หน้าแรกเว็บบอร์ด หน้าแรกเว็บบอร์ด
   For MD.
   Doctor Room l ห้องพักแพทย์
   Post reply ( Re: ขอปรึกษาพี่ๆ Thaiclinic เรื่องการลาออกจากราชการช่วงนี้ค่ะ )
ขอเชิญเพื่อนแพทย์พูดคุย แสดงความคิดเห็นครับ
หัวข้อ:
ใส่ชื่อ:
Email:
Add YABBC tags:
Add Smileys: <more...>
ข้อความ:

Disable Smilies




Topic Summary
จากคุณ: KhowPekHong โพสเมื่อวันที่: 07/30/21 เวลา 10:09:22
เราเป็นResidentรุ่นcovidค่ะ พึ่งจบมาปีนี้เลย เริ่มทำงาน 1 กค ที่ผ่านมาค่ะ
 
ปัญหาที่ทำให้อยากลาออกคือ
1 ไม่มีทุนแพทย์ประจำบ้านสาขาต่อยอดที่เราอยากเรียนค่ะ : เราทำงานที่รพศ.ค่ะ สาขาเราโดนกึ่งบังคับให้เรียนต่อsubboard ซึ่งสมมติ มี subboard A B C D ซึ่งเราอยากเรียน A ถ้าไม่ได้ จะเป็น B C ก็ได้ แต่รพ.ที่เราอยู่ตอนนี้ มีแต่ทุน D ที่เราไม่อยากเรียนเลย (แต่ถ้าต้องเรียน ก็คิดว่าคงเรียนจนจบได้ แต่ใจไม่อยากเรียนเท่าไหร่TT) ส่วนทุน A พึ่งเปิดให้พี่ที่จะไปเรียนปีนี้ ไม่น่าจะเปิดเพิ่มในอีก2-3ปีเป็นอย่างน้อย ส่วนB C (ที่จริงๆมีมากกว่า2) ก็ไม่รู้จะเปิดให้มั๊ย เพราะเค้าอยากได้ D มากๆๆ (แต่ถึงเปิด มันก็ไม่ได้ใช่subboardที่ชอบมากที่สุดอยู่ดี มันแค่เรียนแล้วTraumaจิตใจน้อยกว่าDเฉยๆ) ส่วนการไม่ต่อSubboard สำหรับเราคือโอเคมากสุด 55
 
2 สวัสดิการรพ. : รพ.ไม่มีบ้านพักและที่จอดรถให้ เราเป็นคนกรุงเทพ ก็คือต้องเข่าหออยู่เอง + เช่าที่จอดรถรายวัน/เดือนกันเอง
 
3 จำนวนงาน+เงิน : ขอรวบมาเป็นข้อเดียวกันนะคะ ด้วยความเป็นรพ.ขนาดใหญ่ งานต่อคนมันก็เลยน้อย เงินก็น้อยตามค่ะ แต่ปัญหาที่มากกว่าเงินน้อยคือเราไม่ค่อยชอบระบบการทำงานแบบP4P เท่าไหร่
รายได้ของเราตอนนี้คือ
1 เงินเดือน 2x,xxx (แต่หักกบข เข้ากระเป๋าจริง 18,xxx)
2 เงินไม่ทำเวช 10,000 (ถ้าทำเอกชนในจังหวัด ซึ่งเต็มแล้วเต็มอีก อ.ที่แบ่งเวรให้บอกว่าการันตีขั้นต่ำ 15,000 โดยช่วงนี้คนไข้น้อย ถ้าทำก็น่าจะไม่เกิน 20,000 ส่วนclinicน่าจะเปิดยาก เพราะตอนนี้clinicเต็มจังหวัดแล้วTT)
3 พตส ตอนนี้ 5,000 ถ้าได้ใบ 10,000 แต่ก็คือรอตกเบิกยาวๆไป
4 P4P 9,000-12,000 ตามจำนวนงานที่ได้รับแต่ละเดือน
5 เงินเวร 7,200-10,800 (เวรรพ.เราคิดระบบหัตถการ ขั้นต่ำที่ 900/8hr ถ้ารวมหัตถการเกิน 900 ถึงจะได้มากกว่านั้น ซึ่งช่วงนี้ไม่ถึง เดือนนึงอยู่ประมาณ 8-12 เวร (ประมาณ 4-6 วัน ต่อเดือน) ไม่มีคนขายเวรค่ะ)  
6 เงินวิชาการ conference (เดือนละประมาณ 0-2ครั้ง) ครั้งละ 600 , ตรวจรายงาน/ใบประเมิน น่าจะ200 ฯลฯ
7 ค่าสรุปชาร์ท ชาร์ทละ 20 บาท จำนวนแล้วแต่เดือนค่ะ
รวมๆMaxสุดที่คำนวณได้คือประมาณ 70,000บาท (อันนี้คืองานหนัก รับเอกชนรัวๆ)
สิ่งที่ค้างคาใจเรามากสุดคือระบบมันเหมือนเอกชนแต่เงินน้อยกว่า คือถ้าคิดค่าหัตถการ ค่าadmit เราไปทำเอกชนดีกว่ามั๊ย มันดูแฟร์ๆกว่า ว่าadmitแล้วได้เงิน ตรงไปตรงมาดี
 
ตอนแรกเราอยากย้ายไปรพช.จังหวัดเดียวกันมาก แต่มันก็ไม่มีตำแหน่งเหมือนกัน ส่วนรพ.ที่น่าจะย้ายได้ เราก็ไม่รู้จักใครเลยTT จนไปเจอประกาศรับสมัครของรพ.เอกชนแห่งนึง
 
สิ่งที่คิดว่ารพ.เอกชนให้ได้
1  ไม่บังคับเรียนsubboard หรือถ้าเราเปลี่ยนใจอยากเรียน น่าจะลาออกไปหาFree trainได้ แต่ถ้าไม่ได้ ไม่เรียนเราก็ไม่เดือดร้อน  
 
2 รพ.ที่ไปถามมา ให้บ้านพัก + ตั๋วเครื่องบินกลับบ้านเดือนละ 1 ครั้ง
 
3 การันตีรายได้ ประมาณ 220,000 บาทต่อเดือน (ยังไม่ได้ต่อรอง +ยังไม่ได้คุยเรื่องสัญญาว่าจะการันตีกี่ปี) ซึ่งถ้าเราทำงานไม่ถึงปี ก็ปลดปล่อยสัญญาใช้ทุนได้แล้ว  
 
ปัญหาของเอกชน
1 สวัสดิการแบบ Long term ยังไงอันนี้ราชการชนะเลิศแน่ๆ เพราะมีทั้งสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลพ่อแม่ แล้วก็มีบำนาญให้ (จริงๆรพ.ที่ติดต่อไป เค้ามีสวัสดิการรักษาในเครือรพ.เค้าอยู่ แต่มันคงเทียบเท่าราชการไม่ได้) ข้อนี้ทำให้คิดหนักจริงๆ เพราะจริงๆเราก้อมีประกันสุขภาพอยู่แล้ว ไม่เคยขอเบิกยากับรพ.รัฐซักที แต่ก้อติดที่แม่อาจจะต้องการ (ซึ่งคุยกะแม่ล่าสุด แม่เชียร์ลาออกมาก ไม่สนใจสิทธิข้าราชการเลย)
 
2 ความมั่นคงในการทำงาน ถ้าตัดสินใจออกจากราชการแล้ว คิดว่าการกลับไปน่าจะยาก ก็เลยกังวลเรื่องความมั่นคงในอาชีพประมาณนึงค่ะ
 
 
ขอปรึกษาว่า เราควรจะไปสมัครตอนนี้เลยดีมั๊ย หรือควรจะทำงานราชการไปก่อน (ใจจริง ถ้าไม่มีปัญหาข้อ 1 เราก็คิดว่าน่าจะทำราชการไปยาวๆ จนเกษียณได้ แต่พอมีปัญหาข้อ 1 ก็เลยเริ่มมองเห็นปัญหาข้ออื่นตามๆมา ) ถ้าจะออกควรไปเริ่มคุยกับหัวหน้าภาคไว้ก่อนเลยมั๊ยคะ ถ้าจะลาออกประมาณ พย.-ธค.64 จะดีกว่ามั๊ยคะ หรือถ้าจะไปควรไปเลย
 
ปล ไม่มีปัญหากับเพื่อร่วมงานนะคะ เพื่อนร่วมงานดีมาก
จากคุณ: Pandermonium โพสเมื่อวันที่: 07/30/21 เวลา 11:58:19
ทนอยู่รับใช้ประชาชนไปก่อนนะคะ
 
 
เริ่มงานที่ใหม่ ใครๆก็ต้องปรับตัวทั้งนั้น
จากคุณ: 6699 โพสเมื่อวันที่: 07/30/21 เวลา 15:05:30
ถ้าอยู่รพ.ศูนย์ ส่วนมาก ต้องเรียน sub board  
น่าจะมีข้อมูลเพิ่มเติมว่า เรียนจบอะไร  และจะต่อ subboard อะไร มีทางเลือกอะไรบ้าง เพราะประเด็นนี้ ก็มีส่วนสำคัญในการให้ความเห็นเพิ่มเติม  
 
-ถ้าดูข้อมูลว่า อยู่เวร 8 ชั่วโมง ขั้นต่ำได้อยู่ที่ 900 บาท นับว่า มาตราฐานดีกว่าที่กระทรวงกำหนด ที่ให้ประมาณ 550 บาท  
-เท่าที่ฟังข้อมูลดู คิดว่า ทางรพ.ที่จขกท อยู่ ไม่นับว่า แย่ และมองว่า ไปทางดีอีกด้วย
-ต้องรู้ชื่อรพ. และตำแหน่งที่ตั้ง เพราะการอยู่รพ.อะไร มีส่วนสำคัญในชีวิตอีกด้วย ถ้าบอกด้วย ก็จะแนะนำได้ตรงขึ้น เพราะข้อมูล รพ.ทั้งหมดในประเทศ สามารถสืบค้นได้
จากคุณ: Hippo โพสเมื่อวันที่: 07/30/21 เวลา 18:22:22
ตอนนี้หลายๆคนอยากอยู่ในตำแหน่งที่น้องอยู่ครับ บอกเลยว่ากอดเก้าอี้ไว้ ค่อยหารายได้ทางอื่น
จากคุณ: Pandermonium โพสเมื่อวันที่: 07/30/21 เวลา 19:47:14
อย่างที่เราเคยพิมพ์ไป
ว่าเราเป็นคนหนึ่งที่อยากได้ทุนไปเรียนต่อมาก  แต่ก็ไม่ได้
 
เรารู้สึกสมเพชทุกครั้งที่เจอคนที่ได้รับโอกาสนั้นแล้วทรยศมัน
 
การที่คุณได้ไปเรียน ก็เพราะคุณเอาทุนไป  ถ้าคุณไปตัวคนเดียว จะมีปัญหาได้เข้าเรียรมั้ย ? แถมเงินเดือนที่รับอยู่ทุกเดือนให้เลี้ยงปากเลี้ยงท้อง ก็มาจากภาษีชาวบ้านทั้งนั้น
แต่พอจบมา ยังไม่ทันได้ทำงานตอบแทนสักเท่าไร  คุณก็คิดถึงแค่ตัวเองแล้ว
คิดถึงขั้นจะลาออก  ทิ้งทุน(เออ ใช่สิ ก็เรียนจบแล้ว ได้บอร์ดแล้ว  จะแคร์ทำไม?)
 
