หน้าแรกเว็บบอร์ด หน้าแรกเว็บบอร์ด
   For MD.
   Doctor Room l ห้องพักแพทย์
   Post reply ( Re: Affinity ค้นพบโปรตีนภูมิคุ้มกันที่สามารถยับยั้งไวรัส SARS-CoV-2 )
ขอเชิญเพื่อนแพทย์พูดคุย แสดงความคิดเห็นครับ
หัวข้อ:
ใส่ชื่อ:
Email:
Add YABBC tags:
Add Smileys: <more...>
ข้อความ:

Disable Smilies




Topic Summary
จากคุณ: IQ โพสเมื่อวันที่: 07/04/20 เวลา 10:32:51
Affinity Biosciences Pty Ltd (Affinity) บริษัทเอกชนจากออสเตรเลียที่มุ่งเน้นการตรวจหาแอนติบอดีสำหรับการรักษาโรคมะ เร็ง ประกาศว่า บริษัทค้นพบโปรตีนภูมิคุ้มกันที่มีศักยภาพในการรักษาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
 
Affinity เริ่มคัดกรองคลังแอนติบอดีมนุษย์ที่อยู่ในกรรมสิทธิ์ของบริษัทกว่าหนึ่งแสนล ้านชนิด เพื่อตรวจหาแอนติบอดีที่สามารถยับยั้ง SARS-CoV-2 ซึ่งเป็นไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคโควิด-19 มาตั้งแต่เดือนมีนาคม และหลังจากที่ได้ค้นพบแอนติบอดีที่มีคุณสมบัติในการสกัดกั้นสไปค์โปรตีนของไ วรัสไม่ให้เข้าไปยึดเกาะกับตัวรับบนเซลล์มนุษย์ได้เป็นจำนวนมากแล้ว ในเดือนเมษายน บริษัทก็ได้เข้าไปทำงานกับสถาบันปีเตอร์ โดเฮอร์ที เพื่อการวิจัยโรคติดเชื้อและภูมิคุ้มกัน เพื่อดำเนินการทดสอบการทำงานของไวรัสในห้องปฏิบัติการ จนในที่สุดสถาบันโดเฮอร์ทีก็ให้การรับรองว่า แอนติบอดีของ Affinity สามารถต่อต้านการติดเชื้อ SARS-CoV-2 ได้อย่างสมบูรณ์ในระดับความเข้มข้นเป็นตัวเลขหลักเดียวไมโครกรัม/มิลลิลิตร จากวิธีการทดสอบแบบ neutralisation assay เป็นเวลา 5 วัน ซึ่งพบว่าแอนติบอดีเหล่านี้มีความสามารถในการเข้าไปยึดเกาะกับสไปค์โปรตีนขอ ง SARS-CoV-2 ที่ความเข้มข้นประมาณ 20 พิโกโมลาร์ จึงช่วยชะลออัตราการแพร่กระจายให้ลดลงอย่างมาก โดยขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่แอนติบอดีเข้าไปฝังตัวอยู่ในเซลล์เป้าหมายนั้นๆ  
 
ดร.ปีเตอร์ สมิธ ซีอีโอ Affinity เปิดเผยว่า “แอนติบอดีของเราจะเข้าไปยึดเกาะกับสไปค์โปรตีนของไวรัสและสกัดการทำงานของม ัน จึงเท่ากับว่าแอนติบอดีเหล่านี้อาจสามารถป้องกันไม่ให้ไวรัสเข้ามาก่อตัวในร ่างกายของผู้ที่มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงดี และช่วยยับยั้งการเติบโตของไวรัสในผู้ป่วยที่ติดเชื้อได้ด้วยการเข้าไปสกัดค วามสามารถในการเพิ่มจำนวนและแพร่กระจายสู่เซลล์ใหม่ ๆ ได้”
 
การบำบัดรักษาที่มีประสิทธิภาพสูงนั้นจะทำให้สามารถกลับเข้าสู่วิถีชีวิตตาม ปกติได้เร็วขึ้น โดยจะช่วยลดจำนวนผู้ป่วยที่จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลให้น้อยลง
 
ขั้นตอนต่อไปในการพัฒนาวิธีการรักษาโควิด-19 ของ Affinity มีดังต่อไปนี้:
 
- Affinity จะหาวิธีการที่จะทำให้แอบติบอดีของพวกเขาเข้าสู่กระบวนการผลิตที่เป็นไปตามม าตรฐานการศึกษาวิจัยทางคลินิกให้เร็วที่สุด  
- ร่วมมือกับหน่วยงานกำกับดูแล อาทิ TGA, FDA และ EMA เพื่อกำหนดแนวทางการพัฒนาทางคลินิกให้เร็วขึ้น
- หารือกับรัฐบาลของประเทศต่าง, องค์กร NGO และบริษัทยาทั้งหลาย เพื่อเร่งความเร็วในการพัฒนาและจัดจำหน่ายเชิงพาณิชย์ ขณะนี้แอนติบอดีของ Affinity กำลังอยู่ระหว่างการเปรียบเทียบกับผลการศึกษาของสถาบัน La Jolla Institute for Immunology ( CoVIC Program) ที่ได้เงินสนับสนุนมาจาก COVID-19 Therapeutics Accelerator ซึ่งเป็นโปรแกรมที่เปิดตัวออกมาเมื่อเดือนมีนาคม โดยมูลนิธิ Bill & Melinda Gates Foundation, Wellcome Trust, Mastercard และ philanthropists (covic.lji.org).
 
นอกจากนี้ Affinity ยังเป็นสมาชิกของโครงการพัฒนาด้านชีววิทยาเพื่อต่อต้านไวรัส SARS-CoV-2 ซึ่งนำโดยสถาบัน Walter and Eliza Hall Institute และเพิ่งรับเงินทุนมาจากรัฐบาลรัฐวิคตอเรียและกองทุน Medical Research Future Fund (MRFF)
 
เว็บไซต์: affinity.bio/covid-19
 
 
 
รูปภาพ- https://photos.prnasia.com/prnh/20200519/2807907-1
คำบรรยายภาพ - แอนติบอดีของ Affinity Biosciences มีความสัมพันธ์กับสไปก์โปรตีนของไวรัส SARS-CoV-2
 
รูปภาพ - https://photos.prnasia.com/prnh/20200519/2807907-1-LOGO
คำบรรยายภาพ - โลโก้ของ Affinity Biosciences


  • ข้อความและรูปภาพที่ท่านเห็นส่วนใหญ่ ได้ถูกส่งมาจาก ทางบ้าน
    ทางเว็บไซต์ Thaiclinic.com ไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ของข้อความและรูปภาพที่ถูกส่งมา

  • ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชนและส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ
    เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้นเพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง
    ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง

  • ถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมหรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล
    หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ webmaster@thaiclinic.com หรือ กดแจ้งที่ปุ่ม
    "แจ้งลบกระทู้"
    เพื่อให้ทีมงานทราบและทำการลบข้อความนั้นออกจากระบบต่อไป ขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกันทำให้สังคมน่าอยู่ครับ

ThaiClinic.Com . All Rights Reserved. !--BEGIN WEB STAT CODE-->

Powered by