หน้าแรกเว็บบอร์ด หน้าแรกเว็บบอร์ด
   For MD.
   Doctor Room l ห้องพักแพทย์
   Post reply ( Re: ฝากถึงน้องที่กำลังหาที่เรียนต่อทุกคนนะคะ (โดยเฉพาะคนที่สนใจ ENT) )
ขอเชิญเพื่อนแพทย์พูดคุย แสดงความคิดเห็นครับ
หัวข้อ:
ใส่ชื่อ:
Email:
Add YABBC tags:
Add Smileys: <more...>
ข้อความ:

Disable Smilies




Topic Summary
จากคุณ: entsiriraj โพสเมื่อวันที่: 07/11/19 เวลา 21:53:01
++++เนื่องจากกระทู้เก่าหายไปอย่างไร้ร่องรอย คาดว่าเพราะมีการพาดพิงถึงสถาบันมากเกินไป แต่เราคิดว่าสิ่งเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ต่อน้องที่ต้องการเรียนต่อจริงๆ
จึงขออนุญาตตั้งกระทู้ขึ้นมาใหม่ โดยที่ไม่มีการเอ่ยชื่อสถาบันให้เสียชื่อเสียง แต่ให้รุ่นน้องได้ทราบ ว่าเราควรคิดให้ดีก่อนตัดสินใจเรียนที่ไหน เพราะนั่นอาจส่งผลต่อชีวิตที่เหลืออยู่ทั้งหมดของน้องเลยทีเดียว
 
สืบเนื่องจากกระทู้ที่มีคนตั้งถึงว่า ENT เป็นภาควิชาที่มีแพทย์ประจำบ้านป่วยซึมเศร้ามากที่สุดในสถาบันชื่อดังแห่งหน ึ่ง คือสูงถึง 53% มากกว่าศัลยศาสตร์และอายุรศาสตร์ ในฐานะของคนที่เคยเป็นเด้นที่นั่น ขอบอกเลยว่า "ไม่แปลกใจ"
 
http://www.thaiclinic.com/cgi-bin/wb_xp/YaBB.pl?board=doctorroom;action= display;num=1561997147;start=0
 
ส่วนตัวจบออกมาหลายปีแล้ว ได้คุยกับรุ่นน้องหลายคนคิดว่าระบบอะไรก็คงยังคล้ายๆเดิม
จะขอรวบรวมสิ่งที่คิดว่าเป็นปัญหามาสาธยายให้ฟังตรงนี้เลยแล้วกัน เพราะว่าอัดอั้นมาหลายปีแล้ว ไม่รู้จะระบายที่ไหนดี
 
1.ENT ที่โรงเรียนแพทย์แห่งนี้มีจำนวนเตียงค่อนข้างเยอะเมื่อเทียบกับที่อื่น วอร์ดชาย วอร์ดหญิง วอร์ดเด็ก วอร์ดพิเศษ ฯลฯ ซึ่งการทำงานซ้ำซ้อนมากๆ เช่น การไม่ยอมแยกสายทำงานให้ชัดเจน
- วอร์ดหญิง+เด็ก รวมเป็นสายเดียว ประมาณ 20-30 เตียง ใช้ R3 2-3 คน R2 2-3 คน R1 3-4 คน และคาดหวังให้ทุกคนต้องรู้ทุกเคส
ซึ่งเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย เพราะเคสเทิร์นเร็วมาก แอดมิดบางวันเป็นสิบเคส กว่าจะราวด์เสร็จก็ค่ำมืด
แล้วหลังราวด์ถึงจะเป็นเวลาทำวอร์ดเวิร์ค เช่น ทำแผล สรุปชาร์ท กว่าจะเสร็จก็ 3-4 ทุ่มทุกวัน
ซึ่งจริงๆแล้วหากแยกสายกันราวด์ มี R3เป็นชีฟสายละ 1 คนก็พอ แบบนี้น่าจะทำงานเสร็จไม่เกินหนึ่งทุ่ม แต่ก็ไม่ทำ
- วอร์ดชาย ก็คล้ายๆกัน มีประมาณ 20 เตียง ใช้ R3 อยู่ในสายเดียวกัน 3 คน ไม่ยอมแยกสาย A สาย B เหมือนสาขาวิชาอื่นๆ
 