ริจะเนรคุณซะแล้ว
 
ถ้าลาออก / หนีทุน  ก็ขอให้ชีวิตฉิบหาย  ล่มจมไปสัก30ปีค่ะ
 
ให้ทำอะไรก็ไม่เจริญ
 
พอใกล้จะสำเร็จก็ขอให้เจ๊งๆ  ไม่มีวันได้ประสบความสำเร็จไปสัก30ปี
 
สาธุ
จากคุณ: KhowPekHong โพสเมื่อวันที่: 07/30/21 เวลา 20:58:49
on 07/30/21 เวลา 15:05:30, 6699 wrote:
ถ้าอยู่รพ.ศูนย์ ส่วนมาก ต้องเรียน sub board  
น่าจะมีข้อมูลเพิ่มเติมว่า เรียนจบอะไร  และจะต่อ subboard อะไร มีทางเลือกอะไรบ้าง เพราะประเด็นนี้ ก็มีส่วนสำคัญในการให้ความเห็นเพิ่มเติม  
 
-ถ้าดูข้อมูลว่า อยู่เวร 8 ชั่วโมง ขั้นต่ำได้อยู่ที่ 900 บาท นับว่า มาตราฐานดีกว่าที่กระทรวงกำหนด ที่ให้ประมาณ 550 บาท  
-เท่าที่ฟังข้อมูลดู คิดว่า ทางรพ.ที่จขกท อยู่ ไม่นับว่า แย่ และมองว่า ไปทางดีอีกด้วย
-ต้องรู้ชื่อรพ. และตำแหน่งที่ตั้ง เพราะการอยู่รพ.อะไร มีส่วนสำคัญในชีวิตอีกด้วย ถ้าบอกด้วย ก็จะแนะนำได้ตรงขึ้น เพราะข้อมูล รพ.ทั้งหมดในประเทศ สามารถสืบค้นได้

 
จริงๆโดยรวมๆรพ.นับว่าดีค่ะ ปัญหาจริงๆเกิดจากทุนsubboardมากกว่าค่ะ ส่วนชื่อรพ.ขออนุญาตยังไม่เอ่ยถึงค่ะ อยู่ห่างไกลกรุงเทพมากค่ะ
จากคุณ: KhowPekHong โพสเมื่อวันที่: 07/30/21 เวลา 21:00:08
on 07/30/21 เวลา 18:22:22, Hippo wrote:
ตอนนี้หลายๆคนอยากอยู่ในตำแหน่งที่น้องอยู่ครับ บอกเลยว่ากอดเก้าอี้ไว้ ค่อยหารายได้ทางอื่น

 
คิดแบบนี้เหมือนกันค่ะ ว่าตำแหน่งที่อยู่ตอนนี้มันน่ากอดเก็บไว้ แต่subboardที่เค้าอยากได้ ก็ไม่น่าเรียนไหวเหมือนกันค่ะ TT
จากคุณ: KhowPekHong โพสเมื่อวันที่: 07/30/21 เวลา 21:10:21
on 07/30/21 เวลา 19:47:14, Pandermonium wrote:
อย่างที่เราเคยพิมพ์ไป
ว่าเราเป็นคนหนึ่งที่อยากได้ทุนไปเรียนต่อมาก  แต่ก็ไม่ได้
 
เรารู้สึกสมเพชทุกครั้งที่เจอคนที่ได้รับโอกาสนั้นแล้วทรยศมัน
 
การที่คุณได้ไปเรียน ก็เพราะคุณเอาทุนไป  ถ้าคุณไปตัวคนเดียว จะมีปัญหาได้เข้าเรียรมั้ย ? แถมเงินเดือนที่รับอยู่ทุกเดือนให้เลี้ยงปากเลี้ยงท้อง ก็มาจากภาษีชาวบ้านทั้งนั้น
แต่พอจบมา ยังไม่ทันได้ทำงานตอบแทนสักเท่าไร  คุณก็คิดถึงแค่ตัวเองแล้ว
คิดถึงขั้นจะลาออก  ทิ้งทุน(เออ ใช่สิ ก็เรียนจบแล้ว ได้บอร์ดแล้ว  จะแคร์ทำไม?)
 
ริจะเนรคุณซะแล้ว
 
ถ้าลาออก / หนีทุน  ก็ขอให้ชีวิตฉิบหาย  ล่มจมไปสัก30ปีค่ะ
 
ให้ทำอะไรก็ไม่เจริญ
 
พอใกล้จะสำเร็จก็ขอให้เจ๊งๆ  ไม่มีวันได้ประสบความสำเร็จไปสัก30ปี
 
สาธุ

 
ก่อนจะตอบคำถาม ขออโหสิกรรมให้คุณก่อนแล้วกันค่ะ ไม่อยากให้คุณมีกรรมต่อเราต่อไปในชาติหน้า (ส่วนตัวไม่เชื่อคำสาปแช่งค่ะ แต่เชื่อในกรรมของการสาปแช่งและคิดร้ายต่อผู้อื่นค่ะ)
 
ส่วนที่คุณสงสัยและพยายามจะคอมเม้นท์มาสองรอบ ทุนที่เราได้ ไม่มีคนสมัครค่ะ (เราสมัครรอบสองด้วยซ้ำ) อยู่ในจังหวัดที่ไกล รพ.ใหญ่คนคิดว่างานหนัก เลยไม่สมัครกันค่ะ แต่เราเลือกที่นี่เพราะกะจะตั้งรกรากที่จังหวัดนี้ค่ะ ค่อนข้างมั่นใจว่าไม่ได้แย่งใคร โดยเฉพาะคุณแน่นอนค่ะ ถ้าเราไม่สมัครก็คือไม่มีคนสมัครอยู่ดี
 
ไม่มีทุนก็เข้าเรียนได้ค่ะ ก่อนที่จะมาเอาทุน สมัครไป2-3ที่ เค้าไม่ถามด้วยซ้ำว่ามีทุนมั๊ย แต่เราเลือกเอาทุนเองเพราะอยากจะกลับมาอยู่จังหวัดนี้
 
เหตุผลในการคิดลาออกคิดว่าชี้แจงไว้ข้างบนค่อนข้างครบแล้ว
 
ปล เราไม่แปลกใจที่คุณไม่ได้ทุนค่ะ ด้วยทัศนคติแบบนี้ เราเป็นคนสัมภาษณ์ให้ทุน เราก็คงคิดหนักค่ะ แล้วก็น่าจะไม่ให้ค่ะ (ปกติทุนของสาธารณสุขถ้าไม่ได้เรื่องมากจริงๆหรือทำตัวผิดปกติจริงๆ มันไม่ได้หายากนะคะ)
 
ปล2 เราหลังไมค์ตอบไม่ได้นะคะ แต่เราอโหสิกรรมให้ทุกคำด่าและคำสาปแช่งที่ส่งมาหลังไมค์นะคะ
จากคุณ: Pandermonium โพสเมื่อวันที่: 07/30/21 เวลา 21:39:33
ประเด็นคือ เอาทุนไปเรียนแล้ว  ตอนนี้คิดจะหนีทุน เพียงเพราะ ไม่อยากไปเรียก สับบอร์ดที่รพ.จะให้ไป /บ้านไกล ที่ทำงานห่าง กทม.มากเลย /เรื่องเงิน บลาๆๆ
 
สุดท้าย ก็สรุปง่ายว่า เห็นแก่ตัว
 
อยากลาออกแล้ว  ไปตามฝัน ไปหาเงินที่เอกชนดีกว่า
 
เหอะ
 
ที่เราพูดๆไปก็จริงทั้งนั้น
 
ถ้าเชื่อเรื่องกรรมก็ดี  จะได้รู้ว่ากรรมของการเบี้ยวทุน  เบี้ยวเงินภาษีประชาชนที่กินที่ใช้ไปน่ะ  ผลมันจะเป็นยังไงน้า
จากคุณ: Pandermonium โพสเมื่อวันที่: 07/30/21 เวลา 21:40:53
ถ้าหมอลาออกไป... ประชาชนเดือดร้อนทั้งจังหวัด  คุณก็มีเจ้ากรรมนายเวรเป็นแสนคนเลยนะ  อิอิ
จากคุณ: Pandermonium โพสเมื่อวันที่: 07/30/21 เวลา 21:42:56
ไม่ต้องมาเกทับหรอกว่าได้ทุนไปเรียน  
 
