Topic Summary
|
จากคุณ: Hybrid VI |
โพสเมื่อวันที่: 07/17/20 เวลา 02:55:37 |
การไปรับจ๊อบอยู่เวร รพ.ของรัฐอื่น (ทั้ง รพ.รัฐบาลในเขตจังหวัดเดียวกัน หรือต่างจังหวัด) ผิดเงื่อนไขการรับเงินหมื่นหรือไม่ครับ ขอบคุณครับ
|
จากคุณ: Pandermonium |
โพสเมื่อวันที่: 07/17/20 เวลา 06:02:35 |
มันจะปิดได้ไง ไม่ใช่เอกชน ไม่ได้เปิดคลีนิคนิ
|
จากคุณ: Dr._Panya |
โพสเมื่อวันที่: 07/17/20 เวลา 09:49:06 |
คงจะต้องถามระเบียบ/ กฎเกณฑ์ ข้อนี้/ ตอนนี้ จากฝ่ายธุรการ/ นิติกร ของรพ. ของท่านล่ะครับ แต่ส่วนตัวแล้ว ผมคิดว่า "ผิด คือน่าจะไม่ได้รับเงินเงินหมื่น (ในเดือนนั้นๆ ที่รับจ้อบ)" มั้งครับ...เพราะว่า กฎเกณฑ์ข้อนี้นั้นถูกออกแบบมาเพื่อจะให้แพทย์ ของรพ. นั้นๆ ทำงาน/ เข้าเวรที่ รพ.นั้นๆของตัวเอง มากกว่าขายเวร/ หนีเวร ของรพ. ตัวเอง แล้วไปรับงานที่ รพ.อื่นที่งานเบากว่า/ ได้เงินเยอะกว่า (ค่าเวรของรพ.รัฐอาจจะได้เท่ากันตามระเบียบ แต่ แพทย์ผู้ขายมักจะเวรจะ Top Up ให้อีก) ครับ
|
จากคุณ: Hybrid VI |
โพสเมื่อวันที่: 07/17/20 เวลา 12:04:48 |
เห็นน้องๆ ที่จังหวัดซื้อ-ขายเวรข้าม รพ.กันเพียบเลย ก็เลยสงสัยว่ามันผิดเงื่อนไขหรือไม่ครับ ที่ รพ.เคยจ้างให้หมออื่นมาอยู่เวร แต่ก็ทำหนังสือมาช่วยราชการอย่างถูกต้อง เลยคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาครับ
|
จากคุณ: Hybrid VI |
โพสเมื่อวันที่: 07/17/20 เวลา 12:06:51 |
on 07/17/20 เวลา 09:49:06, Dr._Panya wrote:คงจะต้องถามระเบียบ/ กฎเกณฑ์ ข้อนี้/ ตอนนี้ จากฝ่ายธุรการ/ นิติกร ของรพ. ของท่านล่ะครับ แต่ส่วนตัวแล้ว ผมคิดว่า "ผิด คือน่าจะไม่ได้รับเงินเงินหมื่น (ในเดือนนั้นๆ ที่รับจ้อบ)" มั้งครับ...เพราะว่า กฎเกณฑ์ข้อนี้นั้นถูกออกแบบมาเพื่อจะให้แพทย์ ของรพ. นั้นๆ ทำงาน/ เข้าเวรที่ รพ.นั้นๆของตัวเอง มากกว่าขายเวร/ หนีเวร ของรพ. ตัวเอง แล้วไปรับงานที่ รพ.อื่นที่งานเบากว่า/ ได้เงินเยอะกว่า (ค่าเวรของรพ.รัฐอาจจะได้เท่ากันตามระเบียบ แต่ แพทย์ผู้ขายมักจะเวรจะ Top Up ให้อีก) ครับ |
