Topic Summary
|
จากคุณ: drstop |
โพสเมื่อวันที่: 05/27/20 เวลา 10:59:17 |
การทำงานผมว่าก็คงต้องใช้ศาสตร์นำหน้า เพราะหากไม่มีความรู้อะไรเลย ก็อาจทำให้คนไข้เป็นอันตรายได้ อีกอย่างเราก็เรียนจบคณะแพทย์ศาสตร์ (ไม่ใช่แพทย์ศิลป์) แต่ในขณะเดียวกันใบประกอบโรค ก็ดันชื่อใบประกอบโรคศิลป์ (ไม่ใช่ใบประกอบโรคศาสตร์) พี่ๆเพื่อนๆน้องๆ ที่ทำงานมาสักพักแล้ว อยากแชร์ให้ฟังเกี่ยวกับประเด็นที่ผมยกมานี้บ้างไหมครับ สนุกๆนะครับ ลับสมอง ด้วยข้อสอบอัตนัย
|
จากคุณ: drstop |
โพสเมื่อวันที่: 05/27/20 เวลา 11:15:30 |
ผมเองอยากยกแง่คิดมาลองให้คิดตามกันดูนะครับ เกี่ยวกับข้าวไข่เจียวก็แล้วกัน เชื่อว่าใครๆก็คงสามารถเจียวไข่เป็นนะครับ แต่เชื่อไหมครับว่า บางคนสามารถเจียวไข่ ได้อร่อยมากๆ จนสามารถทำขายที่ตลาดหน้า office ได้ แถมทำเงินได้เยอะเสียด้วย เรียกว่าลูกค้ารอคิวกันเลย ทั้งๆที่คนเจียวไข่ ก็ไม่ได้มีความรู้อะไรอื่นเลย ไม่ได้จบปริญญา ไม่ได้เรียนสูงๆ มีแต่ความรู้เดียว ค่อยๆลองผิดลองถูกมา จนเป็นสุดยอดไข่เจียว ก็ของมันอร่อยจริงๆนี่นา ใครๆก็อยากลองชิมดูสักครั้ง ผมเองยังนึกถึงเรื่องนี้เวลาที่ทำคลินิก เรื่องประชาสัมพันธ์ วิเคราะห์ตลาด การตั้งราคาฯลฯ มันเป็นเรื่องรอง แต่เรื่องหลักคือ "ทำยังไงให้ไข่เจียวของเราอร่อยกว่าใครๆ" ความกังวลเรื่องทางเดินของอาชีพ ถ้าได้มาเรียนแพทย์แล้ว การแข่งขันสูง ต้องเจอภาวะเศรษฐกิจ ฯลฯ ผมว่ามันเป็นเรื่องที่เอามาคุยแลกเปลี่ยนกันเฉยๆ เพื่อหาทางเดินที่ดีที่สุด แต่ basic ที่สุดของเรื่องราวก็คือ "คุณได้พัฒนาฝีมือการเจียวไข่ของตัวเองให้ดีกว่าเมื่อวานหรือยัง?" หากเราไม่หยุดที่จะพัฒนาฝีมือ "แก่นแท้ของอาชีพ" ยังไงอาชีพแพทย์ ไม่มีทางตกต่ำ หรือ อดตายหรอกครับ ศาสตร์ของไข่เจียวคือ - ตีไข่ให้ฟูเข้ากัน + ทอดในน้ำมันร้อน ระวังอย่าให้ไหม้ แต่ศิลป์ของไข่เจียวล่ะคืออะไร? - เลือกไข่ เลือกน้ำมัน - ไข่เก่า ไข่ใหม่ ไข่แช่เย็น ไข่เป็ด ไข่ไก่ - ต้องเลือกฟาร์มไหม? น้ำมันต้องน้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันหมู น้ำมันปาล์ม - ไข่ต้องเติมน้ำลงไปก่อนเจียวไหม บางคนบีบมะนาว บางคนใส่แป้ง - การเจียว การตีไข่ให้เข้ากัน มันต้องขนาดไหน ต้องมีฟองเยอะๆ? - ไฟต้องแรงขนาดไหน รอน้ำมันเดือดก่อน หรือรีบใส่ไข่ไปตั้งแต่แรกๆ โอยสารพัดครับ เคยได้ยินประโยคนี้ไหมครับ "พระเจ้า สถิตย์อยู่ในรายละเอียด"
|
จากคุณ: Dr._Panya |
โพสเมื่อวันที่: 05/27/20 เวลา 13:49:06 |
