หน้าแรกเว็บบอร์ด หน้าแรกเว็บบอร์ด
   For MD.
   Doctor Room l ห้องพักแพทย์
   Post reply ( Re: เป็นโควิดกะเค้าเหมือนกันค่ะดีที่ยังมีชีวิตรอดมาได้ )
ขอเชิญเพื่อนแพทย์พูดคุย แสดงความคิดเห็นครับ
หัวข้อ:
ใส่ชื่อ:
Email:
Add YABBC tags:
Add Smileys: <more...>
ข้อความ:

Disable Smilies




Topic Summary
จากคุณ: คุณแม่ลูกหนึ่ง โพสเมื่อวันที่: 11/20/21 เวลา 17:51:29
Smiley
 
Day1  8 พย มีอาการไอเสมหะมากจนได้ยิน Rhonchi ตัวเองครืดคราดตลอด  
ตรวจ ATK nasal = neg , saliva = neg
.....
Day2,3   9,10  พย อาการไอยังทรงๆ  แต่ม่ีถ่ายเหลวทุกวัน  
 อาเจียนเป็นน้ำลายน้ำย่อย ปวดเมื่อยเนื้อตัววัดไข้ไม่ถึง 37.4  
ปวดเอวมาก ปัสสาวะค่อนข้างบ่อย (น่าจะดื่มน้ำเยอะเพราะกระหายน้ำ)
ตรวจ ATK nasal ทุกวัน  = neg
.....
Day4  11  พย  
 รู้สึกเหนื่อยเหมือนในปอดมีอะไรแปลกปลอมแย่งที่อากาศที่จะหายใจ  
เพลีย ปวดมากทั้งร่างกายและศีรษะ ถ่ายเหลว ปัสสาวะบ่อย
ตรวจ ATK nasal = pos ->  saliva = pos
ได้แอดมิท  23:30 น.  ผลฟิล์ม = pneumonia  ตามภาพประกอบค่ะ
O2sat  คืนนั้น อยู่ราวๆ  94-97 แต่ไม่อยาก on O2  
ได้ start favipiravir ประมาณหลังเที่ยงคืน 9 เม็ด สองโดสแรก  
จากนั้น 4 เม็ดวันละสองครั้ง  ได้ยาทั้งหมดห้าวันค่ะ
 
แก้ไขข้อความนิดนึง จริงๆแพลนว่า เช้า12จะไปตรวจPCR  
แล้วจะไปแอดมิทรพ.เอกชนที่ติดต่อเอาไว้ค่ะ
 
แต่พอที่บ้านทุกคนรู้เรื่อง ทุกคน โทรคุยกันกลางดึก  
ทั้งญาติพี่น้องลูกพี่ลูกน้องโทรกันยังไงไม่รู้ ติดต่อทำเรื่องให้เสร็จสรรพ
เราไปแต่ตัวกับพวกที่ชาร์ตแบตและหน้ากากอนามัยหนึ่งห่อและทิชชู่  
สรุปว่า เราต้องไปรพ.ทันทีค่ะให้ไวที่สุดเพราะว่ามันหลายวันแล้วมันลงปอด  
ถ้าไปมันจะตายไปเลยเร็วมาก ต้องรีบไปรับยาต้านไวรัสให้เร็วที่สุด  
จึงเป็นที่มาของการไปแอดมิทด่วนในคืนนั้นค่ะ
 
 
....
เช้าวันถัดมา nasopharyngeal swab PCR = positive
จากคุณ: คุณแม่ลูกหนึ่ง โพสเมื่อวันที่: 11/20/21 เวลา 17:54:10
ที่จริงก็ยังงงๆอยู่บ้างว่าทำไมถึงไม่ได้ยาจนครบสิบวันนะคะ
 Smiley
จากคุณ: คุณแม่ลูกหนึ่ง โพสเมื่อวันที่: 11/20/21 เวลา 18:06:03
หลังจากที่แอดมิทได้หนึ่งคืนกับครึ่งวัน ได้ยาต้านสามโดสละ
 
O2 sat  ไม่ค่อยขึ้นเท่าไหร่รู้สึกว่าเหนื่อยด้วยค่ะ  
มีความไม่แน่ใจว่าเราไม่ตอบสนองกับ favi หรือไม่    
มีอาการเจ็บปวดทรมานทั้งตัวและศีรษะ อยากเข้าห้องน้ำบ่อยๆ  
ไอ ร่างกายเหมือนไม่ใช่ของเราไปละ
 ไข้เราไม่เคยลงเลยค่ะ  37.6-37.9 ตลอดเวลา
 
เลยจะขอย้ายไปเพื่อเปลี่ยนเป็นรพ.ระดับสูงขึ้น
ที่สามารถจ่ายเปลี่ยนเป็นยา remdesivir , steroid  เพิ่มเติมให้ได้
 แต่ไม่ได้รับความยินยอมจากทีมแพทย์ผู้ดูแลค่ะ
  ( คุณหมอเฉพาะทางโรคติดเชื้อ )
 
คุณหมอเจ้าของไข้ก็พยายามฟอร์ซเพื่อสิ่งที่ดีที่สุดให้เรา
ขอให้เราแล้วแต่บังเอิญไกด์ไลน์ของที่ที่เราไปแอดมิทนั้น  
มีระบบระเบียบหรือแนวทางที่น่าจะเป็นแนวทางของเขาที่จำกัดการใช้ remde
 
คุณหมอเจ้าของไข้จึงฟิล์มซ้ำให้คืนนั้นและเพิ่มสเตียรอยด์  
dexa IV,  ivermectim  ให้  ทันที
และขอ  monoclonal antibody ให้  
จนเบิกยามาฉีดเร็วมากได้ฉีดในเช้าวันถัดไปค่ะ
จากคุณ: คุณแม่ลูกหนึ่ง โพสเมื่อวันที่: 11/20/21 เวลา 18:11:02
ณ คืนวันที่เราขอย้าย  เราขอใช้สิทธิ์เซ็นไม่สมัครอยู่  
 แต่ทางรพ.ไม่ยินยอมเลยค่ะ  
ขอเดินออกเฉยๆแล้วมาเคลียร์เอกสารเองภายหลังก็ไม่ให้ กักตัวไว้ค่ะ
.........
คือเราให้เหตุผลว่า  ในเมื่อเราติดต่อจนได้เตียงในรพ.ที่ศักยภาพสูงขึ้นได้
และประสานขอยาใหม่ได้ท ำไมจึงไม่ให้เราไป
เราไปเองได้นะไม่ต้องการรถรีเฟอร์
และถ้ารพ.ยืนยันว่าต่อให้ไปที่อื่นก็ไม่ได้ยาใหม่หรอกยังไงก็ยาเดิม
เราก็จึง บอกว่างั้นเราไปเอกชนก็ได้เราติดต่อไว้แล้วเหมือนกัน
ทั้งขอรถและขอห้องไว้แล ้ว  
คือเรามีปลายทางพร้อมรอรับแล้วทั้งสองแบบค่ะ
( ณ จุดนั้นคือ คนที่อยู่ที่บ้าน ญาติพี่น้อง ลูกพี่ลูกน้องที่เป็นหมอผู้ใหญ่
รพ.ต่างๆ  เป็นห่วงเรามากต้องการให้เราย้ายทันที  
แต่เราไม่สามารถไปจากรพ.เดิมได้เลยค่ะ )
 
สุดท้ายถึงขั้น คล้องกุญแจหน้าห้องเราเลยค่ะ  ^ ^  ก็ตลกดีนะคะ  
เรามารู้ตอนเช้าเพราะคิดว่าน่าจะได้เวลาอาหารเช้าแล้วจะเปิดประตู
เพื่อดูรถส่งอาห ารค่ะ แต่สรุปคือติดกุญแจข้างนอกห้อง
ไม่สามารถเปิดห้องได้ค่ะ
 
