หน้าแรกเว็บบอร์ด หน้าแรกเว็บบอร์ด
   For MD.
   Doctor Room l ห้องพักแพทย์
   Post reply ( Re: ขอคำแนะนำพี่ๆที่เปิดคลินิกGPค่ะ )
ขอเชิญเพื่อนแพทย์พูดคุย แสดงความคิดเห็นครับ
หัวข้อ:
ใส่ชื่อ:
Email:
Add YABBC tags:
Add Smileys: <more...>
ข้อความ:

Disable Smilies




Topic Summary
จากคุณ: Dr.UnyongT โพสเมื่อวันที่: 01/10/20 เวลา 15:12:59
สวัสดีค่ะ ตอนนี้จขกทเป็นGPfulltimeเอกชน(Clinic)
ใช้ทุนรัฐบาลครบ  แต่งงานแล้ว(สามีเรียนเฉพาะทาง รับราชการ)
มีเหตุให้ไม่ได้เรียนต่อเลยต้องเปลี่ยนมาทำเอกชนค่ะ
หลักๆคือต้องดูแลคุณพ่อคุณแม่ และมีคนป่วยในบ้านเยอะค่ะ เลยเหมือนเราต้องเป็นหลักให้ทุกคน คิดว่าคงไม่กลับไปเรียนแล้ว
เลยวางแผนอยากเปิดClinic GP เป็นของตัวเอง  
พื้นที่ในกทม ใกล้ๆบ้าน เป็นโซนชุมชน ใกล้ตลาด แต่ก็ไม่อยากทิ้งงานประจำ
 คิดว่าเปิดไปซักพักอาจหาหมอfulltimeรุ่นน้องมาช่วยทำ อยากเป็นผู้ดูแลกิจการมากกว่าค่ะ
ตอนนี้พยายามเก็บประสบการณ์ ศึกษาจากclinicที่ทำอยู่ตอนนี้ค่ะ  
เลยอยากปรึกษาพี่ๆที่ทำclinic GPอยู่ ว่า
-ธุรกิจยังมีแนวโน้มไปได้ดีอยู่มั้ยคะ/การสู้กับclinicเครือรพ.เอกชน
-ข้อดี ข้อเสีย ของการเปิดเอง ปัญหาที่พบ
-คำแนะนำ คำเตือน
-ที่อยู่รอดและได้กำไร มีปัจจัยจากอะไรบ้าง
-ควรไปเรียนคอร์สธุรกิจ/การตลาด ก่อนมั้ยคะ
 
*เพิ่มเติมคือ ไม่อยากเปิดความงามเพราะไม่ถนัด ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ คู่แข่งก็ผุดขึ้นเรื่อยๆกลัวเจ๊งค่ะ &#128514;
 
ยินดีมากถ้าจะมีพี่ๆแชร์ประสบการณ์ให้ฟังนะคะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
จากคุณ: positive โพสเมื่อวันที่: 01/10/20 เวลา 15:56:08
ไม่เคยเปิดในกทม. นะครับ  
 
-คำแนะนำ คำเตือน  
 
ผมเกรงว่าการหารุ่นน้องมาช่วยดูคลินิกนั้น ยากมากครับ เกรงว่าจะทำไม่ได้ทุกวัน ในระยะยาว ควรจะเผื่อใจทำเองตลอดไปดีกว่าครับ เลือกปิดบางวัน เลือกเปิดในเวลาที่เหมาะสมทำได้จริงในระยะยาว  
 
-ควรไปเรียนคอร์สธุรกิจ/การตลาด ก่อนมั้ยคะ
 
สำหรับผมคิดว่าไม่จำเป็นเลยครับ
จากคุณ: doreus โพสเมื่อวันที่: 01/10/20 เวลา 16:26:47
อะไรเป็นจุดขาย ใครเป็นลูกค้า จะจ้างน้องอยู่จ้างได้เดือนละเท่าไหร่ เงินเดือนคุณเองก็อาจจะตอบได้. สุดท้ายมันจะจบที่ได้ทดลองทำดูอ่ะครับ
จากคุณ: crv01 โพสเมื่อวันที่: 01/10/20 เวลา 18:23:52
ไม่เคยเปิดที่กรุงเทพ.   แต่คิดว่าหลักการเหมือนกัน. แพทย์เราต้องยึดมั่นในคุณธรรมจริยธรรม. ให้การรักษาทุกคนแบบญาติเรา.  คิดราคาที่เหมาะสม.  ลาภยศสรรเสริญจะบังเกิดแก่เรา
จากคุณ: Mr.Note โพสเมื่อวันที่: 01/10/20 เวลา 22:37:52
เปิดคลีนิค ใน กทม ต้องสายป่านยาวครับ
สามเดือนแรกนี่นั่งฉยๆค่อนข้างจะแน่นอนครับ
บางทีเราคิดถูกๆพอกะร้านยาแต่คนก็เข้าร้านยาเพราะเค้าคิดว่าถูกกว่า
ไม่รวมว่าคนส่วนมากไปคลีนิคบัตรทอง ปกส เคือข่ายตามสิทธิหรือใช้ประกันละไป รพ.เอกชน
 