2.นอกจากราวด์เคสในวอร์ดตัวเองแล้ว ยังต้องราวด์เคสนอกวอร์ดด้วย
เช่น ถ้าวันพรุ่งนี้คุณจะเข้า OR เคสของวอร์ดหญิง แต่ตัวเองราวด์อยู่วอร์ดชาย ก็ต้องไปรับเคสที่วอร์ดหญิง
ต้องตามไปราวด์ทุกวัน แล้วรายงานเคสให้อาจารย์ทราบ เท่ากับว่าคนไข้หนึ่งคนจะมีคนราวด์สองคน คือเด้นวอร์ด และเด้นที่เข้า OR
นึกภาพนะ เหมือนคุณเป็นเด้นศัลย์ราวด์สาย colorectal แต่ทุกเช้าก่อนจะราวด์สายตัวเองต้องเดินไปราวด์เคส vascular ด้วย อะไรทำนองนั้น
 
3.สำหรับเวลาราวด์ตอนเช้า โดยเฉลี่ยสำหรับ R1 คือ 6.00-6.15 น. และอาจจะ 5.30 น. สำหรับอาจารย์บางท่าน เนื่องจากอาจารย์ attending จะมาราวด์ทุกเช้า เวลา 7.00 น.
จึงต้องราวด์ให้เสร็จก่อนอาจารย์มา (ถามว่าทำไมไม่มาตอนเย็นเหมือนศัลย์ ก็เพราะอาจารย์มีงานนอกตอนเย็นไง เลยอยู่เย็นไม่ได้)
 
4.ถามว่า ถ้าช่วงไหนเคสในวอร์ดน้อย จะมาสายหน่อยได้ไหม คำตอบคือไม่ได้นะ อาจารย์ให้พยาบาลวอร์ดคอยสอดส่อง จดเวลาที่ Resident มาถึงวอร์ด
ต่อให้ไม่มีเคสเลยก็ต้องมาถึงก่อน 6.15 ไม่อย่างนั้นอาจมีผลต่อการเลื่อนชั้นหรือส่งสอบบอร์ดได้
 
5.การรับใบ consult ในเวลาราชการ กลางวันคุณต้องไปออก OPD เข้า OR แล้วค่อยออกไปเดินดูเคส consult หลังราวด์เย็นเสร็จ
คิดสภาพ กว่าจะราวด์เสร็จก็สองทุ่มแล้ว จะเคลียร์ใบหมดก็ห้าทุ่มเป็นปกติ (ย้ำอีกที นี่ไม่ใช่เวรนอกเวลานะ)
 
6.ที่นี่ไม่มีการพักเที่ยง ใครที่เคยไปเซเว่นหรือเดินตลาดนัดตอนเที่ยงขอให้ลืมมันไปซะ ทั้ง OPD และ OR ต้องสั่งร้านข้าวให้มาส่งเท่านั้น
- OPD ถ้าคนไข้เช้าไม่หมด มากินข้าวไม่ได้ หรือถ้าตรวจเสร็จเร็ว สามารถแวะมากินในห้องพักแพทย์ได้ แต่ต้องรีบกินรีบทำงานต่อ รวมเวลามาพักไม่ควรเกิน 15 นาที
- OR มีความยัดเคสอย่างยิ่ง ภาควิชาอื่นถ้าทำเคสเช้าเสร็จตอน 12.00 อาจจะเซตเคสต่อไปตอน 13.00 แต่สำหรับ ENT จะเซตต่อไปเลย
9.00-11.00, 11.00-12.00, 12.00-13.00,13.00-22.00 คือเซตแบบไม่ให้มีช่วงพักกินข้าว การกินข้าวเที่ยงตอนเย็นจึงเป็นเรื่องปกติ เหมือนพยายามยัดเคสให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะยัดได้
สมัยเรียนเคยโดน 9 เคสในวันเดียวมาแล้ว
 
7.ความเครียด ความกดดัน มหาศาลมากๆ เหมือนถูกจับตาอยู่ทุกฝีก้าว ทำอะไรพลาดนิดหน่อยสามารถโดนกระทืบจมดินได้ทันที
 
8.เครียดกับงานวิจัยแบบทำเอาโล่ คือทำเอาโล่จริงๆไม่ได้เปรียบเปรยนะ โรงเรียนแพทย์แห่งนี้ได้รางวัลงานวิจัยแทบทุกปี
อาจารย์ได้หน้า แต่สร้างความกดดันให้ Resident อย่างมหาศาล ผิดกับสถาบันอื่นที่ชิวกว่ามาก
 
9.อาจารย์คือพระเจ้า ต้องทำทุกอย่างให้อาจารย์พอใจ คอยเอาใจทุกอย่าง ไม่อย่างนั้นอาจถูกซ้ำชั้นหรือไม่ส่งสอบบอร์ดได้ตลอดเวลา
 