ดูผ่านช่องไปจะเห็นกุญแจที่คล้องไว้ด้านนอกนะคะ  ^ ^
 
ผ่านไปแล้วก็ขำๆค่ะ แต่ตอนที่อยู่ลำพังมันก็หลอนๆนะคะ  
ว่าถ้าเกิดมีอัคคีภัย จะมีคนใจดีมาเปิดประตูให้เราไหม
โดยที่เราอยู่ชั้น5   และกระจกระเบียงหลังห้องก็ล็อคตายไว้ค่ะ
เพราะมักมีคนไข้ชอบเปิดออกไปกระโดดหน้าต่างเรื่อยๆ
จากคุณ: คุณแม่ลูกหนึ่ง โพสเมื่อวันที่: 11/20/21 เวลา 18:24:38
พอดีหลังจากตรวจ ATK pos  11 พย. และเราไปแอดมิทตามลำพังแล้ว
 
 
...
เช้าตรู่วันที่ 12  ทุกคนในบ้านอาการปกติ  ได้พากันไปตรวจ  PCR  
 ที่คลินิกแลบของที่บ้านค่ะ  โดยขับรถไปคนละคันนะคะ
คุณแม่ขับไปเองค่ะ สามีไปกับลูก
 
ผล  neg  ทุกคน
 
...
วันที่ 13  ทุกคนก็ตรวจ  ATK  nasal  ก็ยัง  neg ทุกคน
 
...
วันที่   14  ทุกคนในบ้าน ได้พากันไปตรวจ  PCR  
ที่คลินิกแลบของที่บ้านอีกค่ะ  
 คราวนี้แย่แล้ว  ลูกม่ีไข้และไอค่ะ  
 ผลตรวจลูกสาวสิบขวบ  PCR = positive  ไข้สูงเลย  38.9  
 
 
....
ทีนี้ทำไงล่ะ ลูกก็ต้องแอดมิท  
 แต่หมอเด็กประเมินแล้ว  อาการของลูก เบากว่าของแม่  
 เพราะไข้สูงแต่ไม่เหนื่อย  
 ลูกจะต้องแยกไปอยู่วอร์ดอีกวอร์ดคนเดียว
 
ก็เลยพยายามขอร้องเอาลูกมาอยู่ด้วยกัน แต่ก็ระวังกันเองด้วยค่ะ  
จากคุณ: คุณแม่ลูกหนึ่ง โพสเมื่อวันที่: 11/20/21 เวลา 18:33:10
หลังจากนั้น ชีวิตช่วงแอดมิท ก็พอกล้อมแกล้มค่ะ  
เพราะวอร์ดโควิดคือผู้ป่วยดูแลตัวเองอยู่แล้ว  
และต้องติดต่อส่งข้อมูลทางไลน์ให้จนท.วอร์ดค่ะ
 
วอร์ดยังคงเป็นวอร์ดผู้ป่วยที่ต้องการการดูแลสูง
คือมีที่เสียบออกซิเจนและเครื่องมอนิเตอร์บางห้องค่ะ
ซึ่งขณะที่เราอยู่ชั้นนั้น เราได้เปลี่ยนห้องทั้งหมดสี่ครั้ง  
ตามอาการของเรา และอาการของรูมเมทที่จะมาค่ะ
 ( ก่อนลูกมาแอดมิท )
 
ทุกครั้งที่เปลี่ยนห้องเราจะต้องไปล้างห้องน้ำและถูพื้น
และเก็บขยะเก็บผ้าใช้แล้ว
บางคร้้งถ้ารูมเมทเขาหนักจริงๆเราต้องช่วยวัดค่าต่างๆให้เขาด้วย
เพราะส่วนใหญ่รูมเมทเรามักจะช่วยเหลือตัวเองไม่ค่อยจะได้
หรือบางทีพักหลับและเป็นประชาชนค่ะ  
มีทั้งคุณป้าที่เป็นโควิดรอบที่สองแล้ว  
กับชาวเขาที่ย้ายแยกกับคนในครอบครัวจากจังหวัดอื่นมาด้วย
ซึ่งเขาก็เป็นทั้งบ้านเลยค่ะสามีลูกแม่เขาก็เป็น
 
หลังจากได้อยู่กับลูกตามลำพังสองคนแล้ว
วัด V/S  o2sat  ทุกสี่ชม. มีไข้กินยาเอง  
มีถ่ายเหลวอาเจียนผสม ORS เอง
 
เช้าๆและบ่ายๆต้องออกกำลังกายสามนาที
เพื่อดูการเปลี่ยนแปลงของออกซิเจน
 
เก็บขยะ ล้างห้องน้ำ ถูพื้น ทุกสิ่งเอง พ่วงลูกเข้าไปอีกคน
 แฮ่ ก็ดีนะคะลูกเราเองจะให้ใครดูล่ะ  
 
ดีีที่สิ่งที่เตรียมมาเพียงพอคือ
 ปลั๊กพ่วง สายชาร์ตมือถือ แมคบุค
จากคุณ: คุณแม่ลูกหนึ่ง โพสเมื่อวันที่: 11/20/21 เวลา 18:43:42
ทีนี้พอวันที่ 16 พย.  
หมอของเรา บอกว่า  
ต้องเคลียร์เตียงเพราะมีผู้ป่วยหนักกว่าเข้ามาอีก 12 คน  
และเราต้องแยกกับลูกนะ
 
เอาล่ะสิ  เฮ้อ  ก็เลย ขอย้ายไป  cohort  รวมหญิง พร้อมกับลูกค่ะ
โดยลูกยังไข้ไอหนักพอสมควรอยู่ แต่แม่มันเป็นหมอนี่ ก็พอไหวล่ะมั้ง  
 
และย้ายก็คือ ย้ายทันทีค่ะ กลางดึกนั้นเลย  
คือการเปลี่ยนเปลงห้องของที่นี่จะรวดเร็วมากตามจำนวนคนไข้มั้งคะ  
โควิดมันระบาดเนาะ
 
ย้ายลงมาก็ ล้างห้องน้ำก่อนเลยค่ะ ล้างเตรียมไว้สองห้องก่อน
 กับล้างอ่างล้างมือ  ห้องน้ำรวมค่ะ  
อย่างน้อยถ้าเราและลูกมาใช้ก็ยังพอเลือกห้องที่ล้างไว้แล้ว
ได้อย่างน้อยห้องนึง
 
ครบติดตามเอกซเรย์ Day5  ของลูกคือ   18  พย.  เราก็  18  เหมือนกัน
 
ก็เลยคุยไว้ล่วงหน้าว่า ยังไงก็ตาม ยังขอไม่ออกนะคะ
ถ้าลูกยังไม่ออกห่วงลูกสาวด้วยค่ะเขาเป็นเด็กจะอยู่ยังไง  
 ในวอร์ดรวมcohort
 
สรุปว่า  พอย้ายลงมา   cohort  รวมหญิง  วันที่  16  
เอกซเรย์ซ้ำ  18  ผลเอกซเรย์ปกติ  
 ก็เลยได้ออกรพ.พร้อมกัน เย้  
 
สรุปรวมลูกได้กินยา  favi 5 วันค่ะ  เราได้กิน  7 วันค่ะ
จากคุณ: คุณแม่ลูกหนึ่ง โพสเมื่อวันที่: 11/20/21 เวลา 18:53:39
กล่าวถึงคนที่บ้านกันบ้างค่ะ
 
สามี   คุณแม่   โดยขับรถไปคนละคันนะคะคุณแม่ขับไปเองค่ะ
 สามีไปกับลูก
 
ตรวจ  PCR   12,14,16 = neg  และไม่มีอาการใดๆค่ะ
สลับวันตรวจ ATK nasal  เอง  13,15,17  
และยังตรวจอยู่ทุกวันค่ะยังไม่เจอ
 
