หน้าแรกเว็บบอร์ด หน้าแรกเว็บบอร์ด
   For MD.
   Doctor Room l ห้องพักแพทย์
   Post reply ( Re: อยากให้พี่ๆ ช่วยแชร์ข้อดีข้อเสียของเฉพาะทางสาขาต่างๆ หน่อยค่า )
ขอเชิญเพื่อนแพทย์พูดคุย แสดงความคิดเห็นครับ
หัวข้อ:
ใส่ชื่อ:
Email:
Add YABBC tags:
Add Smileys: <more...>
ข้อความ:

Disable Smilies




Topic Summary
จากคุณ: Pinkypinky โพสเมื่อวันที่: 09/28/21 เวลา 22:24:37
สวัสดีค่ะ ตามหัวข้อกระทู้เลยค่ะ อยากทราบข้อมูลเบื้องลึกเบื่องหลังว่าแต่ละสาขามีข้อดีข้อเสียอย่างไร พอดีหนูเป็น extern เพิ่งเคยไปวนนอกมา ตอนอยู่รรพรู้สึกว่าสูติงานหนักมากๆ แต่พอออกไปวนนอก โอ้โห สบายเว่อร์ เพราะมีพี่ๆ พยาบาลที่มีประสบการณ์มาอย่างโชกโชนคอยช่วยคลอดอยู่แล้ว ทำให้รู้สึกว่าอยากได้ข้อมูล insight ของสาขาต่างๆ ตอนไปทำงานจริงๆ และเผื่อจะเป็นประโยชน์กับคนอื่นๆ ที่ตัดสินใจเรื่องเรียนต่อด้วยค่า
 
เอาเป็นสาขาที่พี่ๆ เคยเห็นมา หรือเป็นสาขาที่พี่ๆ ทำอยู่ก็ได้ค่า ขอบพระคุณพี่ๆ ทุกท่านล่วงหน้านะค้า
จากคุณ: +SandsOfTime+ โพสเมื่อวันที่: 09/30/21 เวลา 08:08:26
หมอ  Angry Grin
จากคุณ: AsylumSeeker โพสเมื่อวันที่: 09/30/21 เวลา 10:19:32
Grin Grin
จากคุณ: Dr._Panya โพสเมื่อวันที่: 09/30/21 เวลา 11:11:03
โดยปกติ ในเวลาทำงานเท่ากัน...สาขาที่มีหัตถการ ก็จะได้ค่าตอบแทนเป็น Incentive/ DF มากขึ้น  
ดังนั้นจะเลือกเรียนอะไร นอกจากความสนใจ/ ความชอบ ในเนื้อหาวิชาของสาขานั้นๆแล้ว เรื่องงานที่อาจจะหนัก- เบา/ รายได้- ค่าตอบแทน ที่อาจจะมาก- น้อย ก้เป็นเรื่องที่ต้องนำมาพิจารณา เช่นกัน ครับ
จากคุณ: megacure โพสเมื่อวันที่: 10/01/21 เวลา 15:10:23
เลือกตามความชอบดีกว่า
 
แพทย์เป็นอาชีพที่ burn out เยอะมาก
 
ระยะยาวทำสาขาที่ชอบไปได้ถึงเกษียณดีกว่าทำสาขาทำเงิน หรือสาขาสบายหน้าใส แล้วไม่กี่ปีทนไม่ไหวต้องออก
 
ชอบอะไรต้องมีในใจก่อน สัก 3 สาขา
 
ถ้าสูติก็มีสาย dark ให้พยาบาล/intern ทำคลอดหมดถ้าไม่ฝากพิเศษ ไม่โดนจับก็รอดไป
จากคุณ: น้ำเน่าในเงาจันทร์ โพสเมื่อวันที่: 10/01/21 เวลา 15:32:27
เป็นmed sub GI ครับ
 
ตอนจบเป็นinternistงานแม่งจับฉ่ายชิบหาย อะไรก็ตรูทุกสิ่งอย่าง เคสอะไรไม่ใช่ของคนอื่นโยนมาให้medหมด รู้สึกรับผิดชอบงานกว้างไปหมด แต่ไม่รู้ลึก บ่อยครั้งที่ไม่มีความมั่นใจในการpractice งานburn outง่ายมากยิ่งเวลาต้องดูเคสICU ตีshock ดูventilator
 
ทำงานเป็นintesnistได้3ปี รู้สึกว่างานมันburn out มาก ประกอบกับอยู่ดีๆโรงเรียนแพทย์ที่เคยไปสมัคเรียนแล้วไม่ได้ โทรมาหาว่าสนใจมาสมัครGIเรียนอีกไหม ก็เลยตามเลยไปเรียนต่อ  
 
ตอนเลือกsubboard จริงๆก็ไม่ได้มีsubอะไรชอบเป็นพิเศษหรอก แต่ว่าตอนเป็นresident และตอนทำงานเป็นinternist เห็นอาจารย์ เห็นfellow GIทีมารับconsultดูชีวิตดีเว่ย มีเคสให้ทำหัตถการเรื่อยด้วยๆ สนุกดี คุณภาพชีวิตดีเลย เคสGIเยอะชิบ
 
