หน้าแรกเว็บบอร์ด หน้าแรกเว็บบอร์ด
   For MD.
   Doctor Room l ห้องพักแพทย์
   Post reply ( Re: ขอกำลังใจจากทุกคนหน่อยครับ )
ขอเชิญเพื่อนแพทย์พูดคุย แสดงความคิดเห็นครับ
หัวข้อ:
ใส่ชื่อ:
Email:
Add YABBC tags:
Add Smileys: <more...>
ข้อความ:

Disable Smilies




Topic Summary
จากคุณ: Edin11 โพสเมื่อวันที่: 12/24/20 เวลา 11:39:42
สวัสดีครับ
ก่อนอื่นขอแนะนำตัวเองหน่อยครับ
ผมเป็นแพทย์ GP อายุ 32 ปี รับราชการมา 5 ปีแล้ว
ทำงานไปวันๆ รู้สึกเบื่อหน่ายกับระบบ ไม่ค่อยมีความสนใจในการเรียนต่อ เพราะยังไม่เจอสาขาที่ตัวเองชอบ และตอนเป็น นศพ. โดนกินหัวบ่อยๆ เลยไม่กล้าเรียนต่อ
ตอนนี้อยากลาออก มาทำคลินิก GP fulltime
ใจนึงก็ไม่กล้าลาออก เพราอยูใน comfort zone มานาน
กลัวทำคลินิกแล้ว ไม่รู้ จะรุ่ง หรือร่วง เพราะช่วงนี้ โควิดกำลังมา
สับสนมากครับตอนนี้ ขอกำลังใจ ขอคำแนะนำด้วยครับ
จากคุณ: blitzs โพสเมื่อวันที่: 12/24/20 เวลา 11:52:01
   คำตอบยอดฮิต  ลองเปิดคลินิก พาร์ททามไปก่อน ไปได้ดี ก็รีบๆลาออกไปเลยครับ ระบบมันไม่ดีไปกว่านี้แล้วครับ  แต่อาจแย่ลงได้อีกในอนาคต
จากคุณ: Pandermonium โพสเมื่อวันที่: 12/24/20 เวลา 12:09:05
อย่ารอค่ะคุณพี่  ช้าหมดโอกาส
จากคุณ: only2b โพสเมื่อวันที่: 12/24/20 เวลา 14:00:52
โดนกินหัวตอนเรียนเรื่องเล็ก ตอนทำงานนี้ถ้าโดนกินหัวปั๊บอยากจะหายตัวได้ ย้ายที่ทำงานหรือเรียนทันที
จากคุณ: Moo__wiroj โพสเมื่อวันที่: 12/24/20 เวลา 14:15:22
สู้ๆครับ
จากคุณ: Mr.Note โพสเมื่อวันที่: 12/24/20 เวลา 15:55:01
ผมเป็นคนนึงที่โดนทั้งกินหัวและรีพีทวอรด
 
มาเทรนเด้นใน รรพ สถบ รองแห่งนึงสาขาที่มีคำว่าทั่วไปต่อท้ายเพราะเพื่อนชวน
ระหว่างเทรนชีวิตบะโซะมาก
ยังสตาฟแทบไม่สอนด่าอย่างเดียว
เช่นเข้าช่วยผ่าตัด ให้ดึงในท่าฝืนธรรมชาติ
ถามว่าเมื่อยมั้ย ตอบไม่ ก็โดนด่าว่า เมิงไม่ตั้งใจใช่ไหมถึงไม่เมื่อย
เลยตอบว่าเมื่อย ก็โดนด่าว่าสำออย ไม่ต้องมาเข้าเคสอีก
 
โดนสตาฟอาวุโสพูดกลางคอนเฟอเร้นว่า สำหรับ Mr.Note
การเรียนเฉพาะทางคงมากเกินไปสำหรับเค้า แค่ให้จบ พบ.
มาได้นี่ก็คงสุดความสามารถของเค้าแล้ว
และก็มาขาดผึงตอน อ.ท่านนี้บอกกับคนอื่นๆว่า คนอย่างผมรุ่นพี่รุ่นน้องไม่มีใครอยากทำงานด้วย....เลยออฟเทรนเลย
 
