อย ผมฝากเลือดไปส่งที่ห้องแล็ป เดินออกจากห้องฉุกเฉินอย่างสบายใจเพราะผมคงไม่ต้องมาเจาะเลือดอีก ครั้งนี้แหละ ครั้งสุดท้ายที่เราจะเจ็บตัว
 
 ผมกลับไปนั่งตรวจคนไข้ที่แผนกผู้ป่วยนอก วันนี้เป็นวันที่คนไข้มากจริงจริง ที่นั่งรอก็เต็ม ทั้งคนไข้และญาติก็ยืนรอกันเกะกะไปหมด วันนี้ผมคงต้องรีบตรวจหน่อยแล้ว ไม่งั้นคนไข้คงจะรอแย่ซะก่อน แต่พอตรวจไปได้ประมาณ 1 ชั่วโมง คุณพรชัยโทรจากห้องแล็ปว่าอยากพบผม ถ้ามีเวลาขอให้รีบไปที่ห้องแล็ปด้วย ในตอนแรกผมคิดว่าเลือดคงไม่พอ ขอตรวจใหม่่ ซึ่งคุณพรชัยบอกว่าขอเจาะเลือดใหม่จริงจริง แต่เหตุผลกลับไม่ใช่ คุณพรชัยบอกว่าผลมันเป็น weakly positive อยากจะขอตรวจใหม่ด้วยวิธี ELISA โดยใช้น้ำยาตัวใหม่ หลังจากได้ยินคำขอ ผมก็รีบเดินไปที่โต๊ะเจาะเลือดอย่างรวดเร็วราวได้รับคำสั่งมา ท่วงท่าผมไม่มีความกังวลใจเลยซักนิด แต่ในใจนั้นกลับหยุดนิ่งอยู่กับที่เหมือนไม่มีอะไรอยู่รอบตัว ห้องเจาะเลือดที่คาคร่ำไปด้วยผู้คนกลับเงียบเหมือนไม่มีใครอยู่ซักคนเดียว ผมกลับมาคิดถึงคำพูดคุณพรชัยเมื่อกี๊ว่าประโยคที่พูดเมื่อครู่มันหมายถึงอะไ รกันแน่ มันน่าแปลกที่แพทย์ใช้ทุนปี3อย่างผมไม่เข้าใจคำว่า weakly positive แปลว่าอะไร ในวินาทีนั้นผมแปลว่ามันคือ false positive หมายความว่าคุณพรชัยคงตรวจผลเลือดผมผิด แล้วไม่มั่นใจเลยขอตรวจซ้ำด้วยน้ำยาที่ดีกว่าเก่าเพื่อจะได้ยืนยันผลให้ผม ผมเดินกลับหอพักคนเดียว แต่วันนี้มันเป็นตัวคนเ ดียวที่ไม่เหมือนทุกวัน ใจกับตัวมันไม่ได้มาด้วยกัน ขาว่าก้าวไป แต่ใจอยากเดินกลับไปถามอีกรอบว่าที่คุณพรชัยพูดมันแปลว่าอะไร ตกลงผม HIV positive หรือไม่ ผมเดินมาถึห้อง นั่งลงบนเตียง คิดย้อนถึงเหตุการณ์ที่เกิดในชั่วครู่หลายสิบรอบ... ผมลืมกลับไปตรวจคนไข้ต่อ... ผมลืมไปroundเย็น... ผมไม่ได้รบโทรศัพท์ที่รพ.ตาม... ผมกำลังทำอะไรที่นี่!!!
 
นั่งอยู่เปล่าเปลี่ยว     วนเวียนว้าวุ่น ทบทวนความหลัง  ว่าเราเป็นอะไร
เรามาทำอะไรที่นี่ เป็นหมอแล้วดีตรงไหน  หากไม่เป็นแล้วเราจะทำอะไร   แต่ยังไงคงไม่่เป็นเอดส์ซะเอง
 
ส่งโดย: bvm
สถานะ: Newbie *
จำนวนความเห็น: 9  
   
161.200.255.*


« ความเห็นที่ #2 เมื่อ: 07/07/07 เวลา 22:49:35 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ชอบสอนไหมครับ อาจจะไปเป็นอาจารย์สอน pre clinic  
หรือชอบทำงานเช่นเป็น pathologist, radiologist  
หรือชอบบริหารเช่นเป็น ผอ

Thai-Cashless-Society(T-C-S)
https://www.facebook.com/NyhanAndTheGang/
ส่งโดย: Burawat T.
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 10513   WWW
   
125.26.32.*


« ความเห็นที่ #3 เมื่อ: 07/07/07 เวลา 23:49:12 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

เป็น กำลังใจให้  ไม่รู้ จะพูดไร ให้ รุ้สึกดีกว่านี้ แล้ว ล่ะ ค่ะ  Embarassed
ขอให้ เพื่อน ผ่านสิ่ง เลวๆร้ายๆ ไปได้ นะ
ส่งโดย: raindrops
สถานะ: Newbie *
จำนวนความเห็น: 22  
   
125.26.245.*


« ความเห็นที่ #4 เมื่อ: 07/08/07 เวลา 00:15:26 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

คงลองนั่งทบทวนตัวเองอีกทีว่าจริงๆแล้วชีวิตเราอยากทำอะไรกันแน่  
 
ถ้าเป็นพิมเอง  คิดว่าคงอยู่กับอาชีพนี้ไปเรื่อยๆแต่คงไม่สามารถรับภาระหนักๆอย่างการตรวจ OPD วันละเป็นร้อยได้  เพราะไม่ดีต่อสุขภาพเรา ถ้าเราเกิดไม่สบายขึ้นมาก็เสี่ยงต่อคนไข้ด้วย
 
คงหาทางที่จะทำงานที่เบาลง  เชื่อว่าความรู้แพทย์เป็นวิชาชีพน่าจะหาทางได้ไม่ยากถ้าอยากจะทำต่อ  
 
แต่ก็คงต้องผ่านช่วงแรกที่ยังเป็น shock - denial stage ไปก่อน  
 
เป็นกำลังใจให้นะคะ  Smiley
 
ลองคิดซะว่าถึงไม่ HIV+ve เราอาจจะโดนรถชนตายวันพรุ่งนี้ก็ได้  
การได้รู้ว่าเรากำลังป่วยหรือกำลังจะตายอาจทำให้เราเตรียมใจรับสภาพได้ดีกว่ าก็ได้นะคะ  จริงๆแล้วอาจจะไม่ใช่ความตายที่เรากลัวก็ได้ แต่เพราะเราเจอสภาพคนไข้ HIV ที่น่ากลัวกันมามากๆ ทำให้เรากังวลไปก่อนหรือเปล่าว่าเราจะทรมาน
 
อ้อ! ถ้าเป็นพิม ที่จะทำอีกอย่างคือ กลับไปอ่านหนังสือ AIDS diary อีกซักรอบหรือ 2 รอบ อย่างคนที่เข้าใจหมูแก้วมากขึ้น  Wink
« แก้ไขครั้งสุดท้ายเมื่อ: 07/08/07 เวลา 00:16:10 by pimmala »

"Nobody can go back and start a new beginning,
but anyone can start today and make a new ending"
Maria Robinson
ส่งโดย: pimmala
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1681  
   
202.12.97.114 fwd for 10.87.54.*


« ความเห็นที่ #5 เมื่อ: 07/08/07 เวลา 01:43:22 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

confirm แล้วหรอคะ อาจจะไม่ใช่ก็ได้ เป็นกำลังใจให้ค่ะ สู้ๆ Smiley



"Love is not a thing to understand.
Love is not a thing to feel.
Love is not a thing to give and receive.
Love is a thing only to become
And eternally be. "

ส่งโดย: Agaligo female
สถานะ: Senior Member ****
จำนวนความเห็น: 325  
   
124.120.217.*


« ความเห็นที่ #6 เมื่อ: 07/08/07 เวลา 03:04:41 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

เป็นกำลังใจให้คับ
ส่งโดย: it's not easy to be me
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1368  
   
125.24.136.*


« ความเห็นที่ #7 เมื่อ: 07/08/07 เวลา 05:20:06 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ขอให้เป็น false positive na ka
 
เป็นกำลังใจให้ค่ะ
ส่งโดย: life_is_beautiful
สถานะ: Full Member ***
จำนวนความเห็น: 148  
   
152.79.176.*


« ความเห็นที่ #8 เมื่อ: 07/08/07 เวลา 07:43:52 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ขอให้เป็น true negative ไปเลยนะครับ

ประชุม รับแขก แดกเหล้า เฝ้าสนามบิน
ส่งโดย: Mr.LOVE  - ผอ.รพช.&GP male
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 13923  
   
125.27.245.*


« ความเห็นที่ #9 เมื่อ: 07/08/07 เวลา 09:07:42 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ ลบข้อความนี้

ถ้าเป็น Sweet เอง
 
จะศึกษาข้อมูลทุกอย่างของโรคนี้
และทำยังไงก็ได้ที่จะหยุดวงจรระบาดโรคนี่ซะ
 
 
 
 
 
 
 
 
เป็นกำลังใจให้พี่เหมือนกันคะ
ส่งโดย: SweetRocktor Email     125.27.136.*


« ความเห็นที่ #10 เมื่อ: 07/08/07 เวลา 09:32:46 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

เป็นกำลังใจให้ครับ ถ้าให้แน่ใจต้อง comfirm test ก่อน นั่นเป็นแค่ screening เท่านั้น
ส่งโดย: 2-U
สถานะ: Full Member ***
จำนวนความเห็น: 242  
   
125.27.220.*


« ความเห็นที่ #11 เมื่อ: 07/08/07 เวลา 09:38:05 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

เป็นกำลังใจให้อีกคนคับ
ส่งโดย: bigbangkup
สถานะ: Newbie *
จำนวนความเห็น: 21  
   
125.24.148.*


« ความเห็นที่ #12 เมื่อ: 07/08/07 เวลา 09:59:38 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

อืม ผลตรวจอาจจะพลาดกันได้ รอดูผลอีกทีนะ  เอาใจช่วย
 
ถ้าช่วงนี้ไม่สบายใจที่จะทำงานเพราะดูเหมือนจิตใจจะไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล ้ว
 
ลาพักร้อนดีกว่า  กลับไปนอนพักที่บ้านสักวันสองวัน จะซึมจะเศร้ายังไงก็ปล่อยมันออกมาให้หมด  ทำใจรอดูผล
 



แม้ใจจะอ่อนล้า แต่ขาต้องก้าวต่อ เวลาไม่เคยรอใคร

ส่งโดย: makam
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1250  
   
61.7.143.*


« ความเห็นที่ #13 เมื่อ: 07/08/07 เวลา 10:25:51 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ


พี่เคยตรวจหลายครั้ง แต่ก็รอดมาได้ทุกที ...  เข้าใจความรู้สึกของ น้อง bvm ว่าตอนนี้รู้สึกอย่างไร ... Lips Sealed
 
อยากให้กำลังใจกับน้อง อย่าพึ่งคิดไปไกลมากนัก ตอนนี้ ถ้าไม่ไหวจริง ๆ ก็บอกพี่ ๆ เพื่อน ๆ ว่าจะลดงาน หรือ จะพักงานไปเที่ยว กลับบ้าน ทำอะไรก็ได้ แต่อย่าให้ว่าง หางานเล็ก ๆ น้อย ๆ ทำ หาเพื่อนที่ไว้ใจได้ พูดคุยปรึกษา ...
 
 
ขอให้น้องแคล้วคลาดปลอดภัย ...

