ThaiClinic.Com (http://www.thaiclinic.com/cgi-bin/wb_xp/YaBB.pl)
For MD. >> Doctor Room l ห้องพักแพทย์ >> พ่อแม่ไม่ค่อยโม้แล้วว่าลูกเป็นหมอ :)
(Message started by: Hippo on 04/04/17 เวลา 20:14:16)

Title: พ่อแม่ไม่ค่อยโม้แล้วว่าลูกเป็นหมอ :)
ส่งโดย Hippo on 04/04/17 เวลา 20:14:16
สมัยก่อนช่วงสอบติดหมอ พ่อกับแม่ภูมิใจมากคุยฟุ้งทั่วตลาด และเป็นหัวข้อพูดคุยที่คุยได้อีกหลายปี จนผมเรียนจบ  ส่วนพี่เรียนคณะอื่น แม่ไม่ค่อยคุยให้ใครฟังแถมเหน็บพี่ว่า ทำไมไม่เลือกหมอ

จนกระทั่งตอนนี้อายุเลข 3 ปลาย พี่เงินเดือนไปสองสามแสนแล้ว แต่ตัวผมยังหลักหมื่น ผ่อนบ้านต๊อกต๋อย หัวข้อที่แม่เอาไปคุยกับเพื่อนบ้านกลับเป็นเรื่องพี่แล้ว รู้สึกลึกๆว่าแม่คิดว่าทำไมมันเป็นหมอประสาอะไร ไม่เห็นรวยเลย ตอนนี้ไม่เห็นสอนหลานแล้วว่า เรียนเก่งๆจะได้เป็นหมอ  

ขำขำนะครับ  ครอบครัวใครเป็นแบบผมบ้าง  ;D ;D ;D

Title: Re: พ่อแม่ไม่ค่อยโม้แล้วว่าลูกเป็นหมอ :)
ส่งโดย candy girl on 04/04/17 เวลา 20:21:34
โลกเปลี่ยนไป ค่ะ

Title: Re: พ่อแม่ไม่ค่อยโม้แล้วว่าลูกเป็นหมอ :)
ส่งโดย 6699 on 04/04/17 เวลา 20:32:37
หมอเข้ามาในระบบมากกว่าเดิม เมื่อสามสิบปีก่อน รับปีละ 500 แต่ปัจจุบัน เฉียด 2500 มากขึ้น ห้าเท่า แต่ประชากรเท่าเดิม
การที่มีหมอมากกว่าเดิม ห้าเท่า งานจะน้อยกว่าเดิม เหลือ 20% เคยตรวจคนไข้ที่ร้านวันละ 100 ตอนนี้ น่าจะเหลือแค่ 20 โดยเฉลี่ย แต่น่าจะเป็นอาชีพที่มีความสุข เพราะมั่นคง งานไม่หนัก และมีเกียรติ  แต่อาจจะไม่ตอบโจทย์เรื่องความร่ำรวยอีกต่อไป

Title: Re: พ่อแม่ไม่ค่อยโม้แล้วว่าลูกเป็นหมอ :)
ส่งโดย :: King of BANPU :: on 04/04/17 เวลา 21:23:15


http://mpics.manager.co.th/pics/Images/560000003507901.JPEG

ผิดคาด!! “หมอ-พยาบาล” ไทยไม่ขาดแคลน แต่มีปัญหากระจายตัว ชี้ 10 ปีข้างหน้า “สาธารณสุข” ล้นตลาด


Quote:
 สช. ชี้ “หมอ - พยาบาล” ไม่ขาดแคลน เผย อัตรารวม 2 วิชาชีพต่อคนไทยเกินกว่าสัดส่วนที่ WHO กำหนด 2.28 ต่อ 1,000 ประชากร แต่มีปัญหาการกระจายตัว นักวิชาการชี้ 10 ปี ข้างหน้า “หมอ - หมอฟัน - พยาบาล” เพียงพอ หากกำลังการผลิตเท่าเดิม แต่ขาดแคลน “เภสัชกร” ด้านกลุ่ม “นักสาธารณสุข” อาจล้นความต้องการ ชู “ทีมหมอครอบครัว” ดูแลประชาชนใกล้บ้าน คนไทยดูแลสุขภาพตัวเองเป็น ลดการไป รพ. ได้


http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9600000033816



:)


Title: Re: พ่อแม่ไม่ค่อยโม้แล้วว่าลูกเป็นหมอ :)
ส่งโดย หมอเมืองสยาม on 04/04/17 เวลา 22:35:47
                        อาชีพอื่นรวยๆ  กระผมคิดยังไง ? - " อาชีพอื่นก็เหมือนอึ ครับ   พวกเขาแค่กินอึกำลังอร่อย "