และต่อมาจะต้องมีคนถามว่าเฉพาะทางด้านไหน ทำที่ รพ.ไหน อีกเรื่อยๆ
แต่เมื่อถึงจุดๆนึงจะมีลูกค้าประจำ เช่น ทำแผล รึ มาตรวจเล็กน้อย รับยาต่อเนื่อง  ถ้าจ้างคนมาFTน่าจะสู้ค่าตัวไม่ไหวแน่นอน ต่อให้งานสบายแค่ไหน ยุคนี้ก็ต้องร้อยเคเป็นเบส
 
การตลาดเรียนไปก็อาจได้รู้อะไรมากขึ้นจริง แต่คลีนิค(ที่ไม่ใช่ความงาม)นักการตลาดจะไม่เข้าใจเรา และ ก็เดาใจชาวบ้านได้ลำบากตามเหตุผลที่ให้ไปในย่อหน้าแรกละครับ  
 
สรุปถ้าเน้นหารายได้จริงจัง ไม่น่าเวริค แต่ถ้าทำเล่นๆหากลุ่มลูกค้าให้ตัวเอง(ในกรณีที่งานประจำไม่เหนื่อยมาก) หรือหาให้แฟนในอนาคตหลังเรียนจบมา โดยไม่เน้นรายได้มากก็น่าพอได้ครับ
จากคุณ: gundamwing โพสเมื่อวันที่: 01/10/20 เวลา 23:14:04
กระทู้นี้น่าสนใจดีนะ
 
ส่วนตัว คิดว่าเหมือนเปิดร้านอาหาร  คนต้องกินอาหารทุกวัน  บางคนชอบกินถูก  บางคนชอบกินแพง   ร้านบางร้านเปิดแล้วขายได้ 10 ปี   บางร้านเปิดเดือนเดียวเลิกกิจการ
 
คนไข้บางคนรวย แต่ชอบไปใช้บัตรทองก็มี    บางคนจนแต่กล้าไปโรงพยาบาลเอกชนแพงๆหรือไปคลินิก ก็มี
 
ใน กทม ถ้าคนไข้ติดจริงๆ คิดว่าเปิดได้  แต่ต้องใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์
 
แต่ๆๆๆๆ สภาพเศรษฐกิจแบบนี้ตอนนี้  คนมีเงินน้อยลง   น่าจะมีคนใช้สิทธิ์บัตรทองมากขึ้น   คิดว่าเปิดคลินิกใน กทม น่าจะยากอยู่ค่ะ
จากคุณ: positive โพสเมื่อวันที่: 01/11/20 เวลา 09:18:10
เมื่อเปิดคลินิกแล้ว  การตลาดจะตามมาเองครับ  เพราะตลาดเราคือคนในชุมชนใกล้ๆคลินิก ลักษณะความต้องการในชุมชนนั้นจะค่อยๆสะท้อนออกมา  ว่าเขาต้องการบริการอะไรบ้างที่เราเติมเต็มได้  
 
คนไข้จะบอกเราเองว่า เขาต้องการอะไรบ้าง  แล้วอันไหนเราพอทำได้ ก็ลองทำ  ถ้าพอไปได้ ตลาดพอมี  ก็ทำต่อไป  มันก็ประมาณนี้
 
เช่น  วัคซีนเด็ก , ทำแผล , เย็บแผล , Labs , ยาคุม , เบาหวาน , ความดัน (โรคเรื้อรัง)  
 
