Topic Summary
|
จากคุณ: Newnormal |
โพสเมื่อวันที่: 10/04/20 เวลา 12:59:11 |
ขอถามพี่ๆทั้งที่จบและไม่ได้จบรังสีค่ะ ปัจจุบันใน กรุงเทพ เอกชนยังมีที่ให้หมอรังสีที่จบใหม่ทำงานมั้ยคะ +รายได้ยังโอเคอยู่มั้ยคะ ถ้าไม่นับเรื่องความชอบส่วนตัว พี่ๆยังแนะนำให้มาเรียนสาขานี้อยู่หรือเปล่า ขอรบกวนสอบถามเพื่อประกอบการตัดสินใจค่า
|
จากคุณ: 6699 |
โพสเมื่อวันที่: 10/04/20 เวลา 19:08:01 |
ความน่าสนใจลดไปมาก -เนื่องจากการฟ้องร้อง อ่านผิดเมื่อไหร่ มีปัญหาเมื่อนั้น เป็นคดีละเมิด และคดีคุ้มครองผู้บริโภค -การอ่านภาพรังสี สามารถอ่านได้จากส่วนกลาง คนที่อยู่กรุงเทพ สามารถอ่าน MRI ที่ภาคใต้ได้ ทำให้หมอรังสีบางคน มีงานมาก บางคน อาจจะทีงานน้อยจนอยู่ไม่ได้ -เรียนเก่งได้ยาก เพราะไม่ได้เห็นผู้ป่วยโดยตรง ไม่รู้ผล feed back กว่าจะรู้ ก็ขึ้นศาลเสียแล้ว -ปัจจุบัน มีแพทย์เฉพาะทางมากขึ้น ดังนั้น หมอรังสี โอกาสไม่มากที่จะอ่าน film ได้เก่งกว่า แพทย์ปอด หรือแพทย์กระดูก หรือแพทย์หัวใจ เพราะแพทย์เหล่านั้น เห็นผู้ป่วยโดยตรง
|
จากคุณ: 6699 |
โพสเมื่อวันที่: 10/04/20 เวลา 19:18:27 |
-ลอกมาจากเน็ต อย่าเพิ่งเชื่อมาก แต่แชร์เพื่อตัดสินใจเรื่องการเรียนต่อรังสี แนะนำอ่านฉบับเต็มจากคำพิพากษา -พิพากษาฎีกาที่๑๕๐๖๗/๒๕๕๗ เพื่อผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมจะได้นำไปปรับการทำงานให้รัดกุมเพื่อเป็นการป้ องกันไม่ให้ถูกฟ้องร้องเป็นคดีความ ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ได้จากคำพิพากษาฎีกาเท่านั้น ซึ่งในทางพิจารณาคดีความนั้น ศาลล่าง(ชั้นต้นและอุทธรณ์)จะใช้คำพิพากษาฎีกาเป็นแนวในทางพิจารณาเช่นกัน หากแต่ข้อเท็จจริงในแต่ละคดีก็อาจมีรายละเอียดที่แตกต่างกันไป ทั้งนี้ศาลจะใช้ข้อเท็จจริงที่มีอยู่ในสำนวนคดีเท่านั้นในการตัดสินคดีซึ่งข ้อมูลส่วนนี้เป็นหน้าที่ของคู่ความโดยเฉพาะทนายความที่จะนำสืบข้อมูลเข้าไปใ นสำนวนคดีและต้องเป็นข้อเท็จจริงที่ได้ว่ากล่าวกันมาแล้วในศาลล่าง คดีนี้โจทก์ฟ้องเป็นคดีแพ่งสามัญมิใช่คดีผู้บริโภค(คดีเกิดขึ้นเมื่อวันที่๔ สิงหาคม๒๕๔๙ และ โจทก์มาฟ้องคดีเมื่อวันที่๒๖มิถุนายน๒๕๕๑ ส่วนพระราชบัญญัติวิธีการพิจารณาคดีผู้บริโภค มีตราไว้ออกให้ณ.วันที่๑๗กุมภาพันธ์พ.ศ.๒๕๕๑ ) เมื่อเป็นคดีแพ่งสามัญ ภาระการพิสูจน์ในคดีจึงตกแก่โจทก์ผู้กล่าวอ้างว่าจำเลยกระทำโดยประมาทในการใ ห้การดูแลรักษาซึ่งในทางคดีถือว่าการที่ผู้ป่วยจะฟ้องคดีเป็นคดีแพ่งสามัญนั ้นจะเอาชนะได้ยาก โจทก์เป็นผู้ไปใช้บริการตรวจสุขภาพร่างกายที่โรงพยาบาลเอกชนจำเลยที่๑เมื่อ วันที่๔สิงหาคม๒๕๔๙ จำเลยที่๒เป็นแพทย์ผู้ตรวจร่างกายของโจทก์ จำเลยที่๑ได้ส่งผลการตรวจตามรายงานการตรวจสุขภาพให้แก่โจทก์ โดยจำเลยที่๒ลงลายมือชื่อเป็นแพทย์ผู้ตรวจ ระบุผลการตรวจเอ๊กซเรย์ในข้อที่๔ว่าตรวจเอกซเรย์ช่องท้องส่วนบนเพื่อตรวจดูต ับ ถุงน้ำดีตับอ่อน ม้าม ไตทั้งสองข้างปกติ ครั้นต่อมาประมาณปลายเดือนมิถุนายน๒๕๕๐ โจทก์มีอาการปวดท้องและท้องอืดจึงไปตรวจรักษากับแพทย์ที่โรงพยาบาลอื่นกลับต รวจพบว่าโจทก์มีก้อนเนื้อมะเร็งที่บริเวณไตข้างขวาจึงเข้ารับการรักษาโดยผ่า ตัดไตข้างขวาออก เมื่อภาระการพิสูจน์ตกแก่โจทก์คือทางผู้ป่วย ผู้ป่วยก็ต้องพิสูจน์ว่าเมื่อวันที่๔สิงหาคม๒๕๔๙ตอนที่ไปตรวจสุขภาพที่โรงพย าบาลจำเลยที่๑นั้นมีก้อนเนื้อมะเร็งที่บริเวณไตข้างขวาอยู่แล้วแต่แพทย์ผู้ท ำการตรวจอัลตราซาวด์ช่องท้องให้แก่โจทก์(โดยทั่วไปจะเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญท างรังสีวินิจฉัยหรือรังสีวิทยา)กลับตรวจไม่พบ ทั้งที่ควรตรวจพบได้ ซึ่งข้อเท็จจริงก็ต้องพิสูจน์ว่าในวิสัยของรังสีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเช่นเดียว กับรังสีแพทย์ของจำเลยที่๑ จะสามารถตรวจพบก้อนเนื้อมะเร็งที่ไตขวาได้จึงจะถือว่าเป็นการตรวจวินิจฉัยที ่ประมาทปราศจากความระมัดระวัง หรือ รังสีแพทย์โรงพยาบาลจำเลยที่๑ได้ตรวจอัลตราซาวด์ช่องท้องด้านบนพบแล้วว่าโจท ย์มีก้อนเนื้อมะเร็งที่ไตขวาแต่แพทย์จำเลยที่๒ อ่านผลรายงานการตรวจผิดพลาดจากความไม่ละเอียดของจำเลยที่๒เองหรือการติดผล รายงานการตรวจผิดพลาดสลับเวชระเบียนคนไข้กัน คดีนี้โจทก์ไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลจำเลยที่๑เมื่อวันที่๔สิงหาคม๒๕๔๙และไป ตรวจร่างกายอีกครั้งที่รพ.อื่นเมื่อ๒๔มิถุนายน๒๕๕๐จึงพบว่ามีก้อนเนื้อมีขนา ดใหญ่ที่ไตขวาแต่มาฟ้องเมื่อวันที่๒๖มิถุนายน๒๕๕๑ อย่างนี้จะเป็นการฟ้องข้อหาละเมิดที่หมดสิทธิ์ที่จะมาฟ้องด้วยเพราะเกิน๑ปีห รือไม่ ศาลฎีกาให้ความเห็นว่ามูลละเมิดตามประมวลแพ่งพาณิชย์มาตรา๔๔๘บัญญัติว่าขาดอ ายุความเมื่อพ้นหนึ่งปีนับแต่วันที่ผู้ต้องเสียหายรู้ถึงการละเมิดและรู้ตัว ผู้จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนนั้น ดังนั้นในวันที่๒๔มิถุนายน๒๕๕๐ที่โรงพยาบาลอีกแห่งแจ้งผลการตรวจด้วยเครื่อง เอ๊กซเรย์คอมพิวเตอร์ว่าปรากฏว่ามีก้อนที่บริเวณไตข้างขวามานานหลายปีแล้ว ลำพังข้อเท็จจริงเพียงเท่านี้ยังไม่เพียงพอที่จะรับฟังว่าโจทก์ผู้ต้องเสียห ายรู้ถึงการร่วมกันทำละเมิดของจำเลยทั้งสอง โจทก์มาขอรายงานผลการตรวจช่องท้องด้วยเครื่องอัลตราซาวด์จากจำเลยที่๑เมื่อว ันที่๕กรกฎาคม๒๕๕๐ จึงทราบข้อเท็จจริงว่าจำเลยทั้งสองแจ้งผลการตรวจสุขภาพประจำปีผิดพลาดไปจากค วามจริง ดังนั้นศาลฎีกาจึงถือว่าอายุความต้องเริ่มนับตั้งแต่วันที่๕กรกฎาคม๒๕๕๐ดังน ั้นการที่โจทก์มาฟ้องคดีเมื่อวันที่๒๖มิถุนายน๒๕๕๑จึงยังไม่หมดอายุความ คดีนี้ศาลฎีกาให้ความเห็นว่า "แม้อาการป่วยของโจทก์จะเกิดขึ้นจากความผิดปกติ ในร่างกายของโจทก์เอง โดยจำเลยทั้งสองไม่ได้เป็นผู้ก่อให้เกิดขึ้น หรือกระทำการใดๆให้โจทก์เกิดมะเร็งก็ตาม แต่การแจ้งผลการตรวจผิดพลาดทำให้อาการโรคมะเร็งไตของโจทก์ลุกลามแพร่กระจายไ ปยังอวัยวะอื่นๆอีกโดยตามใบมรณะบัตรยังระบุว่าโรคมะเร็งของโจทก์ลุกลามแพร่ก ระจายไปยังสมองเป็นเหตุให้โจทก์ถึงความตายในที่สุด คดีนี้จำเลยทั้งสองร่วมกันต้องจ่ายค่าเสียหายจำนวน๑,๖๘๗,๕๙๒บาทพร้อมดอกเบี้ ย ร้อยละ๗.