หน้าแรกเว็บบอร์ด หน้าแรกเว็บบอร์ด
   For MD.
   Doctor Room l ห้องพักแพทย์
   Post reply ( Re: งานเข้า เฮ้อ  แจคพอต )
ขอเชิญเพื่อนแพทย์พูดคุย แสดงความคิดเห็นครับ
หัวข้อ:
ใส่ชื่อ:
Email:
Add YABBC tags:
Add Smileys: <more...>
ข้อความ:

Disable Smilies




Topic Summary
จากคุณ: หมอหญิงฟรีแลนซ์ โพสเมื่อวันที่: 10/11/19 เวลา 23:34:55

https://news.mthai.com/general-news/766913.html
จากคุณ: 6699 โพสเมื่อวันที่: 10/12/19 เวลา 05:45:25
ถ้าดูจากข่าว แจ้งความเรื่องกระทำการโดยประมาท ทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต แบบนี้ โอกาสที่โจทย์จะแพ้สูงมาก ถึงชนะ ก็ชนะไม่ขาด งานนี้ ดูแล้ว ทนายไม่น่าจะเก่ง  
เรื่องฟ้องแพทย์ เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องมีคนเป็นแพทย์เป็นผู้ให้การสนับสนุนเบื้องหลัง ไม่อย่างนั้นโอกาสชนะยาก  
ถึงคนเป็นแพทย์ให้การสนับสนุน แต่ถ้าหากคนนั้น ไม่รู้กฏหมายก็ไม่ค่อยมีผลกระทบเท่าไหร่  
ถ้าต้องการให้มีผลกระทบ ต้องรู้เรื่องกฏหมายเกี่ยวกับแพทย์ ระดับใกล้เคียงกับผู้พิพากษา หรือสนใจคดีฟ้องแพทย์ที่เป็นแง่คิด เช่นกาแฟ แม็คโดนัล ร้อนเกินไป
จากคุณ: jengirl โพสเมื่อวันที่: 10/12/19 เวลา 10:08:32
อาจเป็นเทคนิคของเขาแหละค่ะ ให้ฟ้องเป็นคดีอาญาไว้ก่อนให้มี impact สูง เผื่อกลัว จะได้จ่ายเงินให้จบๆ
ไม่ค่อยยุติธรรมนะคะ แต่ระบบบ้านเรามันเป็นแบบนี้
ที่อเมริการู้มาว่าฟ้องอาญาไม่ได้ในเคสแบบนี้
จากคุณ: megacure โพสเมื่อวันที่: 10/12/19 เวลา 11:04:54
ก็ต้องดูแหละครับว่าทำตาม standard รึยัง
 
ถ้าทำ EKG ตรวจ HS troponin 2 รอบแล้ว negative แล้วยังหลุดก็ซวยแหละครับ แพทย์ก็ไม่ได้ผิดอะไร
จากคุณ: Hybrid VI โพสเมื่อวันที่: 10/12/19 เวลา 12:28:34
ผมเลย admit ดูอาการคนไข้ที่มาด้วยแน่นหน้าอกทุก case ทั้งรายที่ EKG ปกติ และ/หรือ cardiac enzyme ปกติ
โบ้ยว่าเป็น unstable angina ก็ยังได้
จากคุณ: megacure โพสเมื่อวันที่: 10/12/19 เวลา 14:26:11
on 10/12/19 เวลา 12:28:34, Hybrid VI wrote:
ผมเลย admit ดูอาการคนไข้ที่มาด้วยแน่นหน้าอกทุก case ทั้งรายที่ EKG ปกติ และ/หรือ cardiac enzyme ปกติ
โบ้ยว่าเป็น unstable angina ก็ยังได้

 
เดี๋ยวนี้ประกันไม่ให้เบิกครับถือว่าไม่ใช่ข้อบ่งชี้ admit เป็นปัญหามากกับเอกชน
 
ในเวลา ถ้ายังมีอาการก็ใช้ไม้ตาย ส่ง CCTA หรือทำ EST กันไป ปกติก็กลับบ้าน
จากคุณ: yui โพสเมื่อวันที่: 10/13/19 เวลา 06:03:26
เห็นใจทั้งแพทย์และญาตินไข้คะ. เพราะ acute coronary syndrome และ GERD อาการเบื้องต้นเหมือนกันมากจนแยกกันไม่ได้
เคยเห็นคนไข้ที่เดิม EKG ปกติ cardiac enzyme ปกติ กลายเป็น acute MI ก็มีหลายราย
 
