Topic Summary
|
จากคุณ: singlesky |
โพสเมื่อวันที่: 07/14/19 เวลา 13:51:19 |
https://youtu.be/BYC7BBq7X78 มองในแง่ดี กลัวคนไข้รู้ชื่อยา ว่าเป็นยาฆ่าเชื้อ แล้วจะไม่กล้ากิน มองในแง่ร้าย กลัวคนไข้รู้ว่าต้องกินยาอะไร เดี๋ยวป่วยครั้งหน้าซื้อยากินเองได้ แล้วร้านจะขาดรายได้
|
จากคุณ: gundamwing |
โพสเมื่อวันที่: 07/14/19 เวลา 14:28:28 |
ข้อสองมากกว่า
|
จากคุณ: Hybrid VI |
โพสเมื่อวันที่: 07/15/19 เวลา 00:39:17 |
ข้อ 1 เป็นแค่ข้ออ้าง จุดประสงค์อยู่ที่ข้อ 2 มากกว่า
|
จากคุณ: Dr._Panya |
โพสเมื่อวันที่: 07/15/19 เวลา 10:32:40 |
สมัยก่อน บางคลินิกจะ 1. ซื้อยาน้ำเป็นแกลลลอน แล้วแบ่งบรรจุในขวดพลาสติก 2. ซื้อยาเม็ด โดยให้ทำสี/ ขนาด/ รูปร่าง (เช่นจากเม็ดกลม เป็นเม็ดเหลี่ยม) ให้เปลี่ยนไป ... แล้วแปะฉลากของคลินิกเอง ก็คงจะด้วยเหตุผลทั้ง 2 ข้อเหมือนกัน ครับ
|
จากคุณ: devilmanToT @.โหมดลั้นลา |
โพสเมื่อวันที่: 07/15/19 เวลา 11:53:42 |
ผมไม่แกะครับ แปะทับแบบลอกออกได้ ขายถูกกว่าร้านยา แต่มีค่าตรวจต่างหาก +แลป จะเอาไปซื้อเองก็ได้ แต่ถ้าไม่หายกลับมา เจอชาร์ทค่าตรวจเพิ่ม
|
จากคุณ: know555 |
โพสเมื่อวันที่: 07/15/19 เวลา 12:47:14 |
on 07/14/19 เวลา 13:51:19, singlesky wrote:https://youtu.be/BYC7BBq7X78 มองในแง่ดี กลัวคนไข้รู้ชื่อยา ว่าเป็นยาฆ่าเชื้อ แล้วจะไม่กล้ากิน มองในแง่ร้าย กลัวคนไข้รู้ว่าต้องกินยาอะไร เดี๋ยวป่วยครั้งหน้าซื้อยากินเองได้ แล้วร้านจะขาดรายได้ |
| มองในแง่ดี กลัวคนไข้ไปซื้อเอง เเพราะกลัวคนไข้ดื้อยาหรือใช้ยาพร่ำเพื่อ(บางคนคิดว่าอาการเดิม แต่จริงครั้งต่ไปอาจเเป็นโรคอื่นก็ได้)
|
จากคุณ: หมอเมืองสยาม |
โพสเมื่อวันที่: 07/15/19 เวลา 17:18:17 |
สลากยาออก ดีมั้ย ? - ดีและไม่ดีพอๆกัน ลึกๆคลินิกจ่ายยาเพื่อรักษาโรคเฉพาะบุคคล ส่วนร้านยานั้นขายยาบุคคลทั่วไปสลากยาจึงจำเป็น...