ออกมาไปทำงานบัตรทอง พอได้ที่ก็เปิดคลีนิกเองชาน กทม + รับจ๊อบกลางคืนเอกชน ก็พอไปได้แต่ด้วยความคาใจว่าเรามันไม่ได้เรื่องจริงเหรอ เลยสมัครเทรนอีกสาขานึง เป็นเด้น1ตอนอายุ32-33
โดนว่าบ้างไรบ้าง ก็มาได้เรื่อยๆแม้จะหัวช้าและอายุมากกว่าคนอื่นๆ พอจบปุ๊ปมารับราชการ แล้วก็มาเทรนเฟลโลต่อตอนอายุ39
พอจบมาระบบก็ยังน่าเบื่อเหมือนเดิมแต่ไม่ค่อยมีใครมายุ่งด้วยเท่าไหร่
เพราะเป็นคนเดียวใน รพศ วันๆผ่าตัดไปเรื่อยๆ มีเคสเอกชนบ้างนานๆทีแต่ถ้ามีเคสนึงก็ได้พอๆกับเงินเดือนราชการเดือนนึง พออยู่พอกิน
 
ก็แนะนำลองดูครับ อาจจะพอมีแนวทางบ้างอายุ30ต้นๆยังสามารถเทรนได้ถ้ายังอยากอยู่ครับ แต่เปิดคลีนิกตอนนี้อยู่ยากจริงๆ
จากคุณ: 6699 โพสเมื่อวันที่: 12/24/20 เวลา 16:56:05
ถ้าหากว่า เปิดคลินิค GP fulltime  คิดว่า คนป่วยคนไหนจะมาหาในช่วงห้าปีแรก และห้าปีหลัง ในช่วงหมอมีมากในท้องทะเลสีแดง การเรียนต่อเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด  เราเป็นหมอสูติ ทั้งรพ.มีหมอสูติ 12 ท่าน ตอนแรก มีปัญหาเรื่องคลินิคเช่นเดียวกัน แต่เมื่อตัดใจเรียนต่อ infertile ผู้หญิงทั้งจังหวัด เป็นของเราคนเดียว ก่อนเรียน ยังต้องหารด้วย 12
อายุ 32 ปี ยังไม่มาก  แต่ก็มากและนาน เกินไปสำหรับการอยู่ในระบบราชการ และไม่ได้เรียนต่อ  
-ลืมเรื่องตอนเป็นนักศึกษาไปเลย มันจบไปแล้ว การเรียนต่อ แทบจะเป็นการเรียนใหม่ทั้งหมด ไม่เกี่ยวกับความรู้ตอนเป็นนักศึกษาแต่อย่างไรกัน อย่าให้ใครมากำหนดชะตาชีวิตของเรา ยกเว้นตัวเราเอง
จากคุณ: พุฝอยสาหร่าย โพสเมื่อวันที่: 12/24/20 เวลา 17:26:42
ไม่มีกำลังใจจะให้ครับ ผมก็เคยท้อแบบนี้บ่อยๆครับ ไม่เรียกหากำลังใจจากใครครับ คำว่าสู้ๆนะจากคนอื่นจะมีประโยชน์อะไร ถ้าไม่สู้ก็แพ้ไปครับ กกดานอยู่ในกะลาที่ตนเองคิดว่าสบายครับ คนเราจะตายวันตายพรุ่งก็ไม่รูั้ อายุน้อยก็ตายได้ครับ เลยลุกขึ้นมาใช้ชีวตครับมาทำสิ่งที่ตนเองอยากจะทำ จะล้มลุกคลุกคลานก็ไม่กลัว แต่เราก็คิดวางแผนให้ดีไม่ใช้ดุ่ยๆทำแบบโง่ๆ เรียนมาก็สูง แผนหนึ่งสองสามต้องมีครับ ถามคนในนี้จะได้อะไร ลงมือทำซะครับ โอกาสมีอีกมาก ไปเรียนต่อแล้วใครจะด่าก็ช่างเขาประไร กลัวมากนักก็เรียนสาขาที่หมอไม่ค่อยกินหัวซิครับ สำคัญคือเรียนจบมาจะเสริมอาชีพเราไหม เสริมสิ่งที่ต้องการไหม