10.สถาบันแห่งนี้อาจจะดูดี ตรงที่สอบบอร์ดผ่าน 100% แทบทุกปี แต่บอกเลยว่าเป็นเพราะใครที่หัวอ่อนหน่อยจะโดนบีบให้ออกด้วยการซ้ำชั้นหรือไ ม่ส่งสอบ
ไม่ใช่เพราะ Academic ดีแต่อย่างใด ซึ่งตรงนี้เป็นความเห็นแก่ตัวของสถาบันเป็นอย่างยิ่ง เพราะอยากรักษาหน้า
อ้างว่าไม่อยากให้มีแพทย์เฉพาะทางที่คุณภาพต่ำ แต่ความจริงแค่อยากรักษาสถิติ และความเห็นแก่ตัวบ้าๆนี้ก็ทำลายชีวิตแพทย์มาไม่รู้กี่คนแล้ว
 
11.วอร์ดอย่างออโถ เคสเยอะกว่า ENT มาก แต่เขาเหนื่อยน้อยกว่าเรา น่าจะเพราะแบ่งสายราวด์ตามอาจารย์ไปเลย ไม่ได้ต้องราวด์ซ้ำซ้อน
 
12.ทำงานอย่างหวาดระแวง ต้องคอยระวังตัวตลอดเวลา ต่อให้ตั้งใจทำงานแบบถวายหัวแต่อาจารย์ไม่ชอบหน้า ก็สามารถโดนสั่งให้ซ้ำชั้นหรือไม่ส่งสอบได้เสมอ
ตรงนี่น่าจะเป็นจุดที่ทำให้เครียดกว่าวอร์ดอื่นๆ คือทำงานหนักไปก็ไม่แน่ว่าจะได้สอบบอร์ด
 
13.ต่อหน้าอาจารย์ต้องพยายามเสแสร้ง ทำเป็นว่าชอบงานหนักๆ ชอบเรียนรู้ บลาๆๆ ยังไงก็ได้ให้อาจารย์พอใจ
 
14.เคสเป๊กที่มาจากคลินิกพิเศษ คลินิก หรือโรงพยาบาลเอกชน อาจารย์ชอบเซตเคสนอกเวลา ทั้งเย็นวันธรรมดา เช้าวันหยุด
หรือตามแต่อาจารย์จะสะดวก อาจารย์ได้เงินแต่เกณฑ์ Resident ไปทำงานเข้าเคสแถมยังต้องตามราวด์ให้ด้วย
ตรงนี้มองว่าเป็นการ Abuse มากๆ แต่บ่นอะไรไม่ได้ เพราะอย่างที่บอกไป เดี๋ยวไม่ได้สอบบอร์ด
 
15.ระหว่างเทรนเราเคยเป็น MDD ต้องแอบไปปรึกษา Psychy ตอนช่วงวันหยุดเป็นประจำ
กว่าจะเทรนจบก็เสียน้ำตาไปหลายลิตร แต่ให้อาจารย์รู้ไม่ได้ ต่อหน้าก็ต้องเสแสร้งทำเป็นว่า happy กับระบบเน่าๆแบบนี้
 
16.เคยคิดอยากเสนอให้แบ่งสายราวด์ตามสาขาเหมือนอย่างศัลย์หรือออโถ แล้วไม่ต้องมีเด้นประจำวอร์ดมาราวด์ทับซ้อน
ถ้าแบบนี้จะลดงานได้มาก แต่สุดท้ายก็ได้แต่ทน เสนอไม่ได้ กลัวโดนหาว่าขี้เกียจ
 
17.สมัยเป็น R1 มีเพื่อนบางคนที่คิดขนาดว่าจะลาออก ยอมติดแบนหนึ่งปีแล้วไปสมัครเรียน ENT ที่อื่น ได้ก็ดี ไม่ได้ก็เป็น GP  
 
*****เรื่องการลาออก ยอมติดแบน เสียเวลาสองปีไปสมัคร ENT ที่อื่น มีคนพูดกันขำๆทุกปี แต่ไม่แน่ใจว่าเคยมีใครทำจริงหรือเปล่า
ขออ้อนวอนอาจารย์สถาบันอื่นว่า หากพบเจอน้องๆกลุ่มนี้มาสมัคร ได้โปรดเมตตาและให้โอกาสน้องด้วย น้องกลุ่มนี้ไม่ใช่คนไม่อดทน แต่ที่นี่มันเกินกว่าที่คนทั่วไปจะทนได้จริงๆ
และน้องที่จะทำแบบนี้คือน้องที่รัก ENT มาก ถึงได้สมัคร ENT อีกครั้ง ทั้งที่เจอประสบการณ์เลวร้ายกับมันมาแล้ว ขออย่าได้ตัดสินน้องๆเพียงเพราะการตัดสินใจผิดพลาดเพียงครั้งเดียวเลย
 
