ThaiClinic.Com (http://www.thaiclinic.com/cgi-bin/wb_xp/YaBB.pl)
For MD. >> Doctor Room l ห้องพักแพทย์ >> Galdermaประโยชน์ใช้ยาทาควบคู่ยากินรักษาโรคโรซาเซียขั้นรุนแรง
(Message started by: IQ on 03/05/19 เวลา 10:13:46)

Title: Galdermaประโยชน์ใช้ยาทาควบคู่ยากินรักษาโรคโรซาเซียขั้นรุนแรง
ส่งโดย IQ on 03/05/19 เวลา 10:13:46
Galderma เผยประโยชน์ของการใช้ยาทาควบคู่ยากินในการรักษาโรคโรซาเซียขั้นรุนแรง



               การทดลองทางคลินิกแบบสุ่มครั้งแรกเพื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพและความปลอดภัยของการใช้ยาทา ivermectin 1% (IVM) ร่วมกับยากิน doxycycline ที่มีการควบคุมการปลดปล่อยตัวยา 40 มิลลิกรัม (DMR) เทียบกับการใช้ยาทา ivermectin 1% ควบคู่กับยาหลอก ในผู้ใหญ่ที่ป่วยด้วยโรคโรซาเซียชนิดมีตุ่มหนองรุนแรง (severe papulopustular rosacea) พบว่าจำนวนผู้ป่วยที่ "หาย" (รอยโรคหาย 100%) เมื่อเวลาผ่านไป 12 สัปดาห์ เพิ่มขึ้นกว่าสองเท่า

         Galderma ได้แบ่งปันผลลัพธ์จากการศึกษา ANSWER ซึ่งตอกย้ำถึงประสิทธิภาพอันเหนือชั้นในการลดรอยอักเสบด้วยการใช้ยาทา IVM ควบคู่ยากิน DMR เทียบกับการใช้ยาทา IVM ควบคู่กับยาหลอก ในผู้ใหญ่ที่ป่วยด้วยโรคโรซาเซียชนิดมีตุ่มหนองรุนแรง (IGA 4*) เมื่อเวลาผ่านไป 12 สัปดาห์

         (โลโก้: http://mma.prnewswire.com/media/554005/Galderma_Logo.jpg )

         แพทย์มักใช้ยาทาร่วมกับยากินในการรักษาโรคโรซาเซีย โดยมีผลการศึกษาที่ยืนยันว่าการรักษาแบบผสมผสานนี้มีประโยชน์มากกว่า[1] นอกจากนั้นยังมีผลการศึกษาที่บ่งชี้ว่า การใช้ยาทา IVM วันละครั้งมีประสิทธิภาพในการรักษามากกว่าการใช้ยา metronidazole 0.75% วันละสองครั้ง[2] ส่วนการศึกษา ANSWER เป็นการศึกษาแรกที่ประเมินการใช้ยาทา IVM ร่วมกับยากิน DMR ซึ่งเป็นยากินชนิดเดียวที่ได้รับการรับรองให้ใช้รักษารอยอักเสบที่เกิดจากโรคโรซาเซีย[3]

         ผลการศึกษาเผยให้เห็นว่า ผู้ป่วยกลุ่มที่ใช้ยาทา IVM ร่วมกับยากิน DMR ซึ่งมีรอยโรคหาย 100% เมื่อเวลาผ่านไป 12 สัปดาห์ มีจำนวนมากกว่ากลุ่มที่ใช้ยาทา IVM ร่วมกับยาหลอกถึง 2.5 เท่า (17.8% เทียบกับ 7.2%) นอกจากนี้ ยาทา IVM ควบคู่ยากิน DMR ยังออกฤทธิ์เร็วกว่ายาทา IVM ควบคู่ยาหลอกอย่างมีนัยสำคัญ โดยเห็นความแตกต่างชัดเจนตั้งแต่สัปดาห์ที่ 4 สำหรับในส่วนของความปลอดภัยนั้น ทั้งสองกลุ่มไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ ผลลัพธ์จากการศึกษาครั้งนี้ได้รับการนำเสนอในรูปแบบโปสเตอร์ในการประชุม American Academy of Dermatology (AAD) ประจำปี 2562 ที่กรุงวอชิงตันดีซี สหรัฐอเมริกา[4]