ยืนยันว่าจะทำหน้าที่แพทย์ให้ดีที่สุด ( เท่าที่จะทำได้ )
DO NO HARM [ PATIENT AND MYSELF ]
ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ก็เป็นหมอที่ดี ได้เสมอ
www.bloggang.com/mainblog.php?id=cmu2807
ส่งโดย: หมอหมู male
สถานะ: ThaiClinic Staff *****
จำนวนความเห็น: 35073 63156014 63156014   หมอหมู หมอหมู WWW Email
   
125.27.226.*


« ความเห็นที่ #14 เมื่อ: 07/08/07 เวลา 10:58:01 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

มาเป็นกำลังใจให้อีกคนครับ
ขอให้พระคุ้มครองให้เป็นlab error
และถึงแม้ว่าถ้าเกิดติดจริงๆ ก็ไม่เห็นเป็นไรนี่ครับ  
เราก็ยังทำงานของเราต่อไปได้ แต่ต้องuniversal precautionและได้รับการรักษาอย่างใกล้ชิดจากหมอID  
ซึ่งตอนนี้ยาดีๆก็พัฒนาไปมากด้วยครับ  
สู้ๆนะครับ
ส่งโดย: DSIC
สถานะ: Full Member ***
จำนวนความเห็น: 206  
   
24.127.222.*


« ความเห็นที่ #15 เมื่อ: 07/08/07 เวลา 11:02:28 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ตอนนี้ไม่รู้คืบหน้าไปแค่ไหน
.
.
.
แต่ถ้ามันมีจริงๆ..พี่ก็ขอเป็นกำลังใจให้น่ะครับ Embarassed

* * *มหาสมุทร..ยิ่งใหญ่ได้เพราะอยู่ต่ำกว่าแม่น้ำทั้งหลาย * * *
ส่งโดย: MANTA_RAY
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1976   WWW
   
222.123.131.*


« ความเห็นที่ #16 เมื่อ: 07/08/07 เวลา 11:27:04 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

เหตุเกิดตอน 26 มค. 49  แสดงว่าเจ้าของกระทู้น่าจะรู้ผลELISAแล้วนะครับถ้าผลบวกแล้วยังอดทนทำงานต่อ มาได้อีก 1 ปีนี่ถือว่าสุดยอดจริงๆแม้ช่วงแรกอาการของโรคนี้ไม่มีอะไร แต่ในแง่ของสภาพจิตใจ เราคงทำงานต่อไม่ไหวแน่ แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ขอเป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้แล้วกันนะครับ
ส่งโดย: CRV
สถานะ: Full Member ***
จำนวนความเห็น: 194  
   
125.27.214.*


« ความเห็นที่ #17 เมื่อ: 07/08/07 เวลา 11:30:40 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ ลบข้อความนี้

Undecided  อิม weakly positive เคยเจอหลายคนอยู่  ตรวจviral loadไปเลยดีกว่าไหมครับ จะได้สบายใจ Wink
ส่งโดย: Dr.Tum Email     124.121.67.*


« ความเห็นที่ #18 เมื่อ: 07/08/07 เวลา 12:45:59 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ขอให้ผลออกมาปกตินะคะ
 
เคยโดนเข็มตำตอนปี 4 ตอนเจาะ dtx คนไข้ในเมด
แต่คนไข้ตรวจ anti-hiv negative ค่ะ
แต่ถึงจะ negative ก็ทำให้เรามี trauma ทางจิตใจมาก
หลังจากนั้นไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับหัตการ
ที่ต้องเย็บหรืออะไรอีกเลย  
เกลียดศัลย์กับสูติมาก
 
เคยมีเพื่อนตอนเป็นนศพ. โดนหลายคน
ต้องกินยาก็มีแต่ก็รอดมาได้ มีพี่เล่าให้ฟังว่า
ยังไม่ได้เคยได้ยินว่าแพทย์ได้รับเชื้อจากโดนเข็มตำนะคะ
แต่มีพี่พยาบาลที่ราชบุรีโดนอะ
 
ยังไงขอให้เจ้าของกระทู้โชคดีนะคะ
ส่งโดย: pinkiebobo
สถานะ: Junior Member **
จำนวนความเห็น: 96  
   
125.24.28.*


« ความเห็นที่ #19 เมื่อ: 07/08/07 เวลา 14:31:48 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ทางกระทรวงสาธารณสุขน่าจะมีเงินทดแทนให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่ได้รับการติ ดเชื้อเนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่ที่ได้รับการติดเชื้อต้องกังวลเรื่องเศรษฐกิจอีก เพราะพอทราบว่าติดเชื้อ ก็มีเรื่องให้กังวล ให้คิดเยอะอยู่แล้ว  ถึงแม้ว่าค่าตอบแทนนี้จะเทียบไม่ได้เลยกับอนาคตที่หักเหไป  Cry  Cry
ส่งโดย: snow2006
สถานะ: Full Member ***
จำนวนความเห็น: 133  
   
125.27.11.*


« ความเห็นที่ #20 เมื่อ: 07/08/07 เวลา 15:30:14 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

เราก็โดนหลายที แต่เราไม่กล้าตรวจ ปล่อยมันไป อยู่แบบสบายใจดีกว่า
ส่งโดย: neuroP
สถานะ: Full Member ***
จำนวนความเห็น: 104  
   
58.10.170.93 fwd for 192.168.0.*


« ความเห็นที่ #21 เมื่อ: 07/08/07 เวลา 17:26:16 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

มาให้กำลังใจคุณ bvm ครับ  
 
ถึงอย่างไรชิวิตก็ต้องดำเนินต่อไป จึงอยากให้เดินแบบนักสู้ครับ อาจจะไปทำงานวิจัย งานสอน หรืองานประชาสัมพันธ์รณรงค์ต่างๆ ต้องเดินหน้าสู้ต่อไปจะไม่อยูอย่างคนท้อแท้หรืออสงสารตัวเองให้มันนานเกินไป  เหมือนอย่างที่เคยเห็นคนไข้บางคนออกโทรทัศน์แล้วมีกำลังใจดี มีทัศนคติที่ดีในการดำเนินชีวิต
 
เป็นกำลังใจให้อย่างสุดซึ้งแม้ผมจะไม่ได้เจอเหตุการณ์แบบเดียวกับคุณ  bvm ก็ตาม ผมเชื่อว่าคุณทำได้ครับ
ส่งโดย: เกียดเป๋ง male
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1203  
   
125.27.131.*


« ความเห็นที่ #22 เมื่อ: 07/08/07 เวลา 17:51:56 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ


 
Quote:
ทางกระทรวงสาธารณสุขน่าจะมีเงินทดแทนให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่ได้รับการติ ดเชื้อเนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่

 
ถ้าพิสูจน์ว่า เกิดจากการทำหน้าที่ ขณะปฏิบัติราชการ ก็จะมีเงินชดเชยให้ครับ ... ผมไม่แน่ใจว่าเท่าไหร่ แต่ว่า เป็นล้าน เหมือนกัน ....

ยืนยันว่าจะทำหน้าที่แพทย์ให้ดีที่สุด ( เท่าที่จะทำได้ )
DO NO HARM [ PATIENT AND MYSELF ]
ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ก็เป็นหมอที่ดี ได้เสมอ
www.bloggang.com/mainblog.php?id=cmu2807
ส่งโดย: หมอหมู male
สถานะ: ThaiClinic Staff *****
จำนวนความเห็น: 35073 63156014 63156014   หมอหมู หมอหมู WWW Email
   
125.24.215.*


« ความเห็นที่ #23 เมื่อ: 07/08/07 เวลา 18:01:18 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

เพื่อนแพทย์มี incidence positive เท่าไหร่ใครทราบบ้าง
ส่งโดย: 2-U
สถานะ: Full Member ***
จำนวนความเห็น: 242  
   
125.27.88.*


« ความเห็นที่ #24 เมื่อ: 07/08/07 เวลา 18:24:44 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ผมยังนั่่งสับสนอยู่บนเตียงคนเดียว ผมคิดอะไรไม่ออก แต่จริงจริงแล้วคงต้องบอกว่าไม่รู้ว่าควรเริ่มคิดจากตรงไหน ผมตัดสินใจปรึกษาเพื่อนที่สนิทที่สุดของผม ผมเริ่มเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดอย่างช้าๆ ตั้งแต่ว่าผมโดนเข็มตำนิ้วกลางมือซ้ายตั้งแต่ มิย 48 ตอนนั้นผมทำผ่าตัด appendectomy ให้กับคนไข้ผู้หญิง HIV infection อายุ 24 ปีซึ่งตอนนี้ไปทำงานที่ฟิลิปปินส์ ผลการเจาะเลือดครั้งแรกของผมนั้น HIV neg  ทางรพ.ก็มีguidelineในการตรวจเลือดซ้ำตอน 1เดือน ,3เดือน และ 6เดือน ผมกินยาเป็นสูตร 4ตัว กินครบ1เดือน ตรวจเลือดซ้ำที่ 1,3 เดือน ผลHIV ก็ยัง neg อยู ตอนนั้นผมคิดว่าผมคงรอดแล้วล่ะ เพราะคำบอกเล่าจากเพื่อนฝูงก็บอกว่า บางคนไม่กินยายังไม่เป็นเลย แล้วมึงจะเป็นได้ยังไง ผม consult พี่infectious ในรพ. เค้าก็บอกว่าตั้งแต่เค้าดูมาเค้ายังไม่เคยเจอ HIV positive จากโดนเข็มตำเลย่ ที่สำคัญที่สุดคือเลยwindow period ไปแล้วซึ่งผมคงสบายแล้วล่ะ
 
แต่บางสิ่งในชึวิตมันกลับไม่เหมือนในตำรา เราเดินไปตรงๆแต่เราก็หลุดจากเส้นทางได้ถ้าเราลืมดูว่าจริงจริงแล้วมันเป็นท างโค้ง ที่ในหนังสือเค้าบอกว่าถ้าเกิน 3เดือนจากการcontactเชื้อ แสดงว่าปลอดภัย แต่จริงจริงเค้าศึกษาใน normal population ไม่ใช่คนที่กิน ARV ครบ1เดือน จึงไม่่น่าแปลกใจที่ผลHIVจึง positive ที 6 ่เดิอน (เค้าถึงให้เจาะเลือดที่6เดือนไงล่ะ)
 
ผมคุยกับเพื่อนอยู่นาน สุดท้ายผมตัดสินใจที่จะไปหาที่เจาะเลือดในรพ.เอกชนเพื่อยืนยันผลการตรวจ ที่นั่นทำให้ผลได้รับคำตอบ คำตอบที่เป็นความจริง ความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ ความจริงที่ผมมี HIV
 
ผลการยืนยันสรุปว่าผมติดเชื้อจริง… ติดเชื้อจริงจริง…. ติดเชื้ือจริงจริงเหรอ….. ผมถามประโยคนี้กับตัวเองในทุกๆก้าวที่เดิน ผมเดินกลับมาถึงรถ ผมขับรถไม่ไหวแล้ว ตาผมมองไปข้างหน้าแต่กลับมองไม่เห็นแสงไฟมาจากที่ใด ผมสงสัยว่าทำไมต้องเป็นผม มีคนเป็นอย่างผมอีกหรือไม่  ผมทำผิดอะไรไว้สิ่งนี้จึงเกิดกับผม ผมควรจะโทษตัวเองที่เอาเข็มทิ่มนิ้วตัวเอง หรือว่าโทษพ่อแม่ทีผลักดันจนผมได้มาเรียนหมอ หรือว่าโทษกรรมเก่าที่คนเราชอบอ้างถึงแต่ไม่มีใครตอบได้ว่ามันคืออะไร  ผมนิ่งเงียบ เพื่อนผมพูดอะไรไม่ออก ไม่รู้ว่าจะปลอบได้ยังไง………..ผลกลัวตายครับ……..ผมเพิ่งรู้สึกจริงจริงกับตัว ว่่าผมกลัว ถึงแม้เรารู้ว่าซักวันนึงเราตองตาย แต่ก็ไม่ใช่ตอนนี้ ผมเพิ่งอายุ 26 ผมยังไม่อยากตาย ผมกลัว PCP ผมไม่อยากเป็น Crypto meningitis ผมกลัวแม้แตเป็น PPE ...ผมกลัว
 
ความตายไม่ใช่เรื่องเล่นเล่นอย่างที่เราเคยเข้าใจซะแล้ว พวกเราอยู่กับความเจ็บป่วยมานาน  สิ่งที่เราทำกันอยู่ในปัจจุบันคือรักษาโรคแต่เพียงอย่างเดียว จนลืมไปแล้วว่าจริงจริงเรารักษาคน เราดูแต่เจ้าของร่างกายโดยที่เราลืมรักษาจิตใจที่ร่วมมาด้วย ผมย้อนคิดไปถึงอดีตที่ดูแลคนไข้ มีคนไข้จำนวนมากที่ป่วยเป็นโรคที่อาจทำให้เสียชีวิต แต่เรากลับบอกพวกเขาสั้นๆว่า คุณป้าเป็นมะเร็งครับ คุณติดเชื้อ HIV ครับ มันพอแล้วหรือหรือเปล่า ผมไม่เคยเข้าใจความรู้สึกนี้มาก่อนจนกระทั่งวันที่เจอกับตัว การที่รู้ว่าเราต้องตายถึงแม้จะอีกนาน แต่มันก็ทำให้ชีวิตที่เหลืออยู่มันไม่มีความสุขสักนิด ทุกสิ่งรอบตัวที่เคยดูสวยงาม ตอนนี้มันไม่มีความหมาย ผมเดินผ่านมันไป ดูเหมือนเป็นเพียงอากาศธาตุเท่านั้น
 
ผมตัดสินใจบอกแฟนผมเรื่องผลเลือด ผมไม่สามารถปิดบังเรื่องนี้กับเค้าได้ ผมชอบเค้ามาก มากจนไม่สามารถเอาเค้าเข้ามาอยู่กับตัวผมได้อีก ผมเป็นแฟนกับเค้ามาเกือบสามปี เดือนหน้าก็จะป็นวันครบรอบสามปีพอดี ช่วงที่ผมไปใช้ทุนต่างจังหวัด ก็ไม่ค่อยได้เจอกัน ตอนนี้ใช้ทุนเกือบครบแล้วกลับต้องมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น ผมบอกกับเค้าว่า ผมขอโทษ ตอนนี้ผมไม่ได้มีทุกอย่างพร้อมเหมือนเดิมอีกแล้ว เพราะสิ่งที่ขาดไป่ไม่มีใครมาทำให้เป็นเหมือนเดิมได้้ ผมชอบโ…มาก แต่เราคงไ่ม่่สามารถใช้ชีวิตอยู่กันได้หรอก  ตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนไร้ค่า ความรู้สึกของหมอกับคนไข้ที่ติดเชื้อ มันทำให้ผมรังเกียจตัวเองอย่างบอกไม่ถูก
 