หลายๆครั้งคนให้ทุนก็ตาถั่วอย่างไม่น่าเชื่อ
 
ให้ทุนพวกดีแต่เปลือก อีพวกลูกชุบไป
 
พอมันเทรนเสร็จ  ได้บอร์ด ก็สะบัดตูด  หนีทุนกันไปทั้งนั้น
 
เหมือนสันดานเดียวกันอ่ะ
 
จากคุณ: Pandermonium โพสเมื่อวันที่: 07/30/21 เวลา 21:45:40
แหว่ะ  ได้ทุนไปเรียน  แต่คิดจะหนีทุน เพราะเห็นแก่ตัว  ยังมีหน้ามาขอคำปรึกษาเนอะ
 
ลาออกไปเลยสิ  แล้วก็ไปตกระกำลำบากให้เอกชนเอา
 
ให้คนเขาสาปแช่งไปถึงโคตรเหง้า  ว่าได้ทุนมาเรียนมาทำงานแป๊บๆไม่กี่เดือน  ก็ลาออกแล้ว
 
จากคุณ: น้ำเน่าในเงาจันทร์ โพสเมื่อวันที่: 07/31/21 เวลา 11:52:10
ตอนนี้บอกเลยเอกชนให้การันตีน้อยมาก มีแต่จะปลดคนออก
อย่าง รพ ผม นี่โดนลดการันตีกันทุกคน
board med นี่ได้แค่120000
subboard med ไม่มีหัตถการ 150000
subboard med มีหัตถการ 180000
ทำงาน 45 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
ถ้าเป็นโรงพยาบาลผม โดยเฉพาะ medนี่โดนforceให้เป็นsubboard  
คนที่ยังเป็นgen med คืออาจารย์รุ่นเก่าๆ
 
ป.ล. แอบเห็นด้วยกับpandermoniumนะ ถ้าน้องไม่คิดจะมาอยู่ที่นี่ตั้งแต่แรก ไม่น่าจะเอาทุนเขาไป อย่างผมก็ฟรีเทรน ตั้งแต่เป็นmed จนsubboard GI สมัครไม่ได้ก็สมัครไปเรื่อยๆ ไปให้อาจารย์เห็นหน้ามันทุกปีจนอาจารย์ยอมรับไปเรียนfellow
จากคุณ: positive โพสเมื่อวันที่: 07/31/21 เวลา 14:42:53
เป็นผมจะลองคุยกับทางโรงพยาบาล/หัวหน้าแผนกให้ชัดเจนว่า ไม่สะดวกไปเรียนต่อยอดด้านนั้นจริงๆ และ ยินดีจะช่วยงานในส่วนที่เรียนจบมา ยังไม่อยากไปเรียนต่อยอด  
 
ผมคิดว่าทางหัวหน้าแผนก น่าจะเข้าใจ  
 
ก็เราไม่ยอมไปเรียนเขาก็ต้องให้เราช่วยงานอื่นๆไปก่อนแน่นอน คงไม่ปล่อยให้เราว่าง  
 
ทำงานไปอีกซักระยะ หลังโควิดแล้วค่อยคิดอ่านกันอีกทีครับ  
 
เอกชน/รัฐบาล ก็ข้อดีเสียอย่างที่วิเคราะห์แหล่ะครับ จังหวะนี้ รัฐไปก่อนดีกว่าครับ โดยเฉพาะเราอยู่ตรงนั้นอยู่แล้ว
จากคุณ: wic โพสเมื่อวันที่: 07/31/21 เวลา 16:31:57
5 เงินเวร 7,200-10,800 (เวรรพ.เราคิดระบบหัตถการ ขั้นต่ำที่ 900/8hr ถ้ารวมหัตถการเกิน 900 ถึงจะได้มากกว่านั้น ซึ่งช่วงนี้ไม่ถึง เดือนนึงอยู่ประมาณ 8-12 เวร (ประมาณ 4-6 วัน ต่อเดือน) ไม่มีคนขายเวรค่ะ)  
6 เงินวิชาการ conference (เดือนละประมาณ 0-2ครั้ง) ครั้งละ 600 , ตรวจรายงาน/ใบประเมิน น่าจะ200 ฯลฯ  
7 ค่าสรุปชาร์ท ชาร์ทละ 20 บาท จำนวนแล้วแต่เดือนค่ะ  
-------------------------------------------------------------------
ข้อ 5.ค่าเวรผมได้ 550 บาทต่อเวรมาสิบกว่าปี รพท. ก่อนหน้านั้นเหมาจ่ายเดือนละ พันหกร้อย ถึง สองพันสอง ต่อเดือนมาสิบปี
ข้อ 6 , 7 มีได้เงินด้วยเหรอทำงาน รพรัฐมาจะสามสิบปี ไม่เคยได้สักบาท
จากคุณ: KhowPekHong โพสเมื่อวันที่: 07/31/21 เวลา 21:40:54
on 07/31/21 เวลา 11:52:10, น้ำเน่าในเงาจันทร์ wrote:
ตอนนี้บอกเลยเอกชนให้การันตีน้อยมาก มีแต่จะปลดคนออก
อย่าง รพ ผม นี่โดนลดการันตีกันทุกคน
board med นี่ได้แค่120000
subboard med ไม่มีหัตถการ 150000
subboard med มีหัตถการ 180000
ทำงาน 45 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
ถ้าเป็นโรงพยาบาลผม โดยเฉพาะ medนี่โดนforceให้เป็นsubboard  
คนที่ยังเป็นgen med คืออาจารย์รุ่นเก่าๆ
 
ป.ล. แอบเห็นด้วยกับpandermoniumนะ ถ้าน้องไม่คิดจะมาอยู่ที่นี่ตั้งแต่แรก ไม่น่าจะเอาทุนเขาไป อย่างผมก็ฟรีเทรน ตั้งแต่เป็นmed จนsubboard GI สมัครไม่ได้ก็สมัครไปเรื่อยๆ ไปให้อาจารย์เห็นหน้ามันทุกปีจนอาจารย์ยอมรับไปเรียนfellow

 
ขบคุณสำหรับความเห็นค่ะ
 
ขอแก้นิดนึงนะคะ คิดว่าชี้แจงไปบางส่วนแล้วว่าเคยคิดจะตั้งรกรากที่จังหวัดนี้เลยขอทุนที่นี่  แต่มีปัญหาเรื่องทุนsubboard (ที่ไม่ตรงกับที่เคยคุยกันไว้ตอนให้ทุนครั้งแรกค่ะ)
จากคุณ: KhowPekHong โพสเมื่อวันที่: 07/31/21 เวลา 21:42:56
on 07/31/21 เวลา 14:42:53, positive wrote:
เป็นผมจะลองคุยกับทางโรงพยาบาล/หัวหน้าแผนกให้ชัดเจนว่า ไม่สะดวกไปเรียนต่อยอดด้านนั้นจริงๆ และ ยินดีจะช่วยงานในส่วนที่เรียนจบมา ยังไม่อยากไปเรียนต่อยอด  
 
ผมคิดว่าทางหัวหน้าแผนก น่าจะเข้าใจ  
 
ก็เราไม่ยอมไปเรียนเขาก็ต้องให้เราช่วยงานอื่นๆไปก่อนแน่นอน คงไม่ปล่อยให้เราว่าง  
 
ทำงานไปอีกซักระยะ หลังโควิดแล้วค่อยคิดอ่านกันอีกทีครับ  
 
เอกชน/รัฐบาล ก็ข้อดีเสียอย่างที่วิเคราะห์แหล่ะครับ จังหวะนี้ รัฐไปก่อนดีกว่าครับ โดยเฉพาะเราอยู่ตรงนั้นอยู่แล้ว  

 
คิดไว้อีกทางเหมือนกันว่าจะรอตื๊ออีกซักปี แต่แนวโน้มน้อยมากค่ะ ที่จะได้subboardที่อยากเรียน เลยคิดถึงเรื่องลาออก  
จากคุณ: KhowPekHong โพสเมื่อวันที่: 07/31/21 เวลา 21:46:21
สำหรับคนที่บอกว่า ถ้าไม่อยากอยู่ที่นี่แล้วขอทุนทำไม??
 
1 เดิมต้องการมาตั้งรกรากที่จังหวัดนี้ค่ะ (ซื้อบ้านที่นี่แล้วด้วย จะลาออกยังคิดอยู่เลยว่าจะทำยังไงกับบ้าน แต่บ้านมันก็ไม่ได้ใกล้รพ.ค่ะ หอรพ.จึงยังเป็นสิ่งที่จำเป็นค่ะ)
 
2 ตอนขอทุนครั้งแรก คุยกันไว้ว่ามีsubboardที่อยากเรียนค่ะ (จริงๆตอนนั้นยังไม่ชัวร์ว่าจะเรียนsubboardอะไร แต่คือที่คุยกันไว้ ไม่ใช่อันนี้ค่ะ)  
จากคุณ: KhowPekHong โพสเมื่อวันที่: 07/31/21 เวลา 21:51:29
on 07/31/21 เวลา 16:31:57, wic wrote:
5 เงินเวร 7,200-10,800 (เวรรพ.เราคิดระบบหัตถการ ขั้นต่ำที่ 900/8hr ถ้ารวมหัตถการเกิน 900 ถึงจะได้มากกว่านั้น ซึ่งช่วงนี้ไม่ถึง เดือนนึงอยู่ประมาณ 8-12 เวร (ประมาณ 4-6 วัน ต่อเดือน) ไม่มีคนขายเวรค่ะ)  
6 เงินวิชาการ conference (เดือนละประมาณ 0-2ครั้ง) ครั้งละ 600 , ตรวจรายงาน/ใบประเมิน น่าจะ200 ฯลฯ  
7 ค่าสรุปชาร์ท ชาร์ทละ 20 บาท จำนวนแล้วแต่เดือนค่ะ  
-------------------------------------------------------------------
ข้อ 5.ค่าเวรผมได้ 550 บาทต่อเวรมาสิบกว่าปี รพท. ก่อนหน้านั้นเหมาจ่ายเดือนละ พันหกร้อย ถึง สองพันสอง ต่อเดือนมาสิบปี
ข้อ 6 , 7 มีได้เงินด้วยเหรอทำงาน รพรัฐมาจะสามสิบปี ไม่เคยได้สักบาท