         ดร. James Del Rosso จาก JDR Dermatology Research/Thomas Dermatology ในลาสเวกัส รัฐเนวาดา ผู้นำเสนอข้อมูลในการประชุม AAD กล่าวว่า "การศึกษา ANSWER คือก้าวสำคัญสำหรับผู้ที่ต้องทนทุกข์กับโรคโรซาเซียขั้นรุนแรง รวมถึงแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่าการใช้ยาทา IVM ร่วมกับยากิน DMR มีความปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และออกฤทธิ์เร็วกว่าการใช้ยาทา IVM เพียงอย่างเดียว"

         "การที่รอยโรคหาย 100% ถือเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญสำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคเรื้อรังและมองเห็นได้ชัดเจนเช่นนี้ การรักษาโดยใช้ยาทา IVM ร่วมกับยากิน DMR จะช่วยให้ผู้ป่วยจำนวนมากมีโอกาสหาย รวมถึงช่วยบรรเทาภาระทางกาย ทางอารมณ์ และทางใจด้วย"

         ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่า ผู้ป่วยที่ใช้ยาทา IVM ร่วมกับยากิน DMR และ "หาย" (IGA 0) นั่นคือรอยอักเสบและผื่นแดงหายไป 100% เมื่อเวลาผ่านไป 12 สัปดาห์ มีจำนวนเพิ่มขึ้นสองเท่า (11.9% เทียบกับ 5.1%)

         นอกจากนี้ ผู้ป่วยจำนวนสามในสี่ทั้งในกลุ่มที่ใช้ยาทา IVM ร่วมกับยากิน DMR และกลุ่มที่ใช้ยาทา IVM ร่วมกับยาหลอก มีความรู้สึกระคายเคืองและแสบร้อนลดลง ณ สัปดาห์ที่ 12 โดย 73.3% และ 75.4% ตามลำดับรายงานว่าอาการดังกล่าวหายไปหมด นอกจากนี้ ทั้งสองกลุ่มยังมีสัดส่วนผู้ป่วยที่หายจากอาการหน้าแดงเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ (-47.2% และ -41.9% ตามลำดับ) ทั้งยังมีดัชนี DLQI** (คุณภาพชีวิต) ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

         Kamel Chaouche หัวหน้าฝ่าย Global Medical Affairs Rx SIG ของบริษัท Galderma ในเครือ Nestle Skin Health กล่าวว่า "ผลการศึกษา ANSWER แสดงให้เห็นถึงผลลัพธ์ที่ดีของการรักษาผู้ป่วยโรคโรซาเซียขั้นรุนแรงด้วยยาทาร่วมกับยากิน ทั้งในแง่ของประสิทธิภาพและความปลอดภัย ยาทา ivermectin ได้แสดงประสิทธิภาพอีกครั้ง และเมื่อใช้ร่วมกับยากิน doxycycline ที่มีการควบคุมการปลดปล่อยตัวยา ก็ยิ่งทำให้ผู้ป่วยที่รอยโรคหาย 100% มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยไม่กระทบต่อความปลอดภัยของการรักษา"

         "Galderma ให้ความสำคัญกับสุขภาพผิวมาอย่างยาวนาน เราตระหนักดีว่าผลกระทบของอาการทางผิวหนังไม่ได้มีแค่ผิวเผิน ไม่ว่าอาการจะรุนแรงหรือไม่ก็ตาม การศึกษา ANSWER มอบหลักฐานใหม่ที่มีความสำคัญ ซึ่งสนับสนุนพันธกิจของเราในการช่วยเหลือผู้ป่วยโรคโรซาเซียให้หาย"

         *ผลสำเร็จในการรักษาโรคโรซาเซียแบ่งเป็นระดับ 1 (เกือบหาย) หรือ 0 (หาย) ตามการประเมินความรุนแรง Investigator Global Assessment (IGA) ที่มีทั้งหมด 5 ระดับ การศึกษามากมายแสดงให้เห็นว่าผู้ป่วยที่ "หาย" (IGA 0) มีเวลานานขึ้นกว่าโรคจะกลับมากำเริบอีกครั้งและมีคุณภาพชีวิตดีกว่าเมื่อเทียบกับผู้ป่วยที่ "เกือบหาย" (IGA 1)[5]



ThaiClinic.Com . All Rights Reserved.