on 05/27/20 เวลา 11:15:30, drstop wrote:ผมเองอยากยกแง่คิดมาลองให้คิดตามกันดูนะครับ เกี่ยวกับข้าวไข่เจียวก็แล้วกัน เชื่อว่าใครๆก็คงสามารถเจียวไข่เป็นนะครับ แต่เชื่อไหมครับว่า บางคนสามารถเจียวไข่ ได้อร่อยมากๆ จนสามารถทำขายที่ตลาดหน้า office ได้ แถมทำเงินได้เยอะเสียด้วย เรียกว่าลูกค้ารอคิวกันเลย ทั้งๆที่คนเจียวไข่ ก็ไม่ได้มีความรู้อะไรอื่นเลย ไม่ได้จบปริญญา ไม่ได้เรียนสูงๆ มีแต่ความรู้เดียว ค่อยๆลองผิดลองถูกมา จนเป็นสุดยอดไข่เจียว ก็ของมันอร่อยจริงๆนี่นา ใครๆก็อยากลองชิมดูสักครั้ง ผมเองยังนึกถึงเรื่องนี้เวลาที่ทำคลินิก เรื่องประชาสัมพันธ์ วิเคราะห์ตลาด การตั้งราคาฯลฯ มันเป็นเรื่องรอง แต่เรื่องหลักคือ "ทำยังไงให้ไข่เจียวของเราอร่อยกว่าใครๆ" ความกังวลเรื่องทางเดินของอาชีพ ถ้าได้มาเรียนแพทย์แล้ว การแข่งขันสูง ต้องเจอภาวะเศรษฐกิจ ฯลฯ ผมว่ามันเป็นเรื่องที่เอามาคุยแลกเปลี่ยนกันเฉยๆ เพื่อหาทางเดินที่ดีที่สุด แต่ basic ที่สุดของเรื่องราวก็คือ "คุณได้พัฒนาฝีมือการเจียวไข่ของตัวเองให้ดีกว่าเมื่อวานหรือยัง?" หากเราไม่หยุดที่จะพัฒนาฝีมือ "แก่นแท้ของอาชีพ" ยังไงอาชีพแพทย์ ไม่มีทางตกต่ำ หรือ อดตายหรอกครับ ศาสตร์ของไข่เจียวคือ - ตีไข่ให้ฟูเข้ากัน + ทอดในน้ำมันร้อน ระวังอย่าให้ไหม้ แต่ศิลป์ของไข่เจียวล่ะคืออะไร? - เลือกไข่ เลือกน้ำมัน - ไข่เก่า ไข่ใหม่ ไข่แช่เย็น ไข่เป็ด ไข่ไก่ - ต้องเลือกฟาร์มไหม? น้ำมันต้องน้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันหมู น้ำมันปาล์ม - ไข่ต้องเติมน้ำลงไปก่อนเจียวไหม บางคนบีบมะนาว บางคนใส่แป้ง - การเจียว การตีไข่ให้เข้ากัน มันต้องขนาดไหน ต้องมีฟองเยอะๆ? - ไฟต้องแรงขนาดไหน รอน้ำมันเดือดก่อน หรือรีบใส่ไข่ไปตั้งแต่แรกๆ โอยสารพัดครับ เคยได้ยินประโยคนี้ไหมครับ "พระเจ้า สถิตย์อยู่ในรายละเอียด" |
| ใช่ครับ นั่นขนาดไข่เจียว ยิ่งถ้าเป็นเมนูที่มัน Complex มากขึ้น "ที่มาของความอร่อย" จะยิ่งซับซ้อน/ มีเคล็ดลับ ขนาดไหนหนอ อิ อิ อิ
|
จากคุณ: megacure |
โพสเมื่อวันที่: 05/27/20 เวลา 16:49:58 |
ผมว่าเป็นเพราะสมัยก่อนมีสิ่งที่เราไม่รู้เกี่ยวกับการแพทย์มากมาย เราเติมเต็มช่องว่างของความไม่รู้เพื่อรักษาคนไข้ได้ด้วยศิลปะ นอกจากนี้การทำหัตถการหลายอย่างก็ต้องใช้ศิลปะ เช่น เย็บแผล ให้ออกมาดูสวย ซึ่งใช้แต่วิทยาศาสตร์อย่างเดียวไม่ได้ ปัจจุบันองค์ความรู้มากขึ้น พื้นที่ของศิลปะก็ลดลงไปตามส่วน แต่มันก็ยังมีสิ่งที่เราไม่รู้บ้างอยู่ดี ซึ่งต้องใช้ศิลปะในการตัดสินใจทำอย่างใดอย่างหนึ่งก็สิ่งที่ไม่รู้แต่จำเป็น ต้องจัดการ รวมถึงศิลปะในการพูด โน้มน้าวคนไข้ด้วย