 
ข้อ 6 เป็นเงินจากรรพ.ที่มาฝากเรียนค่ะ คิดว่าได้ทุกที่ที่มีนักเรียนมาเรียนค่ะ แค่จะตกมาถึงมือคนสอนจริงๆมั๊ยก็อีกเรื่องค่ะ (ถ้าเป็นรพท.น่าจะไม่มีนศพ.ไปวนเลยคิดว่าน่าจะไม่ได้ค่ะ)
ข้อ 7 แล้วแต่ข้อตกลงของรพ.ค่ะ น่าจะเป็นปัจจัยชักชวนให้แพทย์สรุปชาร์ทกันอย่างจริงจังมากขึ้นค่ะ (สมัยอยู่รพช.ก็เคยได้ค่ะ แต่ไม่ใช่ทุกรพ.ค่ะ) แต่รายได้ตรงนี้ไม่ได้นำมาคิดจริงจังค่ะ เพราะจริงๆมันก็เป็นหน้าที่ที่ต้องทำอยู่แล้วค่ะ
จากคุณ: Mr.Note โพสเมื่อวันที่: 07/31/21 เวลา 23:13:33
เอาจริงอยากถามมากกว่านี้ แต่ก็เข้าใจ จขกท ว่าไม่อยากบอกรายละเอียดมากกลัวเจอใครมารู้
 
สถาณการณ์ผมเคยคล้ายๆแบบนี้ครับ
เป็นเด้นฟรีเทรน มาโรเตตฝึกงาน รพศ นี้
ตอนเด้น3 มีสตาฟอาวุโสท่านนึงเสียพอดี เลยถามว่ามีเด้นรุ่นพี่ยังไม่มีที่ทำงานบ้างไหม พอบอกว่ามีเป็นคนนี้เค้าก็บอกเลยไม่เอา เพราะตอนมาโรเตตทำงานได้ไม่เข้าตา  เลยมาถามผมแทนว่าอยากอยู่ที่นี่ไหม รอได้แต่ขอมาแล้วอยู่ยาว....
 
เลยได้จับพลัดจับพลูมา อยู่ที่นี่ เพราะสับAที่อยากเทรนยังไม่มี
พอทำงานบรรจุ เสร็จคุยจะไปเทรนต่อ หน.งานก็บอกอยากได้สับA
แต่พี่อาวุโสอีกท่านที่บียอนกว่า หน. บอกอยากได้ B ไม่ก็C
ทีมจะได้ดูครบครันกว่า (ว่ากันตรงสุดไม่ชอบสักอย่าง ขก.เรียน 555 แต่Aน่าจะทำเอกชนได้ง่ายสุด) Bมีเพื่อนซี้เป็นสตาฟในอคาเดมิค ส่วนC  
เป็นสาขาซัฟเฟอ ทุกวันนี้ยังฝันถึงอยู่เลย
 
สุดท้ายผมเลือกไปเรียนBครับ  แล้วน้องที่ไปเรียนถัดจากผมได้Aแทน
 
รายรับก็คล้ายๆ จขกท เลย เงินเริ่มจาก18แต่เลื่อนไหลค่อนข้างเร็ว
ถ้าจบสับก็พร้อมทำ8เลย คงอัพมาได้ใกล้ๆ30(ผมเกินมาปีละ วิจัยมีละยัง ขก หาที่ตีพิมพ์เลย)
พตส พฟพ เวร พอๆกัน
เงินหมื่นไม่รับ
อยู่เอกชน opd3ชมออนคอล12ชม ต่อวีค รวมๆได้20Kกว่าๆ (รายได้หลักอีกอันคือไปช่วย อ.ที่เป็นเพื่อนผ่าเคสสับที่กทม แต่พอมายุคโควิด อ.ที่ว่านี่ก็เอาตัวไม่รอดเหมือนกัน ทั้งปีมีผ่า2เคส)
มีค่าสอน นสพ ค่าออกข้อสอบเป็นน้ำจิ้ม ตกปีละหมื่นกว่าๆ
รายได้รวมคงพอๆกะ จขกท ช่วงปีแรกๆ
 
เอกชนที่นี่เคยเสนอให้300แต่น่าจะแค่ปีเดียว เลยตัดสินใจไม่ไป
(เป็นมนุษย์การันตีไลฟสไตลไม่น่าเหมาะกับทำFTเอกชน555)
ซึ่งมาตอนนี้ FTที่นี่ก็บ่นเหมือนกันว่าต้องทำยอดทั้งของตัวเองและของทั้งภาค(มีแกFTคนเดี ยว แต่ต้องมากระตุ้นPTคนอื่นๆให้ช่วยกันทำยอดด้วย)
 
ฟังดูชีวิตค่อนข้างซัฟเฟอกว่าอยู่รัฐครับ(อยู่รัฐต้องออก ARI เวรฉีดวัคซีน รพ.สนาม แต่คิดว่าคงเหมือนๆกันทั่ว ปท)
 
อาจจะต่าง จขกท ตรงมีบ้านพักใน รพ.ถึงแม้ตอนแรกจะเป็นแฟลตห้อง20ตรม.ก็ตาม
 
อยากคุยหลังไมค์เพื่อแลกเปลี่ยนรายละเอียดกว่านี้ครับ
แต่ถ้าไม่สะดวก ด้วยข้อมูลที่มีอยู่ ยังแนะนำให้อยู่ต่อครับแล้วดึงเกมเรื่องเรียนต่อไปก่อน รึไปอบรม ผบ.แทน
จากคุณ: Pandermonium โพสเมื่อวันที่: 08/01/21 เวลา 01:42:09
อ้าว ยังกลับมาตอบกระทู้ได้อีกแฮะ
 
จากคุณ: Pandermonium โพสเมื่อวันที่: 08/01/21 เวลา 01:48:32
จบบอร์ดมาแล้ว  คงสามารถคิดวิธีแก้ปัญหาได้ดีกว่าการลาออกแน่ๆ
 
ถ้าลาออก ก็ เสียหมาแหล่ะนะคะ
จากคุณ: Pandermonium โพสเมื่อวันที่: 08/01/21 เวลา 01:49:19
Grin
จากคุณ: น้ำเน่าในเงาจันทร์ โพสเมื่อวันที่: 08/01/21 เวลา 11:11:38
on 07/31/21 เวลา 21:40:54, KhowPekHong wrote:

 
ขบคุณสำหรับความเห็นค่ะ
 
ขอแก้นิดนึงนะคะ คิดว่าชี้แจงไปบางส่วนแล้วว่าเคยคิดจะตั้งรกรากที่จังหวัดนี้เลยขอทุนที่นี่  แต่มีปัญหาเรื่องทุนsubboard (ที่ไม่ตรงกับที่เคยคุยกันไว้ตอนให้ทุนครั้งแรกค่ะ)

 
เป็นไปได้ไหมครับ ถ้าน้องจะใช้ทุนตอนเรียนresidentให้โรงพยาบาลให้ครบก่อน จะได้ไม่เป็นการผิดสัญญา พอใช้ทุนครบถ้ายังอยากอยู่ในภาครัฐ ก็ลองเจรจาดูกับหัวหน้าภาคว่าทุนsubboardเดิมที่อยากเรียนเปิดให้ไดไหม หรือหาทุนจากโรงพยาบาลอื่นได้ไหม ถ้าไม่ได้ทุนก็เป็นfree train แล้วลาออกจากราชการ
หรือคิดว่าเสียดายเวลา หรืออาจจะมีภาระเรื่องค่าใช้จ่ายที่บ้านมากเลยอยากออกจากราชการ
จากคุณ: Pandermonium โพสเมื่อวันที่: 08/01/21 เวลา 11:19:49
จขกท เห็นแก่ตัวไง  ถ้ารอทุบสับบอร์ด ระหว่างช่วงที่ใช้ทุนบอร์ดไป  มันจะรอไม่ได้เลยเหรอ
 
ไม่ถึง10ปีหรอกมั้ง
 
แต่ไม่อยากรอแหล่ะ
 
เห็นแก่ตัวอ่ะแหล่ะ  ไม่ต้องมาอ้างอะไรตลกๆหรอก
 
ไม่มีบ้านพักก็ไปเคลียรไปขอกันในองค์กรแพทย์สิ    แหม ไม่ใช่เอะอะๆ จะลาออก
 
กูขำ
 
จากคุณ: wsangsom โพสเมื่อวันที่: 08/01/21 เวลา 12:01:07
ผมกลับคิดตรงกันข้ามนะครับ...ถ้าน้องเป้น board med ที่ดูเคส covid ได้ ตอนนี้น่าออกมาทำเอกชนที่สุดนะครับ..เมื่อเทียบกะ.รพ.รัฐบาล..ถ้าถามเรื่องเ งิน
แต่ถ้าถามความมั่นคงของชีวิต  ที่ไหนมันก้ไม่แน่นอนทั้งนั้นอะครับ.....ผมลาออกจากราชการมาเกือบ 20 ปีแล้ว  ก้ยังทำงานก้อกแก้ก ๆ ที่เอกชนไปได้เรื่อยๆ  รายได้อาจจะไม่เยอะเท่าพวกเปิดคลินิก และอยุ่ รพ.รัฐ  บาล  แต่ก้มีความสุขดี..
จากคุณ: NutForce โพสเมื่อวันที่: 08/01/21 เวลา 23:01:09
on 07/30/21 เวลา 10:09:22, KhowPekHong wrote:
เราเป็นResidentรุ่นcovidค่ะ พึ่งจบมาปีนี้เลย เริ่มทำงาน 1 กค ที่ผ่านมาค่ะ
 
