Topic Summary
|
จากคุณ: eyefloater |
โพสเมื่อวันที่: 03/03/15 เวลา 11:00:42 |
คือ... ตอนนี้ผมเป็นโรควุ้นในตาเสื่อมครับ ผมมีอายุเพียงแค่ 28 เท่านั้นเอง แถมสายตาก็ปกติ และไม่เคยได้รับอุบัติเหตุทางสายตาด้วย ซึ่งผมเป็นที่ตาข้างขวา 2 จุด และมีหยากไย่เส้นยาวมาก 1 เส้น และเส้นสั้นใสๆ 1 เส้น ส่วนตาข้างซ้ายนี่มีหยากไย่เส้นยาวๆ เยอะมากเกี่ยวกันไปมาจนนับไม่ได้ ตอนนี้เครียดมากๆ จนรู้สึกว่าชีวิตหมดความสุขไปเลย บางครั้งอยากฆ่าตัวตายไปให้จบๆ ไปเลย จะได้ไม่ต้องตื่นมากังวลซ้ำๆ ซากๆ อีก เพราะมีวุ้นในทั้งตาซ้ายและขวา ทั้งแบบหยากไย่และแบบจุด แต่ข้างละข้างก็มีหลายจุด และส่วนที่มีลักษณะเป็นหยากไย่ก็ยาวมากๆ จนทุกวันนี้เป็นโรคกลัวแสงสว่าง กลัวที่กลางแจ้ง ไม่กล้ามองท้องฟ้า (ทั้งๆ ที่มีอาชีพเป็นครูต้องคุมแถวนักเรียนตอนเช้าของทุกวันด้วย ยิ่งเห็นวุ้นในตาเสื่อมชัดก็ยิ่งเครียด) ไม่อยากทำงานที่ต้องใช้คอมพิวเตอร์ ไม่กล้าวิ่งเพราะกลัวเซลล์ที่เสื่อมมันจะหลุดออกมาอีก ผมสงสัยว่าโรควุ้นในตาเสื่อม เป็นสาเหตุของการที่ทำให้ประสาทตาฉีกขาดได้ ซึ่งเป็นเรื่องร้ายแรงเลยทีเดียว แต่ทางการแพทย์ไม่คิดวิธีรักษาแบบตัดไฟตั้งแต่ต้นลม คือการทำลายวุ้นที่เสื่อมออกมาซะก่อนที่มันจะไปทำร้ายประสาทตา ตอนนี้ผมเครียดมากๆ ไม่มีกะจิตกะใจทำอะไรเลย เว็บไซต์ที่เกี่ยวกับโรคนี้ใน Google ผมได้เปิดอ่านมันทุกเว็บแล้ว แต่ยิ่งเปิดก็ยิ่งกังวลใจ จนทำอะไรไม่ถูกแล้ว สะดุ้งตื่นมากลางคืนก็ร้องไห้มันทุกคืน ตื่นเช้ามาก็ไม่อยากจะเจอแสงแดดเลย ผมไม่อยากเป็นแบบนี้ ทั้งๆ ที่มีอายุเพียงแค่นี้เอง จนอารมณ์ตอนนี้อยากตายๆ ไปซะให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย ไปหาหมอที่เก่งที่สุดในจังหวัด เสียค่าตรวจก็แพง แต่หมอก็ทำเป็นเหมือนว่าไม่มีอะไรผิดปกติ แค่วุ้นในตาเสื่อม แถมให้คำปรึกษาแบบให้มันเสร็จๆ ไป เพื่อจะตรวจคนไข้รายอื่น เค้าไม่รู้หรอกว่าผมวิตกกังวลและเครียดแค่ไหน ผมจะทำยังไงดีครับ ผมได้ข้อมูลมาว่ามันจะไม่หายไปจากตา และจะมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ด้วย ผมคงทำใจรับวันนั้นไม่ได้ ผมย้ำคิดย้ำทำกับการคิดถึงวันอดีตเก่าๆ ที่ไม่มีความเสื่อมนี้หรือว่าการตายเท่านั้นจะคือการแก้ปัญหานี้ให้หายไป ผมเครียดมากๆ และสะดุ้งตื่นมาคิดและเครียดตอนกลางคืนมาเกือบเดือนแล้ว และวันๆ ก็นั่งมองแต่จุดดำๆ ที่นับวันก็กลัวว่าความเสื่อมมันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งผมก็เห็นว่ามันเพิ่มขึ้นจากเดิมจริงๆ แต่ไม่ทราบว่าผมคิดไปเองรึป่าว พอเจอมันก็กระอักกระอ่วน เครียด และกลุ้มใจยิ่งกว่าเดิมเป็นทวีคูณ จนไม่อยากทำอะไร หรือคิดถึงอนาคตเลย ทำไมโรคบ้าๆ นี่ต้องมาเกิดกับผมตอนที่ผมอายุเพียงเท่านี้ด้วย ทำไมมันไม่มาเกิดตอนที่ผมอายุ 50-60 ปี ตามที่ตำราในอินเตอร์เน็ตบอกไว้