เรื่องของโ…เป็นไปตามที่ผมวางแผนไว้ เธอโทรมาคุยกับผมนานนานครั้ง ห่างขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้เราไม่ได้ติดต่อกันแล้ว ถึงแม้เราจะไม่ได้บอกเลิกกันอย่างเป็นทางการทำให้ผมเข้าใจในการในการตะดสินใ จของเขา และก็ไม่เคยโกรธเขาแม้แต่ครั้งเดียว ความรู้สึกของผมต่อโ…ก็ยังเป็นเหมือนเมื่อก่อน ไม่เคยเปลี่ยนแปลง
 
 เปลี่ยนไปแล้ว  เปลี่ยนไป    
ความสดใส ไม่กลับมา
ความรัก กลับจากลา
เพราะเพียงว่า เราเปลี่ยนไป
ส่งโดย: bvm
สถานะ: Newbie *
จำนวนความเห็น: 9  
   
58.8.23.*


« ความเห็นที่ #25 เมื่อ: 07/08/07 เวลา 19:07:48 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ขอเป็นกำลังใจให้นะครับ
 Cool
ส่งโดย: Bill-10
สถานะ: Newbie *
จำนวนความเห็น: 1  
   
61.19.199.143 fwd for 172.17.9.*


« ความเห็นที่ #26 เมื่อ: 07/08/07 เวลา 19:35:29 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ขอร่วมเป็นกำลังใจให้อีกคนครับ
 
คุณหมอ ต้องพยายามรักษาสุขภาพไว้ให้ดีด้วยนะครับ ความรู้ทางการแพทย์ในปัจจุบัน น่าจะสามารถทำให้ คุณหมอยังมีสุขภาพที่ดี ได้อีกหลายปี  
 
ไม่แน่ว่า อีก 5-10 ปีข้างหน้า วิทยาการรักษา HIV infection อาจจะก้าวไปไกลกว่านี้อีกมากๆ ก็เป็นได้นะครับ
 
พยายามทำในสิ่งที่ช่วยเสริมกำลังใจ เสริมความภาคภูมิใจในตนเอง
หลีกเลี่ยงการคิดคนเดียว ควรคุยกับเพื่อนๆ ญาติพี่น้อง หรือผู้ร่วมงาน หากิจกรรมทำในยามว่าง จะได้ไม่คิดฟุ้งซ่าน อาจจะลองศึกษาปฏิบัติธรรมเพื่อให้สามารถปล่อยวางเรื่องร้ายๆได้ดีขึ้น นะครับ
ส่งโดย: Nothing male
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1345  
   
222.123.165.*


« ความเห็นที่ #27 เมื่อ: 07/08/07 เวลา 19:37:10 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

Undecided Cry Cry Cry Cry Cry Cry Cry Cry Cry Cry Cry Cry Cry Cry Cry Cry Cry Cry Cry Cry Cry Cry Cry Cry Cry Cry Cry Cry Cry
 
กระทู้นี้อ่านแล้วใจหายจริงๆ  
ผมก็เป็นคนหนึ่งที่ต้องผ่าตัด ต้องสัมผัสเลือดทุกวัน
 
แล้วนี่ กระทรวง รัฐบาล รพ มีอะไรมาชดเชยให้หรือไม่
 
ถึงแม้ว่าจะเกิดจากความประมาทของแพทย์เอง
แต่ใครล่ะอยากให้มันเป็นอย่างนี้
ความประมาทในบางครั้งแทบจะเรียกได้ว่าสุดวิสัย
อาจารย์ที่ถูก นศพ.ทำเข็มโดนมือขณะคุมผ่าตัด
หรือเรซิเดน ที่ใช้มีดตัดเนื้อที่มีผังผืดเหนียวๆแล้วแฉลบมาโดนมือ
เย็บช่องคลอดที่ทั้งลึก ทั้งลื่น แคบ มองไม่ค่อยเห็น holderไม่ดี เข็มเบี่ยงไปเบี่ยงมา แล้วยังจำต้องใช้มือไปแหวกให้เห็นร่องแผล
หรือเย็บแผลแล้วเลือดกระเด็นเข้าตา ขนาดเป็นคนดูอยู่นอกๆฟิวด์ ยังเคยโดนมาแล้ว เวลาใหมมันสะบันเลือดกระเด็น
 
อย่างนี้ผมว่ามันเหลือวิสัย
 
ผมขอให้คุณเรียกร้องหรือฟ้องร้องค่าชดเชยจากรัฐบาล ให้เพียงพอกับชีวิตของคุณที่เหลืออยู่นะครับจ้างทนายดีๆ ขอสนับสนุนและเป็นกำลังใจ หากต้องการแรงหนุนผมพร้อมช่วยเป็นหนึ่งเสียงแน่นอน  
 

สติ สัมปชัญญะ เพียร ปัญญา
ส่งโดย: jubjeab
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1623  
   
222.123.1.*


« ความเห็นที่ #28 เมื่อ: 07/08/07 เวลา 19:47:16 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

เป็นกำลังใจให้ค่ะ คุณเป็นหมอที่ดีมากค่ะ

๊ U put yourself in the stupid place....
Yeah... I think U know it too
Situation that easy to look down on U
Think U like to Be a victim
Think U like to Be in pain
I think U make your self a victim
When U try to B everything for EVERYONE!!!!
ส่งโดย: ตรูไม่รู้ male
สถานะ: Junior Member **
จำนวนความเห็น: 91  
   
202.139.223.*


« ความเห็นที่ #29 เมื่อ: 07/08/07 เวลา 20:56:43 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ


 
...ขอให้เข้มแข็งและพร้อมรับมือกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นนะครับ... Undecided Undecided
 
     ทุกเรื่องราวเลวร้ายที่เกิดขึ้น เป็นบททดสอบสำหรับคนเข้มแข็งเสมอ...ขอเพียงเราเข้าใจ และยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น เพื่อให้จิตใจของเราได้ทำใจ และสร้างสติให้พร้อมจะแก้ไขเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้เร็วที่สุด...เราก็จะอยู ่กับความเลวร้ายที่เกิดขึ้นได้...
 
     ...อย่าปฏิเสธว่ามันไม่ได้เกิดขึ้น...ขอให้ยอมรับว่ามันเกิดขึ้น และตั้งสติรับมือกับมันให้ได้... Smiley Smiley
 
     เรื่องราวทางกายที่เกิดขึ้น...ถึงแม้ว่ามันจะรักษาไม่หาย แต่ปัจจุบัน การใช้ยาต้าน ก็ได้รับการยอมรับ และสามารถทำให้เรามีชีวิตอยู่ได้ยาวนานหลายสิบปี...โดยไม่มี opportunistic infection ด้วยซ้ำ...ขอเพียงเรามีกำลังใจที่เข้มแข็ง และมีระเบียบวินัยในการทานยาให้ต่อเนื่อง...รักษาสุขภาพของเราให้เข้มแข็งที ่สุด ไม่ซ้ำเติมให้ร่างกายต้องอ่อนแอลงไปอีก...
     ...นั่นอาจจะทำให้เรามีชีวิตยืนยาวมากกว่าคนแข็งแรงที่ใช้ชีวิตอย่างประมาทก ็ได้...
 
     เรื่องราวทางจิตใจที่เกิดขึ้น...คุณต้องมีความเข้มแข็ง และบอกตัวเองไว้เสมอว่า...
     ...คุณค่าของคุณ ไม่ได้ลดลงเพียงเพราะคุณติดโรคร้าย...
     คุณยังคงเป็นคนที่มีคุณค่า และมีประโยชน์สำหรับคนทุกคน...อย่างน้อย ก็สำหรับคนในครอบครัวคุณเอง...เพราะฉะนั้น คุณยังคงสร้างคุณค่าของตัวเองได้อยู่เรื่อย ๆ และสามารถจะทำให้ตัวคุณเองมีคุณค่ามากขึ้นได้...
     ...นั่นอาจจะทำให้คุณมีคุณค่ามากกว่าคนแข็งแรงที่เค้าไม่เคยคิดจะทำตัวเองให ้มีค่าเลยก็ได้...
 
     ...เป็นบททดสอบที่มีเพียงคนที่เข้มแข็ง และมีกำลังใจดีเท่านั้น...จึงจะผ่านไปได้...
 
     ...เป็นกำลังใจให้นะครับ... Smiley Smiley



ความรักเป็นสิ่งสวยงาม...หากว่ามันเป็นความรัก
ส่งโดย: Dr.PS male
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 2177  
   
61.90.160.*


« ความเห็นที่ #30 เมื่อ: 07/08/07 เวลา 21:05:45 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

อ่านจบแล้ว
บอกไม่ถูกเลยค่ะ ว่ารู้สึกอย่างไร  
เสียใจแทนอย่างมาก
แต่อยากให้มีความหวังนะคะ
อย่าท้อ
 
เคยเข้าไปอ่าน webboard นี้ค่ะ
มีคนเป็นกำลังใจเยอะมาก กับคนติดเชื้อ
http://pha.narak.com/
ลองไปอ่านดูนะคะ ไม่รู้จะช่วยได้บ้างมั้ย
ส่งโดย: pinkiebobo
สถานะ: Junior Member **
จำนวนความเห็น: 96  
   
202.91.19.*


« ความเห็นที่ #31 เมื่อ: 07/08/07 เวลา 21:28:00 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

เป็นกำลังใจให้ครับ
ผมมีคนไข้ hiv rx มานาน 20ปีแล้ว ทำงานมหาดไทย ออกท้องที่เกือบทุกวัน ตอนนี้ยังอยู่เป็นผู้บริหารของจังหวัดแล้ว ยังแข็งแรงดี  
ผู้ป่วย hiv ไม่ตายง่ายครับ เรียนรู้ที่จะอยู่กับมัน อ่านหนังสือและเจาะเลือดทุก 3 เดือน กินยาเป็นช่วงๆ น้องสามารถทำงานด้านการแพทย์ได้ครับ อย่าท้อ โรคนี้ถ้ากินได้ นอนหลับ ร่างกายก็สู้ต่อได้ครับ
มีอะไรจะปรึกษา mail มาครับ สู้ๆครับ  what ever will be will be
anantachai@hotmail.com  Grin Grin Grin

Good surgeons know how to operate.
Better ones know when to operate.
Best ones know when not to operate
ส่งโดย: anantom
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 10525   WWW
   
125.27.188.*


« ความเห็นที่ #32 เมื่อ: 07/08/07 เวลา 23:54:35 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ขอเอาใจช่วยอีกคนนะคะ
ส่งโดย: Dr.Little
สถานะ: Full Member ***
จำนวนความเห็น: 228  
   
125.26.138.*


« ความเห็นที่ #33 เมื่อ: 07/09/07 เวลา 00:05:43 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

เหมือนอย่างหลายๆคน อ่านจบแล้วไม่รู้ว่าจะพูดอะไร พูดได้คำเดียว "ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจครับ"
ส่งโดย: CRV
สถานะ: Full Member ***
จำนวนความเห็น: 194  
   
203.151.240.*


« ความเห็นที่ #34 เมื่อ: 07/09/07 เวลา 00:13:22 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ขอให้คุณหมอหาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนนะครับ  
เนื่องจาก hiv ใน usa ไม่จัดเป็นโรค ลับที่ต้องปกปิดอีกแล้ว
สาเหตุเพราะการรักษาปัจจุบันทำให้  
ผู้ที่มี ผลเลือด+ นี้มีอายุยืนยาวกว่า 36 ปี  
โดยสามารถทำงานได้ตามปกติครับ ต่างกับผู้ที่เป็น CA เยอะมากครับ
เทคโนโลยีก้าวไกล แต่คุณหมอต้องติดตามและหารายละเอียด  
ปรึกษาอาจารย์ที่เชี่ยวชาญ และดูแลตนเองอย่างดีครับ
..
ความพยายามอย่างหนักในปัจจุบันในการศึกษาโรคนี้..
น่าจะส่งผลให้อีกไม่นานอาจมียารักษาให้หายขาด
เช่นโรค sysphilis ในอดีต ก็ได้นะครับ
..
คนไทยเองไม่เข้าใจโรคนี้ตามที่มันเป็นจริง  
หากแต่มองในแง่ลบด้านพฤติกรรมไว้ก่อน  
ค่านิยมที่ผิดพลาดนี้ทำให้ผู้ป่วยต้องรู้สึกทุกข์กับตัวโรคมากกว่าที่ควรจะเ ป็นครับ
..
อย่าปล่อยให้ความเศร้ามาทำลาย จิตใจอันดีงาม  
อนาคตข้างหน้า ความฝัน และความหวัง  
รวมถึงงานที่รับผิดชอบในสังคมของคุณหมอนะครับ
จงก้าวต่อไปครับ อย่างมั่นคง และเผชิญกับความจริงอย่างรอบคอบครับ
..
มีคนที่มีผลเลือด เช่นนี้อีกหลายแสนคนในประเทศครับ  
เป็นเหตุให้ประเทศเราต้องทำ CL ยา กลุ่มนี้ไงครับ..
คุณหมอเอาพลังที่รู้สึกสูญเสีย มาผลักดันสิ่งที่ดีๆให้กับสังคมได้นะครับ..
..
ความตาย ไม่น่ากลัวเท่ากับ..ความรู้สึกกลัวว่าจะต้องตายครับ..
อย่างไรเราทุกคนก็หลีกหนีความตายไม่พ้นครับ ช้าเร็ว ต่างกันเท่านั้นเอง
อย่ากังวลมากไปครับ..เป็นกำลังใจให้นะครับ..