| อ่านระเบียบอย่างละเอียดระบุเพียงว่าให้อุทิศเวลาเพื่อราชการ และเงินหมื่นคือ เงินค่าตอบแทนที่ไม่ประกอบเวชปฏิบัติส่วนตัว หรือทำงาน รพ.เอกชน ครับ
|
จากคุณ: Fantastic_Four |
โพสเมื่อวันที่: 07/17/20 เวลา 12:08:21 |
ตามคำสั่ง ใช้คำว่า เวชปฏิบัติ ส่วนตัว และหรือ เอกชน ครับ ผมตีความว่าไม่ผิดเงื่อนไข เพราะรพ.รัฐอื่น ไม่ใช่ของส่วนตัว จริงอยู่แพทย์ท่านหนึ่ง อาจไม่ Focus งาน รพ.ตัวเอง แต่ไปรับ รพ.รัฐอื่น แต่ในภาพใหญ่ แพทย์ท่านหนี่งที่อาจเป็น subspecialty ในที่ห่างไกล ก็จะสามารถไปช่วย รพ.รัฐอื่น โดยที่ไม่เสียค่าตอบแทนได้ครับ
|
จากคุณ: หมอเมืองสยาม |
โพสเมื่อวันที่: 07/17/20 เวลา 12:24:13 |
ถูกจับได้ กินรวบ๒ต่อ , ทำไงดี ? - " ฉีกยิ้ม"....
|
จากคุณ: 6699 |
โพสเมื่อวันที่: 07/17/20 เวลา 12:59:46 |
ประเด็นน่าสนใจ มีคำสั่งของราชการให้มาช่วยงานหรือไม่ ถ้าไม่มี แต่มารับงาน เพราะต้องการช่วยราชการ หรือเพื่อผลตอบแทนเป็นตัวเงิน อาจจะเจอประเด็นเจตนาผิดจากที่รับเงินหมื่นบาท ไปอยู่รพ.อื่น แต่ไม่มีคำสั่งราชการ จะปฏฺิบัติหน้าที่ราชการได้อย่างไร นึกไม่ออกเลย ถ้าทำผิด โดยฟ้องร้อง ต้นสังกัด หรือรพ.ให้รับงานจะรับผิดชอบ หรือส่วนตัวเองรับผิดชอบ ถ้าต้นสังกัดรับผิดชอบ อาจจะมองว่า ช่วยราชการ แต่ถ้าหากว่า ตัวเองต้องรับผิดชอบ อาจจะมองว่า เป็นการเวชปฏิบัติส่วนตัวที่ทำให้รพ.ของรัฐ
|
จากคุณ: Dr._Panya |
โพสเมื่อวันที่: 07/17/20 เวลา 13:44:54 |
1. หากขายเวร/ หักคอรุ่นน้องที่ รพ. รัฐของตัวเอง สมมติว่าได้ เวรละ 2พันบาท แต่คืนนั้น/ วันนั้น กลับไป รับจ้อบที่ รพ.ของรัฐอีกแห่งนึงที่ได้ค่าเวรมากกว่า สมมติว่าได้คืนละ 3พันบาท...ยังจะได้เงินหมื่นบาทจาก รพ.ต้นสังกัดในเดือนนั้นๆอยู่ มั้ยครับ (รับจ้อบแบบนี้ทุกวัน ทุกคืนเลยคือ 10- 20 เวร/ เดือนเลย ก็คงจะดี นะครับ อิ อิ อิ) 2. หากไปรับจ้อบที่ รพ.ของรัฐแห่งอื่น แล้วเคสที่เรารักษาเกิดมี Complications ใดๆ โดยเฉพาะหากเกิดด้วยความประมาท เลินเล่อ หรือ Mal- practice ของเรา (สมมตินะครับ) แล้ว/ หรือ ถูกผู้ป่วยที่มารักษากับเราวันนั้นฟ้องร้องเรื่องใดๆก็ตาม (เค้าจะฟ้องแพทย์เป็นจำเลยที่ 1 และรพ. หรือ ผอ.