หน้าแรกเว็บบอร์ด หน้าแรกเว็บบอร์ด
   For MD.
   Doctor Room l ห้องพักแพทย์
   Post reply ( Re: หมอ GP รพ.รัฐ เรียนปริญญาโทสาธาฯ มีประโยชน์ไหมครับ )
ขอเชิญเพื่อนแพทย์พูดคุย แสดงความคิดเห็นครับ
หัวข้อ:
ใส่ชื่อ:
Email:
Add YABBC tags:
Add Smileys: <more...>
ข้อความ:

Disable Smilies




Topic Summary
จากคุณ: Your_doctor โพสเมื่อวันที่: 12/04/20 เวลา 17:08:37
น้องสาวมาปรึกษาครับ  น้องสาวผมเป็น GP อยู่ รพ.รัฐ อยู่แค่ OPD ทั่วไป ในจังหวัดแถบปรมณฑลใกล้ๆกรุงเทพ ยังไม่ได้จะเรียนต่อ board เพราะสาขาที่น้องสนใจ เขายังไม่มีทุนให้
 
น้องว่างๆ เลยสนใจจะเรียนเป็นปริญญาโท (นอกเวลาราชการ) อะไรก็ได้ไปพลางๆในระหว่างรอได้ทุนเรียน board ประมานว่าอย่างน้อยถ้าชีวิตนี้ไม่ได้เรียน board ที่อยากเรียน ก็ยังมีปริญญาโทติดตัวไว้บ้าง
 
ผมเลยอยากทราบว่าการเรียนปริญญาโทพวกสาขาอย่าง สาธารณสุข นี้ ช่วยในการทำงานของ รพ.รัฐ หรือมีประโยชน์ต่อหน่วยงานมากแค่ไหนครับ  
 
หรือคนอื่นๆมีคำแนะนำสาขาปริญญาโท สาขาอะไรบ้าง ที่น่าจะมีประโยชน์ต่อ รพ.รัฐ ได้บ้างครับ
จากคุณ: 6699 โพสเมื่อวันที่: 12/04/20 เวลา 18:25:48
ปริญญาโทสาขาอะไรก็ตาม แทบจะไม่มีประโยชน์สำหรับราชการ ถ้าเป็นแพทย์
 
ราชการ มีแต่อย่าทำให้ผิดระเบียบ หรือรู้ว่า มันไม่มีในระเบียบราชการ เท่านั้นเอง  
ถ้าอยากจะทำเรื่องที่มีประโยชน์ต่อรพ.รัฐ หัดเรียน excel ให้เก่งระดับเทพดีกว่า
จากคุณ: Your_doctor โพสเมื่อวันที่: 12/04/20 เวลา 20:12:35
on 12/04/20 เวลา 18:25:48, 6699 wrote:
ปริญญาโทสาขาอะไรก็ตาม แทบจะไม่มีประโยชน์สำหรับราชการ ถ้าเป็นแพทย์
 
ราชการ มีแต่อย่าทำให้ผิดระเบียบ หรือรู้ว่า มันไม่มีในระเบียบราชการ เท่านั้นเอง  
ถ้าอยากจะทำเรื่องที่มีประโยชน์ต่อรพ.รัฐ หัดเรียน excel ให้เก่งระดับเทพดีกว่า

 
Excel สำหรับแพทย์ ช่วยในด้านไหนนะครับ เหมือนผมแทบไม่ค่อยได้มีโอกาสใช้เลย
จากคุณ: 6699 โพสเมื่อวันที่: 12/05/20 เวลา 06:02:14
on 12/04/20 เวลา 20:12:35, Your_doctor wrote:

 
Excel สำหรับแพทย์ ช่วยในด้านไหนนะครับ เหมือนผมแทบไม่ค่อยได้มีโอกาสใช้เลย

 
เคยคิดเช่นนั้น จนกระทั่งไปอบรมผู้บริหารระดับสูง ถึงรู้ความเทพของโปรแกรม excel โดยเฉพาะรุ่น 2016 สามารถทำอะไรได้หลายอย่าง เท่าที่เราใช้ในปัจจุบัน
 
-เก็บข้อมูลผู้ป่วย เอ็กเซลล่าสุด สามารถเก็บข้อมูลของประชากรโลกทั้งหมดได้ ถึงแม้ประชากรโลกจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า
 
-สามารถวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆได้ สามารถดูว่า ใครที่นัดวันไหน และวันนั้นใครไม่มาตามนัด เรียกข้อมูลคนที่ไม่มาได้ และให้คนที่เกี่ยวข้องพิมพ์จดหมายตามตัว หรือโทรศัพท์ตาม
 
