ThaiClinic.Com (http://www.thaiclinic.com/cgi-bin/wb_xp/YaBB.pl)
For MD. >> Doctor Room l ห้องพักแพทย์ >> ประวัติภาวะความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์เสี่ยงเกิดภาวะสมองเสื่อม
(Message started by: IQ on 08/05/22 เวลา 11:16:51)

Title: ประวัติภาวะความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์เสี่ยงเกิดภาวะสมองเสื่อม
ส่งโดย IQ on 08/05/22 เวลา 11:16:51
การมีประวัติภาวะความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์มีความเชื่อมโยงกับความเสี่ยงเพิ่มขึ้นที่จะเกิดภาวะสมองเสื่อมจากโรคหลอดเลือดสมองและการเสื่อมถอยของสมองเร็วกว่าที่ควร จากงานศึกษาวิจัยที่นำเสนอวันนี้ภายในงานประชุมนานาชาติของสมาคมอัลไซเมอร์ ประจำปี 2565 (Alzheimer's Association International Conference(R) (AAIC(R)) 2022) ซึ่งจัดขึ้นในเมืองซานดิเอโกและทางออนไลน์

ภาวะความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์ ( HDP) ประกอบด้วย ความดันโลหิตสูงเรื้อรัง หรือภาวะความดันโลหิตสูงชั่วคราว และภาวะครรภ์เป็นพิษ (preeclampsia) ได้รับการเชื่อมโยงอย่างมากเข้ากับการเกิดโรคหัวใจในช่วงอายุที่มากขึ้น แต่ก่อนหน้านี้มีงานวิจัยน้อยมากที่เชื่อมโยงภาวะเหล่านี้เข้ากับการทำงานรู้คิดของสมอง ในแง่นี้ ข้อค้นพบสำคัญที่นำเสนอภายในงานประชุม AAIC ประจำปี 2565 มีดังนี้

สตรีที่เคยมีประวัติภาวะความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์มีแนวโน้มสูงกว่าที่จะเกิดภาวะสมองเสื่อมจากโรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งหมายถึงการเสื่อมถอยในทักษะการคิดที่เกิดจากภาวะที่ไปอุดตันหรือลดการไหลเวียนของเลือดเข้าสู่สมอง เมื่อมีอายุเพิ่มมากขึ้น โดยเปรียบเทียบกับสตรีที่เคยตั้งครรภ์โดยไม่มีภาวะความดันโลหิตสูง
การมีประวัติภาวะความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์ มีความเชื่อมโยงกับพยาธิสภาพของสสารสีขาวในสมอง ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้การเสื่อมถอยของการทำงานรู้คิดของสมองเร็วกว่าที่ควร เมื่อเวลาผ่านไป 15 ปีหลังจากการตั้งครรภ์
สตรีที่เคยมีประวัติครรภ์เป็นพิษขั้นรุนแรงมีระดับของเบตาแอมีลอยด์ ( beta amyloid) สูงกว่าอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงของสมองที่เกี่ยวข้องกับอัลไซเมอร์ซึ่งวัดในโลหิต เมื่อเทียบกับสตรีที่เคยตั้งครรภ์โดยไม่มีภาวะความดันโลหิตสูง
ภาวะความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์เกิดขึ้น 1 ใน 7 ของการคลอดบุตรในโรงพยาบาล โดยเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของความเจ็บป่วยและการเสียชีวิตในบุคคลผู้ตั้งครรภ์ให้กำเนิดและตัวอ่อนในครรภ์ในทั่วโลก ภาวะดังกล่าวเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อประชากรชาวผิวดำ ชาวลาติน ชาวเอเชีย/ชาวเกาะในแปซิฟิก และชาวอเมริกันพื้นเมืองในอัตราที่สูงอย่างไม่สมส่วน

"นี่เป็นข้อมูลจากการศึกษาระยะยาวชุดแรก ๆ ที่เชื่อมโยงภาวะความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์เข้ากับภาวะสมองเสื่อมในการศึกษาตามรุ่นในกลุ่มคนที่สัมพันธ์กับการเกิดโรค (cohort study) ขนาดใหญ่" แคลร์ เซ็กซ์ตัน (Claire Sexton) ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายโครงการและบริการสู่ภายนอกเชิงวิทยาศาสตร์ สมาคมอัลไซเมอร์ กล่าว "เมื่อคำนึงถึงนัยที่รุนแรงทั้งระยะสั้นและระยะยาวของภาวะความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์ การตรวจพบและการรักษาแต่เนิ่น ๆ เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการปกป้องทั้งบุคคลผู้ตั้งครรภ์และเด็กที่จะเกิดมา"

"ข้อมูลเหล่านี้ชี้ให้เห็นความสำคัญของการดูแลสตรีตั้งครรภ์และการเฝ้าระวังสุขภาพระยะยาวของบุคคลผู้ตั้งครรภ์" เซ็กส์ตันกล่าว "ผู้ที่ประสบกับความเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับความจำและการทำงานรู้คิดของสมองควรปรึกษาผู้ให้การดูแลรักษาสุขภาพ"

ภาวะความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์เชื่อมโยงกับความเสี่ยงเพิ่มขึ้นที่จะเกิดภาวะสมองเสื่อมจากโรคหลอดเลือดสมอง

เพื่อสำรวจความเชื่อมโยงระหว่างภาวะความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์กับภาวะสมองเสื่อมเมื่ออายุมากขึ้น ดร.แคเรน ชลีป ( Karen Schliep) วิทยาศาสตรมหาบัณฑิตด้านสาธารณสุขศาสตร์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านเวชศาสตร์ครอบครัวและเวชศาสตร์ป้องกัน มหาวิทยาลัยสุขภาพแห่งยูทาห์ (University of Utah Health) และเพื่อนร่วมงาน ได้ดำเนินการศึกษาตามรุ่นย้อนหลังกับสตรี 59,668 คนที่เคยตั้งครรภ์

