หน้าแรกเว็บบอร์ด หน้าแรกเว็บบอร์ด
   For MD.
   Doctor Room l ห้องพักแพทย์
   Post reply ( Re: สงสัยเรื่องสำนักวิชาเวชศาสตร์ชะลอวัยฯ มหาวิทยาลัยแห่งนึง )
ขอเชิญเพื่อนแพทย์พูดคุย แสดงความคิดเห็นครับ
หัวข้อ:
ใส่ชื่อ:
Email:
Add YABBC tags:
Add Smileys: <more...>
ข้อความ:

Disable Smilies




Topic Summary
จากคุณ: natsookrit โพสเมื่อวันที่: 09/14/19 เวลา 00:14:26
- อยากทราบว่าตอนก่อตั้ง เป็นมาเป็นไปอย่างไร ซ้ำซ้อนกับสำนักวิชาแพทยศาสตร์ที่จังหวัดเหนือสุดของประเทศรึเปล่า เป็นสังกัดภายใต้คณะแพทย์หรือไม่ หรือแยกขาดจากกัน
- ทำไมอาจารย์ส่วนมากแทบไม่เห็นใครเป็น full time ที่ทำงาน service และสอนแบบเต็มตัว เกือบทุกคนเป็นเจ้าของคลินิกใหญ่ๆ ของตัวเอง แล้วปลีกเวลาสัปดาห์ละ 1-2 วันเพื่อเข้ามา service แบบนี้การเรียนการสอนจะเป็นยังไง
 
- เคยเข้าฟังงานประชุมที่สำนักวิชาจัด หลายครั้ง ทั้งเรื่อง skin และ anti-aging แล้วประหลาดใจมาก ฟังไปก็รู้สึก เอ๊ะ ตลอด หลายๆอย่างดูไม่มีข้อพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ หลายๆอย่างที่เอา journal มาอ้างอิง พอไปเปิดดู confounder เต็มไปหมด result ก็ไม่ได้ valid ตามหลักการวิจัย
 
- ศาสตร์นี้จะ against internal medicine สายหลัก อยู่เงียบๆตลอด เช่น statin มีโทษ บลัฟ cardio ว่าปรับเกณฑ์ LDL ให้จ่าย statin มากขึ้นเพื่อช่วยบริษัทยา บางคนก็ว่า BP เป็นแค่ตัวเลข บางคนก็ต้าน chemo สุดตัวแต่เอา stem cell มารักษาแทน ทั้งๆที่ hemato ยังใช้ bone marrow transplant ทำสำเร็จไม่กี่โรคเอง มีอีกหลายอย่าง จำไม่หมด
 
- ไม่ใช่แค่แหวกแนว internal medicine แต่ยังมีทั้งศาสตร์ความเชื่อ ฮวงจุ้ย คลื่นแม่เหล็ก เติมพลังเซลล์ หินภูเขาไฟช่วยดูดพลังไม่ดีออกจากร่างกาย
 
- งานประชุมวิชาการที่ว่า... แทรกด้วย conflict of interest และ sponsor จากบริษัทยาหรือเวชภัณฑ์ เต็มไปหมด เราไม่ได้ยึดติดกับการผ่าน อย. นะ เพราะ อย. ก็ไม่ใช่หน่วยงานที่โปร่งใส แต่ยาหรือเวชภัณฑ์ที่เอามาเสนอในงานประชุม ทั้งตามบู๊ท และจัดพูดโดย speaker ซึ่งก็เป็นทีมอาจารย์ที่นี่แหละ หลายอย่างเป็นของที่ยังไม่พิสูจน์ความปลอดภัยให้ใช้ในมนุษย์ phase3 phase4 อะไรพวกนั้น หรือหลายอย่างเริ่มมี report มาแล้วว่า risk over benefit
 