ในโรงพยาบาลเอกชน. ถ้าแพทย์สงสัยว่าเป็น acute CRS จับ investigate หลายอย่าง แลเวตอนหลังกลายเป็น GERD คนไข้เสียเงินเยอะ ก็โดนด่า
พอ investigate น้อยก็ miss diagnosis ก็โดนฟ้อง
 
ในความเห็นส่วนตัว วิธีที่ดีที่สุด คือ จับadmit สังเกตอาการ. ให้รักษาอาการปวด ไม่ดีขึ้น ก็ตรวจเพิ่มเติม รักษาอาการจนดีขึ้นจึงจะให้กลับได้
จากคุณ: jumpoo โพสเมื่อวันที่: 10/13/19 เวลา 11:07:50
อาการมันคล้ายกัน......แพทย์จะพิสูจน์แบบไหนนะ แบยได้ตรวจเต็มที่แล้วรึเปล่า
จากคุณ: Dr._Panya โพสเมื่อวันที่: 10/14/19 เวลา 11:11:56
จะว่า ประมาท เลินเล่อ หรือ อ่อนประสบการณ์ ก็เถอะ ( Retrospective Discussion ใครก็พูดได้ เพราะตอนนี้ ใครๆก็รู้เฉลยกันหมดแล้ว)...แต่ว่า ผมสงสารคุณหมอคนนั้นแฮะ
จากคุณ: positive โพสเมื่อวันที่: 10/14/19 เวลา 12:30:11
เป็นกำลังใจให้คุณหมอนะครับ
จากคุณ: Hybrid VI โพสเมื่อวันที่: 10/14/19 เวลา 14:43:57
on 10/12/19 เวลา 14:26:11, megacure wrote:

 
เดี๋ยวนี้ประกันไม่ให้เบิกครับถือว่าไม่ใช่ข้อบ่งชี้ admit เป็นปัญหามากกับเอกชน
 
ในเวลา ถ้ายังมีอาการก็ใช้ไม้ตาย ส่ง CCTA หรือทำ EST กันไป ปกติก็กลับบ้าน

 
ประกันไม่ให้เบิก ก็แล้วแต่ประกันครับ  
จากคุณ: anantom โพสเมื่อวันที่: 10/14/19 เวลา 20:00:53
case ทำนองนี้เจอบ่อยมากใน รพช ยิ่งถ้าแพทย์ไม่ดูเองพลาดง่าย เคยเจอน้องมาปรึกษา ผป มา รพ เพราะแน่นหน้าอกหลังทานอาหารในงาน้เลี้ยง พยาบาล แพทย์สั่ง  alum milk
อีก 1 ชม ผป หอบมากนอนไม่ได้ พยาบาลรายงาน แพทย์เพิ่มยาหอบ ventolin  
อีก 1 ชม หอบมากขึ้น เจ็บหน้าอกมากขึ้น พยาบาลรายงาน แพทย์มาดูเพิ่ม asa isordril refer ผป dead on arival
จากคุณ: cemetery99 โพสเมื่อวันที่: 10/14/19 เวลา 21:21:30
ได้ข่าวว่าเป็น int1 ไปรับเวรer เอกชนนะครับ  
โชคร้ายตั้งแต่ปีแรกที่ทำงานเลย
จากคุณ: crv01 โพสเมื่อวันที่: 10/14/19 เวลา 23:08:27
ตอนนี้ออกรายการช่อง31.  โชคร้ายมากทั้งสองคน
จากคุณ: Hybrid VI โพสเมื่อวันที่: 10/15/19 เวลา 00:09:06
on 10/14/19 เวลา 21:21:30, cemetery99 wrote:
ได้ข่าวว่าเป็น int1 ไปรับเวรer เอกชนนะครับ  
โชคร้ายตั้งแต่ปีแรกที่ทำงานเลย