ไม่ใช่เรียนแค่อยากหนีความจำเจอขงชีวิตไปวันๆครับ เปิดคลินิกมีตังค์ก็เปิดครับ ถือว่าเรียนรู้ ถ้าเจ๊งจะได้เป็นบทเรียนไงครับ ทำน้อยๆนกน้อยทำรังแต่พอตัวจะได้ไม่เจ็บมาก ใครจะเกิดมาทำคลินิกเป็นเลย ที่คณะก็ไม่เคยสอน เรียนเอง เจ็บเองครับ ถ้าไม่กล้ามัวแต่กังวลก็เปิดแอร์อยู่ในกะลาต่อไปครับ แล้วก็ตายจากโลกนี้แบบnobody ขออภัยที่เขียนแรงครับ แต่ชีวิตคิดแบบนี้จริงๆครับ ลองผิดลองถูก ลาออกมาหลายครั้ง ถูกดูถูกสารพัด ถ้าย้อนกลับไปโครตชอบชีวิตตนเองเลยครับ ความเจ็บและความโง่ที่ผ่านมา ไม่ได้ทำให้ชีวิตตกต่ำลงเลยครับ กลับทำให้ประสบการณ์ของเรามากขึ้นครับ ขอบคุณตนเองที่กล้าออกมาจากกะลา่ครับ แม้ข้างหน้าต่อไปจะลงเหวก็ไม่กลัวครับ
จากคุณ: Hippo โพสเมื่อวันที่: 12/24/20 เวลา 18:26:14
on 12/24/20 เวลา 17:26:42, พุฝอยสาหร่าย wrote:
ไม่มีกำลังใจจะให้ครับ ผมก็เคยท้อแบบนี้บ่อยๆครับ ไม่เรียกหากำลังใจจากใครครับ คำว่าสู้ๆนะจากคนอื่นจะมีประโยชน์อะไร ถ้าไม่สู้ก็แพ้ไปครับ กกดานอยู่ในกะลาที่ตนเองคิดว่าสบายครับ คนเราจะตายวันตายพรุ่งก็ไม่รูั้ อายุน้อยก็ตายได้ครับ เลยลุกขึ้นมาใช้ชีวตครับมาทำสิ่งที่ตนเองอยากจะทำ จะล้มลุกคลุกคลานก็ไม่กลัว แต่เราก็คิดวางแผนให้ดีไม่ใช้ดุ่ยๆทำแบบโง่ๆ เรียนมาก็สูง แผนหนึ่งสองสามต้องมีครับ ถามคนในนี้จะได้อะไร ลงมือทำซะครับ โอกาสมีอีกมาก ไปเรียนต่อแล้วใครจะด่าก็ช่างเขาประไร กลัวมากนักก็เรียนสาขาที่หมอไม่ค่อยกินหัวซิครับ สำคัญคือเรียนจบมาจะเสริมอาชีพเราไหม เสริมสิ่งที่ต้องการไหม ไม่ใช่เรียนแค่อยากหนีความจำเจอขงชีวิตไปวันๆครับ เปิดคลินิกมีตังค์ก็เปิดครับ ถือว่าเรียนรู้ ถ้าเจ๊งจะได้เป็นบทเรียนไงครับ ทำน้อยๆนกน้อยทำรังแต่พอตัวจะได้ไม่เจ็บมาก ใครจะเกิดมาทำคลินิกเป็นเลย ที่คณะก็ไม่เคยสอน เรียนเอง เจ็บเองครับ ถ้าไม่กล้ามัวแต่กังวลก็เปิดแอร์อยู่ในกะลาต่อไปครับ แล้วก็ตายจากโลกนี้แบบnobody ขออภัยที่เขียนแรงครับ แต่ชีวิตคิดแบบนี้จริงๆครับ ลองผิดลองถูก ลาออกมาหลายครั้ง ถูกดูถูกสารพัด ถ้าย้อนกลับไปโครตชอบชีวิตตนเองเลยครับ ความเจ็บและความโง่ที่ผ่านมา ไม่ได้ทำให้ชีวิตตกต่ำลงเลยครับ กลับทำให้ประสบการณ์ของเรามากขึ้นครับ ขอบคุณตนเองที่กล้าออกมาจากกะลา่ครับ แม้ข้างหน้าต่อไปจะลงเหวก็ไม่กลัวครับ