ทุกวันนี้ก็นอนแยกห้องกัน คือเรานอนกับลูก  
แต่ใส่แมส แยกกินข้าว เก็บขยะบ่อยๆ ล้างห้องน้ำ  
ทำความสะอาดอะไรกันเหมือนตอนอยู่  cohort รวมปกติค่ะ
 
เราไม่สามารถแน่ใจการแลกเปลี่ยนเชื้อว่ามันเชื้อเดียวกันไหม  
มีการกลายพันธุ์ไหม ด้วยได้ใช่ไหมคะ
 
ของเรารพ.แจ้งว่าเราครบเกินสิบวันหลังเริ่มป่วยแล้วถือว่าปลอดเชื้อ  
แต่ของลูกต้องกักตัวถึงวันที่  27 ค่ะ
 
โดยรวมๆแล้วชีวิตที่บ้านก็ถือว่าดีมากค่ะ
นอกจากจำกัดพื้นที่ตัวเองอยู่ในห้องนอนชั้นสองจนครบเวลาที่เขากำหนด
 
เวลาส่งของหรืออาหารก็จะสั่งแกรบหรือเซเว่นมาส่งหน้าบ้าน  
 
ใช้โอนเอาลดการสัมผัส ให้เขาแขวนหน้าบ้าน  
แล้วให้สามีกับคุณแม่ ชักรอกมัดถุงมั่งตะกร้ามั่ง
ส่งให้ทางระเบียงหลังห้องนอนค่ะ  
ขยะมัดๆไว้ตรงระเบียงถุงสองชั้น
 รอวันครบกักตัวจะเอาไปทิ้งที่จุดที่เขาจัดไว้ให้ในชุมชนค่ะ
 
อ้อ สามีนอนในคลินิกค่ะพอดีเปิดคลินิกหน้าบ้าน  
คุณแม่นอนในบ้านเหมาชั้นหนึ่งไปค่ะ  
 ชั้นสองเป็นโซนกักตัวของเราและลูก
 
ยังคงถ่ายเหลวทุกวันนะคะทั้งเราและลูก
เหมือนท้องไส้ไม่ค่อยรับอาหารที่กินเข้าไปค่ะกินได้น้อยมาก  
รสชาติในปากมันเพี้ยน ได้กลิ่นบ้างแล้วแต่เพี้ยนค่ะ  
เหมือนคนแพ้ท้อง    
 
ดีที่เขาให้ ORS รสส้มมาเยอะพอสมควรค่ะ
 
แล้วก็มีชุด  HI  ที่มีีที่วัดไข้ ตารางบันทึก  
ที่วัดออกซิเจนปลายนิ้ว ถุงแดง แอลกอฮอล์  
หน้ากากอนามัย จัดไว้ให้อย่างดีมากเลยค่ะ
จากคุณ: คุณแม่ลูกหนึ่ง โพสเมื่อวันที่: 11/20/21 เวลา 19:04:33
โชคดีีที่ร่างกายลูกสาวค่อนข้างแข็งแรง
เพราะซ้อมกีฬากอล์ฟเกือบทุกวันค่ะ
 
กีฬาช่วยได้มากนะคะ
 
น้องมีวินัย รู้หน้าที่ ร่างกายพร้อม ทำให้ต่อสู้กับโรค  
คิดบวก  ไม่งอแง มีเหตุผล  
ไม่หงุดหงิดเลยค่ะตลอดช่วงที่่ป่วย
 
ชีวิตกีฬาของเขาก็เพิ่งเข้าที่หลังการบาดเจ็บ  
Fracture proximal humerous  
แขนซ้ายไปเมื่อปลายเดือนมิถุนา
 (  หกล้มตอนอยู่บนเซิร์ฟสเก๊ตแล้วมีเด็กวิ่งมาชนล้ม  )
 
ฟอร์มเพิ่งจะกลับมา เพิ่งได้แชมป์เป็นสนามแรก  
ก็ต้องมาป่วยโควิดอีก
 
ต้องยกเลิกรายการแข่งไปอีกหลายรายการมาก
 
หวังว่าโอกาสจะเข้ามาถึงเขาอีกในวันข้างหน้า  
อยากให้เขามีอนาคตที่่สดใสในกีฬาที่เขาถนัดค่ะ
จากคุณ: คุณแม่ลูกหนึ่ง โพสเมื่อวันที่: 11/20/21 เวลา 19:13:50
แฮ่  ขออวดสกอร์หน่อยได้ไหมคะ  
สกอร์วันที่สอง  
 
แบบน่าเหลือเชื่อไม่น่าเชื่อว่าจะสามารถตีกลับมา
พลิกเป็นผู้ชนะได้ด้วยค่ะ  
 
 มีเบอร์ดี้ด้วยสามหลุม
 
 
 Cheesy
จากคุณ: คุณแม่ลูกหนึ่ง โพสเมื่อวันที่: 11/20/21 เวลา 19:31:36
หลังจากวันที่เราขอออก
 
มี  lorazepam  ให้เราทุกคืนค่ะ แต่เราไม่กิน แฮ่ ไม่อยากกิน
 
เพิ่มเติม กรดไหลย้อนค่ะ ได้  omeprazole, simethicone  
ดีขึ้นอย่างโอเคเลยนะคะ  ถือว่าเป็นผลพลอยได้เลยค่ะ
 
สำหรับ  mucolytic  น้านนน  glyceryl guicolate  ค่ะ
 
เราว่าเราน่าจะ อ้วน อายุเกิน เจาะน้ำตาลได้สูงนิดหน่อย  ไ
ด้ตรวจ FPG  ซ้ำก่อนออกรพ.ด้วยค่ะ แฮ่ จิเป็นเบาหวานหรือยังหนอ
จากคุณ: คุณแม่ลูกหนึ่ง โพสเมื่อวันที่: 11/20/21 เวลา 19:36:05
ชีวิตที่รพ.ไม่แย่นะคะ
 
คุณหมอดีค่ะ  จนทดีค่ะ  แม่บ้านดีค่ะ  รปภ.ดีค่ะ  
พนง.เซเว่นดีค่ะ   คนไข้คนอื่นก็ดีค่ะ  
มีคนที่แบบเหมือนจิตอาสาดูแลทุกคนด้วย
 
สามารถสั่งของเซเว่นให้เขาฝากขึ้นมาให้ได้ตามรอบเวลาค่ะ  
แกรบก็สั่งได้นะคะ  
แต่ต้องเผื่อเวลานิดนึงกะๆเอาว่าแม่บ้านน่าจะเอามาให้ตอนไหนค่ะ
จากคุณ: คุณแม่ลูกหนึ่ง โพสเมื่อวันที่: 11/20/21 เวลา 19:40:41
ลืมบอกค่ะ เราฟัง lungs ตัวเอง ก่อนเห็นผลฟิล์มนะคะ  
เอาสเต๊ทติดตัวไปด้วยค่ะ เลยได้ใช้ฟังทั้งของตัวเองและของลูกค่ะ  
ดีของลูกโล่งตลอด แต่ไอเยอะ
เพราะเขามีอาการทาง URI ร่วมด้วยค่อนข้างมากค่ะ
 
ได้ยินเป็น  Bronchial breathsound  ที่ชายปอดสองข้าง
 both LL  + RML   ค่ะซึ่งไม่ปกติเลยทึบๆ
 
ส่วน LLL  มีเสียง  fine crep แบบ fine มากๆ
 
วันที่ได้ยาต้านไปสามโดสแล้ว ก็ยังทึบเหมือนเดิมค่ะ  
เราเลยคิดว่าเราน่าจะไม่ค่อยตอบสนองต่อ  favi เท่าไหร่
จากคุณ: คุณแม่ลูกหนึ่ง โพสเมื่อวันที่: 11/20/21 เวลา 19:51:00
เรา  ( ไม่ได้แกล้งนะ )  ลืมบอก จริงๆเรากินแต่ para  
กับ  bromhexine  ค่ะ ช่วง Day1-4
 