-ในหลวงทรงพระราชทานพระราชดำรัส ขอให้แพทย์ ไทย
"อ่อนน้อม ถ่อมตน ทุกคนมีดี อย่าดูถูกใคร"..

จากพระราชดำรัสสู่หลักสูตร "ธรรมาภิบาลผู้บริหารทางการแพทย์" แพทยสภา-สถาบันพระปกเกล้า ปธพ.
ส่งโดย: 716:16 male
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 3024  
   
58.8.102.*


« ความเห็นที่ #35 เมื่อ: 07/09/07 เวลา 09:29:45 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

เป็นกำลังใจให้นะครับ...ดูแลรักษาสุขภาพด้วยนะครับ สู้ๆ  Wink
ส่งโดย: D_HRT male
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1548  
   
61.19.88.*


« ความเห็นที่ #36 เมื่อ: 07/09/07 เวลา 10:55:51 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

อ่านกะทู้นี้ก่อนนอน นอนไม่หลับเลยค่ะ รู้สึกหดหู่จนเก็บเอาไปฝันว่าคนใกล้ตัวติดเชื้อด้วย คุณDr.716เขียนได้ดีมากเลยค่ะ ลองอ่านซ้ำๆดู ได้ประโยชน์จริงๆเพราะนึกถึงแก้วไดอารี่ เค้าสามรถเอาโรคที่เค้าเป็นมาสร้างประโยชน์ให้สังคมได้มากมาย และตัวเค้าก็มีกำลังใจสู้ต่อไป มีคุณค่าในตัวเอง ภูมิใจในตัวเอง มีประโยชน์กว่าคนธรรมดาที่ไม่ได้เป็นอะไรเสียอีก
ตัวเองก็เป็นอีกคนนึงที่กลัวโรคนี้และเคยโดนเลือดกระเด็นเข้าตาตอนตัดคอร์ดเ ด็กแรกเกิด แม่ไม่มีผลเลือด ตอนนั้นกลัวมาก เหมือนเป็นแผลในใจ จนตอนนี้มาทำงานที่ต้องสัมผัสกับCSF กับเลือดตลอดก็ยังกลัว เคยต้องรอผลตรวจเลือดHIVใจคอไม่ดีตลอด จนถึงตอนนี้ก็ยังกลัว แต่ควรปรับความเข้าใจใหม่เหมือนที่หลายคนบอก ว่าโรคนี้ก็เหมือนเบาหวาน จริงๆแล้วดีกว่าเบาหวานด้วยซ้ำ ขึ้นอยู่กับตัวเรา เข้มแข็งเข้าไว้นะคะ ชีวิตคนเราไม่รู้จะตายวันไหน เราทำแต่ละวันให้มีคุณค่าดีกว่านะคะ
  คุณหมอเป็นคนที่มีความสามารถในการเขียน ในการเล่าเรื่องนะคะ อ่านแล้วให้ความรู้สึกมาก น่าจะใช้ประโยชน์จากตรงนี้ เขียนรวบรวมให้คนอื่นได้อ่านด้วยนะคะ
อยากให้กะทู้นี้ออกสู่สาธารณชน จะได้รู้ว่าหมอทำงานหนัก มีความเสี่ยงสูงขนาดไหน เอาชีวิตตัวเองแลกกับชีวิตคนไข้ เรียกว่าตายในหน้าที่ ไม่ได้ต่างจากตำรวจชายแดนที่สู้กับโจรใต้หรอกค่ะ แต่ว่าตายแล้วมีใครมาเหลียวแลมั๊ย ได้เลื่อนยศเลื่อนตำแหน่งรึปล่าว มีใครสักกี่คนที่จะรู้จะเข้าใจในการทำงานของหมอ หรือมีแต่จ้องจะฟ้องร้อง [color=Blue][/color] อยากให้ผู้หลักผู้ใหญ่รูและช่วยเหลือคุณหมอในจุดนี้ และหมอทุกๆท่านที่มีความเสี่ยงทุกคน ไม่รู้ว่าวันไหนจะโดนกับตัวเองมั่งค่ะ
ส่งโดย: destiny female
สถานะ: Newbie *
จำนวนความเห็น: 37  
   
125.24.152.*


« ความเห็นที่ #37 เมื่อ: 07/09/07 เวลา 11:02:28 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ผมก็เคยถูกเข็มตำครับ
 
เข้าใจอารมณย์ครับ
 
เป็นกำลังใจให้
 
 
แล้วมันจะผ่านไปได้ด้วยดีครับ
 
พระเจ้าอวยพรครับ

Hapiness in Give & Share

ส่งโดย: dent'หนุ่มไฟแรง male
สถานะ: Senior Member ****
จำนวนความเห็น: 366   WWW
   
125.25.161.*


« ความเห็นที่ #38 เมื่อ: 07/09/07 เวลา 11:28:55 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

Cry Cry
สิ่งที่ผ่านเข้ามาในชีวิตคือบททดสอบเรา
ในการสั่งสมบารมี.........อดทนนะคะ
เราจะคอยเป็นกำลังใจให้ Embarassed
ส่งโดย: conan_22
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 980  
   
203.118.85.*


« ความเห็นที่ #39 เมื่อ: 07/09/07 เวลา 12:01:29 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

b.-cloudrays-2.gif (attachment deleted)


 
 
“Those who bring sunshine into the lives of others, cannot keep it from themselves.”
 
         
 ~~   James Matthew Barrie  ~~~(1860-1937)

 
 
ขอคุณพระ และความดีทั้งหลายทั้งปวงในโลกนี้ คุ้มครองคุณหมอตลอดไป  _/\_
 
 
ส่งโดย: penny...
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1736  
   
58.9.191.*


« ความเห็นที่ #40 เมื่อ: 07/09/07 เวลา 12:34:51 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

คิดในแง่ดีนะ ทำให้เราได้ทบทวนจุดหมายของชีวิตก่อนหลายๆคนที่ไม่ค่อยได้คิด  
ไม่มีใครที่มีทุกอย่างครบบริบูรณ์  ชีวิตที่มีโรคอะไรสักอย่างก็มีค่าเท่าๆกะคนอื่นๆเหมือนกัน  มีศักดิ์ศรีเท่ากัน  ให้กำลังใจตัวเองนะ ยังมีอะไรอีกหลายๆอย่างที่เราทำได้
ขอพระเจ้าอวยพรให้น้องพบคำตอบชีวิต
ส่งโดย: fish female
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 732  
   
125.25.70.*


« ความเห็นที่ #41 เมื่อ: 07/09/07 เวลา 12:50:17 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
 
ขอให้เข้มแข็งนะครับ
 
ทุกคนในนี้เป็นกำลังใจให้นะครับ Smiley
ส่งโดย: sashimi male
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 2047  
   
124.120.219.*


« ความเห็นที่ #42 เมื่อ: 07/09/07 เวลา 13:25:13 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ผมก็เคยถูกเข็มตำครับ
เคยถูกน้ำไขสันหลังคนไข้ cryptomening หกรด
ถูกเลือดกระเด็นเข้าตา
 
ถึงวันนี้จะยังไม่พบเชื้อ
 
วันหน้าก็อาจเป็นได้
 
คนเราถึงไม่เป็น HIV ก็อาจตายด้วยโรคอื่นซึ่งมาเร็วแล้วก็ไปเร็วกว่า
 
แพทย์มีความเสี่ยงอื่นอีกมากครับ ทั้ว CA และ Accidents  
เพื่อนแพทย์ที่ผมรู้จักบางคน จากไปเร็วกว่า กะทันหัน กว่าคนไข้ HIV เสียอีก
 
อย่าคิดว่าเป็น HIV แล้วทุกอย่างจะจบลงเลยครับ เรายังมีเวลาอีกมาก   และมากกว่าคนอื่นอีกหลายคนที่ขณะนี้ยังมีสุขภาพดีด้วยซ้ำ

Professor of Defensive Medicine
Practice defensive medicine or retire
ส่งโดย: Nomad Physician male
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 518  
   
58.8.169.*


« ความเห็นที่ #43 เมื่อ: 07/09/07 เวลา 22:51:20 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

วันรุ่งขึ้น ผมเริ่มรู้ตัวเองว่าผมไม่สามารถ แบกปัญหาที่ใหญ่ขนาดนี้บนบ่าตัวเองได้ ผมโทรไปหาพี่เนศ่ (เป็นพี่medที่ดูแลบุคลากรในรพ.ที่โดนเข็มตำ) พี่เนศเค้าตกใจมาก เค้าถามถ้าพอมีเวลาไปหาเค้าที่บ้านตอนเที่ยงหรือไม่ พี่เนศอยากคุยกับผมเป็นการส่วนตัว ในวินาทีนั้นผมตื่นเต้นมาก ผมอยากให้พี่เค้าบอกว่าผมเข้าใจผิด บอกว่าผลการตรวจผิดพลาด หรือบอกว่าใช้น้ำยาผิด หรืออะไรก็ได้ ผมไม้รู้ว่าผมจะยืนบนขาคู่เดิมได้อีกนานแค่ไหน ผมไม่เคยรู้สึกเหนื่อยขนาดนี้มาก่อนในชีวิต ผมเหนื่อยจริงจริง
 
เมื่อถึงเวลาเที่ยง ผมก็รีบไปพบพีเนศ ตามที่นัด บ้านพักของพี่เค้าอยู่ในรพ. มีหมาพุดเดิ้ลคอยให้การต้อนรับผมเป็นอย่างดี พี่ชวนผมให้นั่งรอที่โซฟา ผมรู้สึกเหมือนผ่อนคลาย พี่เค้าจึงขอให้ผมเล่าอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง ผมค่อยๆเล่า ค่อยๆเรียบเรียงเรื่องทุกอย่่างให้พี่เค้าฟัง พี่เนศมีทีท่าตั้งใจมาก แต่ไม่ได้ทำหน้าตกใจหรือตื่นเต้นมากเกินไปนัก หลังจากผมเล่่าจบ ผมรู้สึกว่าการมาครั้งนี้ของผมไม่เสียเที่ยวเลยจริงจริง พี่เค้าเป็นทั้งหมอและเป็นทั้งพี่ที่มีแต่ความห่วงใย และความปรารถนาดีมากมาย  ผมรู้สึกได้  ผมรู้สึกได้ว่ามันมีรัศมีออกมาจากตัวเค้าจริงจริง ในชีวิตนี้ผมเคยได้สัมผัสแบบน้้มาจากพ่อแม่เท่านั้น และยังไม่เคยคิดว่าจะมีคนที่เป็นห่วงเราถึงเพียงนี้ เรื่องของผลตรวจนั้นพี่เค้าอยากให้ทำ lab confirm ก่อน เพราะว่าELISA เพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอในการวินิจฉัยได้  ส่วนเรื่องเพื่อนและคนรู้จักอย่าเพิ่งบอก และอย่าเพิ่งบอกพ่อแม่เพราะว่าผลยังไม่แน่ชัดเดี๋ยวท่านจะตกใจ
 
ผมทำตามที่พี่เค้าบอกทุกอย่าง ผมรูสึกดีขึ้นเมื่อรู้ว่ามีคนที่มีสติมายืนอยู่ข้างๆผม ผมเดินไปเจาะเลือดเป็นครั้งที่สาม แต่คราวนี้ต่างจากครั้งอื่น เพราะผมรู้ว่าผมกำลังทำอะไรอยู่ และทำเพื่ออะไร ผมoffเวรของทั้งอาทิตย์ตามที่พี่เนศสั่ง เดินกลับไปที่ห้องพัก นอน และทำใจให้สบายเพื่อรอผลตรวจซึ่งพี่่เค้าจะโทรมาบอกเองว่าผลเป็นอย่างไร
 