พอไปเรียนGIจบกลับมาชีวิตดีขึ้นมาก ไม่ต้องเฝ้าเคสมาก ไม่ต้องresuscitae shockหรือดูventilator เพราะจบมาได้ทำงานอยู่ในcenterใหญ่ มีคนดูเคสเฝ้าเคสในICU ให้ ส่องกล้องทำหัตถการเสร็จจบได้พัก  
 
จบออกมาคือคุณภาพชีวิตดี มีเคสให้ตรวจให้ทำหัตถการเรื่อย เงินพอมีพอใช้ไม่ขัดสน พอเป็นsubมันจะรู้สึกมั่นใจในการpracticeมากขึ้นเนื่องจากความรู้มากขึ้นรู้ ลึกขึ้น ทำหัตถการได้มากขึ้น โอกาสผิดพลาดก็ลดลงมา สรุปคือเลือกเรียนถูกsubเลยแหละ
 
สรุปถ้าเลือกสาขาที่เรียนพยายามเลือกสาขาที่มีหัตถการ เพราะรายได้ค่อนข้างดีกว่า คุณภาพดีกว่า ทำหัตถการเสร็จก็คือจบไม่ต้องเฝ้าหลังหัตถการมาก  Wink
จากคุณ: necessary evil โพสเมื่อวันที่: 10/05/21 เวลา 15:00:22
จริงๆตั้งแต่ขึ้นวอร์ดปี 4-5 ก็ควรจะรู้แล้วครับว่าเนื้องานแต่ละแผนกเป็นอย่างไรโดยเฉพาะ major Ward  
ยิ่งเป็น extern ด้วยแล้วเนื้องานในชีวิตจริงตอนเป็น intern มันก็เหมือน extern แหละ ต่างกันแค่ได้เงินเดือน
 
ส่วนตอนเรียนต่อ resident ก็มีหนังสือต้องอ่านไปสอบบอร์ด กับมีวิจัยต้องทำส่ง เงินเดือนน้อยลง งานเยอะขึ้น staff ด่ามากขึ้น นอกนั้นเหมือน intern
 
จริงๆถ้าเป็นหมอทำงานมาจริง ต้องตอบได้ครับว่าแต่ละแผนกเนื้องานเป็นอย่างไร ต้องตอบได้ยันนิติเวชเพราะทุกคนทุกที่ต้องไปวนมาเหมือนกัน
จากคุณ: น้ำเน่าในเงาจันทร์ โพสเมื่อวันที่: 10/05/21 เวลา 17:50:07
on 10/05/21 เวลา 15:00:22, necessary evil wrote:
จริงๆตั้งแต่ขึ้นวอร์ดปี 4-5 ก็ควรจะรู้แล้วครับว่าเนื้องานแต่ละแผนกเป็นอย่างไรโดยเฉพาะ major Ward  
ยิ่งเป็น extern ด้วยแล้วเนื้องานในชีวิตจริงตอนเป็น intern มันก็เหมือน extern แหละ ต่างกันแค่ได้เงินเดือน
 
ส่วนตอนเรียนต่อ resident ก็มีหนังสือต้องอ่านไปสอบบอร์ด กับมีวิจัยต้องทำส่ง เงินเดือนน้อยลง งานเยอะขึ้น staff ด่ามากขึ้น นอกนั้นเหมือน intern
 
จริงๆถ้าเป็นหมอทำงานมาจริง ต้องตอบได้ครับว่าแต่ละแผนกเนื้องานเป็นอย่างไร ต้องตอบได้ยันนิติเวชเพราะทุกคนทุกที่ต้องไปวนมาเหมือนกัน

 
ผมว่ามันไม่ถูกซะทีเดียวครับ โดยเฉพาะminor ward ซึ่งผ่านแป๊บเดียว ไม่ได้เจอชีวิตจริงๆเท่าไหร่ ไม่รู้หรอกlife styleเป็นอย่างไร รายได้เป็นอย่างไร
และบางสาขาต่างกันอีกระหว่างอยุ่ในภาครัฐและเอกชน
แม้แต่med แต่ละsubspecialtyยังต่างกันมากเลยครับ
จากคุณ: Pandermonium โพสเมื่อวันที่: 10/05/21 เวลา 19:26:31
ขนาดสาขาหลักๆสู ศัลย์ เมด เด็ก ออกมาเจอโลกความจริงนอกโรงเรียนแพทย์  อินเทรินหลายคนยังทนไม่ได้เลย  ลาออกกันไปตั้งเยอะ
จากคุณ: Dr._Panya โพสเมื่อวันที่: 10/06/21 เวลา 09:12:04
ที่ไม่เปลี่ยนแปลงนัก ก็คือ Med. นี่แหละที่จะมี ผู้ป่วยทั้ง IPD and OPD ล้นหลามตลอดเวลาแน่นอนครับ จนหลายๆคนต้องหาทางขนขวายไปเรียนต่อยอด ในสาขาที่ ได้ค่าตอบแทนมากขึ้น/ มีภาระงานน้อยลง/ ที่ตัวเองสนใจจริงๆ ฯลฯ แล้วใครจะเลือกเหตุผลตรงไหนเป็นหลักครับ อิ อิ อิ
จากคุณ: Innominate โพสเมื่อวันที่: 10/10/21 เวลา 14:23:21
on 10/05/21 เวลา 15:00:22, necessary evil wrote:
จริงๆตั้งแต่ขึ้นวอร์ดปี 4-5 ก็ควรจะรู้แล้วครับว่าเนื้องานแต่ละแผนกเป็นอย่างไรโดยเฉพาะ major Ward  
ยิ่งเป็น extern ด้วยแล้วเนื้องานในชีวิตจริงตอนเป็น intern มันก็เหมือน extern แหละ ต่างกันแค่ได้เงินเดือน
 
