« เมื่อ: 07/21/23 เวลา 13:49:01 » |
|
ผลสำรวจแพทย์กว่า 15,000 คน ใน 11 ประเทศ เผยให้เห็นว่าจำเป็นต้องมีการให้ความรู้เพิ่มเติม มูลนิธิเพื่อโลกปลอดควันบุหรี่เชิญชวนให้นักวิจัยร่วมนำเสนอโครงการเพื่อวิเ คราะห์ผลสำรวจแพทย์และให้ความรู้ใหม่ ๆ โดยเฉลี่ยแล้ว แพทย์เกือบ 77% เข้าใจผิดว่านิโคตินก่อให้เกิดมะเร็งปอด ขณะที่แพทย์ 78% เชื่อว่านิโคตินก่อให้เกิดภาวะหลอดเลือดแดงแข็ง โดยเฉลี่ยแล้ว แพทย์ 87% เห็นด้วยว่าการช่วยให้ผู้ป่วยเลิกบุหรี่เป็นสิ่งสำคัญ แต่การขาดการฝึกอบรมและความรู้เรื่องนิโคตินส่งผลเสียต่อการให้คำแนะนำในการ เลิกบุหรี่และการลดอันตรายจากยาสูบ โดยเฉลี่ยแล้ว แพทย์กว่า 80% สนใจเข้ารับการฝึกอบรมเกี่ยวกับการให้คำแนะนำในการเลิกบุหรี่และการลดอันตรา ยจากยาสูบ แพทย์จำนวนมากทั่วโลกยังเข้าใจผิดว่านิโคตินที่ได้รับจากการสูบบุหรี่เป็นสา เหตุที่ทำให้สุขภาพย่ำแย่ ซึ่งความเข้าใจผิดนี้ขัดขวางความก้าวหน้าในการช่วยให้นักสูบเลิกบุหรี่ โดยผลการค้นพบดังกล่าวมาจากการสำรวจที่ได้รับทุนสนับสนุนจากมูลนิธิเพื่อโลก ปลอดควันบุหรี่ (Foundation for a Smoke-Free World) เซอร์โม (Sermo) แพลตฟอร์มโซเชียลเน็ตเวิร์กซึ่งให้ข้อมูลเชิงลึกที่เป็นประโยชน์สำหรับบุคลา กรทางการแพทย์ ได้ทำการสำรวจออนไลน์แพทย์กว่า 15,000 คน ใน 11 ประเทศ (จีน เยอรมนี กรีซ อินเดีย อินโดนีเซีย อิสราเอล อิตาลี ญี่ปุ่น แอฟริกาใต้ สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา) ผลปรากฏว่า โดยเฉลี่ยแล้ว แพทย์ 87% เห็นด้วยว่าการช่วยให้ผู้ป่วยเลิกบุหรี่เป็นสิ่งสำคัญ แต่ก็เป็นที่น่ากังวลว่าแพทย์ราว 74% ยังเข้าใจผิดว่านิโคตินก่อให้เกิดโรคต่าง ๆ เช่น โรคมะเร็งปอดและโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง ผลสำรวจดังกล่าวก่อให้เกิดความกังวลอย่างมากว่าแพทย์อาจไม่สามารถให้คำแนะนำ ที่ถูกต้องและมีประสิทธิภาพในการเลิกบุหรี่ โดยความเข้าใจผิดนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจน เพราะมีแพทย์เพียงครึ่งหนึ่ง (โดยเฉลี่ย 55%) ที่แนะนำให้ใช้นิโคตินทดแทนเพื่อช่วยให้ผู้ป่วยลดหรือเลิกบุหรี่ "แพทย์จำเป็นที่จะต้องได้รับการฝึกอบรมอย่างเหมาะสมเพื่อเรียนรู้ข้อเท็จจริ งเกี่ยวกับนิโคตินและทางเลือกในการลดอันตรายจากยาสูบ เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยเลิกบุหรี่ได้" ดร.มูฮัมหมัด อาเหม็ด (Muhammad Ahmed) ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยทางวิทยาศาสตร์และสุขภาพ มูลนิธิเพื่อโลกปลอดควันบุหรี่ กล่าว "ทุกปีมีนักสูบมากกว่า 7 ล้านคนทั่วโลกที่กำลังจะเสียชีวิตจากโรคที่เกี่ยวข้องกับการสูบบุหรี่ ทั้งที่เราสามารถรักษาชีวิตผู้ป่วยจำนวนมากได้หากแพทย์มีความรู้มากขึ้นเกี่ ยวกับวิธีการเลิกบุหรี่ที่มีอยู่" ดร.