ผมยังคงนอนอยู่ที่เตียง นอนนิ่งอยู่นาน แต่ในใจผมไม่มีหยุดคิดซักวินาทีเดียว ประมาณบ่ายสาม ผมลุกขึ้นมานั่ง หยิบโทรศัพท์โทรไปหาเพื่อนของผมว่าผมควรทำยังไงดี ผมอยากโทรไปหาพี่เนศว่าผลเป็นอย่างไร แต่ไมากล้าเพราะกลัวว่าพี่เค้าจะยุ่งอยู่ เพื่อนผมบอกว่าให้รอไปก่อน พี่เค้าบอกแล้วว่าจะโทรบอกเอง ก็ต้องเป็นอย่างนั้น ใจเย็นรออีกหน่อย ผมนั่งรอ นอนรออยู่นาน จะโทรปรึกษาใครก็ไม่ได้ ผมรู้สึกตัวคนเดียว ผมมองออกไปนอกห้อง ผู้คนที่เรารู้จักมากมายเดินผ่าน….ไม่มีใครคุยได้เลยจริงจริงหรือนี่…ไม่มีเ ลยจริงจริง
 
เมื่อถึงเวลาเย็น พระอาทิตย์เริ่มหรี่แสงลง ผมรู้สึกเหมือนว่าความหวังผมกำลังจางหายไป ผมเหนื่อย ผมถอนหายใจ เอาวะ อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด พี่เนศโทรมาพอดี พี่บอกว่ารอที่ห้องประชุม พี่อยากคุยด้วย ผมเดินลงจากห้องอย่างช้าช้า กลัวกับสิ่งที่กำลังจะเผชิญ ผมไม่แ่นใจว่าผมจะรับไหวรึเปล่าถ้าพี่เค้าบอกผมว่าผมติดเชื้อ คงไม่มั้ง ชีวิตคนเราต้องมีหวัง ผมเดินไป กลัวๆกล้าๆ แต่ใจมันบอกให้เดินไปเพราะมันอยากรู้ ผมเปิดประตูเข้าไปในห้องประชุม พี่เนศอยู่กับพี่ปกซึ่งเป็นพี่psychiที่รพ. เค้าถามผมถึงสภาพทั่วไปของผมวันนี้ ผมไม่อยากตอบแล้วละ ผมอยากรู้เรื่องผลเลือดมากกว่า  “ผลมันเป็นpositiveนะ”  พี่เนศบอก หลังจากนั้นพี่เค้าพูดอะไรต่อก็ไม่รู้ ผมหูอื้อไปหมดแล้ว ผมเพียงแต่พยักหน้าเมื่อพี่เค้าพูดจบประโยค คำตัดสินมันมาแล้วล่ะ ผมบอกกับตัวเอง พี่เค้าบอกว่าเค้ารู้ผลตั้งแต่บ่ายแล้ว แต่ไม่ได้บอกเพราะว่าพี่ไม่สามารถปลีกเวลามาบอกได้ ซึ่งจริงจริงเพื่อนผมก็รู้้ตั้งแต่บ่ายแล้ว แต่พี่เนศสั่งห้ามบอก้เพราะกลัวบอกไม่ถูกวิธี
 
เรื่องของผมเอง ผมต้องรู้เป็นคนสุดท้ายเหรอ ผมถ่ามตัวเอง ผมเสียใจที่เพื่อนสนิทของผมหลอกผมว่าไม่รู้เรื่อง โลกนี้ให้อะไรกับผมบ้างที่ทำงานหนักและได้เงินเดือนมา 10000 บาท ผมเข้าใจตัวเองว่าผมฉลาดที่เอ็นทรานส์ติดหมอ แต่จริงจริงผมว่าผมโง่มากกว่าที่คิดเรียนหมอ ชีวิตหมอไม่ได้สวยหรูเหมือนที่วาดไว่ซะแล้ว พวกคนภายนอกที่อยากให้ลูกมาเรียนหมอจะรู้มั้ยว่ามีผมคนนี้ที่อาจจะตายเพราะม าเป็นหมอ ค่ายอยากเป้นหมอของโรงเรียนแพทย์เคยพูดหรือไม่ว่าคุณมาเรียนหมอก็เหมือนไปเท ี่ยวผู้หญิง เพราะไม่ว่าคุณจะใส่ถุงมือหรือถุงยางก็ยังติดเอดส์ได้ ผมโกรธตัว้เอง ผมโกรธเพื่อน ผมโกรธทุกคน โกรธสถาบัน ผมพาลแล้วล่ะ ผมเพิ่งรู้สีกว่าผมพาลแล้วล่ะ ผมนั่งลงเก้าอี้ในห้องนอนของผม แต่ครั้งนี้ผมร้องไห้ ผมจำไม่ได้เลยว่าผมร้องไห้ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร ผมเป็นคนใจแข็งมาก เพื่อนผมมักชอบว่าผมว่าเป็นคนไม่มีหัวใจ เพราะไม่ว่าจะเกิดเรื่องร้ายแรงอะไรผมก็ยังนั่งเฉย เหมือนกับไม่มีปัญหาอะไร แต่วันนี้ผมรับไม่ไหวแล้วล่ะ ผมร้องไห้โฮอย่างสุดตัว ร้องอย่างสุดเสียงโดยไม่อายใคร ผมมองไปในกระจก ผมเพิ่งเคยเห็นน้ำตาตัวเองครั้งนี้เป็นครั้งแรกตั้แต่จำความได้ ผมไม่เคยคิดเลยว่าชีวิตผมจะมีวันนี้  
 
อยากจะร้องให้สุดเสียง
หวังแค่เพียงเปลี่ยนเป็นฝัน
แต่ก็รู้ว่าไม่มีวัน
เพราะว่าฝันไม่เคยทำให้เจ็บลงไปลีกสุดในหัวใจ
ส่งโดย: bvm
สถานะ: Newbie *
จำนวนความเห็น: 9  
   
58.8.22.*


« ความเห็นที่ #44 เมื่อ: 07/09/07 เวลา 23:08:54 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ยังคอยติดตามอ่านอยู่ตลอดนะครับ

Thai-Cashless-Society(T-C-S)
https://www.facebook.com/NyhanAndTheGang/
ส่งโดย: Burawat T.
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 10513   WWW
   
125.26.33.*


« ความเห็นที่ #45 เมื่อ: 07/09/07 เวลา 23:45:46 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

อยากให้กำลังใจค่ะ ตอนนี้มันเป็นเรื่องที่หนักมากจนเราไม่อยากจะแบกรับต่อไปได้ ทุกอย่างในชีวิตดูเหมือนจะไม่มีค่าอะไร ไม่มีอะไรเหมือนเดิมแล้วก็เถอะค่ะ แต่เวลาและสติมันจะช่วยเราค่ะ อยากให้เป็นกำลังใจให้ตัวเองจะโกรธ จะเศร้าเสียใจมากมันก็ธรรมดา แต่ชีวิตเรายังต้องอยู่ต่อต่อสู้อย่างเข้มแข็งนะคะ ยังงัยก็อยากให้หาเพื่อนสนิทเอาไว้ระบายนะคะ เราเองก็มีญาติเป็นHIV เหมือนกันขนาดเขาไม่ใช่หมอ แต่เค้ายังรักษาตัวกินยาตรวจcd4 viral load มาตลอด17ปีแล้วยังไม่มีแทรกซ้อนอะไรเลย สุขภาพแข็งแรงมาก อยากให้ศึกษาเกี่ยวกับโรคนี้เยอะๆค่ะ รักษาตัวเองดีๆ อนาคตยังอีกยาวไกลไม่แน่อาจจะมีทางรักษาหายก็ได้ค่ะ อยากให้ลองอ่านที่เค้าแนะนำนะคะ น่าจะได้กำลังใจ มีรุ่นพี่ เพื่อนที่เป็นหมอเนี่ยขับรถอุบัติเหตุ ตายทันทีเนี่ยน่าแย่กว่าอีกนะคะ ยังมีคนอีกหลายคนที่เค้าแย่กว่าเราอีกเยอะค่ะ อยากให้สู้ๆนะคะ รักตัวเองเยอะๆนะคะ
ส่งโดย: mee_dee
สถานะ: Full Member ***
จำนวนความเห็น: 148  
   
203.113.35.*


« ความเห็นที่ #46 เมื่อ: 07/10/07 เวลา 07:37:31 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

b.-fotocommunity1372449.jpg (attachment deleted)


 
 
 
ขอมาช่วยเป็นกำลังใจด้วยนะคะ

 
 
 
 
***   อยากให้เป็นกระทู้ปักหมุดจัง    
 
ส่งโดย: penny...
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1736  
   
58.9.191.*


« ความเห็นที่ #47 เมื่อ: 07/10/07 เวลา 10:26:37 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

มาติดตามอ่านชีวิตคุณหมอว่าเป็นยังไงต่อไป จนถึงตอนนี้ เพราะเหตุเกิดเมื่อหนึ่งปีที่แล้ว ตอนนี้คุณหมอน่าจะพ้นช่วงdenileแล้วใช่มั๊ยคะ น่าจะดีขึ้นจนสามารถมาเล่าเรื่องย้อนหลังให้ฟังได้ อยากให้เป็นกะทู้ปักหมุดจริงๆค่ะ
ส่งโดย: destiny female
สถานะ: Newbie *
จำนวนความเห็น: 37  
   
125.24.131.*


« ความเห็นที่ #48 เมื่อ: 07/10/07 เวลา 14:31:27 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ขอให้กำลังใจด้วยค่ะ อ่านแล้วรู้สึกบอกไม่ถูกเลย ทั้งเสียใจ ทั้งใจหายไปด้วยที่ต้องเป็นกับแพทย์คนหนึ่งที่ชีวิตแพทย์เพิ่งเริ่มต้น และทั้งกลัวไปด้วยจากที่แต่ก่อนไม่เคยกลัวเวลาที่ทำหัตถการ  Cry Cry
ส่งโดย: pinpoint male
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1344  
   
125.24.48.*


« ความเห็นที่ #49 เมื่อ: 07/10/07 เวลา 14:35:23 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

อ่านแล้วร้องไห้เลยค่ะ Cry



"Love is not a thing to understand.
Love is not a thing to feel.
Love is not a thing to give and receive.
Love is a thing only to become
And eternally be. "

ส่งโดย: Agaligo female
สถานะ: Senior Member ****
จำนวนความเห็น: 325  
   
124.120.216.*


« ความเห็นที่ #50 เมื่อ: 07/10/07 เวลา 21:42:11 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ


เวลาผ่านไปเป็นอาทิตย์ แต่ผมก็ยังทำใจไม่ได้ ตอนนี้เพื่อนผมประมาณ 6 คนที่ใช้ทุนที่เดียวกันรู้หมดแล้วล่ะครับว่าเกิดอะไรขึ้นกับผมบ้าง ถึงผมไม่ได้บอกด้วยปาก แต่จากสีหน้าผมทุกคนคงรู้ว่าเกิดสิ่งร้ายแรงกับผมเป็นแน่ ผมขอให้เพื่อสนิทผมเล่าให้กับเพื่อนบางคนที่อยู่ด้วยกัน เพื่อนๆผมทุกคนดีกับผมมาก ให้กำลังใจผมอย่างดี มันทำให้เรารู้สึกว่าอย่างน้อยๆก็ยังมีเพื่อนเป็นห่วงเราอยู่
 
ผมขับรถออกไปจากรพ.ที่ผมอยู่ประมาณ 20 กิโลเมตร เพื่อไปยังห้องแล็ปแห่งหนึงที่ต่างอำเภอตามคำแนะนำของพี่เนศ มันลักษณะเหมือนคลีนิดที่อยู่ในซอยลึกพอควร ผมเข้าไปก้บเพื่อ พบผู้ชายคนหนึ่งอายุประมาณ 40 ซึ่งพบคาดว่าคงเป็นเจ้าของ ผมบอกเค้าว่ามาเจาะ CD4 และ viral load พี่เค้าทำสีหน้าตกใจไปชั่วครู่ แต่ก็พูดคุยกับผมอย่างดี สิ่งนี้ยังคงเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมรู้สึกว่า ไม่ว่าจะเป็นนักเทคนิคการแพทย์ หรือ แพทย์ จริงจริงแล้วคุณค่าของอาชีพอย่างพวกเรา มันอยู่ที่จรรยาบรรณ มากกว่าระดับความรู้ มากกว่าภาพลักษณ์ภายนอก และมากกว่าเงินทองที่เราประเมินจากสิ่งที่เราสัมผัสได้เสียอีก
 
ผลเลือดผมออกมาแล้ว CD4 455, 20% และ viral load 610, log 2.79 ถึงตอนนี้ผมหมดสิทธิ์ deny แล้วครับ ผมมีเพื่อนใหม่มาอยู่กับผมตั้ง610 ตัวต่อเลือด 1cc ชีวิตตอนนี้ผมต้องเปลี่ยนไปอย่างถาวรแล้ว ผมต้องระวังเลือดของตัวเองไม่ให้ไปโดนอื่น เรื่องแฟนคงหมดโอกาส คงไมมีใครคิดจะมีแฟนเป็นคนติดเชื้อหรอกใช่มั้ยครับ
 