 
 Cool
 
จากคุณ: megacure โพสเมื่อวันที่: 12/24/20 เวลา 18:41:39
หารายได้ทางอื่นจนมากกว่ารายได้ปัจจุบันแล้วเลิกเป็นแพทย์
จากคุณ: know555 โพสเมื่อวันที่: 12/24/20 เวลา 20:50:02
รอโควิดไปก่อน  Grin
จากคุณ: yui โพสเมื่อวันที่: 12/25/20 เวลา 14:59:10
ขึ้นอยู่ว่ามองอนาคตอีกสิบปีจะเป็นอย่างไร
-มองว่าเป็นแพทย์ที่เก่งกาจ มีแต่คนเคารพเรียกอาจารย์ -ก็ต่อเฉพาะทาง ไปทำงานโรงเรียนแพทย์
-ทำงานเป็นหมอที่ตรวจคนไข้ทั่วไป เป็นที่รักของคนไข้ ทำงานในชุมชน ก็เรียน family med
-หาเงินเยอะๆ รวยด้วยอาชีพแพทย์ ก็ไปเรียนskin, plastic surgery, ถ้าไม่มีปัญญาเรียนเพราะแย่งกับเขาไม่ทันก็ไปเรียน Short course แล้วทำคลีนิค
-อยากอยู่สบายๆ ไม่อยากเป็นหมอ ก็ไปเรียนสาขาอื่น เช่นเรียนการลงทุน การบริหาร เป็นต้น
 
สรุปคือมองให้ออกกรอนว่าอนาคตจะเป็นอะไร แล้วค่อยมองหาลู่ทางว่าจะทำอะไรต่อไป
จากคุณ: para_kul โพสเมื่อวันที่: 12/25/20 เวลา 15:05:15
ขออนุญาต เชิญชวน ฟังคลิปนี้ ครับ
อาจจะพอได้คำตอบ ครับ
ขอบคุณครับ
 
https://www.youtube.com/watch?v=yrZyLMJ7oAk
จากคุณ: Dr._Panya โพสเมื่อวันที่: 12/26/20 เวลา 09:15:02
รึจะ
ขายลูกชิ้นปิ้ง/ น้ำแข็งไส/ ถั่วต้ม ฯลฯ...ตามที่ชุมนุมต่างๆ ก็รายได้ดีครับ
เก็บไว้เป็นทางเลือกครับ อิ อิ อิ
จากคุณ: Pandermonium โพสเมื่อวันที่: 12/26/20 เวลา 12:24:14
Covidมาคงปิดผนึกม้อบไปก่อน
จากคุณ: positive โพสเมื่อวันที่: 12/26/20 เวลา 12:59:06
on 12/24/20 เวลา 20:50:02, know555 wrote:
รอโควิดไปก่อน  Grin