พวกนี้ปกติแล้วก็ไม่ค่อยคุ้มทำเท่าไหร่  แต่ถ้าตลาดไปได้ก็ลองดูครับ  
 
พอทำไปซักปีนึง ก็น่าจะพอประเมินได้แล้ว ว่าคุ้มไปต่อไหม  
 
เน้นลงทุนต่ำไว้ก่อนนะครับ เศรษฐกิจไม่ดี  ถ้าเราตกแต่งเรียบง่าย นอกจากทุนไม่สูงแล้ว ก็ดูเข้าถึงง่ายดีด้วยนะครับ  (ไม่แน่ใจว่า คน กทม. คิดแบบนี้รึเปล่านะครับ)
 
ถ้ามีสถานที่ของตัวเอง และ ทำเลดีด้วยก็ดีเลยครับ ถ้าทำเลไม่ดี ต้องไปเลือกทำเลที่ดี แล้วยอมจ่ายค่าเช่าดีกว่า  
 
โชคดีครับ  
 
 
 
 
 
จากคุณ: 6699 โพสเมื่อวันที่: 01/11/20 เวลา 09:45:43
เคยเปิดคลินิค คนไข้คลอดเดือนละ 100 คน ตอนหลังยอมแพ้แก่โครงการบัตรสามสิบบาท เพราะตัวเลขคนไข้ลดไปเรื่อยๆ และพนักงานที่ร้านมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้น เลยปิดคลินิคไป
 
-ถ้าต้องการทราบว่าคลินิคเปิดแล้วจะไปรอดหรือไม่ ลองทำแผนที่การเปิดคลินิค ว่ามีเส้นทางอะไรบ้าง และมีโอกาสที่จะต้องเดินเส้นทางไหน เมื่อได้ข้อมูลครบก็ทำการตัดสินใจ
 
-ตอนนี้ เราเปิดร้านทองของเราเอง เป็นร้านทองเล็กๆ ตอนแรกเราก็กลัวเหมือนกับคุณ แต่เราทำแผนที่ร้านทองของเรา เป็นร้านทองเล็กๆ ตึกสองห้อง ขนาดพื้นที่ใช้งานจริงประมาณ 4X4 ตารางเมตร ทำสนุกๆ เพื่อเอาไว้บริการเพื่อนฝูง คนรู้จักกัน แปลกที่ว่า ร้านทองเล็กๆ มีคนใช้บริการมากไม่แพ้ร้านทองใหญ่ๆ อาจจะเพราะเราทำเพราะความสนุก และคนแปลกใจที่หมอสูติมาขายทอง ขนาดลูกยังกล้ามาให้เราทำคลอด แล้วทองทำไมไม่กล้าซื้อจากเรา มุมมองของเราคือ เรามีทองเก็บอยู่ประมาณ 4000 บาท ซื้อสะสมเอาไว้ ตั้งแต่บาทละ 5000 ตึกก็มีอยู่แล้ว และยังมีพลอย และเพชรอีกสองตู้เซฟ ถ้าเราขายทองไม่ได้เลยซักเส้น แต่ละปี เราก็มีรายได้เพิ่มจากการเพิ่มของทอง ประมาณ 3% โดยเฉลี่ย เป็นการลงทุนแบบ ออกหัว เราได้กำไรมาก ออกก้อย เราเสียนิดหน่อย  แผนที่ร้านทองของเราบอกเช่นนั้น
จากคุณ: หมอเมืองสยาม โพสเมื่อวันที่: 01/11/20 เวลา 11:52:05
       เปิดคลินิกแบบไหนดี(เคล็ดลับ)? - " คลินิกโหลๆ ครับ"
จากคุณ: gundamwing โพสเมื่อวันที่: 01/11/20 เวลา 12:32:13
on 01/11/20 เวลา 09:45:43, 6699 wrote:
เคยเปิดคลินิค คนไข้คลอดเดือนละ 100 คน ตอนหลังยอมแพ้แก่โครงการบัตรสามสิบบาท เพราะตัวเลขคนไข้ลดไปเรื่อยๆ และพนักงานที่ร้านมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้น เลยปิดคลินิคไป
 
-ถ้าต้องการทราบว่าคลินิคเปิดแล้วจะไปรอดหรือไม่ ลองทำแผนที่การเปิดคลินิค ว่ามีเส้นทางอะไรบ้าง และมีโอกาสที่จะต้องเดินเส้นทางไหน เมื่อได้ข้อมูลครบก็ทำการตัดสินใจ
 