ทำไมรีบไปรับจ๊อบจังเลยครับ ประสบการณ์ยังน้อยอยู่เลย
แต่ รพ.เอกชน ที่รับ Intern 1 มาอยู่ ER นี่ น่าจะเป็น รพ.เล็กๆ  
ถ้า รพ.ใหญ่ จะมีหมอ EP มาอยู่ ER แล้ว
จากคุณ: cemetery99 โพสเมื่อวันที่: 10/15/19 เวลา 12:04:13
on 10/15/19 เวลา 00:09:06, Hybrid VI wrote:

ทำไมรีบไปรับจ๊อบจังเลยครับ ประสบการณ์ยังน้อยอยู่เลย
แต่ รพ.เอกชน ที่รับ Intern 1 มาอยู่ ER นี่ น่าจะเป็น รพ.เล็กๆ  
ถ้า รพ.ใหญ่ จะมีหมอ EP มาอยู่ ER แล้ว

รพ.ใหญ่ รับประกันสังคมครับ  
ตอนนี้น่าจะมีแค่รพ.เอกชน เงินสดที่มีep อยู่เวรกลางคืนครับ
จากคุณ: jumpoo โพสเมื่อวันที่: 10/15/19 เวลา 18:58:31
โทษ รพ  ที่กล้าจ้างหมอ ประสบการณ์น้อยมาอยู่เวร
จากคุณ: Dr.Mae โพสเมื่อวันที่: 10/15/19 เวลา 19:15:00
ยุค 5G  คนไข้เจ็บจะไป รพ .  ไลน์ปรึกษาทนาย ไว้ ก่อนเลย
จากคุณ: jumpoo โพสเมื่อวันที่: 10/15/19 เวลา 20:42:41
ต่อแพทย์ต้องออกกฎมาป้องกันแล้วละ ห้ามint 1 รับเวรแบยไม่มีcover รึเปล่า แต่ รพ น่าจะซวยด้วย รึเปล่า หรือหมอโดนคนเดียว
จากคุณ: 6699 โพสเมื่อวันที่: 10/16/19 เวลา 07:23:10
ประเด็นที่น่าสนใจ
-วันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคม ตอน สองทุ่มครึ่ง ขับรถไปรพ.เอกชน ด้วยเรื่องเจ็บอกซ้าย ภรรยาเป็นคนขับ กล้องวงจรปิดที่รพ.น่าจะบอกได้ว่า ใครขับ เพราะการที่ภรรยาเป็นคนขับ แสดงว่าเป็นมาก แต่ถ้าผู้ป่วยขับ อาการอาจจะไม่มาก ถ้าผลเป็นผู้เสียชีวิตขับรถ แสดงว่า มีการพูดไม่จริง เพื่อต้องการเน้นว่า ผู้เสียชีวิตเป็นมาก  
 
-21.00 น. มีไลน์ว่ากรดไหลย้อน  
-22.30 น. ออกจากห้องตรวจ
-23.00 น.เข้านอน นอนกรนแล้วเกร็ง ภรรยาไปดู มีชักเกร็ง น้ำลายฟูมปาก ไม่หายใจแล้ว จึงเรียกลูกชายมาช่วยกันปั้มหัวใจ และเรียกสายด่วนกู้ภัยมาช่วย แต่ก็ไม่ทันการณ์ เป็นเหตุให้สามีเสียชีวิตเวลาประมาณ 00.00 น. ของวันที่ 7 ตุลาคม  อาการเหล่านี้ เป็นอาการของหัวใจขาดเลือด หรือโรคไหลตาย
 