ถึงวันนี้ผมมองย้อนไปในวันที่เกิดเหตุ 6 เดือนก่อน้ผลเลือดจะผิดปกติ วันนั้นผมง่วงมาก ผมหลับไปและโดนตามมาทำ appendix ตอนเที่ยงคืน ซึ่งยังไงก็คงต้องทำเพราะเป็นหน้าที่  แต่สุดท้ายผมก็ทำเข็มทิ่มตัวเอง…..ตกลงใครผิด…ผมทบทวนเรื่องนี้อยู่หลายครั้ ง ผมผิดหรืือเปล่าที่ประมาทเลินเล่อ แต่ผมทำงานมาทั้งวัน เหนื่อยก็เหนื่อย และต้องอยู่เวรต่ออีก ถ้าชีวิตผมเป็นแบบนี้ยังไงก็ต้องมีซักวันที่ต้องโดนเข็มทิ่มแน่แน่
หรือว่าผมควรจะโกรธคนไข้ ถ้าเขาไม่ติดเชิ้อ เรื่องเลวร้ายเช่นนี้ยังไงก็คงไม่เกิดขึ้น ตอนนี้ผมคงไม่รู้สึกแย่ขนาดนี้
 
ถึงตอนนี้ผมไม่ได้โกรธใครเลย เพราะผมถามตัวเองว่าถ้าผมย้อนกลับไปวันนั้น ผมจะยังผ่า appendix ในคนไข้ติดเชื้ออีกหรือไม่ คำตอบก็คือผ่า เพราะถ้าไม่รักษาเค้า แล้วใครจะไปรักษาเค้า เราเกิดมาเป็นที่พึ่งของคนหมู่มาก ถึงแม้เราจะได้เงินตอบแทน(ในบางครั้ง) แต่สิ่งที่เราทำลงไปแลกมาได้ด้วยชีวิตของคนไข้ ผมมองว่ามันน่าจะคุ้มนะ ถึงแม้ว่ามันจะแลกมาด้วยอนาคตของผมเอง
 
ผมเคยได้ยินเรื่องค่าตอบแทนถ้าเกิดบุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อที่เกิดจากการ ทำงาน ประมาณ 1-2 ล้านบาท ซึ่งในกรณีของผม มีผลเลือดของรพ.ที่ปกติแล้วเปลี่ยนมาเป็นติดเชื้อ อย่างน้อยน้อยผมก็ได้มาเป็นค่ายาในอนาคตเพราะคงมีวันนึงที่ CD4ต่ำกว่า 200 ผมถามเรื่องนี้กับพี่เนศ พี่เค้าบอกว่าเค้าก็ไม่รู้ เพราะว่าไม่เคยเจอเรื่องนี้มาก่อน ผมกับพี่เนศจึงขึ้นไปปรึกษากับผู้อำนวยการ ท่านแสดงความเห็นอกเห็นใจผมเป็นอย่างมาก และก็ยินดีจะช่วยดำเนินการให้ แตมันอาจไม่ง่ายอย่างที่ผมคิด ท่านแนะนำว่าให้ลองคิดดีดี เพราะการจ่ายเงินของระบบราชการล่าช้าและซ้ำซ้อนมาก ชื่อของผมจะต้องโดนเสนอไปถึงกระทรวง เงินเป็นล้านราชการคงไม่ยอมให้คุณง่ายๆหรอก และน่าจะมีการสอบด้วย ถึงตอนนั้นจะมีคนจำนวนมหาศาลรับรู้ว่าผมติดเชื้อ ผมทำใจได้หรือ้เปล่า ถ้าเพื่อนผมรู้ว่าผมติดเชื้อ จะมีกี่คนที่คิดว่าผมติดเชื้อจากการทำงาน ถ้าอาจารย์รู้ ผมจะได้มีโอกาสเรียนต่อหรือไม่ แต่ที่แน่แน่ถ้าคนไข้รู้ ไม่มีทางที่พวกเค้าจะมาตรวจกับเราเป็นแน่
 
คำตอบก็คือ ไม่ ผมทำใจไม่ได้ ผมลองกลับมาคิดดู เงินล้านน่ะผมใช้เวลาเท่าไรในการหามาด้วยตัวเอง ถ้าวันนี้ผมลาออก ไปทำงานรพ.เอกชน แค่อยู่คลินิกประกันสังคม ภายในปีเดียวผมก็หาได้แล้ว มันจะคุ้มหรือที่ผมขายข้อมูลตัวเองซึ่งเงินที่ได้มาเป็นเงินที่ผมหาได้ใน 1 ปีเทียบกับชิวิตที่เหลืออยู่อีกหลายสิบปี คิดยังไงก็ไม่คุ้ม  
 
ผมรู้สึกชีวิตผมมันน่าตลก คนเค้าว่าคนที่มาเรียนหมอเป็นคนที่เรียนเก่งอันดับต้นต้นของประเทศ แต่สุดท้าย หมอกลับเป็นอาชีพขาดคุณภาพชีวิตอย่างมาก ทำงานก็หนัก ชีวิตของพวกเราเมื่ออยู่ในสายงานรัฐบาลก็มีแค่พอกิน ไม่ได้อยู่สบายเหมือนกับคนอื่นเค้า พอเกิดเรื่องเราก็ไม่มีโอกาสได้อะไรเลย…งั้นเหรอ  
 
หากรักสบายซักนิด
นึกคิดทำขี้เกียจ
ถึงตอนนี้คงไม่เครียด
ที่กระเดียดมาเป็นหมอ
 
เวลาย้อนกลับไม่ได้
สิี่งที่เปลี่ยนไม่รั้งรอ
หากยังนั่งเพียงวอนขอ
ก็ไม่รูต้องรออีกเท่าใด
 
ชีวิตในวันนี้
โทษใครดีที่เปลี่ยนไป
เพราะเราหรือเพราะใคร
หรือเพราะไซร้ที่เกิดมา
 
ทุกคนมีความทุกข์
แต่ถ้าลุกมารักษา
อย่ายอมแพ้กับชะตา
เพราะว่าข้าคือคนจริง
ส่งโดย: bvm
สถานะ: Newbie *
จำนวนความเห็น: 9  
   
58.8.20.*


« ความเห็นที่ #51 เมื่อ: 07/11/07 เวลา 08:16:43 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ


 
Quote:
เพราะว่าข้าคือคนจริง

 
 

 
 
Cool ขอเป็นกำลังใจให้คนจริงค่ะ    Smiley
 

 
 
ส่งโดย: penny...
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1736  
   
58.9.186.*


« ความเห็นที่ #52 เมื่อ: 07/11/07 เวลา 11:04:52 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ก่อนหน้านี้  หนูแทบจะต้องดรอบเรียนแล้ว  เพียงเพราะ  ได้รับภาระหน้าที่ที่หนักหน่วงคนเดียวไม่ไหว  วันนี้หนูอ่านเรื่องของพี่  หนูละอายใจอย่างบอกไม่ถูก  ยังมีคนที่ปวดร้าวกว่าเรามากมายขนาดนี้  แต่เค้ายังยืนอยู่ได้เลย  แล้วหนูหล่ะ  ประโยชน์อะไรในสังคมก็ยังแทบไม่เคยแตะ  ยังมีหน้ามาอ้อนวอนขอกำลังใจอีก    หนูอยากคุยกับพี่มากค่ะ  ยังไงพี่ช่วยติดต่อหาหนูหน่อยนะค่ะ  พี่  bvm  จะทางเมลล์หรือทางโทรศัพท์ก็ได้  พอดีหนูเรียนทางด้านสื่อ  แล้วหนูคิดว่า  โลกนี้ควรจะได้รับรู้บ้างว่า  หมอที่มีแต่ความเสียสละ  สุดท้ายแล้วกลับเป็นคนที่ต้องทุกข์ทรมาณกับความรู้สึกที่ปวดร้าวแบบนี้  ถ้าพี่ไม่ต้องการจะเปิดเผยตัว  หนูก็ขอรับรองด้วยเกียรติ์ของจรรยาบรรณสื่อมวลชน  จะไม่ทำให้การดำเนินชีวิตในปัจจุบันของพี่ผิดเพี้ยนแต่อย่างใด  หนูแค่ขอโอกาสได้นำเสนอเรื่องราวของชีวิตแพทย์คนนึงที่ต้องมาแบกรับปัญหาชีว ิตอันหนักหน่วงที่เกิดจากการทำงานอย่างหนักเท่านั้นเอง   กรุณาด้วยนะคะ  
 
 
ยังมีคนอีกนับล้านที่พร้อมให้กำลังใจพี่
หนึ่งในนั้นคือหนู
 
 
ติดต่อกลับด้วยนะคะ
 
cavaii_ning@hotmail.com
 
087-8435116
 
ส่งโดย: cavaiining
สถานะ: Newbie *
จำนวนความเห็น: 2  
   
203.155.120.151 fwd for 192.168.64.*


« ความเห็นที่ #53 เมื่อ: 07/11/07 เวลา 11:09:27 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

อยากให้ปาฎิหารย์มีจริง  พี่ bvm  ช่วยให้ฝันของหนูเป็นจริง  
ติดต่อกลับด้วยนะค่ะ
 
 
cavaii_ning@hotmail.com  
 
087-8435116  
ส่งโดย: cavaiining
สถานะ: Newbie *
จำนวนความเห็น: 2  
   
203.155.120.151 fwd for 192.168.64.*


« ความเห็นที่ #54 เมื่อ: 07/11/07 เวลา 13:11:31 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

เป้นกำลังใจให้ครับ ผมก็อายุ 26 ปีเท่าคุณครับ
เคยใส่ tube โดนคนไข้กัดมือเลือดออกเลย...แต่ ไปบริจาคเลือดประจำ ไม่มีปัญหาครับ...เป็นกำลังใจให้ครับ
ส่งโดย: thanthai
สถานะ: Full Member ***
จำนวนความเห็น: 157   Email
   
124.157.247.*


« ความเห็นที่ #55 เมื่อ: 07/11/07 เวลา 13:20:25 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

เป็นกำลังใจให้ด้วยคนค่ะ  สู้ๆ นะคะ
 
ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร แต่คุณค่าของคุณไม่ได้ลดน้อยลงเลยค่ะ
 

"A lie has speed, but truth has endurance."
ส่งโดย: . . Cool DongWook . . female
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 763  
   
202.47.227.*


« ความเห็นที่ #56 เมื่อ: 07/11/07 เวลา 13:35:19 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ


 
อ่านแล้วรู้สึกเห็นใจมากเลยค่ะ ขอเป็นกำลังใจให้พบแสงสว่างในจิตใจ  ชอบทำบุญมั้ยค่ะ  หาวัดที่พระปฏิบัติดีสักแห่ง แล้วลองใช้ธรรมะเป็นที่พึ่ง  อาจทำให้ทุกๆ อย่างดีขึ้นได้ มนุษย์เราเกิดมาก็แค่นี้ มีทุกข์ มีกรรม ไปคนละอย่าง  
 
ไม่มีอะไรเที่ยงแท้แน่นอน  "เกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วดับไป" ชีวิตคนสั้นยาวไม่แน่นอน  ขึ้นกับว่าปัจจุบันที่ยังอยู่ เราทำอะไรบ้างที่จะเป็นความสุขต่อตนเองและคนที่เรารัก และคนที่รักเราหรือยัง(หมายถึงพ่อ-แม่บังเกิดเกล้าของเรา)
 
ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย จงช่วยดลบันดาลให้คุณ bvm ได้พบความปลอดโปร่งในความคิด ได้มีดวงตาเห็นธรรมด้วยเทอญ

.·´¯สั ต ว์ โ ล ก ย่ อ ม เ ป็ น ไ ป ตา ม ก ร ร ม´¯`·.¸><((((º>
ส่งโดย: อนตฺตา female
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 2306  
   
125.25.159.*


« ความเห็นที่ #57 เมื่อ: 07/11/07 เวลา 14:06:28 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ ลบข้อความนี้

ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ  Embarassed
ส่งโดย: _+~* My_All *~+_ Email     125.24.24.*


« ความเห็นที่ #58 เมื่อ: 07/11/07 เวลา 14:30:49 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ถึงน้อง bvm  
อ่านแล้วเศร้ามาก อยากบอกว่าพี่เข้าใจ และเห็นใจเป็นที่สุด
เคยมีประสบการณ์เช่นนี้มาก่อน   และเป็นหมอที่ต้องทำผ่าตัดเป็นประจำ
ไม่เคยหลีกเลี่ยงการผ่าตัดผู้ป่วยที่เป็น case HIV infection
เป็น 1 กำลังใจให้นะค่ะ  ถ้าจะร้องไห้ ร้องให้สุดเสียง ร้องให้พอ       แล้วขออย่าทำร้ายตัวเอง  ยังมีคนอีกมากมายที่เป็นรักเรา และเป็นกำลังใจให้ค่ะ
ส่งโดย: S-Gay
สถานะ: Newbie *
จำนวนความเห็น: 12  
   