-ตอนนี้ เราเปิดร้านทองของเราเอง เป็นร้านทองเล็กๆ ตอนแรกเราก็กลัวเหมือนกับคุณ แต่เราทำแผนที่ร้านทองของเรา เป็นร้านทองเล็กๆ ตึกสองห้อง ขนาดพื้นที่ใช้งานจริงประมาณ 4X4 ตารางเมตร ทำสนุกๆ เพื่อเอาไว้บริการเพื่อนฝูง คนรู้จักกัน แปลกที่ว่า ร้านทองเล็กๆ มีคนใช้บริการมากไม่แพ้ร้านทองใหญ่ๆ อาจจะเพราะเราทำเพราะความสนุก และคนแปลกใจที่หมอสูติมาขายทอง ขนาดลูกยังกล้ามาให้เราทำคลอด แล้วทองทำไมไม่กล้าซื้อจากเรา มุมมองของเราคือ เรามีทองเก็บอยู่ประมาณ 4000 บาท ซื้อสะสมเอาไว้ ตั้งแต่บาทละ 5000 ตึกก็มีอยู่แล้ว และยังมีพลอย และเพชรอีกสองตู้เซฟ ถ้าเราขายทองไม่ได้เลยซักเส้น แต่ละปี เราก็มีรายได้เพิ่มจากการเพิ่มของทอง ประมาณ 3% โดยเฉลี่ย เป็นการลงทุนแบบ ออกหัว เราได้กำไรมาก ออกก้อย เราเสียนิดหน่อย  แผนที่ร้านทองของเราบอกเช่นนั้น

 
ขายหุ้นก็ได้กำไร  ทำไมชีวิตดีจัง
จากคุณ: 6699 โพสเมื่อวันที่: 01/11/20 เวลา 13:35:57
on 01/11/20 เวลา 12:32:13, gundamwing wrote:

 
ขายหุ้นก็ได้กำไร  ทำไมชีวิตดีจัง

 
เป็นเพราะเราดวงดี ส่วนตัวคิดว่า ทำอะไรได้มาก เป็นเพราะดวงสำคัญที่สุด
จากคุณ: gamma48 โพสเมื่อวันที่: 01/11/20 เวลา 14:31:28
บอกยากนะต้องลองทำ  แต่เป็นเจ้าของคลีนิก คือเราต้องรับผิดชอบมากกว่าการที่เราไปรับจ้างเขา     เรื่องผู้ช่วย เข้าๆออกๆ   การสั่งยา  การ stock ยา  การหาลูกค้า    และใช่ว่าคลีนิกจะไปรอดทุกคลีนิก  ต้นทุนเราต้องมาแบกค่าใช้จ่ายเอง  จากเดิมที่เราเป็นฝ่ายรับอย่างเดียว  ต้องดูทำเลที่ตั้งคู่แข่งมีใหม
 
ผมเคยเปิดคลีนิกตอนเป็น intern ที่ อำเภอขนาดใหญ่ประชากรเป็นแสน หมอมี 4 คน  ยังทำไม่รุ่งเท่าหมออนามัยที่อยู่มาก่อนเลย  เอาแค่ให้ได้วันละ 2 พันยังไม่ถึงเลย
 
พอจบเฉพาะทางมาอยู่ รพ จังหวัด ขนาดเล็ก ประชากรฝั่งตะวันออกมี แค่ 2 แสน หมอมี 40 กว่าคน  คลีนิกมีเป็นดอกเห็ด   แต่เปิดคลีนิก ตอนนี้ได้วันละเกือบแสนแล้ว  อยากกลับกรุงเทพ แต่คิดว่ากลับไปจะรายได้เท่าไร  เพื่อนที่เป็นหมอที่ กทม ก็บอกว่าเดี๋ยวนี้หมอเยอะคู่แข่งมาก  
 