 
เห็นด้วยมากๆเลยครับ  
 
อย่าเพิ่งคิดอะไร รอโควิดไปก่อน คิดล่วงหน้ายาก โลกเปลี่ยนไวเกิน  
จากคุณ: SeReE โพสเมื่อวันที่: 12/26/20 เวลา 14:41:14
on 12/24/20 เวลา 17:26:42, พุฝอยสาหร่าย wrote:
ไม่มีกำลังใจจะให้ครับ ผมก็เคยท้อแบบนี้บ่อยๆครับ ไม่เรียกหากำลังใจจากใครครับ คำว่าสู้ๆนะจากคนอื่นจะมีประโยชน์อะไร ถ้าไม่สู้ก็แพ้ไปครับ กกดานอยู่ในกะลาที่ตนเองคิดว่าสบายครับ คนเราจะตายวันตายพรุ่งก็ไม่รูั้ อายุน้อยก็ตายได้ครับ เลยลุกขึ้นมาใช้ชีวตครับมาทำสิ่งที่ตนเองอยากจะทำ จะล้มลุกคลุกคลานก็ไม่กลัว แต่เราก็คิดวางแผนให้ดีไม่ใช้ดุ่ยๆทำแบบโง่ๆ เรียนมาก็สูง แผนหนึ่งสองสามต้องมีครับ ถามคนในนี้จะได้อะไร ลงมือทำซะครับ โอกาสมีอีกมาก ไปเรียนต่อแล้วใครจะด่าก็ช่างเขาประไร กลัวมากนักก็เรียนสาขาที่หมอไม่ค่อยกินหัวซิครับ สำคัญคือเรียนจบมาจะเสริมอาชีพเราไหม เสริมสิ่งที่ต้องการไหม ไม่ใช่เรียนแค่อยากหนีความจำเจอขงชีวิตไปวันๆครับ เปิดคลินิกมีตังค์ก็เปิดครับ ถือว่าเรียนรู้ ถ้าเจ๊งจะได้เป็นบทเรียนไงครับ ทำน้อยๆนกน้อยทำรังแต่พอตัวจะได้ไม่เจ็บมาก ใครจะเกิดมาทำคลินิกเป็นเลย ที่คณะก็ไม่เคยสอน เรียนเอง เจ็บเองครับ ถ้าไม่กล้ามัวแต่กังวลก็เปิดแอร์อยู่ในกะลาต่อไปครับ แล้วก็ตายจากโลกนี้แบบnobody ขออภัยที่เขียนแรงครับ แต่ชีวิตคิดแบบนี้จริงๆครับ ลองผิดลองถูก ลาออกมาหลายครั้ง ถูกดูถูกสารพัด ถ้าย้อนกลับไปโครตชอบชีวิตตนเองเลยครับ ความเจ็บและความโง่ที่ผ่านมา ไม่ได้ทำให้ชีวิตตกต่ำลงเลยครับ กลับทำให้ประสบการณ์ของเรามากขึ้นครับ ขอบคุณตนเองที่กล้าออกมาจากกะลา่ครับ แม้ข้างหน้าต่อไปจะลงเหวก็ไม่กลัวครับ

 
ชอบๆ..อยากรู้จักเลยค่ะ
จากคุณ: Mob โพสเมื่อวันที่: 12/27/20 เวลา 21:54:20
น่าจะทำได้นะครับ คลินิก GP มีเยอะแยะ
เพียงแต่ gp ไม่มีจุดเด่น
และต้องดูทำเล และปัจจัยหลายๆอย่าง ไปดูร้อยที่ เลือกแค่หนึ่งเดียวครับ คนที่ไม่อยากเข้ารพ. ก็มีครับ
หรือรับคนไข้ปกส. ด้วย
จากคุณ: luzeus โพสเมื่อวันที่: 12/28/20 เวลา 10:56:53
เราจบเฉพาะทางแล้ว แต่ก็อยู่ไปวันๆเหมือนกันค่ะ  
ไม่อยากไปเรียน subboard เพราะกลัวอาจารย์กินหัว  
 
หลังจากที่ลองไปparttime หลายๆที่ จะพบว่าโลกกว้างใหญ่ ผู้คนมากมาย
บางทีอยู่ที่เดิมๆ ก็เบื่อ
 
แต่พอไปหลายๆที่ก็พบว่าทุกที่มีปัญหา  
 
อยู่ที่เรียนรู้ อยู่ที่ยอมรับมัน ตามความคิด สติเราให้ทัน 55 ตามเพลงว่าเลย  
 
สู้ๆ เป็นกำลังใจให้ คนที่ยังอยู่ในระบบ  
 
อยู่ไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก บางทีเงินก็ไม่ใช่คำตอบ  
 