แต่เราแอบกิน   prednisolone  5 เม็ด ตอนเช้าวันที่ 11 ค่ะ
 เพราะคิดว่าเป็นช่วงหน้าหนาวทุกปีที่เรามักจะไอเป็นเดือนๆ
หลังจากเคยเป็นไข้หวัด 2009 มาก่อนหนึ่งครั้ง
และเราจะมีอาการแบบนี้ทุกปีค่ะที่จะต้องไอเป็นเดือนช่วงปลายปีแบบนี้
 
แล้วก็แอบกินบรูเฟนไปตอน 16:30  
 เพราะอยากให้ร่างกายดีขึ้น
เพราะอยากทำกับข้าวที่ลูกชอบเสริมให้ลูกค่ะ
 
เราก็ทำกับข้าวเสร็จประมาณทุ่ม  
แล้วก็เดินมาตรวจ ATK ที่คลินิกขายอยู่ค่ะ  
พอผลบวกก็ตรวจซ้ำอีกยี่ห้อ
(แบบน้ำลายของลูกเตรียมไว้เวลาไปแข่งกอล์ฟค่ะ)
 
พอบวกซ้ำปุ๊บ  ก็ปิดประตูคลินิกเลย  
ละ  ลูกกับสามีกลับจากเรียนพิเศษพอดีประมาณทุ่มนิดๆ  
ก็ตะโกนบอกพวกเขาว่า แม่เป็นโควิดนะ  
 ห้ามเข้ามา ห้ามเปิดประตู
 
แล้วทุกคนก็ตกใจกัน  แล้วก็เริ่มโทรหาคนนั้นคนนี้  
เตรียมของนั่นนี่ก้น  
เราก็เตรียมติดต่อรพ.เอกชนที่เราทำพาร์ทไทม์อยู่
เพื่อเตรียมปลายทางสำหรับเช้าวันรุ่งขึ้นเอาไว้  
พี่สตาฟก็ยังแซวว่า  
ดีเลยมาแอดมิทแล้วก็รับจ๊อบเป็นหมอสนามไปด้วยเลยนะ  
ก็ยังคุยเล่นๆกันอยู่  
เพราะเราทำประกันโควิดเอาไว้แล้วด้วย
ไม่ได้มีปัญหาอะไรเบิกได้เกือบหมด
 
สรุป ก็ผิดแผนน่ะค่ะ  
เพราะว่าพี่หมอลูกพี่ลูกน้องที่เขาดูแลรพ.ระดับสูงหน่อย
เขาประเมินจากอาการของเราแล้วเห็นควรได้ยาต้านไวรัสในทันที
เพื่อป้องกันอัตราตายที่จะเกิดขึ้น  ก็เลยต้องรีบไปขลุกขลักกันไป  
 ลิฟท์ก็ห้ามใช้ค่ะ  
ทางขึ้นลงผู้ป่วยโควิดก็คือบันไดหนีไฟ เดินขึ้นไปชั้นห้าเอง  
เหนื่อยมากจริงๆแบบนึกว่าจะตายละละ
แบบปอดมันไม่ดีอยู่ด้วยนะ 555
จากคุณ: คุณแม่ลูกหนึ่ง โพสเมื่อวันที่: 11/20/21 เวลา 20:11:57
วันจันทร์ที่ 22 พย  คุณแม่และสามีจะไปตรวจ PCR อีกครั้งค่ะ  
โดยก็ยังอาการปกตินะคะ  ^ ^
จากคุณ: nicenick โพสเมื่อวันที่: 11/20/21 เวลา 22:35:00
เป็นกำลังใจให้นะ
จากคุณ: 6699 โพสเมื่อวันที่: 11/21/21 เวลา 06:23:26
ดีใจด้วยคะ ไม่ทราบมีภาพรังสีทรวงอกแบ่งปันให้เพื่อนๆดูได้หรือไม่  /ขอบคุณคะ
จากคุณ: +SandsOfTime+ โพสเมื่อวันที่: 11/21/21 เวลา 06:29:47
ฉีดวัคซีนไหม? ก่อนนี้
จากคุณ: คุณแม่ลูกหนึ่ง โพสเมื่อวันที่: 11/21/21 เวลา 07:03:35
on 11/20/21 เวลา 22:35:00, nicenick wrote:
เป็นกำลังใจให้นะ  

 
 
ขอบคุณค่ะ  ^ ^
จากคุณ: คุณแม่ลูกหนึ่ง โพสเมื่อวันที่: 11/21/21 เวลา 07:04:45
on 11/21/21 เวลา 06:23:26, 6699 wrote:
ดีใจด้วยคะ ไม่ทราบมีภาพรังสีทรวงอกแบ่งปันให้เพื่อนๆดูได้หรือไม่  /ขอบคุณคะ

 
มีค่ะจนทส่งในไลน์แต่อาจจะไม่ชัดมากนะคะเดี๋ยวลงต่อท้ายค่ะ
จากคุณ: คุณแม่ลูกหนึ่ง โพสเมื่อวันที่: 11/21/21 เวลา 07:05:39
on 11/21/21 เวลา 06:29:47, +SandsOfTime+ wrote:
ฉีดวัคซีนไหม? ก่อนนี้

 
 
ซิโนฟาร์มครบสองเข็มค่ะ
จากคุณ: คุณแม่ลูกหนึ่ง โพสเมื่อวันที่: 11/21/21 เวลา 07:12:50
film ค่ะ  พอดีเป็น portable  และส่งในไลน์มาอีกทีค่ะเลยอาจจะไม่ค่อยชัด
จากคุณ: jumpoo โพสเมื่อวันที่: 11/21/21 เวลา 09:38:32
ยาต้นไวรัสต้องให้เวลามันหน่อยค่ะ ลดไวรัส  แต่ cs เนี้ยต้องtxด้วย steroid crxไม่progressคือ ได้ผล   ของเราos 88 on cajular5lim ใช้redi  dexa รียถอยdexaเมือ่os ดีขึ้นรอดค่ะ ตอนนี้ออกมารักษาคนไข้covidแล้ว ปอดดีกว่าเราอีก ของเราขาวไปครึ่งปอด2ข้าง sv มันไม่ช่วยอะไร
จากคุณ: คุณแม่ลูกหนึ่ง โพสเมื่อวันที่: 11/21/21 เวลา 10:42:16
on 11/21/21 เวลา 09:38:32, jumpoo wrote:
ยาต้นไวรัสต้องให้เวลามันหน่อยค่ะ ลดไวรัส  แต่ cs เนี้ยต้องtxด้วย steroid crxไม่progressคือ ได้ผล   ของเราos 88 on cajular5lim ใช้redi  dexa รียถอยdexaเมือ่os ดีขึ้นรอดค่ะ ตอนนี้ออกมารักษาคนไข้covidแล้ว ปอดดีกว่าเราอีก ของเราขาวไปครึ่งปอด2ข้าง sv มันไม่ช่วยอะไร

 
 
ขอบคุณที่แบ่งปันค่ะ   Smiley
จากคุณ: Mr.Note โพสเมื่อวันที่: 11/21/21 เวลา 20:16:54
อ่านละมาหงุดหงิด ทำไมต้องลอคประตู  
ถ้าเป็นผมคงโวยวาย อาละวาดกันจนพังไปข้างนึงครับ แหะๆ
จากคุณ: คุณแม่ลูกหนึ่ง โพสเมื่อวันที่: 11/22/21 เวลา 10:24:14
on 11/21/21 เวลา 20:16:54, Mr.Note wrote:
อ่านละมาหงุดหงิด ทำไมต้องลอคประตู  
ถ้าเป็นผมคงโวยวาย อาละวาดกันจนพังไปข้างนึงครับ แหะๆ