ปัญหาที่ทำให้อยากลาออกคือ
1 ไม่มีทุนแพทย์ประจำบ้านสาขาต่อยอดที่เราอยากเรียนค่ะ : เราทำงานที่รพศ.ค่ะ สาขาเราโดนกึ่งบังคับให้เรียนต่อsubboard ซึ่งสมมติ มี subboard A B C D ซึ่งเราอยากเรียน A ถ้าไม่ได้ จะเป็น B C ก็ได้ แต่รพ.ที่เราอยู่ตอนนี้ มีแต่ทุน D ที่เราไม่อยากเรียนเลย (แต่ถ้าต้องเรียน ก็คิดว่าคงเรียนจนจบได้ แต่ใจไม่อยากเรียนเท่าไหร่TT) ส่วนทุน A พึ่งเปิดให้พี่ที่จะไปเรียนปีนี้ ไม่น่าจะเปิดเพิ่มในอีก2-3ปีเป็นอย่างน้อย ส่วนB C (ที่จริงๆมีมากกว่า2) ก็ไม่รู้จะเปิดให้มั๊ย เพราะเค้าอยากได้ D มากๆๆ (แต่ถึงเปิด มันก็ไม่ได้ใช่subboardที่ชอบมากที่สุดอยู่ดี มันแค่เรียนแล้วTraumaจิตใจน้อยกว่าDเฉยๆ) ส่วนการไม่ต่อSubboard สำหรับเราคือโอเคมากสุด 55
 
2 สวัสดิการรพ. : รพ.ไม่มีบ้านพักและที่จอดรถให้ เราเป็นคนกรุงเทพ ก็คือต้องเข่าหออยู่เอง + เช่าที่จอดรถรายวัน/เดือนกันเอง
 
3 จำนวนงาน+เงิน : ขอรวบมาเป็นข้อเดียวกันนะคะ ด้วยความเป็นรพ.ขนาดใหญ่ งานต่อคนมันก็เลยน้อย เงินก็น้อยตามค่ะ แต่ปัญหาที่มากกว่าเงินน้อยคือเราไม่ค่อยชอบระบบการทำงานแบบP4P เท่าไหร่
รายได้ของเราตอนนี้คือ
1 เงินเดือน 2x,xxx (แต่หักกบข เข้ากระเป๋าจริง 18,xxx)
2 เงินไม่ทำเวช 10,000 (ถ้าทำเอกชนในจังหวัด ซึ่งเต็มแล้วเต็มอีก อ.ที่แบ่งเวรให้บอกว่าการันตีขั้นต่ำ 15,000 โดยช่วงนี้คนไข้น้อย ถ้าทำก็น่าจะไม่เกิน 20,000 ส่วนclinicน่าจะเปิดยาก เพราะตอนนี้clinicเต็มจังหวัดแล้วTT)
3 พตส ตอนนี้ 5,000 ถ้าได้ใบ 10,000 แต่ก็คือรอตกเบิกยาวๆไป
4 P4P 9,000-12,000 ตามจำนวนงานที่ได้รับแต่ละเดือน
5 เงินเวร 7,200-10,800 (เวรรพ.เราคิดระบบหัตถการ ขั้นต่ำที่ 900/8hr ถ้ารวมหัตถการเกิน 900 ถึงจะได้มากกว่านั้น ซึ่งช่วงนี้ไม่ถึง เดือนนึงอยู่ประมาณ 8-12 เวร (ประมาณ 4-6 วัน ต่อเดือน) ไม่มีคนขายเวรค่ะ)  
6 เงินวิชาการ conference (เดือนละประมาณ 0-2ครั้ง) ครั้งละ 600 , ตรวจรายงาน/ใบประเมิน น่าจะ200 ฯลฯ
7 ค่าสรุปชาร์ท ชาร์ทละ 20 บาท จำนวนแล้วแต่เดือนค่ะ
รวมๆMaxสุดที่คำนวณได้คือประมาณ 70,000บาท (อันนี้คืองานหนัก รับเอกชนรัวๆ)
สิ่งที่ค้างคาใจเรามากสุดคือระบบมันเหมือนเอกชนแต่เงินน้อยกว่า คือถ้าคิดค่าหัตถการ ค่าadmit เราไปทำเอกชนดีกว่ามั๊ย มันดูแฟร์ๆกว่า ว่าadmitแล้วได้เงิน ตรงไปตรงมาดี
 
ตอนแรกเราอยากย้ายไปรพช.จังหวัดเดียวกันมาก แต่มันก็ไม่มีตำแหน่งเหมือนกัน ส่วนรพ.ที่น่าจะย้ายได้ เราก็ไม่รู้จักใครเลยTT จนไปเจอประกาศรับสมัครของรพ.เอกชนแห่งนึง
 
สิ่งที่คิดว่ารพ.เอกชนให้ได้
1  ไม่บังคับเรียนsubboard หรือถ้าเราเปลี่ยนใจอยากเรียน น่าจะลาออกไปหาFree trainได้ แต่ถ้าไม่ได้ ไม่เรียนเราก็ไม่เดือดร้อน  
 
2 รพ.ที่ไปถามมา ให้บ้านพัก + ตั๋วเครื่องบินกลับบ้านเดือนละ 1 ครั้ง
 
3 การันตีรายได้ ประมาณ 220,000 บาทต่อเดือน (ยังไม่ได้ต่อรอง +ยังไม่ได้คุยเรื่องสัญญาว่าจะการันตีกี่ปี) ซึ่งถ้าเราทำงานไม่ถึงปี ก็ปลดปล่อยสัญญาใช้ทุนได้แล้ว  
 
ปัญหาของเอกชน
1 สวัสดิการแบบ Long term ยังไงอันนี้ราชการชนะเลิศแน่ๆ เพราะมีทั้งสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลพ่อแม่ แล้วก็มีบำนาญให้ (จริงๆรพ.ที่ติดต่อไป เค้ามีสวัสดิการรักษาในเครือรพ.เค้าอยู่ แต่มันคงเทียบเท่าราชการไม่ได้) ข้อนี้ทำให้คิดหนักจริงๆ เพราะจริงๆเราก้อมีประกันสุขภาพอยู่แล้ว ไม่เคยขอเบิกยากับรพ.รัฐซักที แต่ก้อติดที่แม่อาจจะต้องการ (ซึ่งคุยกะแม่ล่าสุด แม่เชียร์ลาออกมาก ไม่สนใจสิทธิข้าราชการเลย)
 
2 ความมั่นคงในการทำงาน ถ้าตัดสินใจออกจากราชการแล้ว คิดว่าการกลับไปน่าจะยาก ก็เลยกังวลเรื่องความมั่นคงในอาชีพประมาณนึงค่ะ
 
 
ขอปรึกษาว่า เราควรจะไปสมัครตอนนี้เลยดีมั๊ย หรือควรจะทำงานราชการไปก่อน (ใจจริง ถ้าไม่มีปัญหาข้อ 1 เราก็คิดว่าน่าจะทำราชการไปยาวๆ จนเกษียณได้ แต่พอมีปัญหาข้อ 1 ก็เลยเริ่มมองเห็นปัญหาข้ออื่นตามๆมา ) ถ้าจะออกควรไปเริ่มคุยกับหัวหน้าภาคไว้ก่อนเลยมั๊ยคะ ถ้าจะลาออกประมาณ พย.-ธค.64 จะดีกว่ามั๊ยคะ หรือถ้าจะไปควรไปเลย
 
ปล ไม่มีปัญหากับเพื่อร่วมงานนะคะ เพื่อนร่วมงานดีมาก

 
 
ใจเย็นๆ ครับ ค่อยๆ คิด … ที่ รพ.คุณ มีเปิด subboard แล้วรอบแรก ไม่มีคนรับทุนไปมั้ยครับ -> ถ้าไม่มี ผมรู้สึกว่าสามารถเปลี่ยนทุน subboard ได้นะครับ ลองปรึกษา ผอ. / ผู้ตรวจเขต ดูครับ
 
ถ้าไม่ได้จริงๆ ก็คิดรอบด้าน สิ่งแวดล้อมในการทำงานสำคัญสุดเลยครับ อยู่ที่ผู้ร่วมงานดีย่อมมีชัย
จากคุณ: KhowPekHong โพสเมื่อวันที่: 08/01/21 เวลา 23:09:59
on 07/31/21 เวลา 23:13:33, Mr.Note wrote:
เอาจริงอยากถามมากกว่านี้ แต่ก็เข้าใจ จขกท ว่าไม่อยากบอกรายละเอียดมากกลัวเจอใครมารู้
 
สถาณการณ์ผมเคยคล้ายๆแบบนี้ครับ
เป็นเด้นฟรีเทรน มาโรเตตฝึกงาน รพศ นี้
ตอนเด้น3 มีสตาฟอาวุโสท่านนึงเสียพอดี เลยถามว่ามีเด้นรุ่นพี่ยังไม่มีที่ทำงานบ้างไหม พอบอกว่ามีเป็นคนนี้เค้าก็บอกเลยไม่เอา เพราะตอนมาโรเตตทำงานได้ไม่เข้าตา  เลยมาถามผมแทนว่าอยากอยู่ที่นี่ไหม รอได้แต่ขอมาแล้วอยู่ยาว....
 
เลยได้จับพลัดจับพลูมา อยู่ที่นี่ เพราะสับAที่อยากเทรนยังไม่มี
พอทำงานบรรจุ เสร็จคุยจะไปเทรนต่อ หน.งานก็บอกอยากได้สับA
แต่พี่อาวุโสอีกท่านที่บียอนกว่า หน. บอกอยากได้ B ไม่ก็C
ทีมจะได้ดูครบครันกว่า (ว่ากันตรงสุดไม่ชอบสักอย่าง ขก.เรียน 555 แต่Aน่าจะทำเอกชนได้ง่ายสุด) Bมีเพื่อนซี้เป็นสตาฟในอคาเดมิค ส่วนC  
เป็นสาขาซัฟเฟอ ทุกวันนี้ยังฝันถึงอยู่เลย
 
สุดท้ายผมเลือกไปเรียนBครับ  แล้วน้องที่ไปเรียนถัดจากผมได้Aแทน
 
รายรับก็คล้ายๆ จขกท เลย เงินเริ่มจาก18แต่เลื่อนไหลค่อนข้างเร็ว
ถ้าจบสับก็พร้อมทำ8เลย คงอัพมาได้ใกล้ๆ30(ผมเกินมาปีละ วิจัยมีละยัง ขก หาที่ตีพิมพ์เลย)
พตส พฟพ เวร พอๆกัน
เงินหมื่นไม่รับ
อยู่เอกชน opd3ชมออนคอล12ชม ต่อวีค รวมๆได้20Kกว่าๆ (รายได้หลักอีกอันคือไปช่วย อ.ที่เป็นเพื่อนผ่าเคสสับที่กทม แต่พอมายุคโควิด อ.ที่ว่านี่ก็เอาตัวไม่รอดเหมือนกัน ทั้งปีมีผ่า2เคส)
มีค่าสอน นสพ ค่าออกข้อสอบเป็นน้ำจิ้ม ตกปีละหมื่นกว่าๆ
รายได้รวมคงพอๆกะ จขกท ช่วงปีแรกๆ
 