Title: Re: พ่อแม่ไม่ค่อยโม้แล้วว่าลูกเป็นหมอ :)
ส่งโดย zinc on 04/05/17 เวลา 08:48:13
ผมเคยเตือนไว้เป็น10ปีแล้วว่าคนเก่งๆควรไปเรียนทางอื่นๆอย่ามาลงหลุมดำแพทย์กันซะหมดเหมือนสมัยก่อน
ตอนนี้เริ่มเห็นแล้วครับว่าเด็กเก่งจริงจะไม่เรียนแพทย์แล้ว คิดง่ายๆแค่เรียนสาขาคอมหรือการเงินหรือไอ้ที่รักที่ชอบ มันก็รวยล้ำหน้าแพทย์ไปไกลมากแถมมีความสุข มีเวลาและที่สำคัญคือได้พักผ่อน
ตอนเรียนก็ไม่เครียดมาก เด็กเก่งอยู่แล้วแถมชอบอีกมันก็เลยเรียนไปสนุกไป ลูกหมอเราหลายคนเรียนสาขาอื่นก็เห็นมีความสุขประสบความสำเร็จแบบผุดๆ บ้างก็ไปทำงานกับบริษัทชั้นนำระดับโลก น่าตื่นเต้น น่าภูมิใจแทน

Title: Re: พ่อแม่ไม่ค่อยโม้แล้วว่าลูกเป็นหมอ :)
ส่งโดย Tonlew on 04/05/17 เวลา 10:22:20


พี่ชายคุณ Hippo ทำงานอะไรค่ะ ?


Title: Re: พ่อแม่ไม่ค่อยโม้แล้วว่าลูกเป็นหมอ :)
ส่งโดย Hippo on 04/05/17 เวลา 18:33:05

on 04/05/17 เวลา 10:22:20, Tonlew wrote:
พี่ชายคุณ Hippo ทำงานอะไรค่ะ ?

ทำบริษัทเอกชนครับ
แต่ผมคิดว่า ถึงผมไม่ได้เป็นหมอ ผมก็คงทำงานบริษัทไม่รุ่งแน่ๆ
บุคลิคผมไม่ได้เลย
;D

Title: Re: พ่อแม่ไม่ค่อยโม้แล้วว่าลูกเป็นหมอ :)
ส่งโดย VC on 04/05/17 เวลา 21:00:33
ตอนสอบติดโคดดีใจ
นึกในใจว่า ชาตินี้ สบายละกู
ที่ไหนได้

Title: Re: พ่อแม่ไม่ค่อยโม้แล้วว่าลูกเป็นหมอ :)
ส่งโดย zinc on 04/06/17 เวลา 08:58:06
ถ้าย้อนเวลาได้อยากเป็นไกด์และเปิดบริษัททัวร์
สาวจีนเอย เกาหลีเอย ญี่ปุ่นเอย .....
สวยผุดๆ น่าร๊าก น่ารัก  ขาวๆ สวยๆทั้งนั้น
เฮ้อ.... คิดแล้วความดันขึ้น  หุ หุ

Title: Re: พ่อแม่ไม่ค่อยโม้แล้วว่าลูกเป็นหมอ :)
ส่งโดย doreus on 04/06/17 เวลา 09:31:03
ของที่บ้านสมัยก่อนผมเงินเดือนแค่หมื่นกว่าบาท คลินิกอีกนิดหน่อย ชีวิตก็ไม่ได้ฟู่ฟ่าเหมือนน้องสาวที่ทำเอกชนนะครับแน่นอนเงินเดือนห่างกัน20เท่า จนพีคสุดคือห่างกัน30เท่า  แต่แม่ก็ยังอวดเค้าไปทั่วว่าเป็นแม่หมอ
ระยะยาว รายได้มันก็มาชนกันเองแหละครับผมกว่าจะชนกับน้องสาวได้ก็อายุสี่สิบแล้ว แต่ก่อนหน้านั้นเค้าก็เก็บไปได้เยอะกว่าผมเยอะแล้วเพราะเค้าทำเดือนนึงเท่ากับผมต้องทำยี่สิบเดือนถามว่าอิจฉามั๊ยตอนนั้นยอมรับว่าอิจฉา เอาความอิจฉามาเป็นความพยายาม วางแผน ชีวิตใหม่ไม่นั่งบ่นไปวันๆเสียเวลา โง่ จน ขาดโอกาส ก็ต้องใช้การวางแผน แรงและความพยายามไม่ได้ใช้ปากบ่น ถึงสำเร็จไม่มากแต่ก็ได้ชื่อว่าทำดีที่สุดแล้ว

แต่ความสุขของชีวิตพออายุซักสี่สิบกว่าๆ เรื่องเงินมันจะสำคัญน้อยลงละครับ
แต่อย่างว่า ความสุขของแต่ละคนมันต่างกัน