รพ. ที่เกิดเหตุเป็นจำเลยที่ 2 คิดว่า รพ.ที่เกิดเหตุจะยอมมั้ยครับ) ... ป.ล. 1... กฎหมายไทย เป็นระบบตีความ ซึ่ง ตามธรรมชาติของคนเราจะตีความเข้าข้างตัวเองซะด้วยสิ (รึจะมีใคร ตีความให้ตัวเองผิด/ ติดคุก มั้ยหนอ) ซึ่งหลายๆประเด็นเรา(อาจจะ)มอง/ ตีความว่าไม่ผิดหรอก(มั้ง) แต่ความจริงแล้ว "ผิดเต็มๆ" อิ อิ อิ ป.ล. 2.... การมีหนังสือราชการระบุ ว่าขอยืมตัว ให้แพทย์...มาเข้าเวร/ ขึ้นเวร ที่รพ...ในวัน+ เวลา... (เช่นแพทย์ไม่พอ ) ก็เพื่อที่แพทย์ผู้ถูกยืมตัวจะไม่ถูกมองว่า หนีมารับงาน(รัฐ)ที่ดีกว่า+ ไม่ต้องถูกหักเงินหมื่นบาทในเดือนนั้นๆ ครับ
|
จากคุณ: Hybrid VI |
โพสเมื่อวันที่: 07/17/20 เวลา 18:43:35 |
on 07/17/20 เวลา 13:44:54, Dr._Panya wrote:1. หากขายเวร/ หักคอรุ่นน้องที่ รพ. รัฐของตัวเอง สมมติว่าได้ เวรละ 2พันบาท แต่คืนนั้น/ วันนั้น กลับไป รับจ้อบที่ รพ.ของรัฐอีกแห่งนึงที่ได้ค่าเวรมากกว่า สมมติว่าได้คืนละ 3พันบาท...ยังจะได้เงินหมื่นบาทจาก รพ.ต้นสังกัดในเดือนนั้นๆอยู่ มั้ยครับ (รับจ้อบแบบนี้ทุกวัน ทุกคืนเลยคือ 10- 20 เวร/ เดือนเลย ก็คงจะดี นะครับ อิ อิ อิ) 2. หากไปรับจ้อบที่ รพ.ของรัฐแห่งอื่น แล้วเคสที่เรารักษาเกิดมี Complications ใดๆ โดยเฉพาะหากเกิดด้วยความประมาท เลินเล่อ หรือ Mal- practice ของเรา (สมมตินะครับ) แล้ว/ หรือ ถูกผู้ป่วยที่มารักษากับเราวันนั้นฟ้องร้องเรื่องใดๆก็ตาม (เค้าจะฟ้องแพทย์เป็นจำเลยที่ 1 และรพ. หรือ ผอ.รพ. ที่เกิดเหตุเป็นจำเลยที่ 2 คิดว่า รพ.ที่เกิดเหตุจะยอมมั้ยครับ) ... ป.ล. 1... กฎหมายไทย เป็นระบบตีความ ซึ่ง ตามธรรมชาติของคนเราจะตีความเข้าข้างตัวเองซะด้วยสิ (รึจะมีใคร ตีความให้ตัวเองผิด/ ติดคุก มั้ยหนอ) ซึ่งหลายๆประเด็นเรา(อาจจะ)มอง/ ตีความว่าไม่ผิดหรอก(มั้ง) แต่ความจริงแล้ว "ผิดเต็มๆ" อิ อิ อิ ป.ล. 2.... การมีหนังสือราชการระบุ ว่าขอยืมตัว ให้แพทย์...มาเข้าเวร/ ขึ้นเวร ที่รพ...ในวัน+ เวลา... (เช่นแพทย์ไม่พอ ) ก็เพื่อที่แพทย์ผู้ถูกยืมตัวจะไม่ถูกมองว่า หนีมารับงาน(รัฐ)ที่ดีกว่า+ ไม่ต้องถูกหักเงินหมื่นบาทในเดือนนั้นๆ ครับ |
