ThaiClinic.Com (http://www.thaiclinic.com/cgi-bin/wb_xp/YaBB.pl)
For MD. >> Doctor Room l ห้องพักแพทย์ >> จดหมายเพื่อนแพทย์ ฉบับที่ 253
(Message started by: dr.friend on 01/06/22 เวลา 17:25:48)

Title: จดหมายเพื่อนแพทย์ ฉบับที่ 253
ส่งโดย dr.friend on 01/06/22 เวลา 17:25:48
ฉบับที่ 253

วันที่  6  มกราคม  2565

เพื่อนแพทย์ที่รัก :  

     ในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ 2565 นี้ ขออวยพรให้เพื่อนแพทย์ และครอบครัว มีความสุขสมหวัง  มีสุขภาพแข็งแรง และปลอดภัยจากภัยอันตรายนะครับ

     Omicrom คงมาเร็วตามที่เขาเล่ามานะครับ  ของไทยเราก็เริ่มขึ้นมาจาก positive 2,900 กว่าคนตอนปีเก่า ตอนนี้เมื่อวาน 3,800 กว่าคนแล้ว  น่าจะแตะหมื่นภายใน 2 weeks นะครับ และรัฐบาลคงใช้สูตรเดิม แยกผู้ป่วยติดเชื้อออกมา
แต่ผมว่าเราแยกได้เฉพาะคนที่ตรวจเท่านั้นแหละครับ และที่มีเชื้อ Covid ในลำคอและไม่ได้มีการตรวจมีอีกหลายเท่าตัวที่ยังเดินไปเดินมาอยู่   ดังนั้นผู้ป่วยที่ติดเชื้อที่เราแยกออกมาคงเป็นคนส่วนน้อยของผู้ที่ติดเชื้อเท่านั้น   ผมจึงขอเสนอดังนี้ครับ

ขอให้แยกประชาชนเป็นสองกลุ่ม กลุ่มที่ 1  คือ พวกที่ฉีด vaccine ครับแล้ว  และ กลุ่มที่ 2 คือ ประชาชนที่ยังไม่ได้ฉีด vaccine  ข้อเสนอทั่วไปสำหรับประชาชนคือเช่นเดิม เคร่งครัดกับการใส่หน้ากาก  ล้างมือ  และเว้นระยะห่าง  ยกเลิกการทำ ATK
ในประชาชนทุก ๆ กลุ่ม และไม่ต้องทำเป็นระยะ เพราะสิ้นเปลืองมาก  แม้ว่า ATK จะถูกลงเยอะ และถึงแม้จะทำก็ทำไม่หมด  ตัวเลข positive ก็ไม่ได้สะท้อนความเป็นจริง

ประกาศให้ประชาชนทราบว่าถ้ามีอาการ ไข้  เจ็บคอ  เหนื่อยง่าย  ให้ไปโรงพยาบาลเลย เฉพาะกลุ่มที่ไม่ได้ฉีด vaccine ต้องไปแม้อาการจะน้อย แล้วจะได้รับการตรวจ ATK ถ้า positive จะต่อด้วย RT PCR ถ้าอาการน้อยให้กลับมาแยกตัวที่บ้าน  
และถ้าอาการหนักจะได้ admitted เป็นคนไข้ในได้รับการดูแลต่อไป  ไม่ต้องไปทำ ATK  เหวี่ยงแหกลุ่มเสียงให้สิ้นเปลือง  จะได้เก็บงบประมาณใช้ในการรักษาผู้ป่วยที่มีอาการจริง ๆ ย่างเข้าปีที่ 3 แล้วที่ผมก็คิดเรื่องโควิดทุก ๆ วัน และคิดกับผู้บริหาร
โรงพยาบาลทุกอาทิตย์ และคิดกันหลาย ๆ โรงพยาบาลทุกเดือน    แต่ข้อเสนอวันนี้เป็นความเห็นของผมคนเดียวนะครับ จะผิดจะถูกก็แล้วแต่ครับ

การประกาศให้ประชาชนรับทราบก็ประกาศแต่เพียงว่าวันนี้มีคนไข้ต้องนอนโรงพยาบาลกี่คน  discharge วันเดียวกันกี่คน  หนักอยู่ ICU กี่คน  และตายกี่คน  ซึ่งเป็นการประกาศให้รู้ถึงผู้ป่วยที่รุนแรงจนเข้าโรงพยาบาล เจ็บหนักและตาย
1)  ผมขอรายงานส่วนตัวเรื่องของผมเองและการตรวจเลือดนะครับ หลังจากฉีด Pfizer ครบ 16 weeks ปรากฏว่า antibody  คงเหลือ 3,775 BAU/ml  (มากกว่า 400 BAU/ml ก็ถือว่าดีมาก)  Neutralizing  antibody คือความสามารถในการยับยั้ง
ตกลงมาเหลือ 96.3 % (ถ้ามากกว่า 68 % ก็ถือว่าดีมากครับ)   ผมเลยกำลังคิดว่าผมควรจะฉีด Pfizer ซ้ำอีกเมื่อไรดี  จะถือเอา antibody Neutralizing antibody เป็น 1 ในตัวชี้วัดได้ไหม
2) UCEP ฉุกเฉินวิกฤต ในเดือนธันวาคม 2564 ผู้ป่วยมา ER โรงพยาบาลเอกชน 44,318 ราย  PA แล้ว เข้าเกณฑ์ที่ผู้ป่วยไม่ต้องจ่ายโดยมีกองทุนจ่ายให้เพียง 2,605 รายเท่านั้น รวม 12 เดือนทั้งปีเพียงแค่ 28,130 ซึ่งเป็นจำนวนที่ไม่มากเลย
3) ตอนนี้ขออนุญาตแนะนำสำหรับเพื่อนแพทย์ที่สนใจในการลงทุน  มีแฟนเพจใน FACEBOOK  ชื่อDoctorinvest ขอเชิญกดติดตาม  และติดดาว  ครับผม

รัก & ห่วงใย
นายแพทย์เอื้อชาติ  กาญจนพิทักษ์
E-mail : aurchart@gmail.com,  Fax : 02-3740804,  มือถือ : 081-9118901

ปัญหาทุกเรื่องติดต่อได้ครับ  :        
พญ. สมศรี        081-8214593,        นพ. กีรติ          081-8188568
นพ. วิสูตร        086-0019228,        นพ. ทวีศิลป์        089-8139393
นพ. เอื้อชาติ        081-9118901,      นพ. กัมมันต์        089-8811673
นพ. รณชัย        089-6781295,        นพ. อมร        081-8304283



ThaiClinic.Com . All Rights Reserved.