ส่วนตอนเรียนต่อ resident ก็มีหนังสือต้องอ่านไปสอบบอร์ด กับมีวิจัยต้องทำส่ง เงินเดือนน้อยลง งานเยอะขึ้น staff ด่ามากขึ้น นอกนั้นเหมือน intern
 
จริงๆถ้าเป็นหมอทำงานมาจริง ต้องตอบได้ครับว่าแต่ละแผนกเนื้องานเป็นอย่างไร ต้องตอบได้ยันนิติเวชเพราะทุกคนทุกที่ต้องไปวนมาเหมือนกัน

 
ชีวิตภายนอก รร.แพทย์ กับภายในมันต่างกันมากนะครับ ถ้าไม่ได้ไปวนข้างนอก ไม่ได้ไปลองอยู่เอกชน ก็ไม่มีทางรู้หรอกครับ แล้วในชีวิตจริงใครจะหาโอกาสไปเรียนรู้ได้เองหมดล่ะครับ มาถามนี่แหละดีแล้ว
จากคุณ: MK ลุยงานอย่างเดียว โพสเมื่อวันที่: 10/20/21 เวลา 14:36:33
ส่วนตัวตอนเป็นปี 4, ปี 5 extern จะอยู่กลางคืน (เหมือนอยู่เวรกับพี่ๆ extern เท่าที่ทนได้) อาจจะ 4 วัน 5 วัน ลงเวรเที่ยงคืน ประมาณนั้น เพราะส่วนตัว (ตอนนั้นอยากรู้ว่า ถ้าจบไปแล้วมาเรียน แล้วเจอเคสแบบนี้คนแรกๆ เราจะดูแลได้ไม๊และพี่ๆเค้าคิดยังไงถึงทำแบบนี้ แล้วค่อยไปอ่านหนังสือเอา) และด้วยส่วนตัวเวรเยินแต่ไหนแต่ไร ก็เลยได้เรียนรู้ว่าสาขาไหนที่ดวงเราเยินแต่เราคิดว่าเยินแบบเราไม่ชอบ ก็ค่อยๆตัดออกไปทีละสาขา บางอันตอนแรกเหมือนจะชอบ ผมก็จะไปขออาจารย์มาเรียนรู้เคสช่วงปิดเทอม อยู่กับพี่เดนท์ที่สอนเยอะๆเพราะส่วนนึงคือเค้าไม่ค่อยอะไรกับเรามากเหมือนเ ราแค่ elective พี่เค้าอาจมองว่าดีมีคนมาช่วยงาน วันไหนไม่ไหวก็บอกพี่เค้าก่อนล่วงหน้า ประมาณนั้นครับ (อันนี้ส่วนตัวผมเองนะครับ) พอจบไปเป็น intern หัตถการพื้นฐานส่วนใหญ่ผมทำได้ค่อนข้างมั่นใจ และเราก็ต้องรู้ขีดจำกัดเราด้วย และด้วยความที่ผมทำแบบนี้ผมเลยมีเบอร์มือถือพี่เดนท์ที่สนิทๆกัน (จนถึงทุกวันนี้) ไว้โทร consult เวลาเราเจอเคสประหลาดครับ ซึ่งก็ได้รับความเมตตาด้วยดีเสมอมาครับ Smiley
จากคุณ: luzeus โพสเมื่อวันที่: 02/10/22 เวลา 14:54:48

เอาจริงตอนนี้ยังคิดว่าตัวเองเลือกเรียนผิดสาขา
 
ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ เราควรเรียนสาขาที่ไม่มีอะไร emer  
 
 
 
 


  • ข้อความและรูปภาพที่ท่านเห็นส่วนใหญ่ ได้ถูกส่งมาจาก ทางบ้าน
    ทางเว็บไซต์ Thaiclinic.com ไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ของข้อความและรูปภาพที่ถูกส่งมา

  • ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชนและส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ
    เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้นเพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง
    ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง

  • ถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมหรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล
    หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ webmaster@thaiclinic.com หรือ กดแจ้งที่ปุ่ม
    "แจ้งลบกระทู้"
    เพื่อให้ทีมงานทราบและทำการลบข้อความนั้นออกจากระบบต่อไป ขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกันทำให้สังคมน่าอยู่ครับ

ThaiClinic.Com . All Rights Reserved. !--BEGIN WEB STAT CODE-->

Powered by