ThaiClinic.Com (http://www.thaiclinic.com/cgi-bin/wb_xp/YaBB.pl)
For MD. >> Doctor Room l ห้องพักแพทย์ >> จะเชื่อใคร? “ฝุ่นเมืองกรุง” ไม่อันตราย หรือเพราะ “มาตรวัดไทย” อ่อนแอ!!
(Message started by: kiatisak on 02/14/18 เวลา 11:21:39)

Title: จะเชื่อใคร? “ฝุ่นเมืองกรุง” ไม่อันตราย หรือเพราะ “มาตรวัดไทย” อ่อนแอ!!
ส่งโดย kiatisak on 02/14/18 เวลา 11:21:39
จะเชื่อใคร? “ฝุ่นเมืองกรุง” ไม่อันตราย หรือเพราะ “มาตรวัดไทย” อ่อนแอ!!

ตะลึง!! ส่องสปอตไลต์ขึ้นฟ้า เห็นกลุ่มฝุ่นลอยฟุ้ง!! แต่ ผอ.กรมควบคุมโรค บอก “ไม่จำเป็นต้องตื่นตระหนก” สถานการณ์ “ฝุ่น PM 2.5” ที่ลอยล่องอยู่ทั่วกรุงไม่น่าห่วง ที่เห็น “ฝุ่นเยอะ” เป็นเรื่องปกติ ด้าน ผอ.สำนักจัดการคุณภาพอากาศ ช่วยย้ำ ปลายสัปดาห์นี้รับรองสภาพอากาศคลี่คลาย ไม่ใช่ “กลุ่มเสี่ยง” ไม่จำเป็นต้องพึ่งหน้ากากอนามัยชนิดพิเศษ “N95” ค้านกับข้อมูลฝั่งรณรงค์ เตือน “หน่วยวัดฝุ่น” ภาครัฐไทยหละหลวมเกินไป หวั่นระดับอันตรายถึงขีดสีแดง!!

“ถ้าใช้สปอตไลต์ส่อง แล้วเห็นขนาดนั้น แสดงว่าเป็น "ฝุ่นขนาดใหญ่" แล้วล่ะครับ ถ้ามันลอยขึ้นมาให้เห็นขนาดนั้น ก็แสดงว่าไม่ใช่ "ฝุ่น PM 2.5" ฝุ่นขนาดเล็กที่คนกำลังให้ความสนใจกันอยู่ ผลของมันจึงไม่น่ากังวลมาก เพราะไม่ได้กระทบต่อสุขภาพอะไร เพียงแต่จะทำให้เสื้อผ้าสกปรก ทำให้รถเปื้อนเท่านั้นเอง”

เถลิงศักดิ์ เพ็ชรสุวรรณ ผอ.สำนักจัดการคุณภาพอากาศและเสียง ช่วยอธิบายเรื่องปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในคลิปที่แชร์กันให้ว่อนโซเชียลฯ เอาไว้ ทั้งยังยืนยันด้วยน้ำเสียงสบายๆ ว่า ปริมาณฝุ่นที่เกินมาตรฐานขณะนี้นั้น เกินมาแค่นิดเดียวเท่านั้นเอง โดยบอกเอาไว้ว่า จากมาตรฐาน 50 ลบ.ม. เกินมาเป็น 50 กว่าๆ ลบ.ม. เท่านั้นเอง ถือว่าไม่ได้มากมายอะไร

“ตามค่ามาตรฐานที่ “องค์การอนามัยโลก (WHO)" แนะนำเอาไว้เลยครับ โดยให้แต่ละประเทศเลือกหยิบไปใช้ ตามเกณฑ์การพัฒนาของแต่ละประเทศว่า ควรใช้ระดับไหน เขาไม่ได้บังคับนะครับว่า ทุกประเทศต้องใช้เกณฑ์ที่เข้มที่สุด เพราะฉะนั้น ไม่มีประเทศไหนหรอกครับที่จะพยายามยึดมาตรฐานเข้มที่สุด ตั้งแต่ตอนเริ่มต้น ส่วนใหญ่ก็จะเริ่มที่ระดับ 1 ซึ่งตอนนี้ประเทศไทยก็คือได้ถึงระดับที่ 2 แล้วครับ ก็คือ 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

