Topic Summary
|
จากคุณ: simath |
โพสเมื่อวันที่: 08/01/21 เวลา 20:26:06 |
เริ่มจากการที่บุคลากรการแพทย์ส่วนมากรับ sinovac ไปแล้ว 2 เข็ม แต่ยังสามารถติดเชื้อและแพร่เชื้อต่อกันเองได้ จนเกิดเป็นคลัสเตอร์โรงพยาบาลมาหลายที่แล้ว จากข้อมูลคือโรงเรียนแพทย์หลักของไทยทั้งสามแห่งมีบุคลากรติดเชื้อแล้วที่ละ 300-500 คน คือเกิดการติดกันเองในกลุ่มคนที่ฉีด sinovac ครบแล้วนี่แหละ ภายหลัง เมื่อประเทศไทยได้รับบริจาควัคซีน pfizer จากอเมริกาเข้ามาจำนวนมาก จึงเกิดกระแสเรียกร้องให้รัฐบาลนำมาฉีดให้บุคลากรการแพทย์ ซึ่งรัฐบาลก็ยอมอนุมัติตามเสียงเรียกร้อง แต่ "ให้เฉพาะคนที่ฉีด sinovac 2 เข็มแล้วเท่านั้น" ส่วนคนที่ยังไม่เคยฉีดวัคซีนเลย หรือฉีด sinovac 1 เข็ม หรือฉีด AZ 1 เข็ม ไม่ได้รับอนุญาตให้รับวัคซีนบริจาคนี้ จึงเกิดกระแสเรียกร้องอีกครั้ง ทั้งจากบุคลากรการแพทย์ และจากประชาชนส่วนหนึ่ง ให้ฉีดให้กับบุคลากรทุกคนแบบไม่มีเงื่อนไข แต่ในรอบนี้ได้มีคนจำนวนหนึ่ง โจมตีบุคลากรการแพทย์อย่างเต็มที่ เช่น เห็นแก่ตัว คิดถึงแต่ตัวเอง ฯลฯ บางคนไม่ออกมาขัดขวาง แต่ก็ออกแนวประชด เช่น "ฉีดๆให้พวกแม่งไปเหอะ น่ารำคาญ" หรือบางคนก็บอกว่า "รัฐบาลให้ก็ดีแค่ไหนแล้วยังจะเรื่องมากอีก ไม่ต้องฉีดบุคลากรแล้วเอาไปให้ชาวบ้านเถอะ" คิดเห็นอย่างไรกันบ้างครับ
|
จากคุณ: Pandermonium |
โพสเมื่อวันที่: 08/01/21 เวลา 21:00:18 |
IO มีอยู่ทุกที
|
จากคุณ: megacure |
โพสเมื่อวันที่: 08/02/21 เวลา 11:03:16 |
ตาม Crisis resource management ก็เหมาะสมที่จะไม่ให้ Pfizer 2 doses ในบุคลากรที่เอาแต่รอ mRNA vaccine(ที่ไม่ได้มีข้อห้ามรับ Sinovac, AZ หรือ precaution เช่น คนท้อง) ที่จริงควรกำหนดให้เป็น vaccine mandate ด้วยซ้ำ เพราะการรับวัคซีนไม่ใช่ป้องกันส่วนตัวเท่านั้น ยังป้องกัน public ด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งบุคลากรการแพทย์ การแก้ไขควรเริ่มโดยบังคับบุคลากรที่ยังไม่ได้รับวัคซีนใด ๆ ไปรับ Sinovac หรือ AZ เข็มแรกก่อน แล้วจัด Pfizer ให้ lot ถัดไป เพราะถ้าให้ Pfizer 2 doses ก็จะเกิดพฤติกรรมเลียนแบบในอนาคตได้ เช่น ประชาชนบางส่วนจะรั้งรอไม่ยอมรับ Sinovac, AZ เพื่อหวังจะได้ mRNA vaccine 2 doses เช่นกัน ซึ่งถ้าเกิดกระแสนี้ขึ้น จะเป็นอันตรายต่อ public