ของที่ว่าพวกนั้นก็เช่น
- ไหมน้ำ >> เอา polymer ที่ผลิตไหมมาทำเป็นสารละลาย ถ้าฉีดพลาดก็ยังไม่มีตัวช่วยสลายแบบ hyaluronic
- ไหมสลายไขมัน >> เอาพวกเมโสแฟต สารสกัดถั่ว ส้มแขก มาอัดผลึกเป็นแท่ง
- สเต็มเซลล์รกเด็ก สายสะดือ >> เค้าบอกว่าเอามาจากรกบริจาค แต่ความจริงที่วงในเล่ามาก็คือ เอาจากถังที่ห้องคลอดหรือ OR สูติเค้าทิ้งน่ะ แล้วเอาเซลล์มนุษย์มาฉีดให้กัน มันก็เข้าข่าย Transfusion ทีนี้กระบวนการคัดกรองความเข้ากันได้พวก HLA match หรือ NAT ที่หาโรคติดต่อทางเลือด เหมือนเวลาไปบริจาคเลือด อันนี้ได้ทำอย่างถูกต้องมั้ย ไม่มีใครทราบ
- โกรทแฟคเตอร์สกัดจากเนื้อเยื่อไขมันเพาะเลี้ยง เมโส วิตามินหลายอย่าง อ้างว่ามาจากญี่ปุ่น แต่พิมพ์ชื่อเป็นตัว katagana ในเว็บอย.ญี่ปุ่นแล้วไม่เจอ
 
- เรียกได้ว่า เดินรอยตามเกาหลี สเปน ซะหลายอย่าง เพราะสองประเทศนี้ ก็เป็นประเทศหลักๆ ที่กล้าได้กล้าเสียเรื่องความสวยงาม ไม่ค่อยสน safety เท่าไหร่ อเมริกา ญี่ปุ่น อังกฤษ เยอรมัน จะ ban อะไร แต่ประเทศเหล่านี้ยังกล้าใช้
 
- แน่นอนว่าการนำยาพวกนี้เข้ามาในประเทศได้ ก็คือการลักลอบหิ้วผ่านช่องเขียวศุลกากรแหละ หรือถ้าสำแดงจริงๆ ก็คือต้องหยอดน้ำหล่อลื่นให้ศุลกากรเพื่อให้ผ่านโดยง่าย ซึ่งพวกอาจารย์คงไม่มีส่วนในกระบวนการนี้หรอก บริษัทยาโน่นที่ทำ แต่....บริษัทยาแบบนี้ ได้ชื่อว่าเป็นอาจารย์แพทย์สมควรไปสนับสนุนหรอ
- แน่นอน ในฐานะความเป็นโรงเรียนแพทย์และอาจารย์แพทย์ ของพวกนี้ จุฬา ศิริราช รามา และอื่นๆ เอาไปลองใช้ไม่ได้หรอก ไม่ใช่ว่าใจแคบ ปิดกั้นผลิตภัณฑ์นะ แต่ต้องยึดหลัก do no harm ไว้ก่อน ยิ่งเป็นต้นแบบให้แพทย์ซะด้วย
 