-วิเคราะห์งบการเงินของรพ.ได้หมด ด้วยโปรแกรม excel และเมื่อเสริมด้วย add-on Pop tools จะทำเรื่องสถิติได้ง่าย  
 
-สามารถวางแผนจัดระบบรอคอยได้ง่าย ไม่ต้องใช้โปรแกรมแพงๆ เช่น Arena simulation และสามารถทำได้แม้แต่การจำลองเหตุการณ์ ว่าจะเกิดอะไรขึ้น และใน excel 2016 สามารถทำการจำลองเหตุการณ์ แบบมอนติคาร์โลได้ได้ ว่าควรจะสต๊อคยาในห้องยาเท่าไหร่ดี ยาอะไรควรจะมีเท่าไหร่ ยาอะไรที่ไม่มีการเคลื่อนไหว หรือเคลื่่อนไหวอย่างไร เมื่อไหร่ควรจะสั่งเพิ่ม หมอคนไหน ใช้ยาอะไร หรือยาตัวนี้ มีหมอคนไหนใช้บ้าง จะวางแผนในรพ.ได้อย่างดี  
 
-เมื่อดึงข้อมูลจากจากโปรแกรมของรพ. เช่น HosXP สามารถนำมาต่อยอดได้ด้วย excel ว่า ในแต่ละเดือนมีคนป่วยเท่าไหร่ มีคนป่วยใหม่เท่าไหร่ คนป่วยแต่ละคนมา รพ. กี่ครั้ง ในอำเภอนี้ มีคนป่วยโรคตา มารพ.กี่คน กี่ครั้ง ต่างกับอำเภออื่นหรือไม่  
 
-ที่เจ๋งมากคือ การทำ Pivot table จากข้อมูลที่นำมาจาก HosXp สามารถทำให้เรารู้ได้ว่า ตอนนี้สถานการณ์ของผู้ป่วย ของรพ. สถานการณ์ทางการเงินรพ.เป็นอย่างไร แนวโน้มเป็นอย่างไร  
 
-excel สำหรับแพทย์ก็ใช้ในการเก็บข้อมูล และทำการวิเคราะห์ และคำนวณ  ทำได้แม้แต่การพิมพ์ใบเสร็จ จดหมายต่างๆ แบบฟอร์มต่างๆ  และถ้าคิดจะทำประโยชน์ให้แก่รพ.ที่ทำงานด้วยแล้ว excel ตอบโจทย์มาก ทุกประเด็นเลย แม้แต่การคิดโอทีของแพทย์ เรายังใช้ excel ในการออกแบบ  
 
-ยิ่งถ้าเขียนภาษา Visual Basic ได้ เมื่อมาใช้กับ excel ยิ่งทำให้ยืดหยุ่นได้มากขึ้นอีก  
จากคุณ: Your_doctor โพสเมื่อวันที่: 12/05/20 เวลา 07:15:10
on 12/05/20 เวลา 06:02:14, 6699 wrote:

 
เคยคิดเช่นนั้น จนกระทั่งไปอบรมผู้บริหารระดับสูง ถึงรู้ความเทพของโปรแกรม excel โดยเฉพาะรุ่น 2016 สามารถทำอะไรได้หลายอย่าง เท่าที่เราใช้ในปัจจุบัน
 
-เก็บข้อมูลผู้ป่วย เอ็กเซลล่าสุด สามารถเก็บข้อมูลของประชากรโลกทั้งหมดได้ ถึงแม้ประชากรโลกจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า
 
-สามารถวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆได้ สามารถดูว่า ใครที่นัดวันไหน และวันนั้นใครไม่มาตามนัด เรียกข้อมูลคนที่ไม่มาได้ และให้คนที่เกี่ยวข้องพิมพ์จดหมายตามตัว หรือโทรศัพท์ตาม
 
-วิเคราะห์งบการเงินของรพ.ได้หมด ด้วยโปรแกรม excel และเมื่อเสริมด้วย add-on Pop tools จะทำเรื่องสถิติได้ง่าย  
 