-ส่งไปตรวจที่รพ.ธรรมศาสตร์รังสิตเพื่อหาสาเหตุการตาย แพทย์ลงความเห็นว่า เป็นโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ หรือ CORONARY ARTERY DISEASE แพทย์ผู้ตรวจ เมื่อเอาชื่อมาดูในเวปแพทย์สภา จบแพทย์เมื่อปี 2555 มีการศึกษาต่อ สาขานิติเวชศาสตร์ คำถามคือ มีการตรวจโดยการผ่าศพหรือไม่ เพราะเวลาเพียงวันเดียว และผู้เสียหายได้ไปที่รพ.ที่เกิดเรื่อง ทางรพ.บอกว่า เพิ่งมาตรวจเมื่อวานเอง  แต่ฟังจากรายการทีวี ผู้เสียหายบอกว่า มีการตรวจศพ ผ่าโดยละเอียด ถ้างานนี้ ไม่ได้มีการตรวจศพคือการทำ Atopsy ตรวจแค่ภายนอก  มีโอกาสพลิกล๊อค  ยกฟ้องอย่างเดียว และอาจจจะโดนฟ้องกลับข้อหาหมิ่นประมาท ทำให้เสียชื่อเสียงได้  
 
-คำถามต่อมาคือ แพทย์นิติเวชศาสตร์ สามารถระบุได้แน่ชัดหรือไม่ว่า สาเหตุการตายมาจากเส้นเลือดหัวใจตีบ โดยแค่ดูจากลักษณะภายนอกเท่านั้นเอง เพราะกรณีเสียชีวิตแบบนี้ ไม่ได้เกิดจากแผลอุบัติเหตุ หรืออาวุธ หรือกระสุนปืน ที่สามารถระบุได้แน่ชัด การจะระบุว่า สาเหตุการตาย มาจากเส้นเลือดหัวใจตีบจะต้องดูจาก pathology จาก secition ที่ย้อมสีดูหรือไม่ ว่ามีการอุดตันของเส้นเลือดกี่ % การดูด้วยตาเปล่า ของศพจะบอกได้แม่นยำแค่ไหน บอกได้หรือไม่ว่า แม่นยำกี่%  ว่า เส้นเลือดหัวใจตีบจริง เส้นเลือดอาจจะตีบ แต่ถ้าตีบไม่มาก จะถึงแก่เสียชิวิตได้แน่นอนหรือไม่  ถ้าไม่ได้ตัดชิ้นเนื้อ และย้อมดูการตีบของเส้นเลือดหัวใจทั้งหมด  จะบอกได้ว่า การเสียชีวิตมาเส้นเลือดหัวใจตีบ  
 
-คำถามต่อมา คือใบมรณะบัตร ระบุเวลาตายที่ประมาณ 01.12 นาฬิกา ของวันที่ 7 ตุลาคม 62 แต่เวลาตายที่ภรรยากล่าวคือเที่ยงคืน การที่ระบุเวลาเสียชีวิตห่างกัน ประมาณ 1 ชั่วโมง 12 นาที  จะทำให้ความเชื่อมั่นสาเหคุการตายที่ออกโดยรพ.แห่งที่สองลดลงหรือไม่  ถ้าแม้แต่เวลาเสียชีวิตยังระบุผิด สาเหตุการเสียชีวิต จะมีโอกาสผิดได้หรือไม่  
 
-คำถามต่อมาคือ เป็นไปได้หรือไม่ที่ ผู้ป่วยรายนี้ จะเป็น Sudden Unexpected Nocturnal Death Syndrome  ( SUNDS)  หรือโรคไหลตาย หรือ  Brugada  
จากคุณ: Head_transplant โพสเมื่อวันที่: 10/16/19 เวลา 07:36:23
คนเป็น Brugada จะไม่เจ็บหน้าอก
จากคุณ: 6699 โพสเมื่อวันที่: 10/16/19 เวลา 08:06:53
ถ้าเป็น Brugada ที่ไม่เจ็บอก คงจะไม่มีเรื่องราวใหญ่โต  
แต่ถ้าหากโชคร้าย วันที่จะเป็น Brugada มีอาการเจ็บอก ด้วยสาเหตุอื่น และมาพบแพทย์ แพทย์คนไหนตรวจ รับไปเต็มๆ เนื้อล้วนๆ
 