18.มีหลายคนที่ต้องลาออกไป บางคนไปทำสกิน บางคนไปเรียนปลูกผม บางคนไปเสริมจมูก และบางคนเลิกเป็นหมอ แต่สิ่งที่เหมือนกันคือทุกคนชอบ ENT จริงๆ และสามารถเป็นแพทย์เฉพาะทางที่ดีได้แน่ๆถ้าหากตอนนั้นไม่เลือกมาเรียนที่นี่    
 
19.ที่นี่ถือคติ "เด็กผิดเสมอ" เกิดปัญหาขึ้นก็จะอ้างว่า "รุ่นก่อนๆยังผ่านมาได้" และไม่เคยคิดจะโทษระบบหรือตัวอาจารย์เลย  
 
20.การเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่ไม่มีทางเกิดขึ้นที่นี่ เพราะอาจารย์คิดแต่ว่า "ระบบมันดีอยู่แล้ว" และ "ทำงานเยอะๆจะได้เก่งๆ" แค่นี้เลยจริงๆ  
 
21.การร้องไห้ หรือไปพบจิตแพทย์ หากอาจารย์รู้ก็จะยิ่งเป็นผลเสียต่อตัว Resident เพราะจะยิ่งถูกเพ่งเล็งมากขึ้น และอาจารย์จะมี Bias ต่อตัว Resident คนนั้น ว่าอ่อนแอ ไม่อดทน ดังนั้นต่อให้จะเจ็บปวดแค่ไหนพออยู่ต่อหน้าอาจารย์ก็ต้องทำเหมือน Happy ดีเสมอ
 
22.ทุกวันพุธจะมีอาจารย์ท่านหนึ่งมาราวด์เย็นโดยให้แพทย์ประจำบ้านทุกคนเข้า ร่วม ราวด์ไปด่าไป ไล่กินหัวเด้นไปเรื่อยๆ จนพอใจแล้วก็จะเลิกตอนประมาณสามทุ่ม
หลังจากนั้นถึงแยกย้ายกันไปทำวอร์ดเวิร์ค ทำให้ทุกวันพุธจะได้กลับหอประมาณเที่ยงคืนเป็นปกติ ถามว่าได้ประโยชน์มั้ย เอาเป็นว่าน้อยมากแล้วกัน
 
23.สุดยอดของงานเอกสาร ละเอียดยิบย่อยมาก ทั้งใบรับรองแพทย์ ใบ consult ใบสรุปชาร์ท ห้ามมีจุดผิดพลาด ไม่งั้นโดนด่าเปิง
เคยมีเพื่อนโดนเรียกไปด่าเพียงเพราะเขียนใบรับรองแพทย์แล้วใช้คำไม่ถูกใจ
 
24.ตอนที่เทรนทำให้สุขภาพกายและสุขภาพจิตเสียไปมากๆ จากเคยสุขภาพดี วิ่งสัปดาห์ละสามวัน กลายเป็นคนร่างกายอ่อนแอ
เรากลายเป็นคนเหวี่ยงวีนอย่างไม่น่าเชื่อ ทะเลาะกับแฟนก็หลายครั้งเพราะการที่เราวีนทุกเรื่อง ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยเป็นมาก่อน
 
25.ระบบ Sotus เข้มข้นมาก R3 จะเหวี่ยงวีน R1 ในหลายเรื่องทั้งที่สอนกันดีๆก็ได้ ตอนเป็น R1 เราเกลียดพี่ R3 ไปเลย
แต่พอตัวเองเป็น R3 แม้จะพยายามไม่เหวี่ยงแต่ก็มีหลุดบ่อยๆ น่าจะเพราะความกดดันสูงมากทำให้เราเผลอเอาความเครียดตัวเองไปลงที่น้อง
เรื่องนี้รู้สึกผิดกับน้องมากๆ
 
