หน้าแรกเว็บบอร์ด หน้าแรกเว็บบอร์ด
   For MD.
   Doctor Room l ห้องพักแพทย์
   Post reply ( Re: IOF รณรงค์ให้ผู้ใหญ่ตื่นตัวต่อปัจจัยเสี่ยงโรคกระดูกพรุน )
ขอเชิญเพื่อนแพทย์พูดคุย แสดงความคิดเห็นครับ
หัวข้อ:
ใส่ชื่อ:
Email:
Add YABBC tags:
Add Smileys: <more...>
ข้อความ:

Disable Smilies




Topic Summary
จากคุณ: IQ โพสเมื่อวันที่: 10/20/20 เวลา 15:33:15
มูลนิธิโรคกระดูกพรุนนานาชาติ (IOF) รณรงค์ให้ผู้ใหญ่ทุกคนตื่นตัวต่อปัจจัยเสี่ยงของโรคกระดูกพรุน ซึ่งเป็นโรคที่อาจนำไปสู่วงจรกระดูกหักที่เป็นอันตรายถึงชีวิต
 
ภาวะกระดูกหักที่เกิดขึ้นจากการหกล้มเพียงเล็กน้อยในผู้ใหญ่อายุ 50 ปีขึ้นไป มักเป็นสัญญาณของโรคกระดูกพรุน และเมื่อประสบกับภาวะกระดูกหักซึ่งมักเกิดขึ้นบริเวณข้อมือ กระดูกสันหลัง หรือสะโพก ก็มีความเสี่ยงสูงมากที่จะเกิดภาวะกระดูกหักอีกภายในสองปีข้างหน้า
 
โรคกระดูกพรุนทำให้กระดูกอ่อนแอและเปราะบาง ผู้ป่วยจึงเสี่ยงต่อการเกิดภาวะกระดูกหักที่ทำให้เจ็บปวดและอ่อนแรง ซึ่งบ่อยครั้งนำไปสู่ภาวะทุพพลภาพในระยะยาวและการสูญเสียความสามารถในการดูแ ลตัวเอง โดยภาวะกระดูกหักจากโรคกระดูกพรุนอาจเกิดจากการหกล้มเพียงเล็กน้อยขณะยืน หรือเพียงแค่ก้มตัวยกถุงใส่ของ ทั้งนี้ ผู้หญิง 1 ใน 2 คน และผู้ชาย 1 ใน 5 คนที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไปทั่วโลก จะได้รับผลกระทบจากภาวะกระดูกหักจากโรคกระดูกพรุนในช่วงชีวิตที่เหลืออยู่
 
ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่อาจก่อให้เกิดภาวะกระดูกหักจากโรคกระดูกพรุน ได้แก่ ความสูงที่หายไปมากกว่า 4 ซม. (ประมาณ 1.5 นิ้ว), การใช้ฮอร์โมนกลูโคคอร์ติคอยด์ในระยะยาว (หรือ "สเตียรอยด์" เพื่อรักษาอาการอักเสบ), คนในครอบครัวมีประวัติกระดูกสะโพกหัก, การมีน้ำหนักตัวน้อยเกินไป, การสูบบุหรี่, การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป ประจำเดือนหมดเร็ว ฯลฯ
 
ดังนั้น IOF จึงรณรงค์ให้ผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไปทำแบบทดสอบความเสี่ยงโรคกระดูกพรุน (รองรับ 36 ภาษา) ที่เว็บไซต์ https://riskcheck.osteoporosis.foundation และหากพบปัจจัยเสี่ยงก็ควรเข้ารับการประเมินสุขภาพกระดูก ซึ่งอาจรวมถึงการประเมินความเสี่ยงภาวะกระดูกหัก (FRAX) ในระยะ 10 ปี
 
ศาสตราจารย์ไซรัส คูเปอร์ ประธาน IOF กล่าวว่า
 
"เนื่องจากภาวะกระดูกหักมีอันตรายร้ายแรงและอาจเปลี่ยนชีวิตผู้ป่วยไปตลอดกา ล โดยเฉพาะภาวะกระดูกหักที่สะโพกและกระดูกสันหลัง ผู้ใหญ่ทุกคนที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไปจึงจำเป็นต้องตื่นตัวต่อปัจจัยเสี่ยงโรคกระดูกพรุน การทดสอบและการรักษาอย่างทันท่วงทีมีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากการรักษาที่มีประสิทธิภาพสามารถลดความเสี่ยงภาวะกระดูกหักได้ 30-70%"
 