ท่านใด พอจะตอบได้หรือไม่ว่า ผู้เสียชีวิตที่เป็นข่าว มีการตรวจ Atopsy เต็มรุปแบบหรือไม่ เสียชีวิต วันที่ 7 ตุลาคม ใบรับรองการเสียชีวิต ออกวันนั้นเลย นับว่า รวดเร็วมาก และถ้าตรวจผ่าศพดู เส้นเลือดที่ตีบ จนทำให้เกิดการเสียชีวิตสามารถดูได้จากตาเปล่าหรือไม่ ถ้าไม่ตัดชิ้นเนื้อย้อมดูการตีบตันว่ากี่% จะบอกได้หรือไม่ว่า เส้นเลือดที่ตีบ ทำให้เสียชีวิต  การย้อมชิ้นเนื้อ ต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ กว่า ผลชิ้นเนื้อจะออกมาให้แน่ชัด  
-ยังไม่แน่ใจว่า เวลาการเสียชีวิตเมื่อไหร่ จากข่าว ผู้เสียหายว่า  เที่ยงคืนของวันที่ 6 ตุลาคม แต่ใบรับรองการเสียชีวิตเป็น ประมาณ 01.12 น. การเสียชีวิตที่ห่างกันหนึ่งชม. ทำให้ความน่าเชื่อถือดูแปลกไป
จากคุณ: Hybrid VI โพสเมื่อวันที่: 10/16/19 เวลา 09:24:58
ถ้าจะสู้ในชั้นศาล
จะสู้ัในแนวทางที่บอกว่า ไม่ได้ autopsy จะรู้ได้อย่างไรว่า เสียชีวิตจาก Acute MI จริง แล้ว Acute MI  (ซึ่งเท่าที่ดู ใบรับรองแพทย์ออกหลังจากเสียชีวิต 1 ชม.เป็นไปไม่ได้ที่จะได้ autopsy)  
ต่อให้เป็น Acute MI จริง มีความเกี่ยวข้องกับอาการที่เป็นขณะที่มารับการรักษาใน รพ.หรือไม่
จากคุณ: Dr._Panya โพสเมื่อวันที่: 10/16/19 เวลา 10:14:41
ตอนแรก ความเห็นส่วนตัวคิดว่าน้องแพทย์ท่านนั้น ผิดเต็มๆ ในข้อหาประมาท เลินเล่อ
แต่เอาไปเอามา ก็มีช่องโหว่ทางการชันสูตรเยอะพอสมควร ที่น้องหมอท่านนั้นน่าจะรอดได้แฮะ
จากคุณ: blitzs โพสเมื่อวันที่: 10/16/19 เวลา 15:46:46
 ประมาท  นี่โครตกว้างเลย  สำหรับหลายคนที่คิดว่าทนายไม่เก่ง บอกเลยว่า ข้อหากระทำการนี่แหละ แพทย์ดิ้นไม่หลุด
   ยกตัวอย่าง  ER guide  book บอกว่า คนแน่นหน้าอก มา ER ต้อง ekg ทุกราย ถ้าคุณไม่ตรวจ แล้วเขาตาย ก็ประมาทแล้ว  
   ขั้นต่อไป ตรวจเสร็จ EKG ดีอยู่ ก็มี ccu med ให้ทำ trop t ekg ต่ออีกสามรอบ เพราะตอนนี้ สงสัย MI  ถ้าไม่ทำต่อก็โดนประมาทอีก
     ถึงไม่เจ็บอกเลย  ก็จะโดน atypical chest pain ได้อีก เช่นถ้าถามว่าเจ็บแน่นลิ้นปี่ หมอคิดถึงโรคไรบ้าง  ถ้าคิดแล้วทำไมไม่ตรวจ นี่แหละครับคำว่าประมาทในเชิงกฎหมาย มันครอบจักรวาลครับ
    อันนี้ผมบอกแบบ prospective ไว้เลยว่า  ใครมา  ให้ยาเบื้องต้นและให้นอนไปเรื่อยๆ จนกว่าอาการจะทุเลา จนคนไข้ขอกลับเองดีที่สุด ไม่ต้องรีบ  
     ส่วนใบ ทร41 นั่นก็ไม่มีความหมายใดๆ  ทางกฏหมาย คนไข้เป็นแค่ลมชักแล้วตาย  หมอก็รอด
จากคุณ: GSDTinTin โพสเมื่อวันที่: 10/16/19 เวลา 16:36:43
Full Autopsy ใช้เวลาทำ 1-2 ชม. ในขั้นตอนตรวจทาง Gross ต้องมีทีมช่วย หมอทำคนเดียวไม่ไหว ต้องมีผู้ช่วยพลิกศพ ช่วยผ่าอีก1-2คน
 