ปล. ฝากข้อคิดดีดีสำหรับคนรุ่นนี้
http://terrabkk.com/news/%E0%B8%84%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B9%86-5-tedtalks-%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87-%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B9%89/

Title: Re: พ่อแม่ไม่ค่อยโม้แล้วว่าลูกเป็นหมอ :)
ส่งโดย หมอเมืองสยาม on 04/06/17 เวลา 21:12:40
                      พ่อแม่ส่วนใหญ่ไม่ปลื้มลูกอาชีพแพทย์ ? - คำตอบ " อมพระมาพูดก็ไม่เชื่อ ครับ"...

Title: Re: พ่อแม่ไม่ค่อยโม้แล้วว่าลูกเป็นหมอ :)
ส่งโดย teetotal on 04/07/17 เวลา 07:41:45
ถ้าไม่ได้ทำเอกชน เรื่องเงินอาจคุยไม่ได้
แต่ เรื่องประโยชน์ต่อเพื่อนมนุษย์ ก็น่าจะคุยได้ ครับ

Title: Re: พ่อแม่ไม่ค่อยโม้แล้วว่าลูกเป็นหมอ :)
ส่งโดย shymam on 04/08/17 เวลา 11:32:26
ไม่ได้dramaนะคับ แต่อยากให้อ่าน อิอิ
 เป็นหมอ (ถ้าไม่ได้อยู่เอกชนหรือเปิดคลินิค) ชาตินี้คงไม่มีทางรวย แต่ก้ไม่มีวันอดตายหรอกคับ แต่สิ่งที่ได้แน่ๆคือ บุญคับ และความภูมิใจเวลาที่เราได้ช่วยคนไข้ให้หายหรือดีขึ้น สมัยนี้ถึงแม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างแพทย์กับคนไข้เปลี่ยนไปมาก แต่คนไข้ที่น่ารักและเคารพนับถือหมอก็ยังมีอยู่ไม่น้อย จงภูมิใจเถอะคับที่ชาตินี้ได้เกิดมาช่วยชีวิตคนไม่มากก็น้อย
 ส่วนตัว ก็ไม่ได้รับราชการหรอกคับ แต่อยู่รพ.เอกชนที่รับคนไข้ทุกสิทธิ์ ทั้งบัตรทอง, ปกส. ก็เหนื่อยนะคับ ก็เคยคิดเหมือนกันว่าอยู่เอกชนแล้วทำไมยังต้องเหนื่อยขนาดนี้ ทำไมไม่ย้ายไปอยู่ที่อื่นที่รายได้พอๆกันแต่เหนื่อยน้อยกว่า ก็เป็นเพราะเหตุผลข้างบนนั่นแหละคับที่ทำให้ผมอยู่มาได้ 6 ปีกว่าละ สุดท้ายขอชื่นชมแพทย์ที่ยังอยู่ในระบบราชการ ท่านคือลูกผู้ชาย(หรือลูกผู้หญิง)ตัวจิง ข้าขอคารวะ 3 จอก ปรบมือรัวๆ เพราะพวกท่านคือหมอของพระราชา

Title: Re: พ่อแม่ไม่ค่อยโม้แล้วว่าลูกเป็นหมอ :)
ส่งโดย Any_Obtion on 04/08/17 เวลา 14:51:54
ยังนึกไม่ออกว่าเจ้าตัวเล็กถ้าไม่เรียนหมอแล้วจะไปแนวไหน
(กำลังจะขึ้นปี 6)

คำนวณก็ไม่เก่ง

คอมพิวเตอร์ก็ไม่ชอบ

ที่ถนัดเห็นแต่ชอบวาดรูปการ์ตูน   ซึ่งถ้าไม่เจ๋งจริงน่าจะเอาตัวรอดยาก

เลยให้เลือกหมอ  แต่ลึกๆก็ห่วงค่ะ

ปล. มีรุ่นพี่ลูกสาว 4 ปี  ทำงานประจำรัฐบาล จันทร์-ศุกร์  
     ส่วนนอกเวลา กะเสาร์ อาทิตย์   วิ่งรอกพิเศษ ER   รวมๆ รายได้ประมาณ 2 แสน


Title: Re: พ่อแม่ไม่ค่อยโม้แล้วว่าลูกเป็นหมอ :)
ส่งโดย Dr._Panya on 04/19/17 เวลา 14:27:37
:D :D :D

Title: Re: พ่อแม่ไม่ค่อยโม้แล้วว่าลูกเป็นหมอ :)
ส่งโดย delta999 on 12/14/17 เวลา 16:48:02
;D



ThaiClinic.Com . All Rights Reserved.