SenseTime บริษัทเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ระดับชั้นนำของโลก ประกาศว่า บริษัทเพิ่งได้รับเครื่องหมาย CE Mark ให้กับโซลูชันทางการแพทย์ AI ของบริษัทอย่าง SenseCare-Chest DR Pro ซึ่งใช้เทคโนโลยี AI ที่ล้ำสมัยของ SenseTime ในการคัดแยกผู้ป่วยโดยดูภาพสแกนตรวจเอ็กซ์เรย์ช่องอกว่าภาพใดปกติหรือผิดปกต ิได้อย่างรวดเร็ว และตรวจพบโรคทรวงอกต่าง ๆ ที่มีอาการผิดปกติได้อย่างแม่นยำ ช่วยยกระดับประสิทธิภาพในการตรวจร่างกายครั้งใหญ่ และการตรวจวินิจฉัยทางคลินิกตามปกติ
เครื่องหมาย CE Mark หมายความว่า ซอฟต์แวร์ตัวนี้สามารถนำไปจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ได้ทั่วสหภาพยุโรปภายใต้กฎระ เบียบด้านอุปกรณ์ทางการแพทย์ของสหภาพยุโรป (MDR) รวมทั้งตลาดอื่น ๆ ที่ยอมรับระเบียบดังกล่าว การออกเครื่องหมายรับรองให้แก่ SenseCare-Chest DR Pro นับเป็นหลักไมล์ที่สำคัญอีกครั้งสำหรับ SenseTime ในการนำโซลูชันทางการแพทย์ AI สำหรับการถ่ายภาพรังสีด้วยระบบคอมพิวเตอร์ (CT) และระบบเอ็กซ์เรย์แบบดิจิทัล (DR) เข้าตลาดนานาประเทศ หลังจากที่โซลูชันทางการแพทย์ SenseCare-Lung Pro ได้รับเครื่องหมาย CE Mark ในปีที่แล้ว นั่นหมายความว่า โซลูชันทางการแพทย์ AI ของ SenseTime สามารถให้การสนับสนุนแบบครบวงจรด้วยมาตรฐานสากลแก่สถาบันทางการแพทย์ทั่วโลก เพื่อการตรวจโรคทรวงอกโดยอิงตามวิธีการถ่ายภาพแบบ CT และ DR
ดร. Zhang Shaoting รองประธานและรองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยจาก SenseTime กล่าวว่า "ที่ผ่านมา เราได้มุ่งมั่นที่จะพัฒนาเครื่องมือ AI เพื่อปรับปรุงความถูกต้องและประสิทธิผลในการวินิจฉัยมานานหลายปีแล้ว เมื่อได้รับเครื่องหมาย CE Mark สำหรับทั้งโซลูชัน CT และ DR เราก็หวังที่จะสนับสนุนการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ ด้วยโซลูชันการวินิจฉัยช่องอกโดย AI แบบครบวงจรในตลาดต่าง ๆ มากขึ้นทั่วโลก"
คุณ Martin Huang กรรมการผู้จัดการ SenseTime International กล่าวว่า "การติดเชื้อในทางเดินหายใจส่วนล่างและมะเร็งปอดถูกจัดว่าเป็นสาเหตุการเสีย ชีวิต 12 อันดับแรกของไทย สถานการณ์นี้ย่ำแย่ลงอีกเนื่องจากการกระจายสิ่งอำนวยความสะดวกทางการแพทย์ระ หว่างพื้นที่ในชนบทและในเมืองนั้นไม่เท่ากัน ซึ่งยังคงเป็นความท้าทายอยู่ เรามีวิสัยทัศน์ว่า SenseCare-Chest DR Pro จะเข้ามาอุดช่องว่างที่พบเห็นได้บ่อย ๆ ในการให้ความช่วยเหลือด้านการวินิจฉัย และยกระดับประสิทธิภาพและความแม่นยำในกระบวนการทางการแพทย์ตามปกติ เราหวังที่จะใช้แอปพลิเคชันสุขภาพอัจฉริยะของ SenseTime เพื่อช่วยสนับสนุนการพัฒนาศูนย์การแพทย์ในภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกของไทยตามแผน 'ไทยแลนด์ 4.0' อย่างเต็มที่"