๕ต่อปีนับถัดจากวันฟ้อง ศาลฎีกาเห็นด้วยกับศาลชั้นต้น คดีนี้จะคล้ายกับคดีที่หญิงตั้งครรภ์ไปฝากท้องที่โรงพยาบาลเอกชนแล้วรังสีแพ ทย์ทำอัลตราซาวด์แล้วแจ้งว่าเด็กปกติ ต่อมาเด็กคลอดออกมามีขาพิการ มารดามาฟ้องโรงพยาบาลฯ รังสีแพทย์และสูติแพทย์ โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหาย๓๙๐ล้านกว่าบาท ศาลชั้นต้นตัดสินให้จำเลยร่วมกันชำระค่าเสียหาย๑๒ล้านบาทพร้อมดอกเบี้ยร้อยล ะ๗.๕ต่อปี ศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาแก้เป็นให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชำระค่าเสียหาย๑ล้านบาทพ ร้อมดอกเบี้ยร้อยละ๗.๕ต่อปี
|
จากคุณ: Dr._Panya |
โพสเมื่อวันที่: 10/05/20 เวลา 13:13:53 |
ถ้าสนใจ/ อยากจะเรียนด้านนี้จริงๆ ก็อาจจะเปลี่ยนเป็นแนว รังสีร่วมรักษา ดีมั้ยครับ
|
จากคุณ: Hippo |
โพสเมื่อวันที่: 10/05/20 เวลา 18:42:44 |
ฟ้องกันหลักสิบล้าน ยังกะหมอเงินเดือนเป็นล้าน
|
จากคุณ: megacure |
โพสเมื่อวันที่: 10/06/20 เวลา 15:35:47 |
ต่อไปมีทั้ง AI assisted และ Tele คนที่จะยังได้รายได้มากจะเหลือแต่อาจารย์ รรพ. สำหรับ diagnostic radiology เอกชน fulltime อยากรุ่ง แนะนำ interventional radiology ส่วน RT ก็โดน AI invade บ้างแล้ว ใครบอก AI ไม่แย่งงาน ใช่มันแทน radiologist ไม่ได้ แต่มันทำให้ใช้คนลดลง คนหนึ่งคนทำงานได้มากขึ้น
|
จากคุณ: Nomad Physician |
โพสเมื่อวันที่: 10/07/20 เวลา 02:10:49 |
on 10/06/20 เวลา 15:35:47, megacure wrote:ต่อไปมีทั้ง AI assisted และ Tele คนที่จะยังได้รายได้มากจะเหลือแต่อาจารย์ รรพ. สำหรับ diagnostic radiology ........... ใครบอก AI ไม่แย่งงาน ใช่มันแทน radiologist ไม่ได้ แต่มันทำให้ใช้คนลดลง คนหนึ่งคนทำงานได้มากขึ้น |
| ทำงานได้มากขึ้น แต่รายได้ต่อเคสอาจลดลงครับ เพราะต้องแบ่งรายได้ไปให้คณะ AI
|
จากคุณ: Dr._Panya |
โพสเมื่อวันที่: 10/09/20 เวลา 09:39:49 |
เวลามีความผิดพลาดจากการรักษา/ วินิจฉัย จนทำไปสู่ Morbidity/ Mortality/ ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายหลายๆๆๆล้านบาท (คงจะไม่ฟ้องเอาเงินแค่หลักหมื่น/ หลักแสนบาท แน่ครับ) เค้าฟ้องเรียกเงินจาก AI รึเปล่าครับ เปล่าเลย คนจ่ายเงินก็คือ รพ. หรือหมอ ที่ Cover การใช้ AI ตรงนี้อยู่ดีครับ เพราะฉะนั้น ถ้ามีข้อผิดพลาดจากการตรวจ/ วินิจฉัย/ รักษา...แพทย์/ รพ. ก็เข้าข่ายประมาท เลินเล่อ จะปฏิเสธความรับผิดชอบ ไม่ได้อยู่ดีครับ อิ อิ อิ
|
จากคุณ: luzeus |
โพสเมื่อวันที่: 12/01/20 เวลา 21:36:27 |
งานหายากอยู่เหมือนกันค่ะ เพราะบางคนอ่าน tele มา แถม ultrasound เดี๋ยวนี้บางทีศัลย์ สูติ GP ทำเอง เป็นสาขาที่น่าเรียนค่ะ เพราะไม่ต้อง contact ผู้ป่วยโดยตรง
|