ThaiClinic.Com (http://www.thaiclinic.com/cgi-bin/wb_xp/YaBB.pl)
For MD. >> Doctor Room l ห้องพักแพทย์ >> มีใครบางคนเคยกล่าวไว้ว่า.....
(Message started by: <<GOOD LIFE<< on 02/28/18 เวลา 14:01:02)

Title: มีใครบางคนเคยกล่าวไว้ว่า.....
ส่งโดย <<GOOD LIFE<< on 02/28/18 เวลา 14:01:02
ข้อผิดพลาด ของนักลงทุนส่วนใหญ่

มักจะเกิดจาก การสนใจในราคาหุ้นมากเกินไป

แทนที่จะมุ่งให้ความสนใจผลประการของบริษัท

แต่ถึงแม้จะสนใจผลประกอบการ ก็มักจะสนใจกำไรรายไตรมาสมากเกินไป

ทำให้เรามองข้ามศักยภาพในระยะยาวของบริษัท

นักลงทุนจึงพลาดโอกาสในการสร้างความมั่งคั่ง

ด้วยการเป็นเจ้าของบริษัทดีเหล่านั้น ในจังหวะที่ราคาต่ำกว่ามูลค่า

Title: Re: มีใครบางคนเคยกล่าวไว้ว่า.....
ส่งโดย :: King of BANPU :: on 03/02/18 เวลา 12:44:53

เหมือนหลายคนพลาด พี่ปู   ::)


Title: Re: มีใครบางคนเคยกล่าวไว้ว่า.....
ส่งโดย Hybrid VI on 03/04/18 เวลา 21:48:29
จะไม่โฟกัสที่ราคา แล้วจะรู้ได้ยังไงว่า บริษัทนี้ราคาหุ้นต่ำกว่ามูลค่าหรือยัง
แล้วจะรู้ได้ไงว่า บริษัทนี้ ราคาหุ้นเกินกว่าพื้นฐานหรือยัง
อ่านดูแล้วย้อนแย้ง ไม่ให้โฟกัสที่ "ราคา" หุ้น
แต่ให้หาหุ้นที่ "ราคา" ต่ำกว่ามูลค่า

Title: Re: มีใครบางคนเคยกล่าวไว้ว่า.....
ส่งโดย <<GOOD LIFE<< on 03/04/18 เวลา 23:12:13

on 03/04/18 เวลา 21:48:29, Hybrid VI wrote:
จะไม่โฟกัสที่ราคา แล้วจะรู้ได้ยังไงว่า บริษัทนี้ราคาหุ้นต่ำกว่ามูลค่าหรือยัง
แล้วจะรู้ได้ไงว่า บริษัทนี้ ราคาหุ้นเกินกว่าพื้นฐานหรือยัง
อ่านดูแล้วย้อนแย้ง ไม่ให้โฟกัสที่ "ราคา" หุ้น
แต่ให้หาหุ้นที่ "ราคา" ต่ำกว่ามูลค่า


การลงทุนในมุมมอง ที่คิดเหมือนเป็นเจ้าของบริษัท (ที่มีคนบริหารทำงานแทน) โดยไม่ต้องไปทำเอง

หลังจากเราคัดเลือกบริษัทที่ดี ที่เราอยากเป็นเจ้าของแล้ว

ต่อมาเราต้องประเมินมูลค่า เพื่อจะให้รู้ว่าราคาไหนคุ้มค่าที่จะซื้อ

หลังจากนั้น ให้เราโฟกัสที่ผลงานของบริษัทโดยมองที่ศักยภาพระยะยาว

หากเขายังทำผลงานได้ดี แม้ว่าราคาในระยะสั้นอาจขึ้นๆลงๆ บ้าง

แต่ตราบเท่าที่พื้นฐานยังไม่เปลี่ยน เราก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องรีบขาย

เหมือนเราเปิดคลินิค คลินิคเรายังสร้างรายได้กระแสเงินสดให้เราได้ดี

เราก็ไม่เห็นจำเป็นที่จะขายกิจการของเราไปทำไม ในเมื่อมันยังสร้างรายได้ให้เราทุกๆวัน



Title: Re: มีใครบางคนเคยกล่าวไว้ว่า.....
ส่งโดย <<GOOD LIFE<< on 03/04/18 เวลา 23:32:00
ขอยกตัวอย่างละกันครับ  
 