- ที่แปลกใจอีกอย่างคือ คณบดี อดีตคณบดี ของเค้า ทำไม CV ยาวมาก ยาวแบบ 3 หน้า ประวัติผลงานในอดีตบันเทิงเริงรมย์อะไรที่ไม่เกี่ยวกับแพทย์ก็ใส่มาหมด ต้องการนำเสนออะไรในตัวเองหรอ แล้วก็เห็นเป็น speaker ไปได้ซะหมดทุกเรื่อง ตั้งแต่ผ่าตัด ฉีด ดูด ยิง ร้อย เลเซอร์ สรุปว่าเค้าเก่งเรื่องอะไรกันแน่ เพราะที่เข้าไปฟังเนื้อหาก็ยังแปร่งๆ
จากคุณ: Omo โพสเมื่อวันที่: 09/14/19 เวลา 08:57:45
อจ. ที่สอนก็ชอบด่า conventional med ในห้องเรียน
ด่า อจ. Conventional med ทั้งๆที่ อจ. Conventional ไม่เคยด่าพวกคุณเลย..เป็นอะไรกันมากไหม
ถ้าเป็น อจ. ที่จบ subboard และ PhD และมาทำ anti-aging
ก็พอยอมรับได้
แต่พวก อจ. ที่ไม่ได้จบบอร์ด จบ short course ตปท. ไม่น่าเชื่อถือเท่าไหร่
การเรียนพวกนี้ เหมือนเรียน lecture สมัย pre clinic
จับรวมศาสตร์ทางเลือก แปลหนังสือ A4M เอามาสอน คิดค่าเทอม 3.6 แสน/2ปี งานวิทยานิพนธ์ลุยเอง (อจ.ได้เพิ่มวิทยฐานะ)
อจ. เป็นเจ้าของบริษัทวิตามิน คีเลชั่น สเต็มเซลล์
เนื้อหาที่สอน พอเรียนเสร็จแล้วอยากเหมาผลิตภัณฑ์ทั้งหมดกลับไปให้คนที่บ้าน 555
สอนให้ต่อต้านแพทย์ที่ใช้ยา พยายามยกตัวเองว่าเหนือกว่าแพทย์แผนปัจจุบัน
เป้าหมายจริงๆคือ กระจายสินค้าและขายสินค้า anti-aging ของบริษัทตัวเอง
ปล. รู้จักวงการนี้ดี เพราะเป็นหมอบอร์ด ไปเรียน anti aging มา
เรียนเพื่อให้รู้ทันคนวงการนี้
จากคุณ: Hybrid VI โพสเมื่อวันที่: 09/14/19 เวลา 09:36:30
แพทยสภาไม่รองรับหลักสูตรนี่นะครับ
GP ไปเรียน ก็เป็น GP เหมือนเดิม
จากคุณ: Omo โพสเมื่อวันที่: 09/14/19 เวลา 11:56:27
แพทยสภาอาจไม่ยอมรับ
แต่ รพ.เอกชน หรูๆ ใน กทม  
ก็เปิด anti-aging ทั้งนั้น
เพราะทำรายได้เพิ่มให้กับ รพ.  
โดยเฉพาะค่า Lab การให้วิตามิน
การรักษาแบบป้องกัน เช่น คีเลชั่น
ถ้าในคลีนิคก็สเต็มเซลล์ ลค.จะเป็นอีกระดับหนึ่ง
จริงๆแล้วความรู้ anti-aging ได้ความรู้ใหม่ๆเยอะ
ที่ conventional med ไม่รู้
 
เพียงแต่ GP ที่จบ anti-aging ไปทำเอกชน ใครจะส่งคนไข้ให้
จะมีใคร consult anti-aging หมอบอร์ดคงไม่ส่งให้
ยกเว้นนโยบาย รพ. ที่โปรโมต Lab anti-aging และดึงคนไข้มาตรวจ anti-aging เช่น จับมือกับทัวร์จีน
เพราะคนไข้ Anti-aging คือ คนปกติที่ไม่มีโรคอะไร แต่อยากอายุยืนกว่าเดิม อยากสวยกว่าเดิม  
ดังนั้น GP ที่จบ anti-aging มักเปิดคู่คลีนิคความงาม
การทำ anti-aging ใน รพ.เอกชน ถ้าไม่ใช่หมอจบบอร์ดที่มีฐานคนไข้มากอยู่แล้ว ก็อยู่ได้ไม่นาน เพราะรายได้ไม่เพียงพอ
อาจต้องทำช่อง YouTube ให้ความรู้เพื่อโปรโมทตัวเอง  
ให้คนติดตามมากๆ
จากคุณ: Chimerism โพสเมื่อวันที่: 09/14/19 เวลา 16:21:11
เป็นสิ่งที่เราก็สงสัย ตามที่มาตั้งกระทู้ถึง รพ.ที่คุณแซมเป็นเจ้าของ (หรือหุ้นส่วนก็ไม่ทราบ)
เห็นมีหลักสูตรสอนเป็นเรื่องเป็นราว เลยอยากรู้ว่าจริงๆคือศาสตร์อะไร  
มีพื้นฐานมาจากไหน
 