จากข้อมูลทั้งหมดนั้น อาจทำให้หลายคนโล่งใจไปได้บ้างว่า เรื่อง “ฝุ่น PM 2.5” ที่หลายคนกำลังพยายามป้องกันด้วยการหา “หน้ากากอนามัยแบบพิเศษ N95” มาสวมใส่ ไม่ได้น่าวิตกอย่างที่เคยคิด แต่เมื่อนำข้อมูลจากภาครัฐดังกล่าว มาเทียบกับข้อมูลที่ทางองค์กรอิสระนำเสนอเอาไว้ กลับเห็นความขัดแย้งอย่างชัดเจน โดย ธารา บัวคำศรี ผู้อำนวยการกรีนพีซเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประจำประเทศไทย เคยไลฟ์สดผ่านแฟนเพจ “Greenpeace Thailand” แสดงว่ากังวลเรื่อง “มาตรวัดฝุ่น” ของภาครัฐเอาไว้ด้วย

“ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา เราไม่ค่อยรู้เรื่องฝุ่นละออง “PM 2.5” และทางกรมควบคุมฯ ก็มองว่าฝุ่นละอองไม่เกินมาตรฐาน เพราะไปวัดที่ “PM 10” ซึ่งเป็นฝุ่นละอองขนาดใหญ่กว่ามาก สะท้อนปัญหาระบบที่มีอยู่ของประเทศไทย ในการที่จะเน้นไปที่เรื่องการป้องกัน การเตือนภัย และการปกป้องสุขภาพอนามัยของประชาชน

กรมควบคุมฯ บอกว่าที่เขาไม่ได้รวมเอา “PM 2.5” เข้าไปรวมค่าวัดมาตรฐานในบรรยากาศ เพราะปัจจุบันสถานที่ติดเครื่องวัดฝุ่นละอองขนาด PM 2.5 ยังมีไม่พอที่จะไปคำนวณหาดัชนีทางอากาศได้ ซึ่งเราก็รอตั้งแต่ปี 54 แล้ว ผ่านมา 7 ปี เราก็ยังต้องหายใจเอาสิ่งนี้เข้าไปทุกวัน
ความยากของมันก็คือ จะทำยังไงให้คนเห็นต้นตอของปัญหาเรื่องนี้ ถ้าเรามัวแต่ไปโทษอากาศปิดว่า ทำให้มลพิษมันสูง แต่ถ้าเรามองว่ามลพิษสูงเพราะมีรถยนต์วิ่งเยอะ ทำให้มลพิษสูง เราก็จะมองเห็นต้นตอของปัญหา ดังนั้น ต่อให้อากาศปิดแค่ไหน ต่อไปอากาศก็จะไม่มีค่าฝุ่นละอองพิษสูงขนาดนี้
คือเรื่องมลพิษทางอากาศมันไม่ได้เลวร้ายทุกวัน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นช่วงนี้ก็สะท้อนให้เห็นว่า เราจำเป็นจะต้องเข้าไปหาแหล่งข้อมูลต่างๆ และต้องตื่นตัวด้วยตัวเองก่อน ร่วมมือกันระหว่างกลุ่มคนในสังคม อาจจะไม่ต้องไปรอภาครัฐก็ได้ เราสามารถทำอะไรกันขึ้นมาเอง เพื่อที่จะปกป้องตัวเองให้พ้นจากภัยคุกคามต่างๆ ที่มาจากทางอากาศ
เพราะถ้าเราไปรอภาครัฐอย่างเดียวคงแย่ ดังนั้น ทุกคนก็ต้องช่วยกัน หนึ่งในนั้นก็คือการลงชื่อสนับสนุนให้หน่วยงานรัฐผลักดันเรื่องนี้ด้วย”

https://mgronline.com/livelite/detail/9610000015095

Title: Re: จะเชื่อใคร? “ฝุ่นเมืองกรุง” ไม่อันตราย หรือเพราะ “มาตรวัดไทย” อ่อน
ส่งโดย candy girl on 02/14/18 เวลา 11:42:29
ลงชื่อยังไงึ่ะ

 และโหวคไม่เอาถ่านหินค่ะ



ThaiClinic.Com . All Rights Reserved.