|
จากคุณ: Hippo |
โพสเมื่อวันที่: 05/27/20 เวลา 17:20:08 |
ตอนเรียนให้ใช้ศาสตร์เยอะๆ แต่ตอนทำงานให้ใช้ศิลป์ในการเอาตัวรอดด้วยครับ
|
จากคุณ: know555 |
โพสเมื่อวันที่: 05/27/20 เวลา 22:57:28 |
on 05/27/20 เวลา 11:15:30, drstop wrote:ผมเองอยากยกแง่คิดมาลองให้คิดตาม แต่ศิลป์ของไข่เจียวล่ะคืออะไร? - เลือกไข่ เลือกน้ำมัน - ไข่เก่า ไข่ใหม่ ไข่แช่เย็น ไข่เป็ด ไข่ไก่ - ต้องเลือกฟาร์มไหม? น้ำมันต้องน้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันหมู น้ำมันปาล์ม - ไข่ต้องเติมน้ำลงไปก่อนเจียวไหม บางคนบีบมะนาว บางคนใส่แป้ง - การเจียว การตีไข่ให้เข้ากัน มันต้องขนาดไหน ต้องมีฟองเยอะๆ? - ไฟต้องแรงขนาดไหน รอน้ำมันเดือดก่อน หรือรีบใส่ไข่ไปตั้งแต่แรกๆ |
| ที่ยกตัวอย่างมาอันนี้ผมจัดอยู่ในศาสตร่ครับ ไม่ใช่ศิลปะ ศิลปะของการทำอาหารคือ การตกแต่งไข่เจียวให้พิสดารน่ากินมากยิ่งขึ้นหรือแตกต่างจากร้านอื่น มากกว่านะ ส่วนศิลปะในแนวกว้างทุกอาชีพคือ สิ่งที่ทำด้วยความคิดสร้างสรรค์เพื่อตอบสนองอารมณ์และประโยชน์ใช้สอย ในอาชีพหมออาจหมายถึงการพูดกับคนไข้แบบมีศิลปะ ไม่ให้กังวลมากแต่ไม่โกหก , คิดวิธีเย็บแผลแบบสวยงามและคงทนรวดเร็ว,แพทย์ใช้ยาที่ไม่เกี่ยวข้องโดยตรงเพ ื่อรักษาใจคนไข้(เพราะบางคนได้เห็นได้คุยกับหมอก็หายแล้วครับ) แบบบนี้เป็นต้นครับ
|
จากคุณ: drstop |
โพสเมื่อวันที่: 05/28/20 เวลา 08:54:21 |
มีพี่ๆเข้ามาตอบแบบนี้ ทำให้กระตุ้นสมองผมขึ้นมาเลยครับ ดีใจจัง เรื่องความต่างของศาสตร์และศิลป์ ผมสรุปแบบนี้ได้ไหมครับ ศาสตร์ คือ ความรู้ที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว และถูกจดเอาไว้ในตำรา มีหลักการ+เหตุผล ชัดเจน สามารถทำซ้ำได้ ถ้าทำตามตำราที่จดไว้ สามารถกระจายความรู้อันนี้ออกไปได้ง่าย กรณีต้องสอนคนจำนวนมากๆ ศิลป์ คือ ความรู้อีกอันนึง ซึ่งยังไม่ได้รับการยอมรับโดยคนทั่วๆไปแบบศาสตร์ แต่ในเชิงปฏิบัติแล้ว ผู้ใช้ศิลปะท่านนั้นๆก็ใช้องค์ความรู้นั้นในการทำงานให้ได้ดีกว่าคนอื่น ความรู้นี้อาจจะไม่สามารถอธิบายออกมาในที่สาธารณะได้ หรือไม่อาจสอนให้คนฟังเข้าใจง่ายๆได้ (เช่นถ้าเขาไม่รู้ด้านจิตวิทยามาก่อนเลย เราจะสอนให้เขาใช้วิธีพูดกับคนไข้แบบนี้คนไข้จะชอบ ผู้เรียนก็จะไม่ get น่ะครับ ได้แต่ท่องแบบนกแก้วนกขุนทอง) หรือมันจะเกี่ยวกับระดับความรู้ เช่น ที่ผมซึ่งเป็นมือใหม่ในวงการครัว ยกตัวอย่างความรู้เกี่ยวกับการทำไข่เจียว ทั้งหลายแหล่ ในความคิดผมก็คิดว่ามันเป็นเคล็ดลับที่ไม่มีใครรู้ ก็เลยเรียกมันว่า "ศิลป์" แต่สำหรับพ่อครัวที่รู้เรื่องนี้ดีอยู่แล้ว ก็จะเรียกมันว่า "ศาสตร์" คือมันเป็นความรู้ที่สอนกันได้ และถ้าความรู้นี้รู้กันทั่วไปในสากลจะเรียกว่า"ศาสตร์" น่าจะถูกกว่า สนุกๆครับ ลับสมองดี
|
จากคุณ: drstop |
โพสเมื่อวันที่: 05/28/20 เวลา 08:58:40 |
Code:ส่วนศิลปะในแนวกว้างทุกอาชีพคือ สิ่งที่ทำด้วยความคิดสร้างสรรค์เพื่อตอบสนองอารมณ์และประโยชน์ใช้สอย |
| ประโยคนี้ผมชอบมากครับ
|
จากคุณ: Head_transplant |
โพสเมื่อวันที่: 05/28/20 เวลา 10:00:45 |
ศิลปะคือหมอสามารถมี Empathy ได้โดยไม่ต้อง Fake หรือ ฝืนความรู้สึกตัวเอง
|
จากคุณ: น้ำเน่าในเงาจันทร์ |
โพสเมื่อวันที่: 05/28/20 เวลา 11:14:03 |
ง่ายๆครับเวลาเรารักษาคนไข้ มีทางเลือก 2 อย่างที่เสี่ยงพอๆกัน แต่เราอยากให้คนไข้เลือกสิ่งที่เราต้องการ เราก็ใช้ปากที่เป็นศิลป์ของเราพูดให้คนไข้เลือกสิ่งที่เราต้องการครับ และการรักษาคนไข้จริงๆมันมีemotionalเข้ามาเกี่ยวข้องมากครับ ซึ่งผู้รักษาก็ควรใช้ศิลป์จัดการครับ
|
จากคุณ: Supernoid |
โพสเมื่อวันที่: 05/28/20 เวลา 13:17:14 |
คำพูดปลอบใจของพวก malpracticeครับ
|
จากคุณ: Pandermonium |
โพสเมื่อวันที่: 05/28/20 เวลา 14:13:13 |
ตั้งกระทู้แบบนี้ ถ้าไม่ดูชื่อคนตั้ง เราจะคิดว่าเป็นไอ้คนนั้นมาตั้งๆ แต่ไม่ใช่แฮะ ที่ต้องใช้ศิลป์ด้วยคือวิธีการappoachคนไข้ค่ะ การdealกับคนจะมาตรงๆทื่อๆ ไม่ได้ แบบนั้นมันrobot
|
จากคุณ: drstop |
โพสเมื่อวันที่: 05/28/20 เวลา 18:36:23 |
Code:ศิลปะคือหมอสามารถมี Empathy ได้โดยไม่ต้อง Fake หรือ ฝืนความรู้สึกตัวเอง |
| อันนี้เจ๋งมากจริงๆครับ เข้าใจง่าย และจะเอาไปยึดถือปฏิบัติตามครับ
|
จากคุณ: philosophy |
โพสเมื่อวันที่: 05/28/20 เวลา 19:37:32 |
กล่าวในถึงประเด็นการรักษาก็แตกต่างกันแล้ว นี่เป็ฯเหตุผลที่ AI ยังแทนคนไม่ได้ ณ เวลานี้ ***************************** มีคนไข้หลายคนที่รักษาตาม guideline แล้วดีขึ้น แต่ไม่หาย คนไข้ในแต่ละโรคย่อมมี state of controversy อยู่ ซึ่งการรักษา บางอย่างยังอยู่ในานวิจัยที่แนวโน้มดี แต่ไม่อยู่ใน gudeline ในศาสตร์การรักษา นี้ตรงสีเทานี้แหละ จะเกิดความแตกต่างระหว่างหมอ ที่กล้าใช้ กับบางคนที่ยึดตาม guideline เหนียวแน่น ไม่ยอมมาใช้หากคนไข้ไม่ดีขึ้น นอกจากนี้ guideline ที่ยึดการรักษา แต่ละประเทศ แต่ละค่ายก้ไม่เหมือนกัน ถึงแม้นไทยจะมี guideline ส่วนใหญ่จะยึกตามยุโรป หรืออเมริกา แต่ เราคนเอเชีย บางคนไม่ได้ใช้แนวทางนั้น แต่ยึดตามญี่ปุ่น หรือจีน จึงเป็นที่มาของความแตกต่างในการรักษา