เอกชนที่นี่เคยเสนอให้300แต่น่าจะแค่ปีเดียว เลยตัดสินใจไม่ไป
(เป็นมนุษย์การันตีไลฟสไตลไม่น่าเหมาะกับทำFTเอกชน555)
ซึ่งมาตอนนี้ FTที่นี่ก็บ่นเหมือนกันว่าต้องทำยอดทั้งของตัวเองและของทั้งภาค(มีแกFTคนเดี ยว แต่ต้องมากระตุ้นPTคนอื่นๆให้ช่วยกันทำยอดด้วย)
 
ฟังดูชีวิตค่อนข้างซัฟเฟอกว่าอยู่รัฐครับ(อยู่รัฐต้องออก ARI เวรฉีดวัคซีน รพ.สนาม แต่คิดว่าคงเหมือนๆกันทั่ว ปท)
 
อาจจะต่าง จขกท ตรงมีบ้านพักใน รพ.ถึงแม้ตอนแรกจะเป็นแฟลตห้อง20ตรม.ก็ตาม
 
อยากคุยหลังไมค์เพื่อแลกเปลี่ยนรายละเอียดกว่านี้ครับ
แต่ถ้าไม่สะดวก ด้วยข้อมูลที่มีอยู่ ยังแนะนำให้อยู่ต่อครับแล้วดึงเกมเรื่องเรียนต่อไปก่อน รึไปอบรม ผบ.แทน

 
ขอบคุณค่ะ เด๋วหลังไมค์หาค่ะ  
จากคุณ: KhowPekHong โพสเมื่อวันที่: 08/01/21 เวลา 23:15:31
on 08/01/21 เวลา 11:11:38, น้ำเน่าในเงาจันทร์ wrote:

 
เป็นไปได้ไหมครับ ถ้าน้องจะใช้ทุนตอนเรียนresidentให้โรงพยาบาลให้ครบก่อน จะได้ไม่เป็นการผิดสัญญา พอใช้ทุนครบถ้ายังอยากอยู่ในภาครัฐ ก็ลองเจรจาดูกับหัวหน้าภาคว่าทุนsubboardเดิมที่อยากเรียนเปิดให้ไดไหม หรือหาทุนจากโรงพยาบาลอื่นได้ไหม ถ้าไม่ได้ทุนก็เป็นfree train แล้วลาออกจากราชการ
หรือคิดว่าเสียดายเวลา หรืออาจจะมีภาระเรื่องค่าใช้จ่ายที่บ้านมากเลยอยากออกจากราชการ

 
เสียดายเวลาค่ะ แล้วก็ไม่อยากอยู่กับการคาดหวังค่ะ (แต่เด๋วจะหาโอกาสไปคุยกับหัวหน้าตรงๆว่าคงไม่เรียนsubboardที่เค้าอยากให้เ รียน) ส่วนทุนสาขาที่อยากเรียนคาดว่ายากค่ะ เลยเสียดายเวลาทั้งเราและเค้าค่ะ (ถ้าตำแหน่งเรายังอยู่ จะรับgenคนอื่นเพิ่มไม่ได้ค่ะ) เรื่องย้ายรพ.คิดอยู่ค่ะ จริงๆมีทุนจากอีกที่ที่ให้เรียนsubboardที่อยากเรียน แต่ก็ต้องลาออกอยู่ดี (เป็นรรพ.) ซึ่งใจคิดว่าถ้าลาออก ก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่ระหว่างรรพ.กับรพ.เอกชนค่ะ (ในแง่ความมั่นคงในการทำงานค่ะ) ภาระครอบครัว ไม่มีค่ะ คิดว่าคงหาเงินจ่ายเอง ครอบครัวโอเคถ้าจะลาออก (เชียร์ให้ออกด้วยซ้ำค่ะ)
จากคุณ: KhowPekHong โพสเมื่อวันที่: 08/01/21 เวลา 23:18:38
on 08/01/21 เวลา 12:01:07, wsangsom wrote:
ผมกลับคิดตรงกันข้ามนะครับ...ถ้าน้องเป้น board med ที่ดูเคส covid ได้ ตอนนี้น่าออกมาทำเอกชนที่สุดนะครับ..เมื่อเทียบกะ.รพ.รัฐบาล..ถ้าถามเรื่องเ งิน
แต่ถ้าถามความมั่นคงของชีวิต  ที่ไหนมันก้ไม่แน่นอนทั้งนั้นอะครับ.....ผมลาออกจากราชการมาเกือบ 20 ปีแล้ว  ก้ยังทำงานก้อกแก้ก ๆ ที่เอกชนไปได้เรื่อยๆ  รายได้อาจจะไม่เยอะเท่าพวกเปิดคลินิก และอยุ่ รพ.รัฐ  บาล  แต่ก้มีความสุขดี..

 
ขอบคุณค่ะ จริงๆก็แอบคิดว่ารัฐก็อาจจะไม่ได้มั่นคงตลอด แต่ด้วยstatusตอนนี้ รัฐก้อน่าจะมั่นคงสุดค่ะ
จากคุณ: KhowPekHong โพสเมื่อวันที่: 08/01/21 เวลา 23:26:01
on 08/01/21 เวลา 11:19:49, Pandermonium wrote:
จขกท เห็นแก่ตัวไง  ถ้ารอทุบสับบอร์ด ระหว่างช่วงที่ใช้ทุนบอร์ดไป  มันจะรอไม่ได้เลยเหรอ
 
ไม่ถึง10ปีหรอกมั้ง
 
แต่ไม่อยากรอแหล่ะ
 
เห็นแก่ตัวอ่ะแหล่ะ  ไม่ต้องมาอ้างอะไรตลกๆหรอก
 
ไม่มีบ้านพักก็ไปเคลียรไปขอกันในองค์กรแพทย์สิ    แหม ไม่ใช่เอะอะๆ จะลาออก
 
กูขำ
 

 
ยอมรับว่าเห็นแก่ตัวค่ะ เพราะต่อให้ทำในระบบรพ.รัฐต่อก็คือความเห็นแก่ตัวข้อนึงค่ะ (เห็นแก่ตัวในแง่ความมั่นคงในอนาคต)
 
เรื่องบ้านพัก เราติดต่อตั้งแต่ก่อนกลับมาทำงาน2เดือน มันไม่มี ซ่อมไม่เสร็จ จะขอมาซ่อมเองเค้าก็ไม่ยอมค่ะ จะให้ทำไงต่ออ่ะคะ จ้างคนมารื้อแล้วปลูกใหม่เอง?
 
จริงๆตั้งใจว่าจะไม่ตอบคุณแล้ว แต่บังเอิญไปเห็นกระทู้ที่บอกว่าพึ่งกลับไปสู่ระบบ training อยากให้กลับไปตั้งใจเรียนมากกว่านะคะ ช่วง 3 เดือนแรกเป็นช่วงวัดใจของการเทรน ถ้าจิตใจหงุดหงิดจากกระทู้เราก็ขอโทษด้วยค่ะ ไม่อยากให้หงุดหงิดกับชีวิตคนอื่นเกินจนมีปัญหากับการเรียนแล้วoff training ไม่อยากมีเวรกรรมต่อกันมากไปกว่านี้ค่ะ
จากคุณ: KhowPekHong โพสเมื่อวันที่: 08/01/21 เวลา 23:31:43
on 08/01/21 เวลา 23:01:09, NutForce wrote:

 
 
ใจเย็นๆ ครับ ค่อยๆ คิด … ที่ รพ.คุณ มีเปิด subboard แล้วรอบแรก ไม่มีคนรับทุนไปมั้ยครับ -> ถ้าไม่มี ผมรู้สึกว่าสามารถเปลี่ยนทุน subboard ได้นะครับ ลองปรึกษา ผอ. / ผู้ตรวจเขต ดูครับ
 
ถ้าไม่ได้จริงๆ ก็คิดรอบด้าน สิ่งแวดล้อมในการทำงานสำคัญสุดเลยครับ อยู่ที่ผู้ร่วมงานดีย่อมมีชัย

 
เปลี่ยนได้ค่ะ แต่ว่าโดยนโยบายเค้าจะไม่ได้เอาsubboardที่เราอยากเรียนเพิ่มค่ะ
 
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำค่ะ
จากคุณ: Pandermonium โพสเมื่อวันที่: 08/02/21 เวลา 09:25:26
ดีแล้วที่ยอมรับตรงๆ ว่า เห็นแก่ตัว
 
เพราะเห็นแก่ตัวจริงๆ
 
อันนี้ขอถามหน่อย...ทัศนคติเราไม่ดีหรอก ?(คุณถึงบอกว่า เราถึงไม่สมควรได้ทุน)
ทัศนคติที่ว่า...ถ้ารับทุนไปแล้ว  ก็สมควรกลับมาทำงานให้ครบเวลาเนี่ย
*****************
 
ขอบคุณที่ห่วงเรื่องtraining ของชั้น  แต่เรื่องของคนเห็นแก่ตัวอย่างเธอ  ไม่มีผลอะไรกับชั้นหรอกจ่ะ     ช่วยไปห่วงอนาคตตัวเองเองเถอะ
 
พฤติกรรมแบบเธอเนี่ย  แถวบ้านชั้น ด่าว่าเนรคุณแล้ว
จากคุณ: Pandermonium โพสเมื่อวันที่: 08/02/21 เวลา 09:26:41
on 08/01/21 เวลา 23:26:01, KhowPekHong wrote:

 
ยอมรับว่าเห็นแก่ตัวค่ะ เพราะต่อให้ทำในระบบรพ.รัฐต่อก็คือความเห็นแก่ตัวข้อนึงค่ะ (เห็นแก่ตัวในแง่ความมั่นคงในอนาคต)
 
เรื่องบ้านพัก เราติดต่อตั้งแต่ก่อนกลับมาทำงาน2เดือน มันไม่มี ซ่อมไม่เสร็จ จะขอมาซ่อมเองเค้าก็ไม่ยอมค่ะ จะให้ทำไงต่ออ่ะคะ จ้างคนมารื้อแล้วปลูกใหม่เอง?
 