หาสมดุลชีวิต  
ครอบครัว สุขภาพกาย ใจ เวลา  
 
จากคุณ: DrWinny โพสเมื่อวันที่: 12/28/20 เวลา 13:53:44
on 12/24/20 เวลา 16:56:05, 6699 wrote:
ถ้าหากว่า เปิดคลินิค GP fulltime  คิดว่า คนป่วยคนไหนจะมาหาในช่วงห้าปีแรก และห้าปีหลัง ในช่วงหมอมีมากในท้องทะเลสีแดง การเรียนต่อเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด  เราเป็นหมอสูติ ทั้งรพ.มีหมอสูติ 12 ท่าน ตอนแรก มีปัญหาเรื่องคลินิคเช่นเดียวกัน แต่เมื่อตัดใจเรียนต่อ infertile ผู้หญิงทั้งจังหวัด เป็นของเราคนเดียว ก่อนเรียน ยังต้องหารด้วย 12
อายุ 32 ปี ยังไม่มาก  แต่ก็มากและนาน เกินไปสำหรับการอยู่ในระบบราชการ และไม่ได้เรียนต่อ  
-ลืมเรื่องตอนเป็นนักศึกษาไปเลย มันจบไปแล้ว การเรียนต่อ แทบจะเป็นการเรียนใหม่ทั้งหมด ไม่เกี่ยวกับความรู้ตอนเป็นนักศึกษาแต่อย่างไรกัน อย่าให้ใครมากำหนดชะตาชีวิตของเรา ยกเว้นตัวเราเอง

 
คำแนะนำ ที่เห็นด้วยมาก
จากคุณ: DrWinny โพสเมื่อวันที่: 12/28/20 เวลา 13:55:29
กินหัว หรือจิกหัวกันแน่นะ
จากคุณ: DrWinny โพสเมื่อวันที่: 12/28/20 เวลา 17:45:23
Sad
จากคุณ: philosophy โพสเมื่อวันที่: 12/28/20 เวลา 20:06:15
ถึง  จขกท  Edin11
 
ชีวิต นั้นมองให้ เป็น portfolio  
 
ชีวิตแพทย์  ก็เป็นส่วนหนึ่งใน port นั้น
 
แต่ก็ต้องมีส่วนอื่นในชีวิตที่ชอบด้วย
 
หาให้เจอ
 
ถ้า ไม่ชอบ การเรียน  จริงๆ  ก็ไม่อยากให้ไปฝืน  หากล่มกลางคันก็เสียเวลาเปล่า
 
หากยังมีใจอยู่บ้าง  มีความตั้งใจอยู่บ้างก็ อยากให้ไปเรียน อย่างไรเสีย
โอกาสในการหารายได้ทางการแพทย์  และครดิตก็ดีกว่า ที่ไม่ได้ไปเรียน
 
แสดงว่า ชีวิตตอนเป็น นศพ  ฝังใจมาก
 
 
ทางเดินมีให้เลือกมากมาย
 
ที่สำคัญอย่าเพิ่งออกจากราชการ
 
อันนี้สำคัญ  อยู่ให้จนได้รับบำนาญก่อนแล้วค่อยออก(เพราะอนาคต  ชีวิตหลังเกษียณยาวกว่าที่คิด  ยกว้นไปทำเอกชนแล้วมีรายได้มากกว่า20 ล้านแน่ๆ  อันนั้นออกไปทำอาจจคุ้มกว่า)
 
 
และต้องหาอะไร ทำระหว่างมีอาชีพ  หมอควบคู่ไปด้วย
 
พี่แนะนำให้น้องฝึกการลงทุน ในรูปแบบ ต่างๆ
 
วันหนึ่ง น้องอาจไม่ต้องพึ่ง อาชีพแพทย์ในการหารายได้ดำรงชีวิต
 
แต่น้องต้องอาชีพแพทย์ในการทำบุญ ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์
 
โดยไม่ต้องสนใจว่าจะได้ค่าจ้างเท่าไหร่  
 
ไปให้ถึงจุดนั้น  เพื่อให้เราเป็นคนเลือก ได้ ว่าจะทำหรือไม่ทำ
จากคุณ: หมอหมู โพสเมื่อวันที่: 12/29/20 เวลา 14:10:18
ถ้าเอาแบบ ปลอดภัย สบายใจหน่อย ก็เริ่มด้วย เปิดคลินิก ช่วงนอกเวลางานหลัก .. ลองไปสัก ปี สองปี ถ้าพอไหว ก็ค่อยลาออก  
 