เจด โรส (Jed Rose) ประธานและซีอีโอศูนย์วิจัยโรส (Rose Research Center หรือ RRC) และผู้ร่วมคิดค้นแผ่นแปะนิโคติน กล่าวว่า "ผู้ป่วยไปพบแพทย์เพราะต้องการคำแนะนำด้านสุขภาพที่เชื่อถือได้ ดังนั้น แพทย์จำเป็นต้องให้คำแนะนำที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบันเกี่ยวกับความเสี่ยงต่อ สุขภาพของการสูบบุหรี่เมื่อเทียบกับการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ให้นิโคตินแต่ไม่มีกา รเผาไหม้" ศูนย์วิจัยโรสตั้งอยู่ในเมืองราลี รัฐนอร์ทแคโรไลนา โดยมีความเชี่ยวชาญด้านการวิจัยการติดบุหรี่ ซึ่งครอบคลุมถึงการวิจัยเกี่ยวกับผู้สูบบุหรี่ การเสพติด การเลิกบุหรี่ การลดอันตรายจากยาสูบ และการใช้ผลิตภัณฑ์ยาสูบอื่น ๆ โดยศูนย์วิจัยโรสเป็นองค์กรหนึ่งที่ได้รับทุนสนับสนุนจากมูลนิธิเพื่อโลกปลอ ดควันบุหรี่ แม้ว่าแวดวงสุขภาพจะมีความเห็นแทบเป็นเอกฉันท์ว่า การเผาไหม้ของบุหรี่ก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพมากกว่านิโคติน แต่การสำรวจความคิดเห็นของแพทย์กลับเผยให้เห็นว่า โดยเฉลี่ยแล้ว แพทย์ 74% เห็นด้วยในระดับปานกลางขึ้นไปว่า นิโคตินก่อให้เกิดมะเร็งปอด มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ และมะเร็งศีรษะ/คอ/กระเพาะอาหาร ในสหรัฐอเมริกา ตัวเลขอยู่ที่ 70% ในเยอรมนี ตัวเลขอยู่ที่ 78% ในจีน ตัวเลขอยู่ที่ 86% ในญี่ปุ่น ตัวเลขอยู่ที่ 85% โดยเฉลี่ยแล้ว แพทย์ 78% เห็นด้วยในระดับปานกลางขึ้นไปว่า ภาวะหลอดเลือดแดงแข็งมีสาเหตุมาจากนิโคติน โดยเฉลี่ยแล้ว แพทย์ 76% เห็นด้วยในระดับปานกลางขึ้นไปว่า โรคปอดอุดกั้นเรื้อรังมีสาเหตุมาจากนิโคติน แม้ว่าความเข้าใจผิดเหล่านี้จะน่ากังวลใจ แต่โดยเฉลี่ยแล้ว แพทย์ 81% ที่ตอบแบบสำรวจก็แสดงความสนใจในระดับปานกลางขึ้นไปที่จะเข้ารับการฝึกอบรมเก ี่ยวกับการเลิกบุหรี่และการลดอันตรายจากยาสูบ ผลสำรวจซึ่งจัดทำขึ้นในปี 2565 ยังเผยให้เห็นด้วยว่า แพทย์มักพูดคุยกับผู้ป่วยเรื่องประโยชน์ต่อสุขภาพของการลดหรือเลิกบุหรี่ (โดยเฉลี่ย 73% ทั่วโลก) และความเสี่ยงต่อสุขภาพหากยังสูบบุหรี่ต่อไป (โดยเฉลี่ย 73% ทั่วโลก) แต่มีแพทย์เพียงครึ่งหนึ่ง (โดยเฉลี่ย 56% ทั่วโลก) ที่แนะนำให้ลดปริมาณยาสูบที่มีการเผาไหม้ และมีแพทย์ไม่ถึงครึ่ง (โดยเฉลี่ย 48% ทั่วโลก) ที่ช่วยผู้ป่วยวางแผนเลิกบุหรี่ อ่านข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับเต็มได้ที่ https://www.thaipr.net/health/3361478
|
|