เช่น Beauty ต้นทุนที่ 2 บาท(หลังแตกพาร์)  
 
ระหว่างทาง ราคาขึ้นๆลงๆ ชนิดที่ว่าใครใจไม่แข็งพอ คงได้ขายระหว่างทางไปบ้างแล้วหล่ะ  
 
แต่หากเราคอยติดตามที่ผลประกอบการ เดินเข้าไปในร้าน ถามข้อมูลจากพนักงานขายเป็นระยะๆ ว่ายอดขายเป็นยังไงเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว  
 
ลองใช้ผลิตภัณฑ์ดู ลูกค้าชื่นชอบสินค้าไหม พนักงานทำงานแล้วมีความสุขหรือไม่  
 
ลองเข้าไปถามร้านคู่แข่ง เพื่อเปรียบเทียบกัน etc  
 
เมื่อทุกอย่างยังไปได้ดี ยังแข่งขันได้ เราก็ถือไปเรื่อยๆ ตราบเท่าที่มันยังดีโดยไม่ต้องไปสนใจราคา  
 
แต่ให้สนใจที่ตัวกิจการ ที่ผลประกอบการ  
 
ทุกวันนี้ราคาก็ขึ้นมารับกับผลประกอบการที่ 20บาทต้นๆ  
 
คิดเป็น capital gain ราว 10 เท่า (1000%)  
 
ปันผลคิดจากทุน 2 บาท ราว 20% ต่อปี โดยที่เราแทบไม่ต้องเหนื่อยไปทำอะไรมากเลย

Title: Re: มีใครบางคนเคยกล่าวไว้ว่า.....
ส่งโดย Hybrid VI on 03/05/18 เวลา 00:30:58

on 03/04/18 เวลา 23:12:13, <<GOOD LIFE<< wrote:
การลงทุนในมุมมอง ที่คิดเหมือนเป็นเจ้าของบริษัท (ที่มีคนบริหารทำงานแทน) โดยไม่ต้องไปทำเอง

หลังจากเราคัดเลือกบริษัทที่ดี ที่เราอยากเป็นเจ้าของแล้ว

ต่อมาเราต้องประเมินมูลค่า เพื่อจะให้รู้ว่าราคาไหนคุ้มค่าที่จะซื้อ

หลังจากนั้น ให้เราโฟกัสที่ผลงานของบริษัทโดยมองที่ศักยภาพระยะยาว

หากเขายังทำผลงานได้ดี แม้ว่าราคาในระยะสั้นอาจขึ้นๆลงๆ บ้าง

แต่ตราบเท่าที่พื้นฐานยังไม่เปลี่ยน เราก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องรีบขาย

เหมือนเราเปิดคลินิค คลินิคเรายังสร้างรายได้กระแสเงินสดให้เราได้ดี

เราก็ไม่เห็นจำเป็นที่จะขายกิจการของเราไปทำไม ในเมื่อมันยังสร้างรายได้ให้เราทุกๆวัน


ยกตัวอย่าง
คุณทำคลินิค มีรายได้ปีละ 1,000,000 บาท
มีคนมาถามเซ้งคลินิคคุณ ให้เงิน 10 ล้านบาท
คุณจะขายมั้ย..

Title: Re: มีใครบางคนเคยกล่าวไว้ว่า.....
ส่งโดย <<GOOD LIFE<< on 03/05/18 เวลา 10:33:55

on 03/05/18 เวลา 00:30:58, Hybrid VI wrote:
ยกตัวอย่าง
คุณทำคลินิค มีรายได้ปีละ 1,000,000 บาท
มีคนมาถามเซ้งคลินิคคุณ ให้เงิน 10 ล้านบาท
คุณจะขายมั้ย..




ถ้ากิจการเรายังดีอยู่ และยังสามารถสร้างรายได้ให้เราสม่ำเสมอ หรือดีกว่านั้นคือเติบโตขึ้นเรื่อยๆ วันข้างหน้าผลตอบแทนมากกว่านี้

ไม่จำเป็นต้องขายครับ

เทียบกับ ถ้าปันผลปี 1 ล้าน อยู่ได้สบายพอสมควร

ถ้าเหลือใช้เราสามารถเก็บปันผลไว้ รอโอกาสลงทุนใหม่ได้

ชีวิตสบายกว่ากันเห็นๆ

Title: Re: มีใครบางคนเคยกล่าวไว้ว่า.....
ส่งโดย <<GOOD LIFE<< on 03/05/18 เวลา 10:59:50

on 03/05/18 เวลา 00:30:58, Hybrid VI wrote:
ยกตัวอย่าง
คุณทำคลินิค มีรายได้ปีละ 1,000,000 บาท
มีคนมาถามเซ้งคลินิคคุณ ให้เงิน 10 ล้านบาท
คุณจะขายมั้ย..


