Topic Summary
|
จากคุณ: teetotal |
โพสเมื่อวันที่: 06/08/20 เวลา 10:06:24 |
พอดี อจ.ที่รู้จักท่านหนึ่ง ติดที่ 45-50 พอลงมา 30 ผมเลยเสี่ยงเก็บเลย เมื่อ มีนา พอวันศุกร์ และวันนี้ เห็น 40 แล้วครับ
|
จากคุณ: <<GOOD LIFE<< |
โพสเมื่อวันที่: 06/08/20 เวลา 15:21:37 |
ยินดีด้วยครับ
|
จากคุณ: 6699 |
โพสเมื่อวันที่: 06/10/20 เวลา 05:39:58 |
ตั้งขายที่เท่าไหร่ ตั้งขาดทุนที่เท่าไหร่ อย่าลืมสองอย่างนี้ การเข้าไปผจญภัยในตลาดหุ้น ดินแดนที่ไม่มีการปรานี เพื่อการอยู่รอดระยะยาว และรักษาเงินต้น
|
จากคุณ: <<GOOD LIFE<< |
โพสเมื่อวันที่: 06/10/20 เวลา 13:41:48 |
วินัยเชิงอารมณ์กับการลงทุน ************************** #ปีเตอร์ ลินช์.. อดีตผู้จัดการกองทุนและรองประธานกรรมการของ Fidelity investments อธิบายว่า นักลงทุนจะต้องผ่านอารมณ์ 3 ลักษณะอย่างต่อเนื่อง นั่นก็คือ -ความกังวล -ความชะล่าใจ -และการยอมจำนน .. เขาบอกว่า นักลงทุนโดยทั่วไปจะเกิดความ "กังวล" หลังจากการเกิดภาวะตกต่ำของตลาดหุ้นหรือเศรษฐกิจเริ่มชะลอตัว ซึ่งทำให้นักลงทุนเหล่านี้ไม่ได้เข้าซื้อหุ้นดีๆ ที่ราคาถูกๆ .. ด้วยเหตุผลลักษณะเดียวกัน หลังจากที่นักลงทุนซื้อหุ้นที่ราคาสูงขึ้นแล้ว หากราคาหุ้นยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง พวกเขาก็จะเริ่มรู้สึกชะล่าใจ จริงๆแล้ว นี่เป็นเวลาที่ต้องมาทบทวนปัจจัยพื้นฐานของบริษัทกันอีกครั้ง นักลงทุนแบบนี้คิดว่าหุ้นจะขึ้นไปเรื่อยๆ แต่ท้ายที่สุดแล้วเมื่อหุ้นตกลงอย่างหนัก และราคาตลาดตกลงมาต่ำกว่าราคาต้นทุน นักลงทุนเหล่านี้ก็จะยอมจำนนและเทขายหุ้นออกมา .. กระทั่งคนที่บอกว่าตัวเองเป็นนักลงทุนระยะยาว ก็อาจเปลี่ยนไปเมื่อตลาดหุ้นเกิดภาวะตกต่ำลงอย่างหนัก .. หากนักลงทุนไม่สามารถทนทานต่อความเจ็บปวดจากการตกต่ำของตลาด และไม่มีความสามารถในการมองข้ามการตื่นตระหนกที่เกิดขึ้นในตลาด พวกเขาก็ไม่สามารถเป็นนักลงทุนระยะยาวได้ .. จำนวนของนักลงทุนระยะยาวนั้นมีน้อยกว่าที่คนส่วนใหญ่คิด เนื่องจากวินัยเชิงอารมณ์(ความสามารถควบคุมการตอบสนองอย่างฉับพลันและการไม่ ให้อารมณ์มาครอบงำการตัดสินใจ) เป็นสิ่งที่พบเจอได้ยากในตลาดหุ้น ..
|
จากคุณ: <<GOOD LIFE<< |
โพสเมื่อวันที่: 06/12/20 เวลา 11:43:39 |
จากบทความ...ฟิน... ของดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ถ้ามองว่าราคาหุ้นไทยก่อนโควิด-19 นั้นมีความเหมาะสมอยู่แล้ว เพราะดัชนีตลาดหุ้นอยู่ที่ประมาณ 1,500 จุด ซึ่งมีค่า PE ที่ประมาณ 18 เท่า ทำให้ค่า EP เท่ากับ 5.5% ต่อปีเมื่อเปรียบเทียบกับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ประมาณ 1-2% ก็คือมีส่วนต่างประมาณ 3.5-4.5% สำหรับการรับความเสี่ยงในการลงทุนในหุ้นนั้น มองจากประวัติศาสตร์ก็ดูเหมาะสม ไม่แพงหรือถูกเกินไป .. แต่การเกิดของโควิด-19 นั้น ถ้าเราสมมุติว่าจะทำให้เศรษฐกิจและผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนถอยหลังไป 2 ปี คือต้องใช้เวลาอีก 2 ปี เศรษฐกิจและกำไรถึงจะกลับมาที่เดิม นั่นก็แปลว่าดัชนีหุ้นตอนนี้ควรที่จะต่ำกว่า 1,500 จุด ซัก 12% เพื่อที่ว่าตลาดหุ้นจะโตขึ้นปีละ 6% ต่อปีซึ่งเป็นอัตราที่ผมคิดว่าตลาดหุ้นจะทำได้ในระยะยาวนับจากวันนี้ นั่นก็หมายความว่าดัชนีที่เหมาะสมในวันนี้ก็ควรจะเป็นประมาณ 1,320 จุด ซึ่งต่ำกว่า 1,436 จุด .. และถ้าเราเชื่อตามนี้ก็หมายความว่าดัชนีหุ้นที่เราเห็นในวันที่ 5 มิถุนายน 2563 ก็ถือว่า "เต็มมูลค่า" แล้ว
|