Topic Summary
|
จากคุณ: Poppap.ry |
โพสเมื่อวันที่: 07/02/15 เวลา 10:21:50 |
ตอนนี้หนูมีอาการปวดตาทางด้านซ้าย (บริเวณลูกตาส่วนเปลือกตาด้านซ้ายใต้คิ้วนิดหน่อยค่ะ หนูไม่แน่ใจว่าเรียกว่ากระบอกตาหรือไม่ค่ะ) โดยจะมีอาการเคืองและปวดเมื่อกระพริบตาและจะปวดมากเมื่อหยีตา และมีขี้ตาออกมาเป็นสีเหลืองเกือบตลอดเวลา บางทีจะเห็นเป็นเหมือนฝ้า แต่พอกระพริบตาแล้วแล้วจะหายไป และรู้สึกจะมีอาการดังกล่าวมากขึ้นในเวลาเย็น หลังจากหนูเลิกงานแล้ว (หนูทำงานหน้าคอมฯตลอดเวลา) ตอนนี้มีอาการปวดที่กรามด้านซ้ายร่วมด้วย แต่ยังไม่แน่ใจว่าเป็นผลมาจากการปวดตาหรือไม่อะค่ะ เบื้องต้น เมื่อสองอาทิตย์ (วันอังคาร) ก่อน หนูเป็นโรคตาแดง โดยเป็นเริ่มจากทางด้านขวา และอีก 2-3 วันต่อมาก็มาเป็นทางด้านซ้าย (ได้ยา Tobadex และ cholape หนูไม่น่ใจว่าพิมพ์ชื่อยาถูกไหมนะค้ะ ) และเมื่อเป็นมาได้สักพักก็เริ่มมีอาการปวดลูกตา และเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา (วันเสาร์) หนูได้ไปหาหมออีกทีเนื่องด้วยอาการปวดตา ทางคุณหมอแจงว่า เยื่อบุตาอักเสบ จึงให้น้ำตาเทียมมาหยอดตามาใช้ค่ะ แต่อาการก็ยังไม่ดีขึ้น โดยทางเภสัชให้หยอดทุก 2 ชม. แต่รู้สึกว่าหยอดแล้วตามันแห้งกว่าเดิมค่ะ หนูเลยอยากทราบว่า อาการข้างต้นนี้ 1. สามารถหายได้ด้วยการหยอดน้ำตาเทียมดังเดิม หรือมีวิธีอื่นคะ หและหนูควรเข้าไปให้คุณหมอตรวจดูอาการอีกครั้งไหมคะ 2. อาการข้างต้นนี้ถือว่าอันตรายไหมค้ะ และพอระบุได้ไหมคะว่า เป็นอาการอะไร
|
จากคุณ: ตาน้ำ |
โพสเมื่อวันที่: 07/04/15 เวลา 19:16:49 |
อาการตาแดงช่วงแรกน่าจะเป็นจากไวรัสตาแดง พวกนี้จะเป็นอยู่ราว 1-2 สัปดาห์แล้วแต่ภูมิต้านทานในแต่ละคน แต่เชื้อนี้อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนคือกระจกตาอักเสบตามมาได้ อาการจะเหมือนมีขยะอยู่ในตา หรือรู้สึกพร่ามัวเนื่องจากจะมีจุดฝ้าสีขาวที่กระจกตา ถ้ามีกระจกอักเสบร่วมด้วย อาจใช้เวลาไม่กี่สัปดาห์ หรืออาจเป็นปีกว่ากระจกตาอักเสบจะหาย แต่โดยมากจะเป็นนานไม่เกิน 3-4 เดือน มีน้อยรายที่อาจเป็นถึง 2 ปี ต้องพบจักษุแพทย์คนเดิมซ้ำ ไม่ควรเปลี่ยนแพทย์ใหม่เพราะอาจต้องเริ่มต้นใหม่หมด อันนี้เป็นการคาดเดาจากประวัตินะครับ ลองหาใน google เรื่อง Epidemokeratoconjunctivitis (EKC)
|
จากคุณ: watbote |
โพสเมื่อวันที่: 07/28/23 เวลา 18:08:22 |
|