-สามารถวางแผนจัดระบบรอคอยได้ง่าย ไม่ต้องใช้โปรแกรมแพงๆ เช่น Arena simulation และสามารถทำได้แม้แต่การจำลองเหตุการณ์ ว่าจะเกิดอะไรขึ้น และใน excel 2016 สามารถทำการจำลองเหตุการณ์ แบบมอนติคาร์โลได้ได้ ว่าควรจะสต๊อคยาในห้องยาเท่าไหร่ดี ยาอะไรควรจะมีเท่าไหร่ ยาอะไรที่ไม่มีการเคลื่อนไหว หรือเคลื่่อนไหวอย่างไร เมื่อไหร่ควรจะสั่งเพิ่ม หมอคนไหน ใช้ยาอะไร หรือยาตัวนี้ มีหมอคนไหนใช้บ้าง จะวางแผนในรพ.ได้อย่างดี  
 
-เมื่อดึงข้อมูลจากจากโปรแกรมของรพ. เช่น HosXP สามารถนำมาต่อยอดได้ด้วย excel ว่า ในแต่ละเดือนมีคนป่วยเท่าไหร่ มีคนป่วยใหม่เท่าไหร่ คนป่วยแต่ละคนมา รพ. กี่ครั้ง ในอำเภอนี้ มีคนป่วยโรคตา มารพ.กี่คน กี่ครั้ง ต่างกับอำเภออื่นหรือไม่  
 
-ที่เจ๋งมากคือ การทำ Pivot table จากข้อมูลที่นำมาจาก HosXp สามารถทำให้เรารู้ได้ว่า ตอนนี้สถานการณ์ของผู้ป่วย ของรพ. สถานการณ์ทางการเงินรพ.เป็นอย่างไร แนวโน้มเป็นอย่างไร  
 
-excel สำหรับแพทย์ก็ใช้ในการเก็บข้อมูล และทำการวิเคราะห์ และคำนวณ  ทำได้แม้แต่การพิมพ์ใบเสร็จ จดหมายต่างๆ แบบฟอร์มต่างๆ  และถ้าคิดจะทำประโยชน์ให้แก่รพ.ที่ทำงานด้วยแล้ว excel ตอบโจทย์มาก ทุกประเด็นเลย แม้แต่การคิดโอทีของแพทย์ เรายังใช้ excel ในการออกแบบ  
 
-ยิ่งถ้าเขียนภาษา Visual Basic ได้ เมื่อมาใช้กับ excel ยิ่งทำให้ยืดหยุ่นได้มากขึ้นอีก  

 
 Shocked ขอบคุณครับ
จากคุณ: doreus โพสเมื่อวันที่: 12/05/20 เวลา 16:02:42
เรียนฝังเข็ม เรียนผิวหนังระยะสั้น เรียนultrasound มีให้ไปอบรมเยอะเลยครับมีประโยชน์ต่อโรงพยาบาล ส่วนเรียนป.โท น่าจะเรียนเกี่ยวกับวิจัยเลยครับจบมามีประโยชน์แน่
จากคุณ: Your_doctor โพสเมื่อวันที่: 12/05/20 เวลา 21:02:34
on 12/05/20 เวลา 16:02:42, doreus wrote:
เรียนฝังเข็ม เรียนผิวหนังระยะสั้น เรียนultrasound มีให้ไปอบรมเยอะเลยครับมีประโยชน์ต่อโรงพยาบาล ส่วนเรียนป.โท น่าจะเรียนเกี่ยวกับวิจัยเลยครับจบมามีประโยชน์แน่

 
ขอบคุณครับ คิดว่าวิจัยน่าจะสำคัญจริงๆกับโรงพยาบาล แต่ดูแล้วน้องน่าจะไม่ชอบวิจัยเท่าไร
จากคุณ: Moo__wiroj โพสเมื่อวันที่: 12/07/20 เวลา 16:40:03
Grin Roll Eyes
จากคุณ: Mr.Note โพสเมื่อวันที่: 12/08/20 เวลา 21:32:40
ป.โท วิจัย ยังไม่ค่อยช่วยไรเท่่าไหร่
แต่ถ้า Ph.D นี่จบมาเนื้อหอมแน่นอน ซึ่งเกณการจบมี requirementที่สูมาก
 
ว่าแต่สาขาที่รอเปิดทุนนี่นานเกิน2-3ปีเลยเหรอครับ
จากคุณ: Your_doctor โพสเมื่อวันที่: 12/16/20 เวลา 15:42:53
on 12/08/20 เวลา 21:32:40, Mr.Note wrote:
ป.โท วิจัย ยังไม่ค่อยช่วยไรเท่่าไหร่
แต่ถ้า Ph.D นี่จบมาเนื้อหอมแน่นอน ซึ่งเกณการจบมี requirementที่สูมาก
 