ขั้นตอนทาง Histopathology ต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อย2-3 วันเพราะต้องมี process การทำชิ้นเนื้อให้เป็นslide  
 
แพทย์นิติเวช ไม่ใช่พยาธิแพทย์ และพยาธิแพทย์ก็ไม่ใช่นิติเวช
 
มีคนที่จบ2บอร์ด ที่ได้ทั้งนิติเวชและพาโธ ไม่มาก  
จากคุณ: หมอเมืองสยาม โพสเมื่อวันที่: 10/16/19 เวลา 18:42:09
     คำแนะนำ? - คืองี้  พิสูจน์ให้ได้ว่าคุณ(แพทย์)ไม่ผิด และโยนความผิดไปที่ตัวคนไข้-ญาติ...
จากคุณ: SantaNiCo โพสเมื่อวันที่: 10/16/19 เวลา 22:21:27
เจอข่าวแบบนี้มี2ความคิดค่ะ
1 โชคดีที่ไม่ใช่กรู
2 ตัวใครตัวมันจ้าา.  Chest pain ปล่อยคนไข้กลับบ้าน
จากคุณ: jumpoo โพสเมื่อวันที่: 10/17/19 เวลา 02:18:19
ถ้าเอาตามหลักฐานข้อมูลแนวทางปฎิบัติการดูแลคนไข้ chest painปัจจุบัน ...... ไม่ได้ส่งตรวจให้ครบ งานนี้ แพทย์ ดิ้น ท่าจะยาก
จากคุณ: Hybrid VI โพสเมื่อวันที่: 10/17/19 เวลา 16:29:31
แพทย์ประมาทในการดูแลคนไข้
แต่รู้ได้ไงว่า ความประมาทนั้น ส่งผลให้คนไข้ตาย
เอางี้ก่อน  
เหมือนเราขับรถเร็วเกินกำหนด ถือว่าเราประมาท
แต่ถ้าไม่ได้ชนใคร ความผิดก็แค่ผิดกฎจราจรปรับเงิน  
แต่ถ้าไปชนคนตาย ก็ความผิดประมาทจนทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต
จากคุณ: SantaNiCo โพสเมื่อวันที่: 10/17/19 เวลา 22:37:37
on 10/17/19 เวลา 16:29:31, Hybrid VI wrote:
แพทย์ประมาทในการดูแลคนไข้
แต่รู้ได้ไงว่า ความประมาทนั้น ส่งผลให้คนไข้ตาย
เอางี้ก่อน  
เหมือนเราขับรถเร็วเกินกำหนด ถือว่าเราประมาท
แต่ถ้าไม่ได้ชนใคร ความผิดก็แค่ผิดกฎจราจรปรับเงิน  
แต่ถ้าไปชนคนตาย ก็ความผิดประมาทจนทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต

ก็คนไข้มาตรวจตอน2ทุ่ม  กลับบ้านไป5ทุ่มคนไข้ตาย  มันประมาทจนคนไข้ตายมั้ยคะ
จากคุณ: Hybrid VI โพสเมื่อวันที่: 10/18/19 เวลา 00:16:32
on 10/17/19 เวลา 22:37:37, SantaNiCo wrote:

ก็คนไข้มาตรวจตอน2ทุ่ม  กลับบ้านไป5ทุ่มคนไข้ตาย  มันประมาทจนคนไข้ตายมั้ยคะ

แล้วหลักฐานว่า ความประมาทของหมอที่รักษา เป็นต้นเหตุที่ทำให้ตายล่ะ
จากคุณ: หมอเมืองสยาม โพสเมื่อวันที่: 10/18/19 เวลา 15:45:04
   อยากชนะ...ทำไงดี ? -  " ยืนกระต่ายขาเดียว( ไม่ผิด) "
จากคุณ: Dr.Mae โพสเมื่อวันที่: 10/18/19 เวลา 18:48:15
โจทย์ข้อนี้ ตอนแรก ดูเหมือนลูกบอลจะมาตรงๆ  แต่มีการสับขาหลอกผู้รักษาประตู ตอนหลัง (ECG ปกติ)  เลยเข้าประตูไป   ถ้าเจอผู้รักษาประตูเป็นมือกาว คงสามารถรับลูกได้ ถามว่าประมาทหรือไม่  .คงไม่เพราะ หมอ ส่วนทั่วไปก็ทำเช่นเดียวกัน... แต่เรียกว่าฝีมือไม่ถึงมากกว่า
จากคุณ: jumpoo โพสเมื่อวันที่: 10/18/19 เวลา 23:30:52
MI  เอา 2 ใน3 ข้อ
 1  CLINICAL
 2 EKG
 3  CARDIAC ENZ
 
คนนี้ มี ข้อ1 แล้ว  ก็เหลือ 2 กับ3 เอง รอดูๆ
เผื่อใครยังไม่รุ
จากคุณ: necessary evil โพสเมื่อวันที่: 10/30/19 เวลา 15:23:57
on 10/17/19 เวลา 22:37:37, SantaNiCo wrote:

ก็คนไข้มาตรวจตอน2ทุ่ม  กลับบ้านไป5ทุ่มคนไข้ตาย  มันประมาทจนคนไข้ตายมั้ยคะ

 
ในโครงสร้างความรับผิดทางอาญา ผู้ฟ้องมีหน้าที่ต้องพิสูจน์สิ่งที่ตัวเองฟ้อง
1. มีการกระทำจริง
2. การกระทำครบองค์ประกอบภายนอก ในนี้คือ 1.หมอ 2.ประมาท 3.คนตาย
3. การกระทำครบองค์ประกอบภายใน ในนี้คือ ประมาท กระทำโดยปราศจากความระมัดระวังซึ่งบุคคล "ในภาวะเช่นนั้น" ต้องมีตามวิสัยและพฤติการณ์
4. ความสัมพันธ์ระหว่างการกระทำและผล คือความประมาทนั้นก่อให้เกิดความตาย เช่น ถ้าแพทย์ประมาทในการอ่าน ekg แต่ คนไข้ไปเป็น stroke ตายนี่ก็ไม่สัมพันธ์
 
ความรับผิดทางอาญาจะไล่ไป มีข้อ 1 พิจารณาข้อ 2 มีข้อ 2 พิจารณาข้อ 3 มีข้อ 3 พิจารณาข้อ 4 ถ้าระหว่างพิจารณามีข้อใดที่ไม่ครบองค์ประกอบความผิด คือไม่มีความผิด
คดีนี้มีช่องให้แพทย์สู้ได้มาก ถ้าได้ทนายที่เป็นแพทย์และแม่นโครงสร้างความรับผิดทางอาญาฯ อัยการถ้าไม่ได้มีความรู้ทางการแพทย์จะมาสู้อะไรได้ ส่วนพยานเชี่ยวชาญเคสแบบนี้ หมอดีดีที่ไหนจะมาเบิกความเข้าข้างอัยการ โอกาสฟ้องชนะแทบไม่มี
 
แต่สุดท้ายคดีนี้ผมว่าไม่ได้จบที่ศาล
จากคุณ: jumpoo โพสเมื่อวันที่: 11/02/19 เวลา 14:27:25
อยากรู้ตอนจบ ใครมีข้อมูลหรือช่องทางติดตาม จะเป็นความกรุณาอย่างยิ่ง


  • ข้อความและรูปภาพที่ท่านเห็นส่วนใหญ่ ได้ถูกส่งมาจาก ทางบ้าน
    ทางเว็บไซต์ Thaiclinic.com ไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ของข้อความและรูปภาพที่ถูกส่งมา

  • ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชนและส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ
    เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้นเพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง
    ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง

  • ถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมหรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล
    หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ webmaster@thaiclinic.com หรือ กดแจ้งที่ปุ่ม
    "แจ้งลบกระทู้"
    เพื่อให้ทีมงานทราบและทำการลบข้อความนั้นออกจากระบบต่อไป ขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกันทำให้สังคมน่าอยู่ครับ

ThaiClinic.Com . All Rights Reserved. !--BEGIN WEB STAT CODE-->

Powered by