พี่ที่เคยอยู่ก่อนผมมาจังหวัดนี้ คลีนิกเขารุ่งมากคนไข้ล้นทะลัก  พอย้ายไป กทม เพราะลูกโต  ไปเปิดคลีินิกด้วยก็ ตบยุงไม่ค่อยมีคนไข้เลย  แต่ดีที่แก่อดทนทำเป็น 10 ปี  มีเงินเก็บ มีทรัพย์สิน เป็น ร้อยล้านก่อนกลับไปอยู่บ้านที่ กทม  เพราะลูกโต ย้ายกลับ  จึงไม่ต้องดิ้นรนอะไรมากแค่เงินฝากสหกรณ์ออมทรัพย์ที่แก่ยังฝากไว้ ก็ได้ดอกเบี้ยเดือนละ 3 แสน แล้วว
จากคุณ: pipolulu โพสเมื่อวันที่: 01/11/20 เวลา 21:09:38
โห ผมอายุจะ 40 อยู่แล้ว มีทรัพย์สินแค่ 7-8 ล้าน
จนไปเลย เมื่อมาเทียบกับเพื่อนๆที่มาตอบกระทู้ในห้องนี้ 5555
จากคุณ: Dr.Mae โพสเมื่อวันที่: 01/12/20 เวลา 08:45:41
on 01/10/20 เวลา 15:12:59, Dr.UnyongT wrote:

-คำแนะนำ คำเตือน
-ที่อยู่รอดและได้กำไร มีปัจจัยจากอะไรบ้าง
-ควรไปเรียนคอร์สธุรกิจ/การตลาด ก่อนมั้ยคะ

 
ถึงเรียน ก็ไม่น่าจะช่วยได้มาก เสียเวลา ...ธุรกิจ มหาวิทยาลัย ที่สอนเอง กำลังจะเจ้ง
ที่น่าสนใจศึกษาก่อนให้ลึกซื้งคือ ธุรกิจ ที่ติดลบ  สมัยนี้เขาทำกันเพื่ออะไร  เขาอยู่รอดกันได้อย่างไร
จากคุณ: GSDTinTin โพสเมื่อวันที่: 01/14/20 เวลา 20:42:44
คิดว่ายากขึ้นนะคะ สำหรับพื้นที่กรุงเทพ และ ปริมณฑลที่เจริญใกล้เคียงกัน
 
จากประสบการณ์ตัวเอง และเห็นคนอื่นทำ จะทำให้อยู่รอดได้ต้องมีปัจจัยเยอะ ไม่ใช่แค่ตัวเราเก่งอย่างเดียว
 
ลูกค้าในกทม.ถ้าจนเลยก็ไปบัตรทอง มีเงินบ้างก็ไปร.พ. วัยทำงานก็เข้า ปกส.
สถานที่เปิดก็สำคัญ ต้องเป็นชุมชน และเรื่องที่จอดรถก็จำเป็นมาก ต่อให้เป็นชุมชนหมู่บ้าน ถ้าไม่มีที่จอดรถเลย ก็ยากขึ้นแล้ว จะมีสักกี่คนที่เดินมา น้อยสุดคือmc ส่วนมากก็รถยนต์ เพราะเค้าไม่ได้ใช้บัตรทอง ส่วนมากก็มีรถทั้งนั้น
สมมุติอยู่ติดถนนซอย ตัวอย่าง ซอยโชคชัยสี่ ไม่มีที่จอด จะมาตรวจยังไง ถ้าเข้าซอยย่อยไป อาจจะหาที่จอดได้ แต่ใครจะเห็น
และถ้าเป็นชุมชนมีเงินหรือในเมือง ต้นทุนที่กินเพื่อสร้างคลินิกที่มีที่จอดรถ คงไม่น้อย จะคุ้มทุนหรือไม่
 
การคิดราคาก็สำคัญ เราต้องแข่งกับของฟรี และต้องถูกกว่าไปร.พ.เอกชนแบบมีนัย ไม่งั้นก็ไม่มีเหตุผลที่เค้าต้องมาหาเรา
 
เปิดมานั่งเจ่าจุกเป็นภาระทั้งวัน ส่วนมากไม่คุ้มค่าเวลา
จ้างหมอมาอยู่ โอกาสเจ๊งยิ่งสูงขึ้นอีก 200% เพราะค่าหมอ&คุณภาพ ยังไงเทียบกับเจ้าของอยู่เองก็ยาก
 
โดยสรุปคิดว่า ไปทำเอกชน จะคุ้มกว่านะคะ ไม่ต้องมาสร้างภาระให้ตัวเอง
จากคุณ: gundamwing โพสเมื่อวันที่: 01/14/20 เวลา 21:06:36
on 01/14/20 เวลา 20:42:44, GSDTinTin wrote:
คิดว่ายากขึ้นนะคะ สำหรับพื้นที่กรุงเทพ และ ปริมณฑลที่เจริญใกล้เคียงกัน
 