จริงๆตั้งใจว่าจะไม่ตอบคุณแล้ว แต่บังเอิญไปเห็นกระทู้ที่บอกว่าพึ่งกลับไปสู่ระบบ training อยากให้กลับไปตั้งใจเรียนมากกว่านะคะ ช่วง 3 เดือนแรกเป็นช่วงวัดใจของการเทรน ถ้าจิตใจหงุดหงิดจากกระทู้เราก็ขอโทษด้วยค่ะ ไม่อยากให้หงุดหงิดกับชีวิตคนอื่นเกินจนมีปัญหากับการเรียนแล้วoff training ไม่อยากมีเวรกรรมต่อกันมากไปกว่านี้ค่ะ

 
เราไม่ได้ทัศคติไม่ดีหรอกนะ  แต่สิ่งที่เราพูด  เราบอก ว่า"คุณเห็นแก่ตัว"  มันไปแทงใจดำคุณ !!
 
แค่นั้นแหล่ะ
จากคุณ: Pandermonium โพสเมื่อวันที่: 08/02/21 เวลา 09:37:21
คนอย่าง kwowpekhong นี่เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีกับรุ่นน้องหมอนะ  และ ควรกำจัดคนแบบนี้ไปได้แล้ว
 
คนพวกที่รับทุนไปเรียน จบแล้วก็ลาออก (เห็นแก่ตัว  ตอแหลทุกอย่างเพื่อให้ได้ไปเรียน  แค่นั้น)ไม่อยู่ทำงานให้โรงบาลต้นสังกัดเนี่ย  ควรไม่มีที่ยืนในสังคมเลยด้วยซ้ำ
 
จากคุณ: Pandermonium โพสเมื่อวันที่: 08/02/21 เวลา 11:09:50
แรงๆ แต่จริงใจ  ดีกว่าใสๆแต่ตอแหล นะคะ
จากคุณ: Innominate โพสเมื่อวันที่: 08/02/21 เวลา 11:41:01
ถ้าเป็นซับบอร์ด a ที่อยากไป แตกต่างจากซับอื่นมากๆ และ ถ้าไม่ไปเรียนต่อ หัดเองแทบไม่ได้เลย ผมคิดว่าย้ายไปที่ๆมีทุน หรือ ลาออกฟรีเทรน น่าจะดีที่สุด แต่ถ้าเป็นสาขาที่พอจะทำเองไปได้ก่อน แม้จะยังไม่มีซับบอร์ด แต่เราก็ฝึกเองไปทางนั้น แล้วพอมีทุนมาค่อยไปเรียนก็ได้ เพื่อนผมบางคนก่อนไปเรียนก็ผ่าตัดเคสสายนั้นมาเป็นร้อยๆเคสแล้ว ไปเรียนก็เหมือนไปฝึกเพิ่มกับเอาใบเฉยๆ  
 
ตอนนนี้ที่รพ.เวลาจะให้ทุนไปเรียนบอร์ด จะมีข้อเสนอทุกครั้งว่า ตอนนี้เราขาดซับ 1 2 3 อยากให้ไปเรียน ถ้าจะเรียน 4 5 6 อาจไม่ได้ จะรับได้มั๊ย ถ้ารับไม่ได้ไม่ต้องมารับทุน ซึ่งถึงแม้ระยะเวลาที่ไปเรียน 3-5 ปี สถานการณ์อาจเปลี่ยนได้ แต่ก็เป็นการคุยกันไว้ก่อน
จากคุณ: Dr._Panya โพสเมื่อวันที่: 08/02/21 เวลา 12:09:53
กระทู้นี้ แซ่บ แฮะ ยังกะดูละครหลังข่าวแน่ะ อิ อิ อิ...ป.ล. ครั้งนี้ แวะมาอ่านเฉยๆ เพราะว่า มีคนตอบแทนที่ผมคิดไปแล้ว (ขออนุญาต ไม่บอกว่าว่า ผมคิดยังไง นะครับ)
จากคุณ: KhowPekHong โพสเมื่อวันที่: 08/02/21 เวลา 12:23:00
on 08/02/21 เวลา 09:25:26, Pandermonium wrote:
ดีแล้วที่ยอมรับตรงๆ ว่า เห็นแก่ตัว
 
เพราะเห็นแก่ตัวจริงๆ
 
อันนี้ขอถามหน่อย...ทัศนคติเราไม่ดีหรอก ?(คุณถึงบอกว่า เราถึงไม่สมควรได้ทุน)
ทัศนคติที่ว่า...ถ้ารับทุนไปแล้ว  ก็สมควรกลับมาทำงานให้ครบเวลาเนี่ย
*****************
 
ขอบคุณที่ห่วงเรื่องtraining ของชั้น  แต่เรื่องของคนเห็นแก่ตัวอย่างเธอ  ไม่มีผลอะไรกับชั้นหรอกจ่ะ     ช่วยไปห่วงอนาคตตัวเองเองเถอะ
 
พฤติกรรมแบบเธอเนี่ย  แถวบ้านชั้น ด่าว่าเนรคุณแล้ว

 
เห เราพิมพ์คำว่าทัศนคติไม่ดีหรอคะ (เรามั่นใจว่าพิมพ์ว่าทัศนคติแบบนี้ โดยไม่ได้ตัดสินว่าดีหรือไม่ดี) เราแค่บอกว่าถ้าเราเป็นคนให้ทุนเราคงไม่ให้ เพราะเดาจากนิสัยที่ด่ากราดคนอื่นในบอร์ดสาธารณะแบบนี้ คงไม่ใช่เพื่อนร่วมงานที่ดีเท่าไหร่ค่ะ
 
ขออนุญาตตอบเฉพาะส่วนที่เป็นคำถามนะคะ ส่วนอื่นไร้สาระเกินกว่าที่จะตอบค่ะ ส่วนอนาคตคุณเราก็ไม่ได้ห่วงค่ะ (ไม่ต้องขอบคุณเรา) เราห่วงเวรกรรมที่มันจะติดตัวเราที่ทำให้คุณหงุดหงิดค่ะ
จากคุณ: KhowPekHong โพสเมื่อวันที่: 08/02/21 เวลา 12:25:57
on 08/02/21 เวลา 11:41:01, Innominate wrote:
ถ้าเป็นซับบอร์ด a ที่อยากไป แตกต่างจากซับอื่นมากๆ และ ถ้าไม่ไปเรียนต่อ หัดเองแทบไม่ได้เลย ผมคิดว่าย้ายไปที่ๆมีทุน หรือ ลาออกฟรีเทรน น่าจะดีที่สุด แต่ถ้าเป็นสาขาที่พอจะทำเองไปได้ก่อน แม้จะยังไม่มีซับบอร์ด แต่เราก็ฝึกเองไปทางนั้น แล้วพอมีทุนมาค่อยไปเรียนก็ได้ เพื่อนผมบางคนก่อนไปเรียนก็ผ่าตัดเคสสายนั้นมาเป็นร้อยๆเคสแล้ว ไปเรียนก็เหมือนไปฝึกเพิ่มกับเอาใบเฉยๆ  
 
ตอนนนี้ที่รพ.เวลาจะให้ทุนไปเรียนบอร์ด จะมีข้อเสนอทุกครั้งว่า ตอนนี้เราขาดซับ 1 2 3 อยากให้ไปเรียน ถ้าจะเรียน 4 5 6 อาจไม่ได้ จะรับได้มั๊ย ถ้ารับไม่ได้ไม่ต้องมารับทุน ซึ่งถึงแม้ระยะเวลาที่ไปเรียน 3-5 ปี สถานการณ์อาจเปลี่ยนได้ แต่ก็เป็นการคุยกันไว้ก่อน

 
จริงๆการเรียนsubboardอาจจะไม่ได้มีผลมาก เพราะงานส่วนใหญ่ก้อทำงานgenอยู่ดี ยกเว้นsubboard Dที่เค้าจะให้ทำงานแค่subอย่างเดียวค่ะ
 
ย่อหน้าสอง มีการคุยไว้ก่อน แต่ทุกอย่างเปลี่ยนไปตอนเรียนจบค่ะ
จากคุณ: 6699 โพสเมื่อวันที่: 08/02/21 เวลา 12:49:10

อย่าสับสนระหว่างความต้องการของตัวเอง กับความต้องการของสังคม แต่อย่าอยู่ในโลกที่มีน้ำใจเป็นจุดอ่อน  
 
ลองถามหัวใจตัวเองว่าต้องการอะไร และทำตามหัวใจของตัวเราเอง ซื่อสัตย์ต่อหัวใจของตัวเราเอง  ต่อไปจะได้ไม่คาใจ
 
เมื่อจขกท ถามเรื่องประเด็น เรื่องการลาออก ควรจะลาออกตอนนี้ดีหรือไม่ ถ้าลาออก น่าจะใช้ทุนประมาณสองล้านบาท แต่อาจจะเลี่ยงจำนวนเงินนี้ได้ โดยทำเรื่องขอลาป่วย ลากิจ ลาพักร้อน หมอที่รพ.มาแบบนี้ เหมือนกัน ขอทุนแล้วไม่ยอมกลับมา บอกให้กลับมา ก็ทำเป็นเฉย พอเราบอกทางธุรการบุคคล ยื่นคำขาดว่า ถ้าไม่กลับมา ก็จะถือว่า ขาดราชการ โทษคือไล่ออก  คุณหมอทำเรื่องลาป่วย ลากิจ ลาพักร้อน สุดท้าย จ่ายเงินค่าใช้ทุนลดไปจากสองล้านบาท เหลือล้านห้าแสนบาท นี่ดีไม่มีลาคลอดอีกด้วย ถ้าลาคลอด สงสัยเหลือแค่ล้านเดียว  
 