| เจตนาอย่างไรก็แล้วแต่ แต่ถ้าไม่ผิดเงื่อนไข ผมว่าไม่น่าจะผิด ก็เลยสงสัยว่า คำว่า เวชปฏิบัติส่วนตัว มีคำจำกัดความรวมถึงอะไรบ้าง ตามข้อ 1 จะหักคอขายแล้วไปรับที่อื่นที่ให้เยอะกว่าก็ได้ แต่ต้องขับรถข้ามอำเภอเดินทางไป-กลับให้ทันเวลาทำงานด้วย
|
จากคุณ: Dr._Panya |
โพสเมื่อวันที่: 07/18/20 เวลา 09:24:00 |
on 07/17/20 เวลา 18:43:35, Hybrid VI wrote: เจตนาอย่างไรก็แล้วแต่ แต่ถ้าไม่ผิดเงื่อนไข ผมว่าไม่น่าจะผิด ก็เลยสงสัยว่า คำว่า เวชปฏิบัติส่วนตัว มีคำจำกัดความรวมถึงอะไรบ้าง ตามข้อ 1 จะหักคอขายแล้วไปรับที่อื่นที่ให้เยอะกว่าก็ได้ แต่ต้องขับรถข้ามอำเภอเดินทางไป-กลับให้ทันเวลาทำงานด้วย |
| ...ก็อย่างที่บอกข้างบนว่า อันนี้เป็นมุมมอง/ ความเห็นส่วนตัวของแพทย์คนนึง ไม่ใช่มุมมองของศาลหรือนักกฎหมายครับ อิ อิ อิ
|
จากคุณ: Dr._Panya |
โพสเมื่อวันที่: 07/18/20 เวลา 09:29:28 |
และถ้าแพทย์ท่านใด คิดว่า/ แน่ใจว่า กรณีนี้น่าจะไม่ผิด+ ยังต้องได้รับเงินหมื่นเหมือนเดิม ก็เชิญรับจ้อบต่าง รพ.(ของรัฐ)ได้ตามอัธยาศัย/ เดือนละหลายๆเวร ได้เลยครับ อิ อิ อิ
|
จากคุณ: Chimerism |
โพสเมื่อวันที่: 07/18/20 เวลา 09:34:41 |
ตามตัวหนังสือเลยคิดว่าไม่ผิดค่ะ นึกๆไปก็เคยทำเหมือนกันค่ะ มีช่วงนึง รพ.ข้างเคียงขาดคน ก็ไปอยู่เวรช่วย โดยที่ไม่มีหนังสือใดๆเพียงตกลงกันปากเปล่าค่ะ แต่ก็เข้าใจว่า บางครั้งมีผลกระทบจริงๆ ธรรมชาติมนุษย์มันหลากหลายบางคนก็มีเจตนาไม่บริสุทธิ์ เคยพบกรณีรับเวรซ้อน คืออยู่เวรวอร์ด รพ.จังหวัด แต่รับเวร ER รพช. (ซึ่งทั้ง 2 จุดนี้ เรไม่ยุ่งมากเป็น on callทั้งคู่) ก็ไม่ทราบว่าจัดเวรผิดพลาดหรือเปล่า แต่ตามตัวไม่เจอจึงพบว่าอยู่ที่ รพ.อื่นค่ะ
|
จากคุณ: AsylumSeeker |
โพสเมื่อวันที่: 07/18/20 เวลา 11:08:55 |
|
จากคุณ: Hybrid VI |
โพสเมื่อวันที่: 07/18/20 เวลา 11:13:31 |