|
จากคุณ: jumpoo |
โพสเมื่อวันที่: 07/15/19 เวลา 20:55:31 |
สร้างแบรนด์เฉพาะตัว
|
จากคุณ: jumpoo |
โพสเมื่อวันที่: 07/15/19 เวลา 20:59:07 |
เราคิดตรงข้ามเลย อยากรักษา เขาให้ดีๆ ให้ชื่อยา ทั้งหมด เผื่อฉุกเฉิน จะได้ไม่ขาดยา หาซื้อได้ในเคสเรื้อรัง ภาวนะ าให้หายอย่าให้มีภาวะแทรกซ้อน ไม่จำเป็นไม่ต้องมาตรวจอีก.....ผลค่อนข้างตรงกันข้ามคะ มีอะไร ไหม่ๆ มาตลอด เคสที่หายไปเป็นเคสบ้านไกลๆ
|
จากคุณ: jumpoo |
โพสเมื่อวันที่: 07/15/19 เวลา 21:02:21 |
เป็นสิทธิของคนไข้นะที่จะได้รับรู้ว่าตัวเองได้ยาอะไรบ้าง .....ถ้าเกิดภาวะแทรกซ้อนจากยา แล้วคลินิคไม่เปิด ทำไง หรือadr ของยา ทำไง ควรแจ้งมากว่าราคายาอีก ชื่อยาทีากินเนี่ย
|
จากคุณ: luzeus |
โพสเมื่อวันที่: 07/16/19 เวลา 10:03:25 |
เขาชอบเขียนเอา บางทีคือยาอะไรไม่รู้ เขียนเป็นภาษาไทยบ้านๆ เวลาดูคนไข้ต่อ ประวัติการรักษา ก็จะดูแลต่อเนื่องยาก ถ้าแพ้ยามาก็จะลำบากนิดนึง ไม่เข้าใจเหมือนกัน
|
จากคุณ: doctoranch |
โพสเมื่อวันที่: 07/19/19 เวลา 00:43:30 |
ทำอะไรรู้อยู่แก่ใจ เหตุผลดีๆคือข้ออ้างให้ดูดี
|
จากคุณ: GSDTinTin |
โพสเมื่อวันที่: 07/20/19 เวลา 23:36:07 |
เค้ากลัวคนไข้เอาไปซื้อกินเองแล้วทำให้เสียโอกาสทำมาหากิน แต่เราไม่กลัว เราแจงหมด ยาน้ำขวดๆแปะทับฉลากเดิม อยากรู้ยาอะไรก็ลอกออกมาดูได้ ยาที่ไม่มีแผงก็เขียนแจงทั้งชื่อยาและมิลิกรัม แฟร์ๆ และเราทำใจอยู่แล้วว่าต้องเจอเคสหนี ซึ่งก็มีมีผลกระทบจริง คนไข้เอาตัวอย่างไปซื้อกินกันเองเยอะเลย โดยเฉพาะกับเศรษฐกิจแบบนี้ ซึ่งเราก็บอกเค้าว่าถ้าจะทำแบบนั้นก็ไปบัตรทองเถอะ ยังไงก็ดีกว่าไปซื้อยากินเอง
|
จากคุณ: philosophy |
โพสเมื่อวันที่: 07/21/19 เวลา 18:37:23 |
คงมีหลายเหตุผล ประกอบกัน ใหญ่ๆ ก็น่าจะ 1.ป้องกัน เอาไปซื้อยากินเอง ซึ่งมองได้ทั้งในแง่บวกและลบ หากคิดในทางลบก็กลัวผู้ป่วยเอาไปซื้อยาทำให้เสียรายได้ หากคิดในทางบวกก็จะประมาณนี้ เคยเจอคนไข้เอา wafarin ที่ได้จากโรงพยาบาล ไปซื้อที่ร้านขายยากินเอง คนขายยาก็ไม่รู้ว่าผู้ป่วย ซื้อเพื่อรักษาาตัวเอง ไม่ได้ซื้อเพราะขาดยาชั่วคราว มาอีกทีเป็น ICH warfarin overdose 2.