การจัดการโรคกระดูกพรุนตั้งแต่เนิ่น ๆ สามารถป้องกันความทุกข์ทรมานและการสูญเสียความสามารถในการดูแลตัวเองได้ ทั้งนี้ หลังจากเกิดภาวะกระดูกสะโพกหัก ผู้ป่วยราว 40% ไม่สามารถเดินได้ด้วยตัวเอง ขณะที่ผู้ป่วย 60% ต้องการความช่วยเหลือ และ 33% อาจต้องพึ่งพาผู้อื่นเต็มตัวหรืออยู่ในสถานพยาบาลในปีถัดไปหลังจากกระดูกหัก  
 
การพึ่งพาผู้อื่นเต็มตัวสร้างภาระหนักให้ทั้งผู้ป่วยและผู้ดูแลซึ่งเป็นคนใน ครอบครัว โดยภาระนี้ตกอยู่กับผู้หญิงเป็นส่วนใหญ่ ผลการศึกษาจากสเปนพบว่า ผู้ดูแลผู้ป่วยกระดูกสะโพกหัก 77% เป็นผู้หญิง โดย 55% เป็นลูกสาวของผู้ป่วย
 
ศาสตราจารย์คูเปอร์กล่าวเสริมว่า
 
"โรคกระดูกพรุนมักถูกละเลย ทั้งที่เป็นภาระหนักของผู้ป่วยและครอบครัว แต่ราว 80% ของผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงสุดและมีภาวะกระดูกหักอยู่แล้วกลับไม่ได้รับกา รรักษา ด้วยเหตุนี้ IOF จึงดำเนินโครงการ Capture the Fracture(R) เพื่อดูแลผู้ป่วยหลังเกิดภาวะกระดูกหักในโรงพยาบาลทั่วโลก ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นใจว่าผู้ป่วยกระดูกหักได้รับการประเมินและรักษาอย่า งถูกต้อง เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดกระดูกหักเพิ่มเติมในอนาคต ผู้สูงวัยที่ประสบภาวะกระดูกหักทุกคนควรได้รับการดูแลในลักษณะนี้ เราขอเรียกร้องให้หน่วยงานด้านสาธารณสุขให้ความสำคัญกับสุขภาพกระดูก และรับรองให้มีการดูแลหลังเกิดภาวะกระดูกหักอย่างมีประสิทธิภาพสำหรับผู้สูง วัยทุกคนที่มีภาวะกระดูกหักต่อเนื่อง นี่คือกุญแจสำคัญในการลดภาระของภาวะกระดูกหักจากโรคกระดูกพรุน ทั้งสำหรับผู้ป่วย ครอบครัว และสังคมทั่วโลก"
 
- สามารถดูรูปภาพได้ที่ AP Images (http://www.apimages.com) -
 
วันสากลโรคกระดูกพรุน หรือ World Osteoporosis Day (WOD) ตรงกับวันที่ 20 ตุลาคมของทุกปี โดยมีการจัดกิจกรรมรณรงค์เพื่อต่อสู้กับโรคกระดูกพรุน รวมทั้งภาวะกระดูกหักจากโรคกระดูกพรุนทั่วโลก www.worldosteoporosisday.org
 
ผู้สนับสนุนวันสากลโรคกระดูกพรุน ได้แก่ Sunsweet, Sandoz, Amgen, UCB, GSK, Kyowa-Kirin
 
มูลนิธิโรคกระดูกพรุนนานาชาติ หรือ International Osteoporosis Foundation (IOF) คือองค์กรนอกภาครัฐขนาดใหญ่ที่สุดในโลกที่อุทิศตนเพื่อการป้องกันโรคกระดูกพ รุนและภาวะกระดูกหัก www.osteoporosis.foundation www.capturethefracture.org
 
สื่อมวลชนกรุณาติดต่อ
Laura Misteli
อีเมล: info@iofbonehealth.org
โทร: +41-78-857-1777


  • ข้อความและรูปภาพที่ท่านเห็นส่วนใหญ่ ได้ถูกส่งมาจาก ทางบ้าน
    ทางเว็บไซต์ Thaiclinic.com ไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ของข้อความและรูปภาพที่ถูกส่งมา

  • ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชนและส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ
    เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้นเพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง
    ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง

  • ถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมหรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล
    หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ webmaster@thaiclinic.com หรือ กดแจ้งที่ปุ่ม
    "แจ้งลบกระทู้"
    เพื่อให้ทีมงานทราบและทำการลบข้อความนั้นออกจากระบบต่อไป ขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกันทำให้สังคมน่าอยู่ครับ

ThaiClinic.Com . All Rights Reserved. !--BEGIN WEB STAT CODE-->

Powered by