 
 
ณ  จุดนั้น   เรานึกถึงข้อกฎหมายขึ้นมาเหมือนกันค่ะ  
เราก็ไม่พอใจมากๆเลยนะคะ  ^ ^  
แต่เราก็นึกถึงคนที่มีความเกี่ยวข้องกับเราในการแอดมิทครั้งนี้น่ะค่ะกลัวจะ เกิดการขัดแย้งกันขึ้นกับหลายๆฝ่ายหลายๆคน
 
อีกสองวันต่อมา  ปรากฏว่า  คราวนี้  แม้แต่ประตูทางออกหนีไฟของตึก  ก็โดนคล้องลวดเอาไว้ด้านนอกด้วยค่ะ
จากคุณ: Dr._Panya โพสเมื่อวันที่: 11/22/21 เวลา 10:29:46
ถูกล็อคประตูจากด้านนอก มันน่ากลัว+ ละเมิดสิทธิ์ผู้อื่น ไปหน่อย (ออกแนว กักขัง/ หน่วงเหนี่ยว รึเปล่า)...ซึ่งถ้าคนในห้อง/ ผู้ป่วย ไม่ยิมยอมปฏิบัติตามกฎ/ อยากจะหนี ก็เป็นเรื่องของเค้า (อาจจะให้เซ็นไม่สมัครใจจะอยู่ ไม่ใช่ไปเอากุญแจมาล็อคประตู แบบนี้) ครับ
จากคุณ: คุณแม่ลูกหนึ่ง โพสเมื่อวันที่: 11/22/21 เวลา 15:50:45

อัพเดทค่ะ  วันนี้  22 พย  สามี และ  คุณแม่  ไม่มีอาการ  ตรวจ PCR  ซ้ำ = neg   อยู่ทั้งสองคนค่ะ เย้  
 
ของเราทางรพ.ถือว่าปลอดโรคแล้วเมื่อครบสิบวันหลังวันแรกที่มีอาการนะคะคือคร บตั้งแต่18  แล้ว
 
แต่ของลูกสาว เขามีอาการ  14 พย  รพ.ให้กักตัวจนถึงวันที่ 27  พย. ค่ะ
 
 Smiley
จากคุณ: คุณแม่ลูกหนึ่ง โพสเมื่อวันที่: 11/22/21 เวลา 15:59:46
on 11/22/21 เวลา 10:29:46, Dr._Panya wrote:
ถูกล็อคประตูจากด้านนอก มันน่ากลัว+ ละเมิดสิทธิ์ผู้อื่น ไปหน่อย (ออกแนว กักขัง/ หน่วงเหนี่ยว รึเปล่า)...ซึ่งถ้าคนในห้อง/ ผู้ป่วย ไม่ยิมยอมปฏิบัติตามกฎ/ อยากจะหนี ก็เป็นเรื่องของเค้า (อาจจะให้เซ็นไม่สมัครใจจะอยู่ ไม่ใช่ไปเอากุญแจมาล็อคประตู แบบนี้) ครับ

 
จริงๆ ณ วันนั้น คือ เขาไม่ส่งแน่แล้ว เราก็เลยขอใช้สิทธิ์ไม่สมัครอยู่ค่ะ  
ตะโกนคุยกันนะคะเพราะวอร์ดโควิดคือ จนท แยกจากผู้ป่วยสิ้นเชิง
 
เราบอกว่า  ขอเซ็นไม่สมัครอยู่นะคะ  เขาบอกรอสักครู่  
เราก็รอ
รอไปรอมา เราก็ว่าจะไม่รอละ  
บอกว่า งั้นเราไปละนะ ค่อยกลับมาจัดการเอกสารภายหลังแล้วกัน
 ( เราก็ไม่ได้เป็นคนไม่น่าเชื่อถือทีี่จะหนีจากรพ.
ไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายไหมอ่า  )
 
สักพักคุณหมอเจ้าของไข้โทรมาคุยบอกว่าขอทำความเข้าใจหน่อยเถอะ
ว่ามันเปลี่ยนยาต้านไวรัสไม่ได้จริงๆ  
แต่เขาไฟท์ยา monoclonal antibody  ให้ได้แล้ว
 จะได้ฉีดหลังเที่ยงคืน
 ยังไงโทรระงับปลายทางที่จะรับเราไปก่อนได้ไหม
กับให้เราโทรแจ้งทำความเข้าใจกับพี่ๆหมอๆของเราให้หน่อย
 
ซึ่งตรงนั้นแหละค่ะ
ที่เราคิดว่าทางวอร์ดก็คงจะคิดว่าเรามีโอกาสที่จะหนีจากรพ.ได้สูง
จึงได้ตัดสินใจขังเราแทน - - '
 
ระหว่างนั้นก็มีการโทรคุยกันไลน์คุยกันหลายฝ่ายค่ะ
เขาก็ให้เราย้ายไปอีกห้องบอกว่า
เป็นห้องที่สามารถมอนิเตอร์ ขณะฉีดยาได้  
ซึ่งจะได้ฉีดหลังเที่ยงคืนเลย
เราก็ย้ายไปค่ะ
ซึ่งก็คือห้องนั้นแหละค่ะที่เรานอนข้ามคืนแล้วตื่นมาพบว่า
มันล็อคจากข้างนอกห้อง
 
และยาก็ไม่ได้หลังเที่ยงคืนแต่เป็นหลังอาหารเช้าแทนค่ะ  
ซึ่งเราเข้าใจนะเพราะเป็นยาพิเศษปกติถือว่าเร็วมากแล้ว
กว่าจะทำเรื่องกว่าจะอนุมัติกว่าจะเบิก
กว่าจะผสมเตรียมอะไรอีกน่ะค่ะ
 
ไทม์ไลน์เราค่อนข้างสับสนนิดนึงเหมือนกันนะคะ
ตอนป่วยมันเหมือนฝันไปเลยค่ะมันไม่ใช่ตัวเองเลย  
ความคิดช้า การกระทำช้า คือมันมีผลมากค่ะ
จากคุณ: คุณแม่ลูกหนึ่ง โพสเมื่อวันที่: 11/22/21 เวลา 16:01:01
on 11/21/21 เวลา 20:16:54, Mr.Note wrote:
อ่านละมาหงุดหงิด ทำไมต้องลอคประตู  
ถ้าเป็นผมคงโวยวาย อาละวาดกันจนพังไปข้างนึงครับ แหะๆ

 
อยากจะทำมากเลยค่ะสารภาพตามตรงเลย  แต่แบบคือร่างกายสภาพมันไม่ไหวแล้วน่ะค่ะ  ^ ^  ขยับตัวยังเหนื่อยเลย
จากคุณ: Dr._Panya โพสเมื่อวันที่: 11/23/21 เวลา 11:32:59
on 11/22/21 เวลา 15:59:46, คุณแม่ลูกหนึ่ง wrote:

 
จริงๆ ณ วันนั้น คือ เขาไม่ส่งแน่แล้ว เราก็เลยขอใช้สิทธิ์ไม่สมัครอยู่ค่ะ  
ตะโกนคุยกันนะคะเพราะวอร์ดโควิดคือ จนท แยกจากผู้ป่วยสิ้นเชิง
เราบอกว่า  ขอเซ็นไม่สมัครอยู่นะคะ  เขาบอกรอสักครู่  เราก็รอ
รอไปรอมา เราก็ว่าจะไม่รอละ บอกว่า งั้นเราไปละนะ ค่อยกลับมาจัดการเอกสารภายหลังแล้วกัน ( เราก็ไม่ได้เป็นคนไม่น่าเชื่อถือทีี่จะหนีจากรพ.ไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายไหมอ ่า  )
สักพักคุณหมอเจ้าของไข้โทรมาคุยบอกว่าขอทำความเข้าใจหน่อยเถอะว่ามันเปลี่ยน ยาต้านไวรัสไม่ได้จริงๆ  แต่เขาไฟท์ยา monoclonal antibody  ให้ได้แล้ว จะได้ฉีดหลังเที่ยงคืน ยังไงโทรระงับปลายทางที่จะรับเราไปก่อนได้ไหมให้เราทำความเข้าใจกับพี่ๆหมอๆ ของเราให้หน่อย
 
ซึ่งตรงนั้นแหละค่ะที่เราคิดว่าทางวอร์ดก็คงจะคิดว่าเรามีโอกาสที่จะหนีจากร พ.ได้สูงจึงได้ตัดสินใจขังเราแทน - - '
 
ระหว่างนั้นก็มีการโทรคุยกันไลน์คุยกันหลายฝ่ายค่ะ
เขาก็ให้เราย้ายไปอีกห้องบอกว่าเป็นห้องที่สามารถมอนิเตอร์ ขณะฉีดยาได้ ซึ่งจะได้ฉีดหลังเที่ยงคืนเลย
เราก็ย้ายไปค่ะ
ซึ่งก็คือห้องนั้นแหละค่ะที่เรานอนข้ามคืนแล้วตื่นมาพบว่ามันล็อคจากข้างนอก ห้อง
 
และยาก็ไม่ได้หลังเที่ยงคืนแต่เป็นหลังอาหารเช้าแทนค่ะ ซึ่งเราเข้าใจนะเพราะเป็นยาพิเศษปกติถือว่าเร็วมากแล้วกว่าจะทำเรื่องกว่าจะ อนุมัติกว่าจะเบิกกว่าจะผสมเตรียมอะไรอีกน่ะค่ะ
 
ไทม์ไลน์เราค่อนข้างสับสนนิดนึงเหมือนกันนะคะตอนป่วยมันเหมือนฝันไปเลยค่ะมั นไม่ใช่ตัวเองเลย ความคิดช้า การกระทำช้า คือมันมีผลมากค่ะ

 
 
น่ากลัว+ น่าเห็นใจ ครับ
จากคุณ: philosophy โพสเมื่อวันที่: 11/23/21 เวลา 21:50:40

เอาใจช่วย
 
น่าเห็นใจทั้ง 2 ฝ่าย
 
ใจเขา ใจเรา
จากคุณ: para_kul โพสเมื่อวันที่: 11/25/21 เวลา 09:43:25
เป็นกำลังใจให้ครับ ขอให้สุขภาพแข็งแรงโดยเร็ววัน ครับ
จากคุณ: คุณแม่ลูกหนึ่ง โพสเมื่อวันที่: 11/25/21 เวลา 12:20:44
on 11/23/21 เวลา 11:32:59, Dr._Panya wrote:

 
 
น่ากลัว+ น่าเห็นใจ ครับ

 
 
ขอบคุณค่ะ  ^ ^
จากคุณ: คุณแม่ลูกหนึ่ง โพสเมื่อวันที่: 11/25/21 เวลา 12:21:10
on 11/23/21 เวลา 21:50:40, philosophy wrote:

เอาใจช่วย
 
น่าเห็นใจทั้ง 2 ฝ่าย
 
ใจเขา ใจเรา

 
ขอบคุณค่ะ ^ ^
จากคุณ: คุณแม่ลูกหนึ่ง โพสเมื่อวันที่: 11/25/21 เวลา 12:21:41
on 11/25/21 เวลา 09:43:25, para_kul wrote:
เป็นกำลังใจให้ครับ ขอให้สุขภาพแข็งแรงโดยเร็ววัน ครับ

 
 
ขอบคุณค่ะ  ^ ^
จากคุณ: คนอื่น โพสเมื่อวันที่: 11/25/21 เวลา 14:33:19
อ่านกระทู้นี้แล้ว
คิดถึง แม่น้องอะตอม
 
ขอให้สุขภาพฟื้นฟูไวไวและแข็งแรงนะครับ
จากคุณ: doreus โพสเมื่อวันที่: 11/25/21 เวลา 19:29:08
เค้ามีสิทธิขังเราด้วยเหรอครับ เราสามารถเข้าเอกชนเลยแต่แรกได้มั๊ยตอนนี้ค่อนข้างกลัวโรงพยาบาลรัฐ
จากคุณ: คุณแม่ลูกหนึ่ง โพสเมื่อวันที่: 11/25/21 เวลา 19:39:51
on 11/25/21 เวลา 14:33:19, คนอื่น wrote:
อ่านกระทู้นี้แล้ว
คิดถึง แม่น้องอะตอม
 
ขอให้สุขภาพฟื้นฟูไวไวและแข็งแรงนะครับ

 
ขอบคุณค่ะ   ^ ^  ยังไออยู่เยอะเหมือนกันค่ะ  
เพราะว่าเคยเป็นไข้หวัด 2009  หนักพอสมควร
ยังหลงเหลือความไม่ค่อยปกติไว้
 
ที่ยังมีอยู่อีกอย่างคือ ยังคงถ่ายเหลว วันละหลายครั้ง  อ่อนเพลีย ค่ะ
จากคุณ: คุณแม่ลูกหนึ่ง โพสเมื่อวันที่: 11/25/21 เวลา 19:42:45
on 11/25/21 เวลา 19:29:08, doreus wrote:
เค้ามีสิทธิขังเราด้วยเหรอครับ เราสามารถเข้าเอกชนเลยแต่แรกได้มั๊ยตอนนี้ค่อนข้างกลัวโรงพยาบาลรัฐ

 
 
หนูว่าจริงๆเขาไม่มีสิทธิ์นะคะ  
ไม่ใช่สถานการณ์แบบว่าหนูเป็นตัวอันตรายแพร่เชื้อหรืออะไรแบบในจีน
ที่ว่ามียิงกันเลย
 
คือหนูขอย้ายไปรพ.ที่มีศักยภาพสูงขึ้น  
 โดยที่พี่ๆได้หมายเลขห้องเลขเตียงเรียบร้อยแล้ว
ที่้บ้านก็หารถรีเฟอร์ภายนอกได้แล้ว
ขาดแต่หนูเดินออกไปแค่นั้นค่ะ
 
รพ.รัฐเข้าแล้ว  แฮ่ จะบอกว่า  
ต้องทำตามเจ้าของไข้และระบบของรพ.เท่านั้นจริงๆค่ะแย้งไม่ได้เลย
จากคุณ: คุณแม่ลูกหนึ่ง โพสเมื่อวันที่: 11/25/21 เวลา 19:53:39
on 11/25/21 เวลา 19:29:08, doreus wrote:
เค้ามีสิทธิขังเราด้วยเหรอครับ เราสามารถเข้าเอกชนเลยแต่แรกได้มั๊ยตอนนี้ค่อนข้างกลัวโรงพยาบาลรัฐ