ปิดบังสูตรยาเพื่อรักษาผู้ป่วยอันนนี้ น่าจะมีเยอะพอควร ต้องยอมรับว่า guideline รักษาโรคได้ไม่คลอบคลุมทั้งหมด ทำให้การรักษาบางส่วน เป็นศิลปะ ทำให้การรักษา มีความแตกต่างในแพทย์แต่ละคน ในการรักษาผู้ป่วยคนนั้นๆ หากคิดในทางลบก็กลัวผู้ป่วยเอาไปซื้อยาทำให้เสียรายได้ ยกตัวอย่าง เมื่อก่อน acute supurative tonsilitis มีการฉีด lincomicin ร่วมกับ steroid จะถูกตราหน้าว่า malpractice แต่ปัจจุบันเริ่มยอมรับกันมากขึ้น https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC5605780/ ยังมีอีกหลายอย่างที่ เป็ฯ state of controversy or state of the art อีกตัวอย่างที่เห็นได้ชัด ก็คือการใช้กัญชารักษาโรคลมชักหรือปลอกประสาทอักเสบ หรือความเจ็บปวดในมะเร็ง ซึ่งคนที่ใช้ และหมอที่รักษารวมทั้งผู้ป่วย ก็ล้วนถูกตราหน้า และถูกด่าว่ากล่าว จาก กลุ่มผู้รักาาพยาบาลแผนปัจจุบันมาแล้วทั้งสิ้น รวมทั้งมีหมอท่านหนึ่ง โด่งดังมากในการรักาาโรคข้อเข่าเสื่อมโดยการผ่าตัดเล็ก ที่ด้านข้างเข่าสองข้างประมาณ 20กว่าปีก่อน โดยหลักการถือว่า mal practice ในทางการแพทย์ ปัจจุบันท่านน่าจะเสียชีวิตไปแล้ว ผมมาทบทวนดูว่า ทำไมผู้ป่วยถึงอยากจะไปรักษาทั้งที่อยู่ไกลและผู้ป่วยก็มีมากมายทั่วประเทศ ผมคิดว่าท่านตัดเส้นประสาทรับความรู้สึกของผู้ป่วย ออกทำให้ผู้ป่วยบรรเทา และไม่ทรมานจากการปวดขอเข่าเสื่อมที่ต้องดิ้นรนหายา NSAIDS มากินจนสมัยก่อนกระเพาะทะลุไปหลายราย จริงๆแล้ว เมื่อมามองย้อนหลังแม้นปัจจุบันแล้ว ผมยังไม่สามารถบอกได้เต็มปากเต็มคำว่าสิ่ที่ทานรักษา นั้นผิด จริงหรือเปล่า เพราะค่าเปลี่ยนข้อเข่าสมัยก่อนๆ ยังแพงมากๆๆ และยังเพิ่งเริ่ม ดังนั้น จะวิจารณ์อะไร ก็ควรดูผลในระยะยาว ต่อผู้ป่วย มากกว่าจะยึดมั่นถือมั่นมากจนเกินไป ในหลักการ จนเกิดอัตตา คือต้อง balance เอาเอง หรืออาจเฝ้าดู หรือ จะเริ่มวิจัยก้ได้เพื่อเล็งผลลัพธ์ แต่อย่า ด่าก่อนตั้งแต่ไม่ทดลอง ไมงั้นเราคงไม่มีวันไปดวงีนทร์หรือดาวอังคารหรอกครับ เพราะหาว่าเพี้ยนไปกันหมด 3. ยาบางทีก็เป็น เม็ด จะถูกกว่า foil แต่จะเก็บได้สั้นกว่า ทำให้ยาจะเป็ฯเม็ด ทำให้ทั้ง ผู็ป่วยและคนอื่นก็จะไม่รู้ชื่อยา 4.ยาบางชนิดอาจหาซื้อแบบแผง ไม่ได้ น่าจะประมาณนี้ครับ
|
จากคุณ: drclinic |
โพสเมื่อวันที่: 07/25/19 เวลา 17:21:42 |
ตามข้อกำหนดเวลาจะขออนุญาตและเวลาเขามาตรวจ ต้องมีฉลากซองยาที่ระบุชื่อคนไข้ ชนิดยา ความแรง วิธีกิน ข้อควรระวัง ไม่ใช่เหรอคะ
|
จากคุณ: Jimmyman007 |
โพสเมื่อวันที่: 07/29/19 เวลา 01:05:59 |
เจอบ่อยมาก เวลาแพ้ยาก็ไม่รู้ว่ายาอะไร
|