125.26.248.*


« ความเห็นที่ #59 เมื่อ: 07/11/07 เวลา 15:22:20 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

เป็นกำลังใจให้นะครับ อย่าท้อถอยนะ สู้ต่อไป
ส่งโดย: aekung
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1079   Email
   
58.10.170.230 fwd for 192.168.0.*


« ความเห็นที่ #60 เมื่อ: 07/11/07 เวลา 15:22:55 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

สู้ๆสู้ตายฮับ
ส่งโดย: aekung
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1079   Email
   
58.10.170.230 fwd for 192.168.0.*


« ความเห็นที่ #61 เมื่อ: 07/11/07 เวลา 15:36:51 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

Cry  น่าเศร้าจัง แต่ก็มีเข็มตำบ่อยตอนผ่าตัด สงสัยต้องตรวจบ้างละ หรือเลิกผ่าตัดดี Tongue
ส่งโดย: dogBA
สถานะ: Newbie *
จำนวนความเห็น: 37  
   
58.147.124.*


« ความเห็นที่ #62 เมื่อ: 07/11/07 เวลา 15:44:33 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ


 
 Smiley
 
ยิ้มให้ก่อน
 
ข้อเขียนของท่านเป็นข้อเขียนที่มีคุณค่ามาก ๆ ขอรับ
 
ผมว่าอย่างน้อยท่านก็ยังเขียนในสิ่งที่หลายคนทำไม่ได้ ขอรับ
 
 
 
 
 
 
 
 
 
ปล.เราจะทำอะไรกับความเสี่ยงพวกนี้ดี เห็นมี incidence กันมากจริง จริง  Undecided
ส่งโดย: okee
สถานะ: Newbie *
จำนวนความเห็น: 0  
   
58.10.27.25 fwd for 192.168.0.*


« ความเห็นที่ #63 เมื่อ: 07/11/07 เวลา 16:26:29 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งจากคนที่เคยมีประสบการณ์กินไม่ได้นอนไม่หลับเป ็นเดือนๆด้วยเรื่องแบบนี้
 
ตอนออกมาเป็นIntern ที่ รพ แห่งหนึ่ง หลังจากที่ไป LP คนไข้ HIV กลับมาล้างมือที่อ่างน้ำ และเช็ดมือ รู้สึกเจ็บแปลบที่นิ้วมือ  ดูแล้วเหมือนแผลมีดบาดสดๆ งงเลยหรือว่ามีมีดปนอยู่ในผ้า หาดูก็ไม่มี ตอนนั้นต้อง F/U เจาะเลือดเป็นระยะๆนาน 6 เดือน  ตอนนี้เลยทำให้เข้าใจสัจจะธรรมในชีวิตอย่างหนึ่ง เกิดมาชาตินี้มีอะไรที่ยังไม่ได้ทำก็จงรีบทำซะ  
 
ตอนนี้เลยตัดสินใจแต่งงานแล้วก้วางแผนที่จะมีลูกในอนาคต
 
โอกาสยังมี ต่อไปต้องมียารักษาได้แน่นอน



แม้ใจจะอ่อนล้า แต่ขาต้องก้าวต่อ เวลาไม่เคยรอใคร

ส่งโดย: makam
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1250  
   
61.7.144.*


« ความเห็นที่ #64 เมื่อ: 07/11/07 เวลา 17:21:00 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

เราไม่กล้าตรวจนะ เพราะกลัวมาก ไม่ได้มั่วนะครับ แต่ไม่ชอบใส่ถุงมือ บางทีโดนCSF  เต็มเลยครับ   เป็นกำลังใจให้ครับ ถ้าอยากฮาๆคุยกะเราได้นะครับ วัยไกล้เคียงกันครับผม ยังไงก็รักนายนะเพื่อน ถึงแม้เราไม่เคยรู้จักกัน
ส่งโดย: aekung
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 1079   Email
   
58.10.170.230 fwd for 192.168.0.*


« ความเห็นที่ #65 เมื่อ: 07/11/07 เวลา 19:01:33 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ ลบข้อความนี้

 
 
 
สู้ สู้ งับ เปงกำลังใจให้งับ   Smiley Smiley Smiley
ส่งโดย: unchi_kun Email     125.26.50.*


« ความเห็นที่ #66 เมื่อ: 07/11/07 เวลา 19:44:03 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ ลบข้อความนี้

Cry Cry Cry
 
เคยโดนเข็มตำเหมือนกันค่ะ
 
จนต้องมาคุยกับหลายๆคนที่นี่หลายครั้ง
 
 
เข้าใจความรู้สึกมากมาย
 
 
มาอยู่เป็นเพื่อนคะ
 
ส่งโดย: Norah Jones Email     125.25.245.*


« ความเห็นที่ #67 เมื่อ: 07/11/07 เวลา 21:20:17 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ขอแสดงความเห็นใจน้องอย่างที่สุด  ผมเองก็ยังกังวลว่าจะมีปัญหาบ้างหรือเปล่า ?   ชีวิตหมอเรานั้นมีโอกาสเสี่ยงอยู่บ่อยๆ โดยเฉพาะคนที่อยู่ใน field ที่ต้องผ่าตัดหรือทำหัตถการ  บอกตามตรงว่าผมเองไม่กล้าเจาะเลือดตรวจ ( กลัวความจริง )   โดยเฉพาะคนไข้ส่วนใหญ่ที่นำไปผ่าตัดไม่ได้ส่งตรวจ anti HIV ไม่ทราบว่าทำผิดหรือเปล่า ?   แต่ถ้าวันหนึ่งเกิด HIV +VE  จริงๆคงคิดอะไรไม่ออก   Sad   หรืออาจหาโอกาสไปปฏิบัติธรรมที่วัดบ่อยๆ เผื่อผลบุญจะช่วยผ่อนกรรมให้เบาบางลงได้  และอาจเห็นทางออกให้กับชีวิตได้มากขึ้น
ส่งโดย: sitkao
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 613  
   
125.27.122.*


« ความเห็นที่ #68 เมื่อ: 07/11/07 เวลา 21:21:56 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

จะเป็นกำลังใจให้นะ
 
ขอให้พยายามสู้ๆต่อไป
 
สิ่งที่เราจะชนะได้คือชนะความรู้สึกกดดันจากภายในตัวเอง
 
เด๋วนี้วิทยาการเริ่มรุดหน้าไปเร็วมาก
 
นู๋ว่าอีกไม่นานวัคซีนที่ใช้ในการรักษาเอดส์ได้อย่างมีประสิทธิภาพคงออกมาอย ่างเป็นรูปเป็นร่างแน่ๆ
 
ที่สำคัญคือตอนนี้นู๋อยากให้รักษาสุขภาพตัวเองให้ดีๆนะ
 
จิตใจเราด้วยเช่นกันนะ
 
อย่าลืมนะ จิตใจที่เข้มแข็ง จะส่งผลให้ร่างกายของเราเข้มแข็งตามมา
 
สู้ๆนะ



ส่งโดย: โจรสาวถอดกาว์นแล้วว female
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 2655  
   
58.8.120.*


« ความเห็นที่ #69 เมื่อ: 07/11/07 เวลา 22:27:11 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ ลบข้อความนี้

ด้วยความเห็นใจอย่างสุดซึ้งครับ  ผมยังทำงานเสี่ยงเช่นเดียวกับทุกคนครับ  น้องอย่ายอมแพ้นะครับ
ส่งโดย: น้องป๋อง Email     125.24.73.*


« ความเห็นที่ #70 เมื่อ: 07/11/07 เวลา 23:20:22 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ


3 อาทิตย์ผ่านไป สภาพจิตใจของผมดีขึ้นตามลำดับ ถึงแม้ว่ายังไม่เหมือนเดิมนัก แต่ว่าอย่างน้อยผมก็รูว่าผมยังมีคนเป็นห่วงและให้กำลังใจอยู่อีกมาก ที่สำคัญวันนี้เป็นวันศุกร์ วันหยุดเสาร์อาทิตย์ก็ไม่มีเวร ผมจะได้กลับบ้านซักที เผื่อว่าอะไรจะดีขึ้น
 
ผมไม่ได้กลับบ้านมาซัก 2 เดือนแล้ว พ่อแม่ผมดีใจที่วันนี้ผมจะกลับและอยู่กับที่บ้านในวันหยุด แต่การกลับบ้านครั้งนี้ของผมไม่เหมือนทุกครั้ง ผมวางแผนที่จะบอกข่าวร้ายที่สุดให้กับคนที่ผมรักที่สุดซึ่งก็คือพ่อแม่ของผม  ตลอดทางระหว่างผมขับรถกลับกรุงเทพ ผมคิดหาวิธีที่ดีที่สุดที่จะบอกโดยที่เจ็บน้อยที่สุด แต่ก็คิดไม่ออก เพราะว่าเรื่องของผมมันไม่ใช่เรื่องที่จะยอมรับกันได้ง่ายๆ ผมไมอยากให้พ่อแม่เป็นเหมือนกับที่ผมที่รู้ข่าวในช่วงแรก
 
คืนวันเสาร์ ผม พ่อแม่ และน้องน้อง นัดกันไปกินข้าวเย็นด้วยกัน ถึงแม้ว่าเราจะไม่ค่อยได้เจอกันบ่อยนัก แต่ครอบครัวของผมก็ยังเป็นครอบครัวที่อบอุ่น มีความสมัครสมานสามัคคีกันดี ผมทำตัวเหมือนทุกอย่างเป็นปกติ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เราคุยกันหยอกล้ออย่างเคย ทุกคนต่างเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงเดือนที่ไม่ค่อยได้เจอกัน  แม่ถามผมว่า ทำงานเหนื่อยมั้ย คนไข้เยอะหรือเปล่า อย่ามัวแต่หาเงินนะ กลับมาบ้านบ้างก็ได้ ผมยิ้มกลับให้แม่ แต่หัวเราะไม่ออก คำถามของแม่มันช่างเจ็บปวดเหมือนกับจะบังคับให้ผมบอกข่าวร้ายตรงนัน ภายในตาทั้งสองมีน้ำตาเอ่อรอล้นออกมา ผมตอบแม่ว่า ผมสัญญา เพราะต่อไปนี้ผมคงไม่ทำงานหนักอีกแล้ว แม่ฟังผมแต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร
 
เมื่อกลับถึงบ้าน คืนวันอันแสนสุขได้ผ่านไป ความจริงที่กำลังจะปรากฎต่อหน้าพ่อแม่ผมไม่แน่ใจว่าท่านจะรับไหวหรือไม่ ผมสัญญากับพี่เนศแล้วว่าผมจะบอกเมื่อผมพร้อม เพราะว่าพ่อแม่ก็คงมีอาการเหมือนกับผมในช่วงแรกที่ทราบข่าว ผมจำเป็นต้องมีสติและเป็นผู้คุมสถานการณ์ให้ได้ ผมพร้อมแล้ว ผมบอกตัวเองว่าผมพร้อมแล้ว วันนี้เราจะเผชิญหน้ากับความจริง
 
ผมเดินเข้าไปในห้องนอนของพ่อแม่ กดล็อกประตู นั่งบนเก้าอี้ในห้อง ทำหน้าตาจริงจังเล่าเรื่องในอดีตที่เกิดขึ้นอย่างเป็นขั้นตอน พ่อแม่ผมเริ่มสีหน้าไม่ดีเพราะรู้ว่าน่าจะมีเรื่องร้ายเกิดขึ้น “ผมติดเชื้อ HIV” ผมบอกพ่อแม่เป็นประโยคสุดท้ายว่าผมติดเชื้อ HIV ในตอนนั้นแม่ผมล้มลงไปคุกเข่ากับพื้น ร้องไห้และสับสนมากในเรื่องราวที่เกิดขึ้น พ่อผมยืนนิ่ง ตกใจไม่รู้จะพูดอะไรต่อ ผมก้มลงไปประคองแม่ของผมขึ้นมาจากพื้น แต่แม่กุมมือผมแน่นทั้งสองข้าง โอบกอดรัดตัวผมแนบสนิท เหมือนกลัวว่าใครจะพรากของที่รักที่สุดไป “แม่ขอโทษลูก แม่ขอโทษ แม่ไม่ได้ตั้งใจที่บังคับขู่เข็ญให้เรียนหนังสือ แม่เพียงหวังจะให้ลูกได้ดีเมื่อโตขึ้น แม่ไม่ได้ตั้งใจให้เรื่องนี้เกิดกับลูก แม่ขอโทษ” แม่ผมพูดแล้วร้องไห้ไม่หยุด ผมไม่เคยเห็นแม่ร้องไห้มากขนาดนี้มาก่อน แม่คิดว่าผมกำลังจะตาย แม่ผมคิดอย่างนั้น ผมค่อยๆอธิบายเรื่องราวของโรคนี้ทั้งหมดให้แม่ฟัง แม่สนใจมาก ถามทุกประเด็นที่ท่านสงสัย แม่ถามผมว่าลูกจะลาออกไหม กิจการที่บ้านมันมากพอที่ผมจะไม่ต้องเหนื่อยอีกเลยตลอดชีวิต ผมไม่รู้หรอก ผมคิดไม่ออก ผมไม่กล้าตัดสินใจ
 
