|
« เมื่อ: 02/14/11 เวลา 23:41:35 » |
 
|
อยากให้คุณหมอช่วยสรุปวินิจฉัยโรคและอาการดังต่อไปนี้ และแนะนำวิธีการรักษาหรือตรวจเพิ่มเติม ว่าเป็นอาการอะไรกันแน่ที่เป็นอยู่ เพราะทานยาทุกตัวแล้วยังไม่มีอาการดีขึ้นเลย.
___________________________________________________
สาเหตุประสบอุบัติเหตุ : ติดอยู่ในลิฟท์ๆ หยุดค้าง เมื่อวันที่ 9/9/2553 ประมาณ 9 โมงเช้า
ลักษณะลิฟท์หยุดค้าง นิ่ง ก็เข้าใจว่าลิฟท์ค้าง ไม่ได้ตกใจอะไร สักพัก....
เกิดการกระตุกกระชาก ครั้งที่ 1 อย่างแรง เซไปเลย ยังดีที่กางขาเกาะกำแพงทรงตัวไว้ได้ ไม่ล้มกระแทกอะไร แต่เหมือนจะไม่ไปไหนค้างหยุดนิ่งอยู่ที่เดิม สักพัก....
เกิดการกระตุกกระชาก ครั้งที่ 2 อย่างแรงอีก อาการเริ่มทันทีคือเจ็บที่สันคอด้านหลัง และรู้สึกว่าหูขวาอื้อเท่านั้น หูซ้ายปกติ แต่ลิฟท์มันก็คงค้างอยู่ที่เดิม สักพัก....
เกิดการกระตุก ครั้งที่ 3 ทำให้ประตูเปิด (มีสติอยู่เสมอ) ก็รีบก้าวข้ามขึ้นออกจากลิฟท์ทันที ปลอดภัย แต่แบบเซถลาออกมา สั่นไปทั้งตัว งง กับตัวเองมาก ก็ไม่ตกใจ หรือกลัวขณะที่ติดค้างอยู่ (คนเดียว) ปล. มีกดกริ่งขอความช่วยเหลือตลอดแต่ไม่มีใครมาช่วยเลย
หลังจากนั้นก็ขับรถไปทำงานปกติ แต่ที่ไม่ปกติ คือ บังคับคันเร่งไม่ได้ เท้าบรึ้นแรงตลอด ท่าทางไม่ดีก็รีบไปหาหมอตอนบ่าย
หมอตรวจแล้วบอกว่า.... ไม่เป็นอะไร ไม่มีอาการเวียนหัว แต่ปวดหัว ปวดคอ หูอื้อ เจ็บคอด้านหลัง ....ก็ได้ยาแก้ปวดมาทานเท่านั้น....
วันรุ่งขึ้นแทบเดี้ยง ยังดีที่เคยมีประสบการณ์บำบัดทางกายภาพ รีบไปทำกายภาพลดอาการปวดร้าวไปทั้งตัว
ซึ่งที่คลินิกนี่ไม่เหมือนการทำกายภาพในโรงพยาบาล ทำครั้งหนึ่งเสียตังค์แพง ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง - เกือบ 2 ชั่วโมง
บรรเทาการปวด ทุเลาลงได้ ทำให้ทนปวดได้โดยไม่ต้องกินยา
ระยะเวลาหนึ่ง เริ่มมีอาการชาลงแขนด้านขวา, ปวดหัว - ปวดคอมากขึ้น, หูที่อื้อก็คงอื้อต่อไป - เริ่มปวดข้างในหู
ได้ยินเสียงดังไม่ได้ สังเกตจาก.... เวลาคุยโทรศัพท์หูขวาจะรับเสียงมากระแทกไม่ได้ ปวดเข้าไปในหู
___________________________________________________
อาการปัจจุบันที่คงอยู่เสมอมาดังนี้....
- ปวดคอด้านหลัง เข้าใจแล้วว่า.. จากสาเหตุหมอนรองกระดูกคอเคลื่อน
ดูแลโดยการ.. ทำกายภาพบำบัดอาทิตย์ละครั้งเป็นประจำไม่ขาด และกายภาพบำบัดยืดคอตามคำแนะนำที่บ้านด้วย
- ปวดหู ****หูอื้อ ไม่เคยหาย**** หรือจะเรียกว่าอาการ "หูอึ้ง ไม่ใช่ หูอื้อ"
ถ้าจะให้ดีขึ้นบ้างเป็นช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้น ก็ใช้วิธีดึงหู, ขยี้หู, กลื่นน้ำลายบ่อยๆ - ก็ไม่ช่วยเท่าไหร่, เคี้ยวหมากฝรั่งจนปวดกราม, บีบจมูกเป่าลมออกหู - ไม่ค่อยทำเพราะจะเจ็บในหู, ทำบ่อยที่สุดคือ หาว - อ้าปาก - ดันลมให้ออกหูบ่อยๆ เพื่อลดการหูอื้อแต่ไม่เคยหายไปเลย (ทรมานมาก)
***ขอย้ำว่า*** ไม่มีอาการอื่นใดตามที่หมอถามเลย เช่น บ้านหมุน เวียนหัว เดินเซ ทรงตัวไม่ได้
มีแต่อาการหูอื้อๆ เท่านั้น เหมือนมีอะไรมาเกาะ มาติดอยู่ตลอดเวลา ปวดบ้างบางเวลา อาทิเช่นการนอนตะแคงขวา จะปวดในหูมาก
*****สงสัย***** เส้นประสาทตรงคอซีกขวาข้างๆ ที่ต่อมาจากหู จะรู้สึกเจ็บๆ ขัดๆ กลืนน้ำลายไม่โล่ง ใช่เส้นนี้หรือเปล่า? ที่ทำให้มีอาการหูอื้อ เพราะสังเกตุจากการทำกายภาพบำบัด และการทายาตรงเส้นคอนี้ รู้สึกจะช่วยทำให้อาการหูอื้อโล่งได้แป๊ปๆ, มีเส้นประสาทคอและหูอักเสบหรือเปล่า?