สตรีที่มีประวัติภาวะความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์มีความเสี่ยงเกิดภาวะสมองเสื่อมจากทุกสาเหตุสูงกว่า 1.37 เท่า เมื่อคำนวณโดยคำนึงถึงวัยขณะให้กำเนิด ปีที่ให้กำเนิด และความเหมือนกัน เมื่อเทียบกับสตรีที่ตั้งครรภ์โดยไม่มีภาวะความดันโลหิตสูง ทั้งนี้ภาวะความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์เชื่อมโยงกับความเสี่ยงสูงกว่า 1.64 เท่าที่จะเกิดภาวะสมองเสื่อมจากโรคหลอดเลือดสมอง และความเสี่ยงสูงกว่า 1.49 เท่าที่จะเกิดภาวะสมองเสื่อมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ไม่รวมถึงโรคอัลไซเมอร์ ภาวะความดันโลหิตสูงชั่วคราวขณะตั้งครรภ์และภาวะครรภ์เป็นพิษและครรภ์เป็นพิษรุนแรงซึ่งมีภาวะชักร่วม ( eclampsia) แสดงระดับของความเสี่ยงที่ใกล้เคียงกันสำหรับภาวะสมองเสื่อมที่เกิดจากโรคหลอดเลือด

"ผลจากการศึกษาของเรายืนยันข้อค้นพบก่อนหน้านี้ว่า ภาวะครรภ์เป็นพิษมีความเชื่อมโยงอย่างมากกับภาวะสมองเสื่อมจากโรคหลอดเลือดสมองเมื่อเทียบกับอัลไซเมอร์หรือภาวะสมองเสื่อมชนิดอื่น ๆ" ชลีปกล่าว "ผลดังกล่าวนี้ชี้ว่าความเสี่ยงเกิดภาวะสมองเสื่อมจากโรคหลอดเลือดสมองอาจสูงพอกันระหว่างสตรีที่เคยมีประวัติภาวะความดันโลหิตสูงชั่วคราวขณะตั้งครรภ์กับสตรีที่เคยมีประวัติครรภ์เป็นพิษ"

ภาวะความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์เชื่อมโยงกับพยาธิสภาพของสสารสีขาวในสมอง 15 ปีหลังการตั้งครรภ์

เมื่อคำนึงถึงความเชื่อมโยงที่พิสูจน์ชัดเจนระหว่างภาวะความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์กับสุขภาพหลอดเลือดสมองในระยะยาว โรวินา ฮุสไซนาลี ( Rowina Hussainali) วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต นักศึกษาปริญญาเอกด้านระบาดวิทยาและสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา ศูนย์การแพทย์อีราสมุส เอ็มซี (Erasmus MC Medical Center) เนเธอร์แลนด์ และเพื่อนร่วมงาน ได้มุ่งศึกษาความเชื่อมโยงระหว่างภาวะความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์กับตัวบ่งชี้พยาธิสภาพของหลอดเลือดสมอง 15 ปีหลังจากการตั้งครรภ์

คณะผู้วิจัยได้สำรวจสตรี 538 ราย โดย 445 รายเคยตั้งครรภ์โดยไม่มีภาวะความดันโลหิตสูง และ 93 รายเคยมีภาวะความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์ จากการศึกษาเจเนอเรชัน อาร์ ( Generation R) โดยได้ศึกษาสตรีตั้งครรภ์ที่มีวันกำหนดคลอดระหว่างเดือนเมษายน 2545 ถึงเดือนมกราคม 2549 เมื่อผ่านไป 15 ปีหลังจากนั้น สตรีกลุ่มนี้บางส่วนได้เข้ารับการตรวจแสดงภาพด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าหรือเอ็มอาร์ไอ (MRI) เพื่อประเมินปริมาตรเนื้อเยื่อสมองและตัวบ่งชี้อื่น ๆ ที่สามารถบ่งชี้พยาธิสภาพ

ฮุสไซนาลีและทีมงานพบว่า สตรีที่เคยมีภาวะความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์มีพยาธิสภาพของสสารสีขาวในสมอง (ตัวบ่งชี้ของเนื้อเยื่อสมองเสื่อมสภาพ) สูงกว่าสตรีที่เคยตั้งครรภ์โดยไม่มีภาวะความดันโลหิตสูงอยู่ 38% ความเชื่อมโยงนี้พบในสตรีที่เคยมีภาวะความดันโลหิตสูงชั่วคราวขณะตั้งครรภ์เป็นหลัก ซึ่งมีพยาธิสภาพในสสารสีขาวในสมองสูงกว่า 48% เมื่อเทียบกับสตรีที่เคยตั้งครรภ์โดยไม่มีภาวะความดันโลหิตสูง ทั้งนี้ไม่พบความแตกต่างในแง่ของตัวบ่งชี้อื่น ๆ ของพยาธิสภาพในสมอง อย่างเช่น เนื้อสมองตายจากขาดการไหลเวียนโลหิต (infarct) หรือจุดเลือดออกขนาดเล็กที่บริเวณเนื้อสมอง (cerebral microbleed) การเกิดภาวะความดันโลหิตสูงเรื้อรังหลังจากการตั้งครรภ์ยิ่งตอกย้ำผลการศึกษาดังกล่าวนี้ โดยเฉพาะในกลุ่มสตรีที่เคยมีภาวะความดันโลหิตสูงชั่วคราวขณะตั้งครรภ์



ThaiClinic.Com . All Rights Reserved.