|
จากคุณ: blitzs |
โพสเมื่อวันที่: 05/29/20 เวลา 11:54:17 |
ผมว่าที่ยกมา มัน ศาสตร์ของไข่เจียวหมดเลย ศิลปะของไข่เจียว คือ เจียวยังไงให้สวยน่ากิน และรู้ว่าควรเจียวเมื่อไหร่ เจียวให้ใครกินบ้าง มากกว่า
|
จากคุณ: หมอเมืองสยาม |
โพสเมื่อวันที่: 05/30/20 เวลา 16:20:19 |
ศาสตร์และศิลป์ จริงมั้ย? - " เรื่องแต่ง ครับ"
|
จากคุณ: Supernoid |
โพสเมื่อวันที่: 06/01/20 เวลา 07:50:46 |
on 05/28/20 เวลา 14:13:13, Pandermonium wrote:ตั้งกระทู้แบบนี้ ถ้าไม่ดูชื่อคนตั้ง เราจะคิดว่าเป็นไอ้คนนั้นมาตั้งๆ แต่ไม่ใช่แฮะ ที่ต้องใช้ศิลป์ด้วยคือวิธีการappoachคนไข้ค่ะ การdealกับคนจะมาตรงๆทื่อๆ ไม่ได้ แบบนั้นมันrobot |
| ไอ้ขี้ขลาด เลิกแอบเป็นผู้หญิงได้แล้ว ไอ้ควายยยย
|
จากคุณ: หมอเมืองสยาม |
โพสเมื่อวันที่: 06/01/20 เวลา 13:35:26 |
คำว่า แพทย์เป็นทั้งศาสตร์ทั้งศิลป์ จริงมั้ย ? - " พูดซะเพราะ "
|
จากคุณ: Pandermonium |
โพสเมื่อวันที่: 06/01/20 เวลา 19:50:38 |
on 06/01/20 เวลา 07:50:46, Supernoid wrote: ไอ้ขี้ขลาด เลิกแอบเป็นผู้หญิงได้แล้ว ไอ้ควายยยย |
| อีตุ๊ด เอากระโปรงแม่มาใส่ซะ
|
จากคุณ: หมอเมืองสยาม |
โพสเมื่อวันที่: 06/04/20 เวลา 14:06:35 |
ทั้งศาสตร์ทั้งศิลป์ จริงมั้ย ? -" แค่ฟังแล้วน้ำหูน้ำตาร่วง "
|
จากคุณ: หมอเมืองสยาม |
โพสเมื่อวันที่: 06/06/20 เวลา 12:18:02 |
ศาสตร์และศิลป์ จริงมั้ย? - " เหมือนสร้างเรื่องศักดิ์สิทธิเพื่อครอบงำ ครับ"
|
จากคุณ: หมอเมืองสยาม |
โพสเมื่อวันที่: 06/11/20 เวลา 12:48:27 |
ศาสตร์และศิลป หมายความว่ายังไง (อยากรู้มาก)? - " หมายความว่า เนื้อแท้การแพทย์อยู่ในขั้นอนุบาล ครับ"
|
จากคุณ: หมอเมืองสยาม |
โพสเมื่อวันที่: 06/13/20 เวลา 14:23:53 |
ศาสตร์และศิลป์ อะไร? - คือดาบ๒คม ครับ ใช้ถูกก็เป็นศาสตร์ ใช้ผิดๆถูกๆก็อ้างศิลป์....
|
จากคุณ: drstop |
โพสเมื่อวันที่: 06/13/20 เวลา 19:35:51 |
การวาดรูปของ อ.เฉลิมชัย เป็นศาสตร์หรือศิลป์ครับ ?
|
จากคุณ: หมอเมืองสยาม |
โพสเมื่อวันที่: 06/20/20 เวลา 17:51:54 |
....ศิลป์คืออะไร ? - คือเคาะกะลาให้ลิงดีใจเล่น...
|