การกระจายวัคซีนสู่ประชาชนวงกว้างจะช้าลงมาก ต้องเข้าใจว่าตอนนี้เราอยู่ในสถานการณ์ขาดแคลนวัคซีนอย่างรุนแรง ชัดเจนว่าความขาดแคลนนี้มาจากความผิดพลาดอย่างร้ายแรงของรัฐบาล แต่ปัญหาที่เกิดแล้ว ความขาดแคลนที่เจออยู่ ก็ต้อง Crisis resource management กันไป เรื่องความเห็นในสังคม ถ้าไม่โดนเบี่ยงเบนความสนใจโดยพฤติกรรมหมู่ของกลุ่มที่สนใจเดียวกัน(ซึ่งจะพ บมากใน Twitter, facebook ซึ่งมี algorithm ให้เราเห็นสิ่งที่สนใจ สอดคล้อง) น่าจะไม่ยากที่จะรู้ว่า ประชาชนส่วนใหญ่ไม่พอใจที่บุคลากรทางการแพทย์บางคนรอแต่ mRNA vaccine แต่เรื่อง booster dose ด้วย Pfizer นั้นประชาชนสนับสนุน
|
จากคุณ: Dr._Panya |
โพสเมื่อวันที่: 08/02/21 เวลา 11:26:03 |
มีแต่คนอยากจะฉีด mRNA Vaccines ยี่ห้อต่างๆทั้งนั้นเลย อิ อิ อิ
|
จากคุณ: น้ำเน่าในเงาจันทร์ |
โพสเมื่อวันที่: 08/02/21 เวลา 12:24:55 |
ผมเห็นด้วยนะว่ามีวัคซีนตัวไหนฉีดๆไปก่อนแล้วค่อยมารอboosterตัวดีๆพวกmRNA เหมือนไปออกรบมีเกราะโง่ๆพอลดdamageให้รอดตายได้บ้าง ดีกว่าไปรอบวกตัวเปล่า
|
จากคุณ: doreus |
โพสเมื่อวันที่: 08/02/21 เวลา 12:57:06 |
อ่านแล้ว ไปได้สามทาง โกรธ เฉยๆ แก้ปัญหา สองทางแรกไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร ทางสุดท้ายน่าจะเป็นทางเลือกที่ดี
|
จากคุณ: -=Jfk=- |
โพสเมื่อวันที่: 08/02/21 เวลา 17:23:01 |
เรื่อง Pfizer ที่ เค้าบริจาคมา แล้ว จัดสรร แปลกๆ เคยเขียนทักท้วงไว้ ตามนี้ https://www.facebook.com/100001000102650/posts/4333221420054485/ ส่วน เมื่อวานอจ. ออกมา บอกทำนองที่ประชุมเห็นด้วยกับการเปลี่ยนแปลงคล้ายที่ผมเขียนไว้ แต่ไม่แน่ใจ ว่าแค่ของแพทยสภา หรือ คณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ กำหนดแล้ว ตามนี้ https://www.facebook.com/Dr.JfkPantip/posts/4335684029808224 แต่ประเด็นคนว่าหมอเห็นแก่ตัว ผมเจอน้อยมาก มีแค่บทความ อจ.นิธิ เลขาราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์เคยออกมา พูดแล้ว ทัวร์ลง คนส่วนใหญ่เข้าใจว่า ควรฉีดให้หมอด่านหน้า รักษาบุคลากรไว้ ไม่ให้เกิด Medical Crisis
|
จากคุณ: simath |
โพสเมื่อวันที่: 08/02/21 เวลา 18:24:01 |