___________________________________________________
ครบนัด 2 เดือนไปเข้ารับการตรวจระบบประสาทวิทยา ตรวจ MRI หมอบอกว่าเส้นประสาทอักเสบ
แต่ไม่ชี้แจงอาการหูที่คงอื้ออยู่ บอกแต่เพียงว่า การที่เส้นประสาทอักเสบก็มีผลทำให้หูอื้อได้
ได้รับยาหลักคือ NEURONTIN, MTX, NABUMETONE, METHYCOBAL, NUSIC, BETAHISTINE MESILATE, TRIPTA มารับประทาน และเสริมด้วยวิตามินบำรุงระบบประสาท และบำรุงร่างกายปกติ
จากผลตรวจ MRI และผลการตรวจหูชั้นกลาง คุณหมอสรุปเบื้องต้นว่า....
หมอน รองกระดูกคอเคลื่อน, หูชั้นในอักเสบ - มีเสื่อมเล็กน้อย, การได้ยินลดลง แต่ไม่ถึงขนาดซีเรียส, หูชั้นกลางปกติ, เส้นประสาทสมองคู่ที่ 7-8 อักเสบ
___________________________________________________
"ทนปวด บำบัดโดยการทำกายภาพอย่างเดียว" คิดว่าไปรอด แต่อาการหูอื้อ เริ่มรำคาญ และปวดหูมากขึ้น
___________________________________________________
ปัจจุบันนี้ได้พบหมอหู เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 54 และ 8 ก.พ. 54
- รับการตรวจการได้ยิน ผลตกไปประมาณ 20%
ซึ่งส่วนตัว.. ก็เข้าใจดีไม่เป็นปัญหาซีเรียสรับได้ เพราะโดยรวมยังคงได้ยินอยู่ แต่อาจน้อยลงบ้าง เช่น..
เวลา เสียงเครื่องซักผ้าทำงานเสร็จจะมีเสียงดังเตือน = ไม่ได้ยินแล้ว, และการพูดคุยของเราเหมือนต้องตะโกนเสียงดังขึ้นเพราะรู้สึกว่าไม่ค่อยได้ยิน เสียงของตัวเอง
และจะไม่สามารถใช้หูขวาฟังคุยโทรศัพท์ได้เพราะจะปวดเข้า ไปในหูมาก รวมถึงเสียงอะไรที่ดังเช่น เสียงปี๊ปๆ ก่อนรถไฟฟ้าปิดประตูจะทรมานหูมาก ฯลฯ
- รับยาติดตามผล 2 อาทิตย์ต่อไปดังนี้
FOLIC ACID, TELFAST-D, SERMION, PREDNISOLONE, VITAMIN B COMPLEX
___________________________________________________
เพิ่งมีอาการนี้เมื่อสิ้นเดือนมกราคม 2554 นี้เอง
- มีอาการหางตาล่างทั้งสองข้างกระตุกๆ **แต่ไม่เป็นมาก** จะเป็นข้างซ้ายมากกว่าข้างขวา
ปัจจุบันนี้ - ไม่ค่อยกระตุกแล้วและแทบจะหายไปแล้ว
___________________________________________________
ขอเกริ่นซักนิดก่อนเกิดอุบัติเหตุ....
ปกติเป็นคนที่สุขภาพแข็งแรงดี, บริจาคเลือดทุก 3 เดือนเป็นประจำ, ไม่ได้ออกกำลังกายหนัก เน้นออกกำลังกายโดยการเดิน - ยืดกล้ามเนื้อ, ทำงานบ้านเอง
ดูแลรักษาสุขภาพเป็นอย่างดี อาหารการกินถูกสุขอนามัย ไม่ทานเนื้อวัว, หมู, แพะ, แกะ, และเนื้อสัตว์แปลกๆ, เนื้อไก่ - เป็ดเล็กน้อย,
จะเน้นผัก - ปลา - กุ้งแม่น้ำ - ไข่ - นมถั่วเหลือง ไม่ทานอาหารที่มีไขมัน ของทอด รสเค็ม.
___________________________________________________
|
|
หัวข้อ 49: ปรึกษาอาการ "หูอื้อ หรือ หูอึ้ง" เป็นอาการอะไรกันแน่? (จำนวนคนอ่าน 8242 ครั้ง)
125.24.176.*