ว่าแต่สาขาที่รอเปิดทุนนี่นานเกิน2-3ปีเลยเหรอครับ

น้องอยากเรียน minor ที่เข้ายากมากๆๆ จนเลิกหวังไปแล้วคับ
ตอนนี้เลยมีความคิดว่า งั้นเรียนอะไรก็ได้
เลยว่าอยากจะเรียนต่อให้ได้วุฒิ ป.โท แบบไม่ต้องเครียดมากครับ
จากคุณ: necessary evil โพสเมื่อวันที่: 12/16/20 เวลา 20:19:38
เรียนนิติครับ โคตรมีประโยชน์สำหรับป้องกันตัว
แพทย์เป็นอาชีพที่มักโดนริดรอนสิทธิมาก
จากคุณ: Pandermonium โพสเมื่อวันที่: 12/18/20 เวลา 09:50:56
on 12/16/20 เวลา 15:42:53, Your_doctor wrote:

น้องอยากเรียน minor ที่เข้ายากมากๆๆ จนเลิกหวังไปแล้วคับ
ตอนนี้เลยมีความคิดว่า งั้นเรียนอะไรก็ได้
เลยว่าอยากจะเรียนต่อให้ได้วุฒิ ป.โท แบบไม่ต้องเครียดมากครับ

น้องคุณใจไม่สู้เลย
เหมือนโดนแฟนทิ้งแล้ว ใครผ่านเข้ามาก็เอาหมดอ่ะ
จากคุณ: หมอเมืองสยาม โพสเมื่อวันที่: 12/19/20 เวลา 17:26:16
   ช่วงรอทุน เรียนอะไรดี? - เรียนทำยำปลาดุกฟูครับ  ขายดี...
จากคุณ: หมอเมืองสยาม โพสเมื่อวันที่: 12/20/20 เวลา 21:22:49
      ระหว่างรอทุน  ทำอะไรดี ? - ขายน้ำอัดลม ครับ กำไรดี..
จากคุณ: หมอเมืองสยาม โพสเมื่อวันที่: 12/21/20 เวลา 19:05:27
    ปริญญาโท  (เรียน)อะไรดี ? - เอกวิชาแมวขโมย ครับ...
จากคุณ: DrWinny โพสเมื่อวันที่: 01/10/21 เวลา 15:16:12
ขอแทรกนิด...ด่วนนะ...่ช่วยแจ้งแพทยอื่นด้วย
 
--
แต่ที่แน่ๆๆ
 
หากแพทย์ไม่แก้ไข ด้วยที่แพทย์ส่วนใหญ่ ควรทำการลงคะแนนเลือกตั้งกรรมการแพทยสภา ก็อาจมีคะแนนผีอ้างเลขประกอบวิชาชีพของท่านไปใช้ได้
 
และมีเวลาเหลือน้อยมาก คือ  
 
เพียงอีก ๔ วันนี้เท่านั้น ที่พอทำได้คือการเลือก (ปิดรับลงคะแนน ๑๔ มค ๖๔ เวลา ๑๖.๓๐ น.)  
 
และเวลานี้ ทำได้เฉพาะผู้ที่ลงทะเบียน e vote แล้วเท่านั้น
หากเป็นผู้มีบัตรเลือกตั้งทางไปรษณีีย์  ต้องส่งทาง ปณ.เท่านั้น (ห้ามไปส่งที่สำนักงานแพทสภา แบบปีก่อนๆ )  ซึ่งอาจไปถึงเกินเวลาปิดรับ ก็จะกลายเป็นบัตรเสีย
 
ดังนั้นหากจะต้องส่งทาง ปณ.ให้ทันในเวลานี้  ควรส่งที่เคาเตอร์ ปณ.นนทบุรี อันเป็นที่ตั้งของ แพทยสภา ก็อาจจะพอทันนะ


  • ข้อความและรูปภาพที่ท่านเห็นส่วนใหญ่ ได้ถูกส่งมาจาก ทางบ้าน
    ทางเว็บไซต์ Thaiclinic.com ไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ของข้อความและรูปภาพที่ถูกส่งมา

  • ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชนและส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ
    เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้นเพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง
    ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง

  • ถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมหรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล
    หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ webmaster@thaiclinic.com หรือ กดแจ้งที่ปุ่ม
    "แจ้งลบกระทู้"
    เพื่อให้ทีมงานทราบและทำการลบข้อความนั้นออกจากระบบต่อไป ขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกันทำให้สังคมน่าอยู่ครับ

ThaiClinic.Com . All Rights Reserved. !--BEGIN WEB STAT CODE-->

Powered by