ว่าแต่ปีละล้าน นี่น้อยไปหรือเปล่าสำหรับคลินิก

Title: Re: มีใครบางคนเคยกล่าวไว้ว่า.....
ส่งโดย <<GOOD LIFE<< on 03/05/18 เวลา 12:49:19
หรือถ้าปีต่อๆ ไปรายได้เพิ่มเป็นปีละ 2 ล้าน 5 ล้าน หรือ 10 ล้าน

ถึงวันนั้นมูลค่าคงไม่อยู่ที่ 10 ล้านแล้วหล่ะ คงวิ่งไปไกลกว่านั้น


Title: Re: มีใครบางคนเคยกล่าวไว้ว่า.....
ส่งโดย <<GOOD LIFE<< on 03/05/18 เวลา 12:50:19
หมอพงษ์ศักดิ์ บอกวิธีเลือกหุ้น?ไว้

จะมองว่าถ้าจะสร้างบริษัทแบบนี้ หรือแข่งกับบริษัทนี้ทำได้ง่ายหรือยาก
ซึ่งถ้ามีความยากอาจมาจากความพิเศษ หรือลอกเลียนแบบได้ยาก เช่น แบรนด์ ขนาด สัมปทาน
ซึ่งความยากจะทำให้มีความยั่งยืน ถือยาวๆได้ และสบายใจ
บางธุรกิจจะทำให้ใหญ่ได้แบบนี้ต้องใช้เวลา ทรัพยากรมาก หรือไม่ได้รับอนุญาตให้เวลาทำ
หุ้นเหล่านี้จะอยู่ใน scope ที่ติดตามอยู่ตลอด
แต่ก็ต้องดูด้วย หุ้นสัมปทานบางอย่างก็ไม่ได้ป้องกันคู่แข่งได้
หรือธุรกิจกึ่งสัมปทานบางอย่างรัฐบาลก็ไม่ได้อยากให้แข่งขัน
หุ้นโรงพยาบาลก็เคยลงทุนอยู่ช่วงหนึ่ง ถ้าวิเคราะห์ดูก็มีความเข้มแข็ง เพียงแต่จังหวะราคายังไม่เหมาะสม
หุ้นทุกตัวจะมีความผิดพลาด และตลาดให้ราคาผิดไป
ถ้าเรามองได้ไกลกว่าคนอื่น และเห็นว่ามันจะกลับมาปกติ ก็จะเข้าไปซื้อมัน
ซื้อเมื่อไร ขายเมื่อไร?
จะมองก่อนว่าบริษัทดีหรือไม่ดี
ถ้าดี ขนาดธุรกิจจะใหญ่กว่านี้ไหม? ถ้าใหญ่กว่านี้ก็สนใจ ซึ่งถ้าโตไปอีกหลายๆปี ลงทุนตอนนี้คุ้มก็ซื้อ
ถ้าบริษัทที่ดีมาก เป็น super stock แต่ราคาตกลง แล้วไม่ได้ทำให้พื้นฐานเปลี่ยน ก็เป็นจังหวะที่ดี
พยายามหามุมมองที่ตลาดยังไม่เห็น ก็น่าจะเป็นจุดลงทุนได้ หรือมองได้ไกลกว่าตลาด ก็เป็นจุดซื้อ

#จุดขาย
ข้อแรก ที่เจอบ่อยอันแรกคือวิเคราะห์ผิด อาจจะมองว่าเขาเข้มแข็ง
แต่ที่จริงไม่ได้อย่างที่คิด หรือผู้บริหารไม่ได้ไว้วางใจ
ข้อสอง เมื่ออยากซื้อหุ้นตัวอื่น ที่น่าจะราคาหรือคุณภาพน่าสนใจกว่าก็ขายหุ้นตัวเดิม
ข้อสาม คือถ้าราคาแพงเกินไป ซึ่งไม่ค่อยเจอข้อนี้



ThaiClinic.Com . All Rights Reserved.