ขณะนี้กลุ่มคนที่ด่าทอบุคลากรที่เรียกร้องวัคซีน มีมากขึ้นอย่างชัดเจน โดยเฉพาะจากขั้วการเมืองบางกลุ่ม บุคลากรจำนวนไม่น้อยที่มีอาการข้างเคียงหลังการฉีด sinovac ในเข็มแรก จนไม่สามารถรับเข็มที่สองได้ หรือพยาบาลหลายคนที่ตั้งครรภ์ในช่วงก่อนหน้านี้ ทำให้ไม่สามารถฉีดวัคซีนได้ และส่งผลให้ไม่ได้รับอนุญาตให้รับวัคซีน Pfizer ที่ได้รับบริจาคมานี้ด้วย หากผมเป็นผู้บริหาร คงสั่งให้บุคลากรกลุ่มนี้ย้ายไปปฏิบัติงานในส่วนอื่น เช่น Back office หรือหน่วยฉีดวัคซีน หรืองานอื่นใดที่ไม่ต้องสัมผัสผู้ป่วยโควิด ก็จะสามารถตอบสนองทั้งนโยบายของรัฐบาล และปกป้องบุคลากรไปด้วยได้
|
จากคุณ: Pandermonium |
โพสเมื่อวันที่: 08/02/21 เวลา 20:50:13 |
สถาบันหลงทิศหลงทาง
|
จากคุณ: Pandermonium |
โพสเมื่อวันที่: 08/02/21 เวลา 21:22:26 |
on 08/02/21 เวลา 18:24:01, simath wrote:ขณะนี้กลุ่มคนที่ด่าทอบุคลากรที่เรียกร้องวัคซีน มีมากขึ้นอย่างชัดเจน โดยเฉพาะจากขั้วการเมืองบางกลุ่ม บุคลากรจำนวนไม่น้อยที่มีอาการข้างเคียงหลังการฉีด sinovac ในเข็มแรก จนไม่สามารถรับเข็มที่สองได้ หรือพยาบาลหลายคนที่ตั้งครรภ์ในช่วงก่อนหน้านี้ ทำให้ไม่สามารถฉีดวัคซีนได้ และส่งผลให้ไม่ได้รับอนุญาตให้รับวัคซีน Pfizer ที่ได้รับบริจาคมานี้ด้วย หากผมเป็นผู้บริหาร คงสั่งให้บุคลากรกลุ่มนี้ย้ายไปปฏิบัติงานในส่วนอื่น เช่น Back office หรือหน่วยฉีดวัคซีน หรืองานอื่นใดที่ไม่ต้องสัมผัสผู้ป่วยโควิด ก็จะสามารถตอบสนองทั้งนโยบายของรัฐบาล และปกป้องบุคลากรไปด้วยได้ |
| สติจ้าสติ อย่าเพิ่งหลงทิศหลงทาง
|
จากคุณ: Pandermonium |
โพสเมื่อวันที่: 08/02/21 เวลา 21:23:32 |
|
จากคุณ: Pandermonium |
โพสเมื่อวันที่: 08/02/21 เวลา 21:24:20 |
|
จากคุณ: positive |
โพสเมื่อวันที่: 08/03/21 เวลา 08:51:00 |
การถูกกล่าวหาว่าเห็นแก่ตัวด้วยความไม่เป็นธรรม เป็นจุดที่ชวนให้ผู้เสียสละคิด ว่าควรเห็นแก่ตัวได้รึยัง ?
|
จากคุณ: philosophy |
โพสเมื่อวันที่: 08/05/21 เวลา 08:23:17 |
เวลาที่มีค่าของคนไทย กับเรื่องโง่ๆไร้สาระ ไม่เฉพาะวัคซีน แต่อีกมาก และเป็นเวลที่สูญเปล่าในการคิดสร้างสรร นวัตกรรมต่างๆ คหสต โดสแรกฉีดแะไรก็ฉีดไปเถอะอย่ามัวแต่รอ โดส 2 3 ขอเป็น AZ or MRNA
|
จากคุณ: jumpoo |
โพสเมื่อวันที่: 08/24/21 เวลา 13:14:54 |
ตัวไหนก็ฉีดไปก่อน ..พวกหน้าด้านเลยสั่งมาแต่svไง ไม่สั่งตัวอื่น
|