on 07/18/20 เวลา 09:34:41, Chimerism wrote:ตามตัวหนังสือเลยคิดว่าไม่ผิดค่ะ นึกๆไปก็เคยทำเหมือนกันค่ะ มีช่วงนึง รพ.ข้างเคียงขาดคน ก็ไปอยู่เวรช่วย โดยที่ไม่มีหนังสือใดๆเพียงตกลงกันปากเปล่าค่ะ แต่ก็เข้าใจว่า บางครั้งมีผลกระทบจริงๆ ธรรมชาติมนุษย์มันหลากหลายบางคนก็มีเจตนาไม่บริสุทธิ์ เคยพบกรณีรับเวรซ้อน คืออยู่เวรวอร์ด รพ.จังหวัด แต่รับเวร ER รพช. (ซึ่งทั้ง 2 จุดนี้ เรไม่ยุ่งมากเป็น on callทั้งคู่) ก็ไม่ทราบว่าจัดเวรผิดพลาดหรือเปล่า แต่ตามตัวไม่เจอจึงพบว่าอยู่ที่ รพ.อื่นค่ะ |
| รับเวรซ้อน ต่อให้ไม่ได้รับเงินหมื่นก็ผิดอยู่ดีนะครับ เลยคิดว่าไม่น่าจะเกี่ยวกับผิดเงื่อนไขเงินหมื่นเท่าไร
|
จากคุณ: Echo |
โพสเมื่อวันที่: 07/18/20 เวลา 11:36:58 |
ไปส่วนตัว ผิดครับ แต่ถ้าไป โดนมีหนังสือขอยืมตัวจากปลายทาง ผอ ต้นทางอนุมัติ ก็ไม่ผิด ถือว่าไปปฏิบัติราชการ
|
จากคุณ: Dr._Panya |
โพสเมื่อวันที่: 07/20/20 เวลา 10:42:33 |
ถ้าหาก นานๆทำแบบนี้ทีนึง (ช่วยเพื่อนต่างรพ. ที่ติดธุระ/ ไม่สบายกระทันหัน) ก็คงจะไม่เป็นไร มั้งครับ (แต่อย่างน้อย อาจจะบอกคนที่จะขึ้นเวรใน รพ.แทนเรา แต่เรากลับไปขึ้นเวรที่อื่น) แต่หากต้องทำบ่อยๆ/ หลายเวรๆ/ เดือน (จะรับเงินที่รพ.อื่นที่ได้ ค่าเวรที่มากขึ้น แต่ยังได้รับเงินหมื่น ของ รพ. ตัวเอง) ก็ควรจะ บอกกล่าวเล่าสิบ/ ขออนุญาต/ ปรึกษา ผอ. รพ. หรือ ขอ หนังสือช่วยงานรพ. จากนายแพทย์ สสจ. หรือ ผอ. รพ. ถึง ผอ. รพ. ของเรา ( เรื่องใหญ่/ เป็นทางการพอสมควร) จะได้ไม่มีคนครหา/ หาช่องมาเล่นงาน (หักเงินหมื่นย้อนหลัง/ ตัดเงินหมื่น)/ มีความผิดทางวินัย หรือ อาญา ฯลฯ ต่อไปครับ (อย่างน้อยๆ ก็เพื่อความโปร่งใส+ สบายใจของเราและ เพื่อนร่วมงานใน รพ.เดียวกันครับ) ป.ล. สมมติว่า แพทย์แต่ละคนต้องอยู่เวร 10 เวร/ เดือน แต่เราไปหักคอ/ ขายเวร/ บังคับ/ หลอกลวง ฯลฯ (คำไหน ก็แล้วแต่ อิ อิ อิ) คนอื่นๆให้ขึ้นเวรแทนเรา จำนวนเวร 10 วัน/ เดือนของเรานี้ ก็จะทำให้แพทย์คนอื่นๆใน รพ. ต้องอยู่เวรมากขึ้นในเดือนนั้นๆ (ได้เงินเยอะขึ้นก็จริง แต่ก็ต้องอดนอน) มาทำงานอย่างสโหล สเหล ในตอนเช้าบ่อยขึ้น มีผลต่อประสิทธิภาพของการทำงานของแพทย์ผู้ร่วมงานไม่มากก็น้อย แต่เราไปรับเวรที่อื่นที่ได้เงินค่าเวรเยอะกว่า+ งานเบากว่า แถมยังจะได้เงินหมื่นจากรัฐเหมือนเดิม
|
จากคุณ: Dr._Panya |
โพสเมื่อวันที่: 07/20/20 เวลา 15:32:28 |
สมมติว่า เมื่อหารเวรกันแล้ว แพทย์แต่ละคนต้องอยู่เวรใน รพ.รัฐของตัวเองประมาณ 10 เวร/ เดือน และได้ค่าเวรๆละ 2 พันบาท หาก 1. อยู่เวรของตัวเอง ในรพ.เต็มทั้ง 10 เวร/ เดือน แล้ว 20 วันที่เหลือ อาจจะไป รับจ้อบ/ ช่วยเพื่อนที่อยู่ต่างรพ.รัฐบ้าง เป็นครั้งคราว... หลายๆเดือนสักครั้ง/ เวร ก็คงจะไม่เป็นไร มั้ง 2. อยู่เวรของตัวเอง เต็มทั้ง 10 เวร/ เดือน แต่วันที่เหลือ ไปรับจ้อบ ที่รพ.(ของรัฐ) อื่นๆในละแวกใกล้เคียง บ่อยๆ เดือนละ หลายๆๆๆ เวร เนื่องด้วยต้องการใช้เวรมากขึ้น (พ่อป่วย/ จะแต่งงาน/ จะซื้อรถมาแทนคันเก่าที่พังมากแล้ว ฯลฯ) โดยที่ไม่ทำให้งานใน รพ. ของตัวเอง+ รพ. ที่ ไปรับขึ้นเวรเสียหายใดๆๆเลย ...น่าจะต้องบอก/ ขอโทษเพื่อนร่วมงานบ้าง (หากนั่งหลับในห้องประชุม/ ห้องตรวจ เป็นครั้งคราว) หรือ แจ้ง/ ขออนุญาตจาก รพ. รพ. ว่าเรามีความจำเป็นต้องใช้เงินมากขึ้นในช่วงนี้จริงๆ และจำทำแบบน้ไม่นาน/ ไม่บ่อยจนเกินไป ก็น่าจะได้รับตามเมตตา/ สงสารจาก ผอ. รพ. ให้ไม่เอาเรื่อง/ ได้รับเงินหมื่นในเดือนนั้นๆอยู่เหมือนเดิม 3. หากแทบจะไม่อยู่เวรของตัวเองในรพ.ของตัวเอง แต่บังคับ/ หักคอรุ่นน้อง/ รุ่นเดียวกันให้อยู่เวรทั้ง 10 เวรหรือ เกือบ 10 เวร/ เดือน โดยไม่จ่าย Top UP ให้อีกต่างหาก เพื่อนที่ รพ. ก็ต้องอยู่เวรมากขึ้น/ อดนอนบ่อยขึ้น...แต่ตัวเอง ไปรับค่าเวรที่อื่น (สมมติว่า ค่าเวรๆละ 3 พันบาท 10- 20 เวร/ เดือน) และยังอยากจะได้เงินหนจากรพ.ต้นสังกัดอยู่อีก แบบนี้ยิ่งต้องบอก/ ขออนุญาต จาก ผอ. รพ.ของตัวเอง ครับ (รพ. ปลายทาง เค้าอาจจะไม่เห็นด้วยกับการกระทำนี้ ดังนั้นผอ. รพ.ปลายทาง เค้าคงจะไม่ออกหนังสือยืมตัว ถึงผอ. รพ. ของเราให้ง่ายๆแน่ครับ)
|
จากคุณ: Dr.Dolittle |
โพสเมื่อวันที่: 07/20/20 เวลา 16:17:25 |
หลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติการจ่ายเงินเพิ่มพิเศษสำหรับแพทย์ ทันตแพทย์ และเภสัชกร ที่ปฏิบัติงานในสถานบริการสาธารณสุขโดยไม่ทำเวชปฏิบัติส่วนตัวและหรือปฏิบัต ิงานในโรงพยาบาลเอกชน พ.ศ. 2536 เราว่าถ้าเป็นรพ.รัฐ ไม่น่าจะมีปัญหา
|
จากคุณ: drsupath |
โพสเมื่อวันที่: 07/20/20 เวลา 16:30:45 |
ไม่ผิดสัญญาครับ เพราะสัญญาระบุชัดเจนเฉพาะไม่ทําเวชปฏิบัติส่วนตัวและโรงพยาบาลเอกชน 2 กรณีเท่านั้น เป็นแค่สัญญาทางปกครองไม่ใช่กฎหรือระเบียบหากไม่ปฏิบัติตามก็ไม่ผิดวินัยข้า ราชการเพราะกำหนดเบี้ยปรับไว้ชัดเจนอยู่แล้ว หมอสุพัฒน์ ผู้สมัครกรรมการแพทย์สภาหมายเลข 1
|
จากคุณ: Hybrid VI |
โพสเมื่อวันที่: 07/20/20 เวลา 21:32:12 |
on 07/20/20 เวลา 15:32:28, Dr._Panya wrote:สมมติว่า เมื่อหารเวรกันแล้ว แพทย์แต่ละคนต้องอยู่เวรใน รพ.รัฐของตัวเองประมาณ 10 เวร/ เดือน และได้ค่าเวรๆละ 2 พันบาท หาก 1. อยู่เวรของตัวเอง ในรพ.เต็มทั้ง 10 เวร/ เดือน แล้ว 20 วันที่เหลือ อาจจะไป รับจ้อบ/ ช่วยเพื่อนที่อยู่ต่างรพ.รัฐบ้าง เป็นครั้งคราว... หลายๆเดือนสักครั้ง/ เวร ก็คงจะไม่เป็นไร มั้ง 2. อยู่เวรของตัวเอง เต็มทั้ง 10 เวร/ เดือน แต่วันที่เหลือ ไปรับจ้อบ ที่รพ.(ของรัฐ) อื่นๆในละแวกใกล้เคียง บ่อยๆ เดือนละ หลายๆๆๆ เวร เนื่องด้วยต้องการใช้เวรมากขึ้น (พ่อป่วย/ จะแต่งงาน/ จะซื้อรถมาแทนคันเก่าที่พังมากแล้ว ฯลฯ) โดยที่ไม่ทำให้งานใน รพ. ของตัวเอง+ รพ. ที่ ไปรับขึ้นเวรเสียหายใดๆๆเลย ...น่าจะต้องบอก/ ขอโทษเพื่อนร่วมงานบ้าง (หากนั่งหลับในห้องประชุม/ ห้องตรวจ เป็นครั้งคราว) หรือ แจ้ง/ ขออนุญาตจาก รพ. รพ. ว่าเรามีความจำเป็นต้องใช้เงินมากขึ้นในช่วงนี้จริงๆ และจำทำแบบน้ไม่นาน/ ไม่บ่อยจนเกินไป ก็น่าจะได้รับตามเมตตา/ สงสารจาก ผอ. รพ. ให้ไม่เอาเรื่อง/ ได้รับเงินหมื่นในเดือนนั้นๆอยู่เหมือนเดิม 3. หากแทบจะไม่อยู่เวรของตัวเองในรพ.ของตัวเอง แต่บังคับ/ หักคอรุ่นน้อง/ รุ่นเดียวกันให้อยู่เวรทั้ง 10 เวรหรือ เกือบ 10 เวร/ เดือน โดยไม่จ่าย Top UP ให้อีกต่างหาก เพื่อนที่ รพ. ก็ต้องอยู่เวรมากขึ้น/ อดนอนบ่อยขึ้น...