สุดท้ายผมก็ได้ทำบาปครั้งใหญ่่คือสร้างความทุกข์อย่างใหญ่หลวงให้กับพ่อแม่ คืนนั้นแม่ผมนอนร้องไห้ทั้งคืน ผมเสียใจกับเรื่องร้ายๆที่ผ่านมาในชีวิตผมและครอบครัว แต่ผมก็ดีใจเพราะอย่างน้อยตอนนี้ผมก็มีเพื่อนมาเดินอยู่ข้างๆผมอีกสองคนแล้ว  
 
คืนวันอาทิตย์ ผมเก็บของเตรียมกลับไปต่างจังหวัดเหมือนเคย แม่เดินเข้ามาพูดคุยกับผมตลอด ผมจำได้ดีว่าคำพูดทุกคำของแม่ที่พูดกับผมตอนนั้นมันกลั่นออกมาจากความห่วงใย ที่สุดที่คนคนหนึ่งจะให้กับคนคนหนึ่งได้ แม่เป็นห่วงผมในทุกเรื่อง แม่ถามทุกคำถามที่แม่นึกออก ผมหัวเราะให้แม่ ผมหัวเราะครั้งแรกของผมให้กับแม่ ผมรู้สึกเหมือนผมกลับมาเป็นเด็กอีกครั้ง
 
ผมกลับไปทำงานตามปกติ ตอนนี้ผมดีขึ้นมาก ผมบอกทุกคนที่ควรจะรู้จนครบแล้ว รู้สึกเหมือนหน้าที่ผมลุล่วงไปด้วยดี วันนี้ผมมีกำลังใจมากขึ้นกว่าทุกวัน ตอนนี้ก็เหลือเพียงเรื่องของผมที่พร้อมจะเดินต่อไปหรือไม่เท่านั้น  
 
แต่เรื่องของผมนี่แหละที่เป็นปัญหา ผมได้รับการตอบรับเพื่อเป็น resident ศัลยกรรมของโรงเรียนแพทย์แห่งหนึ่ง พี่ที่แผนกธุรการโทรมาทวงเอกสารที่ผมยังส่งไม่ครบ เพราะว่าถ้าเกินกำหนดนั่นแปลว่าผมสละสิทธิ์ เรื่องนี้มันเป็นปัญหาใหม่ให้ผมจริงๆ คำถามคือศัลยแพทย์ที่ติดเชื้อทำผ่าตัดได้หรือเปล่า ผมสับสน ไม่กล้าตัดสินใจ ผมนอนคิดอยู่ทั้งคืน ผมอยากเรียนศัลย์ แต่ไม่รู้ว่ามัน fair กับคนไข้หรือเปล่าHuh
 
วันรุ่งข้นผมเดินไปหาพี่เนศและพี่ปก ผมถามคำถามนี้กับพี่ๆ โดยหวังว่าผู้ใหญ่น่าจะมองในกรอบที่กว้างกว่าเด็ก พี่เค้าตอบว่ามองเผินๆอาจจะใช่ แต่พี่ว่าไม่ เพราะเวลาเราผ่าตัดเข็มเราจะเลอะเลือดคนไข้ตลอด เวลาพลาดโดนเข็มตำ เลือดของคนไข้ก็จะมาเปื้อนเราทำให้เราติดเชื้อ แต่ในทางกลับกันถ้าเข็มเปื้อนเลือดเราเมื่อไร เราคงเปลี่ยนเข็มนั้นเพราะมัน contaminated ไปแล้ว เราคงไม่เอาเข็มที่เปื้อนเลือดเราไปเย็บต่อ ส่วนในกรณีที่ว่ากลัวเลือดหยดลง field คงไม่น่าเป็นไปได้ เพราะเราคงไม่ได้ใช้กรรไกรหรือมีดมาตัดนิ้วเรา เลือดถึงมากพอที่จะตกลงไปได้ ผมคิดดูมันก็จริง แต่คนไข้จะยอมรับเหรอ ไม่มั้ง ผมว่าไม่ ใครจะยอมให้หมอที่ติดเชื้อมาผ่าตัด  
 
อนาคตของผมมันผันแปรไปเป็นเพราะผมอยากเป็นหมอผ่าตัด ผมก็ไม่รู้ว่าผมเป็นอะไร ทั้งที่รู้ว่าวันนี้ชีวิตผมเปลี่ยนไปในทางตรงข้ามเพราะว่าเข็ม 1 เข็มกับเลือด 0.01 ccนั้น แต่ผมก็ยังดื้อด้านกลับไปหาสิ่งนั้น ผมถามตัวเองว่าผมทำไปเพื่ออะไร คุ้มจริงจริงเหรอที่จะกลับไปเรียนหนัก ทำงานหนัก ศัลยกรรมมันเหนื่อยนะ มันจะทำให้ขีวิตมันแย่ลงหรือเปล่า ตอนนี้เราไม่ใช่คนธรรมดาแล้ว เราจะมาคิดแบบเดิมไม่ได้ แต่ไม่ใช่ ใจผมตอบว่าไม่ใช่ ตัวผมเปลี่ยนไป แต่ใจยังรักเหมือนเดิม ผมยังอยากเป็นหมอศัลยกรรม ผมว่าตัวผมมีคุณค่า ผมคิดว่าชีวิตในอนาคตของผมจะไม่อยู่อย่างคนขลาด อยู่อย่างเจียมตัวว่าเป็นคนป่วยแล้วไม่คิดทำอะไร ผมเกิดมาพร้อมกับศักยภาพที่มาพร้อมกับผม ผลเลือดที่เปลี่ยนไปไม่ได้ทำให้ชีวิตผมจบลง ผมไม่ยอมแพ้เข็ม 1 เข็มกับเลือด 0.01 cc ในคืนนั้นแน่ ชีวิตที่เกิดมาตั้ง 20 กว่าปียังไงก็จะไม่เปลี่ยนแปลงเพราะเหตุการณ์ในช่วงวินาทีเดียว ไม่มีทาง
 
 
ลุกขึ้น  ยืนหยัด  กัดฟันสู้
กลับมองดู ความฝัน ครั้งหลัง
วันนี้  วันใหม่  ผมมีพลัง
ไม่มีใคร  มารั้ง ผมต่อไป
 
ไปข้างหน้า  เจ็บขา  ได้บางคร้ง
เหนื่อยก็นั่ง   พักใจก่อน  ให้สดใส
พรุ่งนี้มา  เราสู้ใหม่  ไม่อ่อนใจ
ไม่ยอมให้ สิ่งไหน  มาทำลาย
 
ยิ้มหัวเราะ  ต่ออุปสรรค  ที่เกิดขึ้น
เพราะว่ามึง  จะไม่เกิด   เป็นซ้ำสอง
ความสำเร็จ ในวันหน้า จะมากอง
เหล่าเพื่อนพ้อง ร่วมสรรเสริญ ในโชคชัย
ส่งโดย: bvm
สถานะ: Newbie *
จำนวนความเห็น: 9  
   
161.200.255.*


« ความเห็นที่ #71 เมื่อ: 07/11/07 เวลา 23:36:40 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ ลบข้อความนี้

เขียนด้ดีจังน่าจะเขียนเป็นหนังสือนะคะ
ส่งโดย: Norah Jones Email     125.25.164.*


« ความเห็นที่ #72 เมื่อ: 07/12/07 เวลา 04:13:59 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

มาร่วมให้กำลังใจครับ Roll Eyes
 
 
โลกการแพทย์ก้าวหน้าไปมากครับ และจะก้าวต่อไปอย่างไม่หยุด
 
ด้วยยาใหม่ๆที่มีตอนนี้ไม่น่ากลัวและรุนแรงเหมือนห้าปีก่อน  
 
และอาจจะไม่น่ากลัวเลย เมื่อค้นพบยาที่รักษาได้ในอนาคต
 
แต่น้องต้องมีกำลังใจและดูแลสุขภาพตัวเองดีๆ Wink
 
น้องมีคุณค่าเสมอสำหรับคนที่รักและห่วงใย  
 
สิ่งที่น้องจะทำในอนาคต ยังมีค่าต่อคนไข้อีกมาก
 
 
ขอบคุณครับ สำหรับเรื่องเล่าที่มีคุณค่าแก่ทุกคน Wink Cheesy Cheesy
ส่งโดย: KC_1
สถานะ: Newbie *
จำนวนความเห็น: 0  
   
82.35.70.*


« ความเห็นที่ #73 เมื่อ: 07/12/07 เวลา 14:52:24 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

คุณหมอ  BVM  ช่วยติดต่อผมหน่อยสิครับ
 
ทางแพทยสภา  อยากให้ความช่วยเหลือครับ
 
อ.สมศักดิ์ โลห์เลขา  อยากคุยด้วยเป็นการส่วนตัวครับ
 
ยังไง  ฝาก mail หาผมหน่อย หรือ message มาก็ได้ครับ
ส่งโดย: Dr.OU male
สถานะ: Administrator *****
จำนวนความเห็น: 5048 4329906 4329906   WWW Email
   
58.8.139.*


« ความเห็นที่ #74 เมื่อ: 07/12/07 เวลา 14:53:10 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

mailมาที่ webmaster@thaiclnic.com  ก็ได้ครับ
ส่งโดย: Dr.OU male
สถานะ: Administrator *****
จำนวนความเห็น: 5048 4329906 4329906   WWW Email
   
58.8.139.*


« ความเห็นที่ #75 เมื่อ: 07/12/07 เวลา 15:11:45 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจค่ะ  อย่ายอมแพ้นะคะ Smiley

เพราะรัก....ทำให้เราเห็น
คนหน้าตาประหลาด
กลายเป็นน่ารัก ^^

ส่งโดย: cedar
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 635  
   
124.121.73.*


« ความเห็นที่ #76 เมื่อ: 07/12/07 เวลา 15:44:17 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

รออ่านจากวันนั้นจนถึงปัจจุบันนี้ คุณหมอมีกำลังใจที่ดีมากค่ะ คุณหมอลองย้อนกลับมาดูนะคะ ในห้องนี้มีไมตรีต่อคุณหมออย่างเต็มเปี่ยม ที่แสดงออกอย่างจริงใจ รวมถึงพร้อมที่จะช่วยเหลือทุกคน ตอนนี้คุณหมอไม่ต้องเหงา ท้อแท้แล้วค่ะ เราที่นี่ทุกคนพร้อมให้กำลังใจและช่วยเหลือ ค่ะ Wink
ส่งโดย: destiny female
สถานะ: Newbie *
จำนวนความเห็น: 37  
   
125.24.155.*


« ความเห็นที่ #77 เมื่อ: 07/12/07 เวลา 15:57:26 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

มาเป็นกำลังใจให้อีกครั้ง   Cheesy
 
คิดว่าจิตใจคงจะดีขึ้นมากแล้วนะคะ  Cheesy

.·´¯สั ต ว์ โ ล ก ย่ อ ม เ ป็ น ไ ป ตา ม ก ร ร ม´¯`·.¸><((((º>
ส่งโดย: อนตฺตา female
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 2306  
   
125.25.187.*


« ความเห็นที่ #78 เมื่อ: 07/12/07 เวลา 17:54:12 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

รออ่านอยู่ตลอดค่ะ
พี่ BVM เขียนได้ดีมากๆ
 
ขอเป็นกำลังใจให้อีกคนนะคะ
ชื่นชมในความเป็นแพทย์ของพี่จริงๆ ค่ะ
ส่งโดย: pinkiebobo
สถานะ: Junior Member **
จำนวนความเห็น: 96  
   
202.91.19.*


« ความเห็นที่ #79 เมื่อ: 07/12/07 เวลา 17:58:10 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

เข้ามาให้กำลังใจ...ครับ
ส่งโดย: Niwach male
สถานะ: Newbie *
จำนวนความเห็น: 22  
   
203.113.0.*


Page(s) : 1 2 3  ...  5


แจ้งลบกระทู้ แจ้งเมื่อมีคนตอบกระทู้นี้ แนะนำกระทู้นี้ Print



Reply this Topic reserved for registed member only. Register



  • ข้อความและรูปภาพที่ท่านเห็นส่วนใหญ่ ได้ถูกส่งมาจาก ทางบ้าน
    ทางเว็บไซต์ Thaiclinic.com ไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ของข้อความและรูปภาพที่ถูกส่งมา

  • ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชนและส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ
    เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้นเพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง
    ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง

  • ถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมหรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล
    หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ webmaster@thaiclinic.com หรือ กดแจ้งที่ปุ่ม
    "แจ้งลบกระทู้"
    เพื่อให้ทีมงานทราบและทำการลบข้อความนั้นออกจากระบบต่อไป ขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกันทำให้สังคมน่าอยู่ครับ

ThaiClinic.Com . All Rights Reserved. !--BEGIN WEB STAT CODE-->

Powered by