เมื่อไหร่ที่สมการ  ความต้องการ หรือการอยู่รอดของคน ต้องมีการทรยศเป็นตัวประกอบ  เมื่อนั้น จะเกิดการทรยศขึ้นเกือบเสมอๆ  
 
จริงๆแล้ว เรื่องแบบนี้ แก้ไขไม่ยาก คำตอบไม่ใช่ว่า ลาออกหรือไม่ลาออก ยังมีทางออกในเรื่องนี้อีกหลายรูปแบบ  เรื่องแบบนี้ เกิดขึ้นเสมอในหน่วยงานทั่วไป  วิธีการแก้ไขยังมีอีกหลายรูปแบบ
จากคุณ: KhowPekHong โพสเมื่อวันที่: 08/02/21 เวลา 13:23:38
on 08/02/21 เวลา 12:49:10, 6699 wrote:

อย่าสับสนระหว่างความต้องการของตัวเอง กับความต้องการของสังคม แต่อย่าอยู่ในโลกที่มีน้ำใจเป็นจุดอ่อน  
 
ลองถามหัวใจตัวเองว่าต้องการอะไร และทำตามหัวใจของตัวเราเอง ซื่อสัตย์ต่อหัวใจของตัวเราเอง  ต่อไปจะได้ไม่คาใจ
 
เมื่อจขกท ถามเรื่องประเด็น เรื่องการลาออก ควรจะลาออกตอนนี้ดีหรือไม่ ถ้าลาออก น่าจะใช้ทุนประมาณสองล้านบาท แต่อาจจะเลี่ยงจำนวนเงินนี้ได้ โดยทำเรื่องขอลาป่วย ลากิจ ลาพักร้อน หมอที่รพ.มาแบบนี้ เหมือนกัน ขอทุนแล้วไม่ยอมกลับมา บอกให้กลับมา ก็ทำเป็นเฉย พอเราบอกทางธุรการบุคคล ยื่นคำขาดว่า ถ้าไม่กลับมา ก็จะถือว่า ขาดราชการ โทษคือไล่ออก  คุณหมอทำเรื่องลาป่วย ลากิจ ลาพักร้อน สุดท้าย จ่ายเงินค่าใช้ทุนลดไปจากสองล้านบาท เหลือล้านห้าแสนบาท นี่ดีไม่มีลาคลอดอีกด้วย ถ้าลาคลอด สงสัยเหลือแค่ล้านเดียว  
 
เมื่อไหร่ที่สมการ  ความต้องการ หรือการอยู่รอดของคน ต้องมีการทรยศเป็นตัวประกอบ  เมื่อนั้น จะเกิดการทรยศขึ้นเกือบเสมอๆ  
 
จริงๆแล้ว เรื่องแบบนี้ แก้ไขไม่ยาก คำตอบไม่ใช่ว่า ลาออกหรือไม่ลาออก ยังมีทางออกในเรื่องนี้อีกหลายรูปแบบ  เรื่องแบบนี้ เกิดขึ้นเสมอในหน่วยงานทั่วไป  วิธีการแก้ไขยังมีอีกหลายรูปแบบ

 
 
อยากรู้ตัวอย่างของย่อหน้าสามเหมือนกันนะคะ คิดว่ามันไม่น่าลดได้ขนาดนั้น แต่ส่วนตัวกลับมาทำงานตามกำหนดค่ะ ยังไม่ได้ใช้วันลาอะไรเพิ่มค่ะ ถ้าลาออก ก่อนออกก็คงใช้วันลา แต่ก็ไม่คิดว่าจะลดได้ขนาดนั้นนะคะ
 
เข้าใจว่าวิธีแก้ไขมีหลายอย่างค่ะ การลาออกเป็นแค่1ในการแก้ไขเหล่านั้นที่ยกมาถามค่ะ ส่วนแนวอื่นคิดไว้เหมือนกัน แค่ไม่ได้ยกมาถามเพราะน่าจะตัดสินใจเองได้ง่ายกว่า
 
ขอบคุณสำหรับความเห็นค่ะ
จากคุณ: SantaNiCo โพสเมื่อวันที่: 08/02/21 เวลา 16:37:08
on 08/02/21 เวลา 12:09:53, Dr._Panya wrote:
กระทู้นี้ แซ่บ แฮะ ยังกะดูละครหลังข่าวแน่ะ อิ อิ อิ...ป.ล. ครั้งนี้ แวะมาอ่านเฉยๆ เพราะว่า มีคนตอบแทนที่ผมคิดไปแล้ว (ขออนุญาต ไม่บอกว่าว่า ผมคิดยังไง นะครับ)

คุณพี่คะ  ช่วงนี้ม้อบราษฎรกลับมาแล้วนะคะ  ราวด์เคสโควิดเสร็จ  อย่าลืมแวะไปขายลูกชิ้นนะคะ
จากคุณ: SantaNiCo โพสเมื่อวันที่: 08/02/21 เวลา 16:39:59
on 08/02/21 เวลา 12:23:00, KhowPekHong wrote:

 
เห เราพิมพ์คำว่าทัศนคติไม่ดีหรอคะ (เรามั่นใจว่าพิมพ์ว่าทัศนคติแบบนี้ โดยไม่ได้ตัดสินว่าดีหรือไม่ดี) เราแค่บอกว่าถ้าเราเป็นคนให้ทุนเราคงไม่ให้ เพราะเดาจากนิสัยที่ด่ากราดคนอื่นในบอร์ดสาธารณะแบบนี้ คงไม่ใช่เพื่อนร่วมงานที่ดีเท่าไหร่ค่ะ
 
ขออนุญาตตอบเฉพาะส่วนที่เป็นคำถามนะคะ ส่วนอื่นไร้สาระเกินกว่าที่จะตอบค่ะ ส่วนอนาคตคุณเราก็ไม่ได้ห่วงค่ะ (ไม่ต้องขอบคุณเรา) เราห่วงเวรกรรมที่มันจะติดตัวเราที่ทำให้คุณหงุดหงิดค่ะ

 
 
ไม่ไร้สาระหรอกจ้า  ด่าคนกำลังจะหนีทุนเนี่ย
 
เถียงไม่ได้ แก้ตัวไม่ได้มากกว่า
จากคุณ: Dr._Panya โพสเมื่อวันที่: 08/02/21 เวลา 17:46:32
on 08/02/21 เวลา 16:37:08, SantaNiCo wrote:

คุณพี่คะ  ช่วงนี้ม้อบราษฎรกลับมาแล้วนะคะ  ราวด์เคสโควิดเสร็จ  อย่าลืมแวะไปขายลูกชิ้นนะคะ

 
 
ผมว่าจะเพิ่มเมนู "น้ำปั่น และ ถั่วลิสงคั่ว"ด้วยครับ อิ อิ อิ
จากคุณ: positive โพสเมื่อวันที่: 08/03/21 เวลา 08:55:55
on 07/31/21 เวลา 21:42:56, KhowPekHong wrote:

 
คิดไว้อีกทางเหมือนกันว่าจะรอตื๊ออีกซักปี แต่แนวโน้มน้อยมากค่ะ ที่จะได้subboardที่อยากเรียน เลยคิดถึงเรื่องลาออก  

 
 
ผมว่าลองเปิดใจ ในประเด็นคุยกับหัวหน้าอีกทีครับ อย่าเพิ่งคิดว่าเป็นไปไม่ได้ ผมว่าอันนี้แก้ตรงจุดที่สุดแล้วครับ
จากคุณ: KhowPekHong โพสเมื่อวันที่: 08/08/21 เวลา 17:18:19
on 08/03/21 เวลา 08:55:55, positive wrote:

 
 
ผมว่าลองเปิดใจ ในประเด็นคุยกับหัวหน้าอีกทีครับ อย่าเพิ่งคิดว่าเป็นไปไม่ได้ ผมว่าอันนี้แก้ตรงจุดที่สุดแล้วครับ

 
ขอบคุณค่ะ
จากคุณ: peaupo โพสเมื่อวันที่: 08/09/21 เวลา 23:16:55
ใช้ทุนก่อนก็ได้ครับ ใช้ทุนเสร็จก็ขอย้ายมาใกล้บ้าน
หรือลาออกเพื่อไปเรียนต่อ subboard ที่ต้องการ
สิ่งไหนทำแล้วตัวเราเองและครอบครัวมีความสุข
ไม่ผิดศีล ก็ทำไปเถอะครับ ชีวิตคนเรานั้นสั้นมาก
ขอให้โชคดีกับการตัดสินใจนะครับ
 
……ผมลาออกจากระบบราชการมานานแล้ว
ตอนนี้ก็ได้ทำงานที่ชอบ มีความสุขในการทำงานทุกวัน
รายได้ที่เหลือเก็บก็ทำบุญบริจาคตามโรงพยาบาลที่ขาดแคลนครับ
จากคุณ: nattakorn038 โพสเมื่อวันที่: 08/20/22 เวลา 23:23:44
คหสต. คิดว่าควรรับราชการจนอายุ 50 ละค่อยเกษียณในสถานะ "สูงอายุ" แล้ว 51 เป็นต้นไป ค่อยทำเอกชน full time โดยที่เรามีสถานะ "ข้าราชการบำนาญ" ประดับตัวเราเรียบร้อยแล้ว


  • ข้อความและรูปภาพที่ท่านเห็นส่วนใหญ่ ได้ถูกส่งมาจาก ทางบ้าน
    ทางเว็บไซต์ Thaiclinic.com ไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ของข้อความและรูปภาพที่ถูกส่งมา

  • ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชนและส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ
    เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้นเพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง
    ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง

  • ถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมหรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล
    หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ webmaster@thaiclinic.com หรือ กดแจ้งที่ปุ่ม
    "แจ้งลบกระทู้"
    เพื่อให้ทีมงานทราบและทำการลบข้อความนั้นออกจากระบบต่อไป ขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกันทำให้สังคมน่าอยู่ครับ

ThaiClinic.Com . All Rights Reserved. !--BEGIN WEB STAT CODE-->

Powered by