แต่ตัวเอง ไปรับค่าเวรที่อื่น (สมมติว่า ค่าเวรๆละ 3 พันบาท 10- 20 เวร/ เดือน) และยังอยากจะได้เงินหนจากรพ.ต้นสังกัดอยู่อีก แบบนี้ยิ่งต้องบอก/ ขออนุญาต จาก ผอ. รพ.ของตัวเอง ครับ (รพ. ปลายทาง เค้าอาจจะไม่เห็นด้วยกับการกระทำนี้ ดังนั้นผอ. รพ.ปลายทาง เค้าคงจะไม่ออกหนังสือยืมตัว ถึงผอ. รพ. ของเราให้ง่ายๆแน่ครับ) |
| ถ้าหากเป็นกฎเกณฑ์ หรือเงื่อนไขที่ห้ามไปขึ้นเวรอื่น การกระทำในข้อ 1 และ 2 ก็ถือว่าผิดอยู่ดีครับ เพราะ ผอ.ที่ "อะลุ่มอะหล่วย" ให้ทำได้ จะแน่ใจยังไงว่าจะไม่โดนตรวจสอบภายหลัง ที่ต้องทราบแน่ชัด คือ คำจำกัดความของคำว่า "เวชปฏิบัติส่วนตัว" หมายถึงอะไรบ้าง ถ้าไม่ชัดเจน มันจะเป็นการใช้ "ดุลยพินิจ" ของแต่ละคน ซึ่งเถียงกันไม่จบสักที
|
จากคุณ: Dr._Panya |
โพสเมื่อวันที่: 07/21/20 เวลา 09:39:19 |
on 07/20/20 เวลา 21:32:12, Hybrid VI wrote: ถ้าหากเป็นกฎเกณฑ์ หรือเงื่อนไขที่ห้ามไปขึ้นเวรอื่น การกระทำในข้อ 1 และ 2 ก็ถือว่าผิดอยู่ดีครับ เพราะ ผอ.ที่ "อะลุ่มอะหล่วย" ให้ทำได้ จะแน่ใจยังไงว่าจะไม่โดนตรวจสอบภายหลัง ที่ต้องทราบแน่ชัด คือ คำจำกัดความของคำว่า "เวชปฏิบัติส่วนตัว" หมายถึงอะไรบ้าง ถ้าไม่ชัดเจน มันจะเป็นการใช้ "ดุลยพินิจ" ของแต่ละคน ซึ่งเถียงกันไม่จบสักที |
| เห็นด้วยครับ
|
จากคุณ: drsupath |
โพสเมื่อวันที่: 07/28/20 เวลา 15:52:59 |
on 07/20/20 เวลา 16:30:45, drsupath wrote:ไม่ผิดสัญญาครับ เพราะสัญญาระบุชัดเจนเฉพาะไม่ทําเวชปฏิบัติส่วนตัวและโรงพยาบาลเอกชน 2 กรณีเท่านั้น เป็นแค่สัญญาทางปกครองไม่ใช่กฎหรือระเบียบหากไม่ปฏิบัติตามก็ไม่ผิดวินัยข้า ราชการเพราะกำหนดเบี้ยปรับไว้ชัดเจนอยู่แล้ว หมอสุพัฒน์ ผู้สมัครกรรมการแพทย์สภาหมายเลข 1 |
| แต๋ รพ. ควรรับรู้ เพราะคำสั่งย้อนหลังใด้
|
จากคุณ: Dr._Panya |
โพสเมื่อวันที่: 07/31/20 เวลา 09:35:31 |
on 07/28/20 เวลา 15:52:59, drsupath wrote: แต๋ รพ. ควรรับรู้ เพราะคำสั่งย้อนหลังใด้ |
| ใช่ครับ เห็นด้วยครับ เพราะคำสั่งใดๆที่มีผลย้อนหลัง (เรียกเก็บเงินหมื่นในเดือนที่รับจ้อบคืน) นี่แหละ เจ็บแสบ ที่สุด อิ อิ อิ
|