|
จากคุณ: Rawit |
โพสเมื่อวันที่: 03/07/15 เวลา 15:27:34 |
ทำใจคับ ผมก็เหมือนๆท่านนั่นแหละ
|
จากคุณ: toothpick |
โพสเมื่อวันที่: 09/10/15 เวลา 11:59:05 |
เข้าใจอารมณ์และความรู้สึกของเจ้าของกระทู้ค่ะ เพราะตัวเองก็เป็นเหมือนกัน เพียงแต่อาจจะไม่มากเท่า ช่วงที่ค้นพบว่าวุ้นตาเสื่อม เมื่อ 6-7 ปีก่อน เพราะบางทีเห็นแสงสีขาวเวลาหันศีรษะ เวลากลางคืน จากนั้นก็ค้นหาข้อมูลในเน็ต แล้วก็เครียด ซึมเศร้าไปเลยเหมือนกัน ไม่อยากจะทำอะไรเลย อยากแนะนำให้ทำใจสบายๆ ปล่อยวางค่ะ เพราะไม่ใช่เราคนเดียวที่เป็น คนอื่นก็เป็นเหมือนกัน เคยรู้จักน้องคนนึงอายุแค่ 20 กว่าๆ ก็เป็นแบบเดียกับคุณเจ้าของกระทู้ค่ะ แต่น้องเค้าก็ยังใช้ชีวิตตามปกติ ตอนนี้หนทางเดียวที่อาจช่วยชะลอความเสื่อมได้ คงเป็นการกินอาหารที่มีประโยชน์กับดวงตาค่ะ เช่นผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ผลไม้สีม่วง แดง หรือ น้ำดอกอัญชัน ลองหาข้อมูลดูนะคะ ทุกวันนี้พยายามกินมะละกอทุกวันค่ะ เพราะมีวิตามินเอ และช่วยได้ทั้งเรื่องขับถ่าย
|
จากคุณ: salinta |
โพสเมื่อวันที่: 03/11/16 เวลา 13:24:08 |
วุ้นตาที่เสื่อมลงบางครั้งมีการเคลื่อนไหวตัวของวุ้นตา และไปรั้งจอตาได้ เมื่อดึงรั้งจอตา จอตาจะรับรู้เป็นแสง โดยอาจจะเห็นแสงวาบ ถ้าดึงรั้งมากอาจมีรอยผุเปื่อย หรือขาดได้ ซึ่งจะนำไปสู่จอตาลอก และเกิดภาวะการสูญเสียสายตาได้ ถ้าหากมีน้ำวุ้นลูกตาเสื่อม และจอประสาทตาขาดร่วมด้วย จักษุแพทย์อาจรักษาด้วยวิธีการยิงเลเซอร์ เพื่อรักษาจอประสาทตาฉีกขาดและหลุดลอกนั้น ภาวะวุ้นตาเสื่อมอาจเกิดขึ้นได้กับทุกคน และเมื่อเกิดขึ้นแล้วจะไม่หายไป แต่อาจจะเปลี่ยนรูปลักษณะไปได้ แต่ควรตระหนักเมื่อเจอจุดดำลอยไปลอยมาว่าอาจเกิด ภาวะวุ้นตาเสื่อมซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะจอตาขาดหรือหลุดลอกได้ ดังนั้นควรเข้ารับการตรวจโดยจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อตรวจเช็คดูว่ามีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะจอตาฉีกขาดและหลุดลอกหรือไม่ เป็นกำลังใจให้นะคะ ตัวเองสายตาสั้นเยอะ น้ำวุ้นตาเสื่อมเหมือนกัน แล้วก็เห็นลอยไปลอยมาตั้งแต่เด็กจนชินไปแล้ว ไปตรวจหมอก็ไม่ได้ว่าต้องผ่าตัดหรืออะไรค่ะ http://www.laservisionthai.com/th/EyeCare/Vitreous_degeneration.html
|