จากคุณ: crv01 โพสเมื่อวันที่: 09/15/19 เวลา 15:45:59
หลอกคนรวยที่ฉลาดน้อย
จากคุณ: brownie โพสเมื่อวันที่: 09/15/19 เวลา 19:37:33
ม.กัญชา หรือครับ
 
น่าจะเป็นแค่หลักสูตรทั่วไป ไม่ใช่ปริญญา จึงไม่น่าใช่ความรับผิดชอบของ สกอ.
จากคุณ: only2b โพสเมื่อวันที่: 09/15/19 เวลา 21:46:07
https://www.mfu.ac.th/education/school/sch-anti-aging.html
 
สำนักวิชาชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ เป็นสำนักวิชาจากมหาวิทยาลัยต่างจังหวัดมาตั้งวิทยาเขตกลางกรุงเทพ
แยกต่างหากจากสำนักวิชาแพทยศาสตร์ที่อยู่ต่างจังหวัด
จากคุณ: Dr._Panya โพสเมื่อวันที่: 09/16/19 เวลา 10:03:30
เหมือนทัวร์ เกาหลีใต้ ที่ชอบโปรโมทว่า "สนเข็มแดง หรือ โสม" นั้นมีพลังมากมาย...ทั้งการต่อต้านโรคติดเชื้อ+ ชะลอวัย+ รักษาโรคตับ รักษาโรคไขมันในเลือดสูง ฯลฯ...ผมฟังบรรยายไม่จบ เพราะว่า เวียนหัว (จริงๆคือ คลื่นไส้) ซะก่อนครับ อิ อิ
จากคุณ: know555 โพสเมื่อวันที่: 09/16/19 เวลา 13:42:22
on 09/15/19 เวลา 15:45:59, crv01 wrote:
หลอกคนรวยที่ฉลาดน้อย

 Grin
จากคุณ: philosophy โพสเมื่อวันที่: 09/18/19 เวลา 09:25:57

จริงๆ เวชศาสตร์ ชะลอวัย  นี้ดี
 
แต่จากที่ จขกท  เขียน  ผมว่า  เริ่มเลยเส้นความพอดี  ไปมาก
 
เพราะมีทุนนิยมมาเกี่ยวมาก
 
 
แต่อย่างไรก็ตาม  ความรู้เปลี่ยนไปเร็ว  อันไหนที่ไม่ดีจริง  จะอยู่ได้ไม่นาน
 
หรือหลอกคนได้ไม่นาน
 
 
การที่สิ่งใดสิ่งหนึ่ง  อยู่ได้ นาน  แสดงว่า  ย่อมมีมีข้อดีอยู่บ้างของสิ่งนั้นอยู่  ไม่มากก็น้อย
จากคุณ: หมอเมืองสยาม โพสเมื่อวันที่: 09/29/19 เวลา 13:55:58
      แผนกชะลอวัย ? - " แผนกขายความไม่แน่นอนในโลกที่ไม่แน่นอน"
จากคุณ: หมอเมืองสยาม โพสเมื่อวันที่: 10/02/19 เวลา 18:32:35
     ชะลอวัย  ทำไง ?  - " ซั่ม(เด็ก)สาว"..


  • ข้อความและรูปภาพที่ท่านเห็นส่วนใหญ่ ได้ถูกส่งมาจาก ทางบ้าน
    ทางเว็บไซต์ Thaiclinic.com ไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ของข้อความและรูปภาพที่ถูกส่งมา

  • ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชนและส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ
    เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้นเพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง
    ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง

  • ถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมหรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล
    หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ webmaster@thaiclinic.com หรือ กดแจ้งที่ปุ่ม
    "แจ้งลบกระทู้"
    เพื่อให้ทีมงานทราบและทำการลบข้อความนั้นออกจากระบบต่อไป ขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกันทำให้สังคมน่าอยู่ครับ

ThaiClinic.Com . All Rights Reserved. !--BEGIN WEB STAT CODE-->

Powered by