 
รพ.เอกชนแห่งเดียวในจังหวัดที่อยู่  ไม่รับแอดมิทผู้ป่วยโควิดค่ะ
แต่ที่จังหวัดอื่นก็รับอยู่นะคะมียาต้านไวรัสใช้ด้วยค่ะ
จากคุณ: doreus โพสเมื่อวันที่: 11/25/21 เวลา 20:06:58
อ่อครับขอบคุณครับ นึกว่าในกทม. ตกใจ
จากคุณ: Dr._Panya โพสเมื่อวันที่: 12/01/21 เวลา 11:00:24
on 11/20/21 เวลา 18:11:02, คุณแม่ลูกหนึ่ง wrote:
ณ คืนวันที่เราขอย้าย  เราขอใช้สิทธิ์เซ็นไม่สมัครอยู่  
 แต่ทางรพ.ไม่ยินยอมเลยค่ะ  
ขอเดินออกเฉยๆแล้วมาเคลียร์เอกสารเองภายหลังก็ไม่ให้ กักตัวไว้ค่ะ
.........
คือเราให้เหตุผลว่า  ในเมื่อเราติดต่อจนได้เตียงในรพ.ที่ศักยภาพสูงขึ้นได้
และประสานขอยาใหม่ได้ท ำไมจึงไม่ให้เราไป
เราไปเองได้นะไม่ต้องการรถรีเฟอร์
และถ้ารพ.ยืนยันว่าต่อให้ไปที่อื่นก็ไม่ได้ยาใหม่หรอกยังไงก็ยาเดิม
เราก็จึง บอกว่างั้นเราไปเอกชนก็ได้เราติดต่อไว้แล้วเหมือนกัน
ทั้งขอรถและขอห้องไว้แล ้ว  
คือเรามีปลายทางพร้อมรอรับแล้วทั้งสองแบบค่ะ
( ณ จุดนั้นคือ คนที่อยู่ที่บ้าน ญาติพี่น้อง ลูกพี่ลูกน้องที่เป็นหมอผู้ใหญ่
รพ.ต่างๆ  เป็นห่วงเรามากต้องการให้เราย้ายทันที  
แต่เราไม่สามารถไปจากรพ.เดิมได้เลยค่ะ )
 
สุดท้ายถึงขั้น คล้องกุญแจหน้าห้องเราเลยค่ะ  ^ ^  ก็ตลกดีนะคะ  
เรามารู้ตอนเช้าเพราะคิดว่าน่าจะได้เวลาอาหารเช้าแล้วจะเปิดประตู
เพื่อดูรถส่งอาห ารค่ะ แต่สรุปคือติดกุญแจข้างนอกห้อง
ไม่สามารถเปิดห้องได้ค่ะ
 
ดูผ่านช่องไปจะเห็นกุญแจที่คล้องไว้ด้านนอกนะคะ  ^ ^
 
ผ่านไปแล้วก็ขำๆค่ะ แต่ตอนที่อยู่ลำพังมันก็หลอนๆนะคะ  
ว่าถ้าเกิดมีอัคคีภัย จะมีคนใจดีมาเปิดประตูให้เราไหม
โดยที่เราอยู่ชั้น5   และกระจกระเบียงหลังห้องก็ล็อคตายไว้ค่ะ
เพราะมักมีคนไข้ชอบเปิดออกไปกระโดดหน้าต่างเรื่อยๆ

 
ไม่ทราบว่า ทางแพทย์/ รพ. บอกเหตุผล(จริงๆ) ของการไม่ยอมให้ย้าย/ ส่งต่อ/ ออกจาก รพ. (จนถึงขั้นล็อกประตูจากด้านนอกห้อง) มั้ยครับ
จากคุณ: คุณแม่ลูกหนึ่ง โพสเมื่อวันที่: 12/02/21 เวลา 08:11:57
on 12/01/21 เวลา 11:00:24, Dr._Panya wrote:

 
ไม่ทราบว่า ทางแพทย์/ รพ. บอกเหตุผล(จริงๆ) ของการไม่ยอมให้ย้าย/ ส่งต่อ/ ออกจาก รพ. (จนถึงขั้นล็อกประตูจากด้านนอกห้อง) มั้ยครับ

 
ก็พยายามถามแพทย์เจ้าของไข้ที่โทรมาเหมือนกันค่ะ  
แต่ก็ไม่ได้คำตอบชัดเจนแต่เขาก็พูดถึงญาติเราหลายครั้งเหมือนกันค่ะ
เดาว่าพี่ๆของเราอาจจะฝากเราไว้กับผู้ใหญ่ในรพ.(ที่โทรมาก็มีหลายท่านอยู่ที ่เป็นผู้อาวุโสและหัวหน้าในรพ.นั้น)
เขาคงกังวลว่าเราจะfeedbackว่ารพ.นี้ดูแลไม่ดีอะไรแบบนี้รึเปล่าไม่แน่ใจนะค ะ
หรืออาจจะเป็นความเป็นห่วงกังวลในตัวคนไข้ก็คือเราและมีความรับผิดชอบสูงมาก ๆจนไม่อาจปล่อยเราไปได้ ไหม ไม่แน่ใจค่ะ
ืคือได้แต่เดาจริงๆค่ะ
 
คือ ณ ตอนที่เรากำลังจะเดินออกไป พี่สาวพี่เขยติดต่อรถรีเฟอร์เอกชนไว้ให้แล้ว พี่ชายที่รพ.ปลายทางเตรียมห้องไว้ให้เราแล้วมีเลขห้องเรียบร้อย
คือเราพร้อมจะไปแล้วค่ะ  แต่รพ.ไม่ยอมให้ไป  >><<
จากคุณ: Dr._Panya โพสเมื่อวันที่: 12/02/21 เวลา 13:28:55
ไม่ยอมให้ผู้ป่วยย้าย รพ. (จะเซ็นต์ ไม่สมัครใจอยู่ ก็ไม่ยอม) แถมยังล็อกประตูขัง อย่างนี้ ผู้ป่วยยิ่งจะมี Bad Impression ต่อ ทางรพ. นะครับ (ไม่ร้องเรียน/ ฟ้องร้อง ก็ดีแค่ไหนแล้ว) อิ อิ อิ
จากคุณ: คุณแม่ลูกหนึ่ง โพสเมื่อวันที่: 12/02/21 เวลา 14:20:14
on 12/02/21 เวลา 13:28:55, Dr._Panya wrote:
ไม่ยอมให้ผู้ป่วยย้าย รพ. (จะเซ็นต์ ไม่สมัครใจอยู่ ก็ไม่ยอม) แถมยังล็อกประตูขัง อย่างนี้ ผู้ป่วยยิ่งจะมี Bad Impression ต่อ ทางรพ. นะครับ (ไม่ร้องเรียน/ ฟ้องร้อง ก็ดีแค่ไหนแล้ว) อิ อิ อิ

 
 
^ ^  เราว่า ถ้าคนที่โดนขังเป็นสายงานเกี่ยวกับนักกฎหมายก็อาจจะนะคะ
พอดีเราเห็นว่าตัวเราก็เป็นบุคลากรสาธารณสุขเหมือนกันก็เลยมองเบาลงค่ะ
แต่บอกเลยว่า ถ้าไม่จำเป็นจริงๆเราคงไม่เข้าไปใช้บริการรพ.นี้อะค่ะ
ซึ่งประวัติเก่าเราหายหมดแล้วจริงๆเพราะหลังคลอดลูกสิบปีที่แล้ว
เราก็ไม่ไปรพ.นี้อีกเลยค่ะทั้งครอบครัวนะคะ
ประว้ติเก่าก็หายเกลี้ยงละค่ะ
คือรพ.เอกชนเขาก็บริการดีกว่าจริงๆ อย่างเอกสารประกันอะไรเราแค่บอกเลขไป
เขาก็ไปทำมาให้เราเรียบร้อยเลย เราไม่ต้องไปปรินท์หรือถ่ายเอกสารอะไรมาให้เหมือนรพ.รัฐน่ะค่ะ
เข้าไปก็ยื่นๆตรวจๆแอดมิทๆรอเขาทำให้
อันนี้นะคะรอบที่แอดมิทนี่ พอเราออกมาจนครบกักตัวแล้ว  
เราก็ต้องเตรียมเอกสารสำหรับไปขอเคลมเพื่อไปยื่นแผนกประกันของรพ.ภายหลัง
แล้วก็รอคุณหมอเจ้าของไข้เซ็นให้แล้วก็ค่อยเข้าไปรับอีกทีแล้วก็ค่อยส่งให้บ ริษัทประกันต่อไป
 