จากประสบการณ์ตัวเอง และเห็นคนอื่นทำ จะทำให้อยู่รอดได้ต้องมีปัจจัยเยอะ ไม่ใช่แค่ตัวเราเก่งอย่างเดียว
 
ลูกค้าในกทม.ถ้าจนเลยก็ไปบัตรทอง มีเงินบ้างก็ไปร.พ. วัยทำงานก็เข้า ปกส.
สถานที่เปิดก็สำคัญ ต้องเป็นชุมชน และเรื่องที่จอดรถก็จำเป็นมาก ต่อให้เป็นชุมชนหมู่บ้าน ถ้าไม่มีที่จอดรถเลย ก็ยากขึ้นแล้ว จะมีสักกี่คนที่เดินมา น้อยสุดคือmc ส่วนมากก็รถยนต์ เพราะเค้าไม่ได้ใช้บัตรทอง ส่วนมากก็มีรถทั้งนั้น
สมมุติอยู่ติดถนนซอย ตัวอย่าง ซอยโชคชัยสี่ ไม่มีที่จอด จะมาตรวจยังไง ถ้าเข้าซอยย่อยไป อาจจะหาที่จอดได้ แต่ใครจะเห็น
และถ้าเป็นชุมชนมีเงินหรือในเมือง ต้นทุนที่กินเพื่อสร้างคลินิกที่มีที่จอดรถ คงไม่น้อย จะคุ้มทุนหรือไม่
 
การคิดราคาก็สำคัญ เราต้องแข่งกับของฟรี และต้องถูกกว่าไปร.พ.เอกชนแบบมีนัย ไม่งั้นก็ไม่มีเหตุผลที่เค้าต้องมาหาเรา
 
เปิดมานั่งเจ่าจุกเป็นภาระทั้งวัน ส่วนมากไม่คุ้มค่าเวลา
จ้างหมอมาอยู่ โอกาสเจ๊งยิ่งสูงขึ้นอีก 200% เพราะค่าหมอ&คุณภาพ ยังไงเทียบกับเจ้าของอยู่เองก็ยาก
 
โดยสรุปคิดว่า ไปทำเอกชน จะคุ้มกว่านะคะ ไม่ต้องมาสร้างภาระให้ตัวเอง

 
เห็นด้วยๆ
จากคุณ: หมอเมืองสยาม โพสเมื่อวันที่: 01/15/20 เวลา 15:46:30
    คลินิกโหลๆ...คืออะไร? - " เหมือนสูทโหลๆ ครับ  ขายดี "
จากคุณ: หมอเมืองสยาม โพสเมื่อวันที่: 01/16/20 เวลา 11:34:37
    เปิดคลินิกอะไรดี(อยากทราบ) ? - " คลินิกรีดเด็ก ครับ งานชุก "
จากคุณ: หมอเมืองสยาม โพสเมื่อวันที่: 01/17/20 เวลา 11:37:56
      เปิดคลินิกแล้วไม่มีคนไข้  ทำยังไงดี? - " ปิดแล้วเปิดที่ใหม่ ครับ"
จากคุณ: หมอเมืองสยาม โพสเมื่อวันที่: 01/21/20 เวลา 11:39:22
    ....ธุรกิจคลินิกความงาม  เป็นไงบ้าง ? - " กระเป๋าฉีก"...
จากคุณ: หมอเมืองสยาม โพสเมื่อวันที่: 01/24/20 เวลา 19:33:44
   คนไข้เยอะๆ  เคล็ดลับ? - " เยอะวิธีครับ  เช่น  หมอผู้ชายนุ่งกางเกงรัดเป้า   หมอผู้หญิงใส่ชุดเสมอจิ๋ม.."..


  • ข้อความและรูปภาพที่ท่านเห็นส่วนใหญ่ ได้ถูกส่งมาจาก ทางบ้าน
    ทางเว็บไซต์ Thaiclinic.com ไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ของข้อความและรูปภาพที่ถูกส่งมา

  • ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชนและส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ
    เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้นเพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง
    ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง

  • ถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมหรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล
    หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ webmaster@thaiclinic.com หรือ กดแจ้งที่ปุ่ม
    "แจ้งลบกระทู้"
    เพื่อให้ทีมงานทราบและทำการลบข้อความนั้นออกจากระบบต่อไป ขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกันทำให้สังคมน่าอยู่ครับ

ThaiClinic.Com . All Rights Reserved. !--BEGIN WEB STAT CODE-->

Powered by