26.ที่สุดของการลองใจ อะไรๆก็เชื่อถือไม่ได้ อาจารย์ชอบลองใจเป็นที่สุด หลายๆครั้งคิดว่าอาจารย์เมตตาแต่ความจริงคือลองใจ
เช่น ถ้าเราเข้า OR แล้วไม่ได้พักเลยตั้งแต่เช้าจนถึงห้าโมง อาจารย์บางคนจะแกล้งบอกให้ไปพักกินข้าว ซึ่งห้ามหลงเชื่อเด็ดขาด
สิ่งที่ต้องตอบคือ "ไม่ค่ะอาจารย์ หนูอยากเรียนรู้ อยากทำงานเยอะๆ ยังไม่อยากกินข้าว" ถ้าใครตกหลุมพราง แวะไปกินข้าวจริงๆจะโดนด่าไปอีกสามชาติ
 
27.เมื่อสองหรือสามปีที่แล้ว น้องที่เรารู้จักคนหนึ่ง เป็นคนขยันพอตัว อดทน และมีความรู้พอจะสอบบอร์ดผ่านแน่ๆ
กลับโดนไม่ส่งสอบบอร์ด โดยอาจารย์ให้เลือกว่าจะอยู่เป็นเด้นสามอีกปีหรือจะลาออกไป เรื่องนี้ทำให้น้องเครียดถึงขั้นต้องกินยาจิตเวชเหมือนกัน
 
28.ที่นี่มีความบ้าพลัง ชอบโชว์ว่าตัวเองเก่งแบบไม่สนใจคุณภาพชีวิตของคนไข้ ไม่รู้จักคำว่า NR มีคนไข้นึงที่เราจำฝังใจ คือหญิงอายุ 70+ เป็น CA thyroid c lung,liver,bone metastasis
คุณภาพชีวิตดี เดินได้ พูดคุยได้ ใช้ชีวิตได้ปกติ ถูก set ไปทำ OR ใหญ่โต กินเวลาเป็นสิบชั่วโมง postop ต้องอยู่ ICU ยื้อกันอยู่เป็นเดือน arrest ไปหลายรอบ สุดท้ายป้าก็จากไป
ตรงนี้เข้าใจว่าอาจเป็นสไตล์ของสถาบันนี้ คือลุยเต็มที่ทุกอย่าง ซึ่งไม่ตรงจริตเราเลย
ตั้งแต่จบมา ถ้าเจอเคสแบบนี้เราคุย NR ตลอด ญาติเข้าใจ คนไข้เข้าใจทุกคน
คนไข้ที่เป็น end-stage เหล่านี้ยังอยู่โดยมีคุณภาพชีวิตที่ดีอีกหลายเดือน บางคนอยู่ได้เกือบสิบปี
 
29.ได้ยินว่ามีน้อง R1 ปีนี้หลายคนบ่นอยากลาออกแล้ว ทั้งๆที่เพิ่งเริ่มเทรนได้ไม่นาน ซึ่งก็เป็นมาทุกปี  
คิดว่าเกิดจากอะไรถ้าไม่ใช่เพราะที่นี่มีปัญหาจริงๆ
 
30.คนที่ทนจนจบมาได้อย่างเราก็ยังงงตัวเองว่าทนได้ยังไง เสียทั้งสุขภาพกาย สุขภาพจิต จากร่างกายแข็งแรง ไม่เคยมีโรคประจำตัว กลายเป็น Fibromyalgia และ anxiety
ต้องคอยไปกายภาพ ทุกสัปดาห์ และ F/U จิตเวชตลอด หากย้อนเวลาไปได้อาจจะรีบลาออกตั้งแต่ R1 จะได้ไม่ต้องเสียสุขภาพระยะยาวแบบนี้
 