คุณหมอที่โทรมาคุยตอนเราขอย้ายมีกล่าวถึงว่า รพ.รัฐ ก็ไม่ได้สะดวกสบายอะไรเราควรอดทนหน่อย
คล้ายว่าเขาคิดว่าที่่เราขอย้ายเพราะเราไม่สะดวกสบายประมาณนั้นด้วย
ซึ่งเรางงจริงๆเพราะตั้งแต่เราไปแอดมิทเราไม่ได้ร้องขออะไรพิเศษและไม่ได้เร ียกร้องอะไรเลย
งานทำความสะอาดอะไรในห้องเราก็ทำเองหมดเลยคือเป็นวอร์ดที่ต้องช่วยเหลือตัวเ อง
 
แล้วก็ที่จับใจความได้อีกอย่างคือเหมือนคุณหมอเขาคิดว่าที่เราต้องการย้าย
เพราะไม่พอใจในตัวคุณหมอหรือเจ้าหน้าที่น่ะค่ะ
ซี่งเราได้ยืนยันไปว่าเราไม่ได้ไม่มีความไม่พอใจอะไรเลย
แต่ความต้องการและแนวทางการรักษาที่แตกต่างกันเราจึงต้องการย้ายไปที่ที่ตอบ ความต้องการเราได้มากกว่า
ก็วนลูปไปอีกว่าถึงเราย้ายไปเราก็ไม่ได้ยาที่เราคิดว่าจะได้หรอก >><<
แล้วก็กลับมาวนไปวนมาเรื่องหัวข้อเดิมกันไปเรื่อยๆค่ะ
จนสรุปว่าเรารอดูพรุ่งนี้ละกันว่าหลังได้ยาเพิ่มอีกสามชนิดแล้ว
เรามีอาการเปลี่ยนแปลงดีขึ้นไหมแล้วเราค่อยตัดสินใจอีกทีว่าจะย้ายหรือจะอยู ่ต่อ
แต่คุณหมอเจ้าของไข้ก็พูดในทำนองว่าไม่ได้อยู่ที่เราจะตัดสินว่าพรุ่งนี้เรา จะได้ย้ายหรือไม่
(แนวๆคือเราต้องอยู่ต่อนั่นแหละ  ...  )
พูดกันไปพูดกันมามันก็วนลูปค่ะจริงๆนะแล้วมันดึกมากเลยค่ะ
น่าจะสี่หรือห้าทุ่มนี่แหละคุยไปก็ไอไปเหนื่อยไป
กว่าจะวางสายกันก็เกือบยี่สิบนาทีน่าจะได้ค่ะ  .....
จากคุณ: คุณแม่ลูกหนึ่ง โพสเมื่อวันที่: 12/02/21 เวลา 15:06:19

 
ทั้งนี้ทั้งนั้น
ถึงตอนนี้เราก็ยังคงไม่รู้จริงๆค่ะว่าทำไมเราถึงขอย้ายรพ.ไม่ได้
ยังงงอยู่ค่ะไม่เข้าใจ
 
 
 Smiley
จากคุณ: Dr._Panya โพสเมื่อวันที่: 12/03/21 เวลา 09:37:26
จริงๆแล้ว ถ้าเรา(แพทย์)ไม่ชอบผู้ป่วยคนไหนๆ เช่น ผู้ป่วย นิสัยไม่น่ารัก/ พูดจากับแพทย์/ เจ้าหน้าที่ไม่ดี ไม่สุภาพ/ ขี้วีน ขี้บ่น เรา(แพทย์) ยิ่งอยากจะให้ผู้ป่วย D/C เร็วๆ
ถ้าไปกักขัง หน่วงเหนี่ยวทั้งๆที่เค้าไม่อยากจะอยู่ รพ.ต่อไปทำไม แล้วถ้าเค้า มี Morbid. / Mortal. ทางผู้ป่วย/ ญาติ ยิ่งจะเกลียดเรามากขึ้น จะ Refer ตอนที่อาการหนักมากๆ จนเกินศักยภาพของตัวเองแล้ว ผู้ป่วย/ ญาติจะยิ่งเอาเรื่องเรา น่ะสิ
อันนี้โชคดีที่ในที่สุดอาการดีขึ้นนะครับ อิ อิ อิ
จากคุณ: คุณแม่ลูกหนึ่ง โพสเมื่อวันที่: 12/03/21 เวลา 20:52:33
on 12/03/21 เวลา 09:37:26, Dr._Panya wrote:
จริงๆแล้ว ถ้าเรา(แพทย์)ไม่ชอบผู้ป่วยคนไหนๆ เช่น ผู้ป่วย นิสัยไม่น่ารัก/ พูดจากับแพทย์/ เจ้าหน้าที่ไม่ดี ไม่สุภาพ/ ขี้วีน ขี้บ่น เรา(แพทย์) ยิ่งอยากจะให้ผู้ป่วย D/C เร็วๆ
ถ้าไปกักขัง หน่วงเหนี่ยวทั้งๆที่เค้าไม่อยากจะอยู่ รพ.ต่อไปทำไม แล้วถ้าเค้า มี Morbid. / Mortal. ทางผู้ป่วย/ ญาติ ยิ่งจะเกลียดเรามากขึ้น จะ Refer ตอนที่อาการหนักมากๆ จนเกินศักยภาพของตัวเองแล้ว ผู้ป่วย/ ญาติจะยิ่งเอาเรื่องเรา น่ะสิ
อันนี้โชคดีที่ในที่สุดอาการดีขึ้นนะครับ อิ อิ อิ

 
555
จากคุณ: Dr._Panya โพสเมื่อวันที่: 12/04/21 เวลา 09:37:11
on 12/03/21 เวลา 20:52:33, คุณแม่ลูกหนึ่ง wrote:

 
555

 
 
จะมีนัด Follow up อีกทีประมาณเมื่อไหร่ครับ
จากคุณ: คุณแม่ลูกหนึ่ง โพสเมื่อวันที่: 12/04/21 เวลา 13:02:33
on 12/04/21 เวลา 09:37:11, Dr._Panya wrote:

 
 
จะมีนัด Follow up อีกทีประมาณเมื่อไหร่ครับ

 
FU  CXR  17  ธค ค่ะ
 
 
จากคุณ: Dolly โพสเมื่อวันที่: 12/04/21 เวลา 20:05:37
ขอบคุณที่แบ่งปันประสบการณ์ค่ะ เยี่ยมมากทั้งคู่เลยค่ะ Smiley
จากคุณ: คุณแม่ลูกหนึ่ง โพสเมื่อวันที่: 12/12/21 เวลา 06:53:01
on 12/04/21 เวลา 20:05:37, Dolly wrote:
ขอบคุณที่แบ่งปันประสบการณ์ค่ะ เยี่ยมมากทั้งคู่เลยค่ะ Smiley

 
 
 
 Kiss


  • ข้อความและรูปภาพที่ท่านเห็นส่วนใหญ่ ได้ถูกส่งมาจาก ทางบ้าน
    ทางเว็บไซต์ Thaiclinic.com ไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ของข้อความและรูปภาพที่ถูกส่งมา

  • ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชนและส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ
    เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้นเพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง
    ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง

  • ถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมหรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล
    หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ webmaster@thaiclinic.com หรือ กดแจ้งที่ปุ่ม
    "แจ้งลบกระทู้"
    เพื่อให้ทีมงานทราบและทำการลบข้อความนั้นออกจากระบบต่อไป ขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกันทำให้สังคมน่าอยู่ครับ

ThaiClinic.Com . All Rights Reserved. !--BEGIN WEB STAT CODE-->

Powered by