 
ปล. แชร์ประสบการณ์ส่วนตัว เผื่อมีประโยชน์ นำไปปรับใช้ได้  
 
ผมเรียนต่อเฉพาะทาง หลังจบบอร์ด ก็กลับมารับราชการในโรงพยาบาลจังหวัด
 
๕ ปีแรก .. ผมทำงานราชการเต็มตัว ไม่เปิดคลินิกไม่รับเอกชน .. ลองทั้งงานบริการและงานบริหาร  
 
๕ ปีต่อมา ... เริ่มเปิดคลินิก และ รับปรึกษาใน รพ.เอกชน  .. ลดงานบริหาร งานบริการเต็มอย่างเดิม ไม่เปิดคลินิกช่วงเช้า เพื่อที่จะได้ ออกโอพีดี เก้าโมงเช้า ตรงเวลา  
 
ผ่านไป ๕ ปี ... ผู้ป่วยคลินิกไม่เยอะมาก แต่ ดูแล้ว น่าจะพอไหว ก็ลาออกจากราชการ .. เปิดคลินิกอย่างเดียว รายได้โดยรวมน้อยลง แต่ ความสุขของชีวิตเยอะขึ้น ^_^
 
 
ทำไมผมถึงลาออกจากราชการ .... เรื่องเก่าเขียนไว้ตั้งแต่ปี 2551 เอามาเล่าสู่กันฟัง
 
//www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=28-01-2011&group=27&gblo g=20
จากคุณ: MK ลุยงานอย่างเดียว โพสเมื่อวันที่: 12/29/20 เวลา 16:36:56
on 12/24/20 เวลา 11:39:42, Edin11 wrote:
สวัสดีครับ
ก่อนอื่นขอแนะนำตัวเองหน่อยครับ
ผมเป็นแพทย์ GP อายุ 32 ปี รับราชการมา 5 ปีแล้ว
ทำงานไปวันๆ รู้สึกเบื่อหน่ายกับระบบ ไม่ค่อยมีความสนใจในการเรียนต่อ เพราะยังไม่เจอสาขาที่ตัวเองชอบ และตอนเป็น นศพ. โดนกินหัวบ่อยๆ เลยไม่กล้าเรียนต่อ
ตอนนี้อยากลาออก มาทำคลินิก GP fulltime
ใจนึงก็ไม่กล้าลาออก เพราอยูใน comfort zone มานาน
กลัวทำคลินิกแล้ว ไม่รู้ จะรุ่ง หรือร่วง เพราะช่วงนี้ โควิดกำลังมา
สับสนมากครับตอนนี้ ขอกำลังใจ ขอคำแนะนำด้วยครับ

คงเป็น midlife crisis มั้งครับ อาจต้องการความตื่นเต้นในชีวิต การเรียนต่อก็ดีนะครับ เรียนสาขาที่เราชอบ จะได้ไม่เบื่อหน่ายเวลาเรียนและอดทนในการเรียนรู้มัน หากยังไม่เจอสาขาที่ชอบก็แนะนำให้ทำอย่างอื่นควบคู่ไปด้วยครับ อยากทำอะไรทำเลย หากสิ่งที่ทำนั้นยังไม่แน่ใจก็ทำน้อยๆก่อนถือเป็นประสบการณ์ อย่างน้อยเราก็ได้ทำ ชีวิตไม่มีอะไรแน่นอนครับ อยากทำอะไรก็ทำไปเลย (ถ้าคิดว่าสิ่งนั้นดีหรืออาจจะดี) ดีกว่ามาเสียใจภายหลัง สู้ๆครับ Smiley
จากคุณ: Pandermonium โพสเมื่อวันที่: 12/29/20 เวลา 20:33:53
ต้องการความตื่นเต้นแนะนำ อาสาไปช่วยตรวจโควิดที่มหาชัยเลย
ไม่น่าเบื่อ  ได้ลุ้นตลอด
จากคุณ: น้ำเน่าในเงาจันทร์ โพสเมื่อวันที่: 01/02/21 เวลา 15:49:58
ของผม ตอนเรียนต่อboardยังไม่เท่าไหร่ไปเรื่อยๆชิลล์ แต่ตอนsubboardนี่toxicต่อชีวิตมาก depress ร้องไห้ไปหลายหน กว่าจะเรียนจบได้ อาจารย์ทั้งช่วยดันช่วยถีบจนเรียนจบ ผ่านมาได้ด้วยความอึด ความทนล้วนๆ
แต่พอจบแล้วรู้เลยว่าโคตรคุ้ม ทำอะไรได้มากขึ้น เงินก็เพิ่ม ชีวิตดีขึ้น อำนาจการต่อรองมากขึ้น
จากคุณ: KPhysician โพสเมื่อวันที่: 01/09/21 เวลา 04:04:39
ยุคสมัยเปลี่ยนไป สมัยนี้น่าจะกินหัวน้อยลงแล้วนะครับ สมัยผมเป็น นศพ นี่ อ เขวี้ยงชาร์ต เขวี้ยงกุญแจรถใส่คนหลับ ราวกับพี่เดนท์นี่ยิ่งน่ากลัว ด่ากันถึงรากหง้า ตอนเข้าช่วยผ่าตัดตอนเป็นเดนท์ นี่อาจารย์เอารีแทรกเตอร์เหล็กมาเคาะมือ หรือ ตีมือ แต่ก็เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลง นักศึกษาเริ่มฟีดแบกอาจารย์ อาจารย์ที่ดุ โดนไม่ให้สอน และนั่นก็หลายปีมาแล้ว เลยสงสัยว่าไม่น่าจะมีการกินหัวกันมากมายแล้วมังครับ Grin
จากคุณ: DrWinny โพสเมื่อวันที่: 01/10/21 เวลา 12:24:27
ขออนุญาตนะ  ...ด่วน...
 
ขอแทรก เรื่องด่วนสำหรับแพทย์บางท่านด้วย ช่วยบอกต่อกันด้วย
 
--
 
แต่ที่แน่ๆๆ
 
หากแพทย์ไม่แก้ไข ด้วยที่แพทย์ส่วนใหญ่ ควรทำการลงคะแนนเลือกตั้งกรรมการแพทยสภา ก็อาจมีคะแนนผีอ้างเลขประกอบวิชาชีพของท่านไปใช้ได้
 
และมีเวลาเหลือน้อยมาก คือ  
 
เพียงอีก ๔ วันนี้เท่านั้น ที่พอทำได้คือการเลือก (ปิดรับลงคะแนน ๑๔ มค ๖๔ เวลา ๑๖.๓๐ น.)  
 
และเวลานี้ ทำได้เฉพาะผู้ที่ลงทะเบียน e vote แล้วเท่านั้น
หากเป็นผู้มีบัตรเลือกตั้งทางไปรษณีีย์  ต้องส่งทาง ปณ.เท่านั้น (ห้ามไปส่งที่สำนักงานแพทสภา แบบปีก่อนๆ )  ซึ่งอาจไปถึงเกินเวลาปิดรับ ก็จะกลายเป็นบัตรเสีย
 
ดังนั้นหากจะต้องส่งทาง ปณ.ให้ทันในเวลานี้  ควรส่งที่เคาเตอร์ ปณ.นนทบุรี อันเป็นที่ตั้งของ แพทยสภา ก็อาจจะพอทันนะ
 
 
จากคุณ: touchtouch โพสเมื่อวันที่: 03/29/22 เวลา 14:27:30
สู้ๆๆ ค่ะ


  • ข้อความและรูปภาพที่ท่านเห็นส่วนใหญ่ ได้ถูกส่งมาจาก ทางบ้าน
    ทางเว็บไซต์ Thaiclinic.com ไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ของข้อความและรูปภาพที่ถูกส่งมา

  • ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชนและส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ
    เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้นเพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง
    ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง

  • ถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมหรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล
    หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ webmaster@thaiclinic.com หรือ กดแจ้งที่ปุ่ม
    "แจ้งลบกระทู้"
    เพื่อให้ทีมงานทราบและทำการลบข้อความนั้นออกจากระบบต่อไป ขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกันทำให้สังคมน่าอยู่ครับ

ThaiClinic.Com . All Rights Reserved. !--BEGIN WEB STAT CODE-->

Powered by