31.เราพูดได้อย่างเต็มปากว่า "ENT ที่สถาบันแห่งนี้ งานหนักยิ่งกว่า general surgery ของโรงเรียนแพทย์ที่อื่นเสียอีก"
จากคุณ: entsiriraj โพสเมื่อวันที่: 07/11/19 เวลา 21:53:12
- เรื่องการราวด์ซ้ำซ้อน มันแสดงให้เห็นว่าระบบมีปัญหาใช่ไหม ทำไม ENT ที่อื่นทุกที่ หรือสาขาอื่นในโรงเรียนแพทย์เดียวกันเขาไม่มีปัญหานี้ ทำไมศัลย์เขาไม่มีปรากฎการณ์ที่ราวด์สายหนึ่ง แต่ต้องเข้า OR อีกสาย แล้วต้องตามไปราวด์แบบเรา
- การราวด์เย็น ถ้าหากทุกคนที่ไม่มีเวรได้เลิกงานไม่เกินหนึ่งทุ่มจริงก็คงถือเป็นพัฒนาการท ี่ดีมาก เพียงแต่จากที่คุยกับน้องที่เทรนอยู่ตอนนี้ ทำไมน้องเขาบอกว่า R1 ก็ได้กลับกัน 2-4 ทุ่มเหมือนเดิม และเวร 1501 (รับใบในเวลาราชการ) กว่าจะเคลียร์หมดก็ประมาณห้าทุ่มเหมือนเดิม คงมีใครซักคนบอกผิดแล้วแหละ
- ส่วนตัวขอไม่เชื่ออย่างยิ่งว่าเลิกก่อนหนึ่งทุ่มได้จริง ต่อให้ราวด์เสร็จตอน 19.00น. แต่หลังจากนั้นต้องเคลียร์วอร์ดเวิร์ค ต้องไปรับเคสที่จะเข้า OR ที่นอนอยู่วอร์ดอื่น จนสุดท้ายแล้วได้กลับตอน 22.00น. แต่เอามาอ้างกับคนอื่นว่าราวด์เย็นเสร็จไม่เกิน 19.00น. #แบบนี้ก็ได้เหรอ
 
ถ้าให้สรุปสาเหตุความเครียดของเราสมัยเทรน หลักๆเลยก็มาจากความต้องการชื่อเสียง ต้องการตัวเลขที่ดี
 
ที่นี่สอบบอร์ดผ่าน 100% จริง
ที่นี่ได้รางวัลงานวิจัยจากราชวิทยาลัยแทบทุกปีจริงๆ
 
แต่ทั้งหมดมันเกิดขึ้นจากการกดดัน Resident อย่างมหาศาล ทั้งภาระงานที่หนักอึ้งอยู่แล้ว
ทั้งความต้องการความสมบูรณ์แบบในทุกเรื่อง แม้จะดูเป็นเรื่องไร้สาระก็ตาม
 
คุยกับ Resident ศัลย์ งานเขาหนักจริง แต่เขามีความหวังคือทนๆไป ตั้งใจทำงานเดี๋ยวก็จบมีบอร์ด
เทียบกับเราคือเครียดมาก ทำงานหนักแบบไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้ไปสอบบอร์ดหรือเปล่าด้วยซ้ำ
 
สำหรับน้องที่อยากเรียน พี่แนะนำง่ายๆว่า สาขา ENT ไม่ได้แย่นะ น้องอยากเรียนก็เรียนได้ เพียงแต่ "เรียนที่ไหนก็ได้ที่ไม่ใช่สถาบัน*****แห่งนี้"
จากคุณ: entsiriraj โพสเมื่อวันที่: 07/11/19 เวลา 21:54:29
แนวทางแก้ปัญหามันมี เช่น ลดการเซตเคสลง(เลิกยัด) แยกสายกันราวด์ จำกัดเคสที่ OPD ลดความ"เยอะ"เรื่องเอกสาร(ใบรับรองแพทย์ ใบคอนซัล ใบรับเคส) ฯลฯ
 
ไม่ได้คาดหวังให้สถาบันนำไปแก้ไข เพราะทราบดีว่ามันเป็นไปไม่ได้ในสถาบันใหญ่แห่งนี้ แต่อย่างน้อยก็อยากให้น้องได้ทราบข้อมูลก่อนตัดสินใจสมัครเรียนที่ไหนจะได้ไ ม่ต้องเสียใจภายหลังเหมือนพี่และอีกหลายคน
 
ส่วนน้องที่เรียนอยู่ก็น่าจะทราบดี อาจารย์จะมีพื้นที่ให้เราคอมเม้นอะไรได้นิดหน่อยๆ เสนอเรื่องจิปาถะได้ แต่ไม่สามารถเสนอให้แก้เรื่องใหญ่แบบนี้ เพราะจะส่งผลเสียต่อผู้เสนอเอง ก็ขอให้อดทนต่อไปถ้ายังไหว แต่ถ้าไม่ไหวก็ก้าวออกมาค่ะ
จากคุณ: entsiriraj โพสเมื่อวันที่: 07/11/19 เวลา 21:54:43
Roll Eyes
จากคุณ: jumpoo โพสเมื่อวันที่: 07/11/19 เวลา 21:59:25
อ้อ อาจารย์ จะเอาคนไม่น่าสอบบอร์ดผ่านไม่ส่งสอบบอร์ดนั้นเอง (คาดเดา)
จากคุณ: entsiriraj โพสเมื่อวันที่: 07/11/19 เวลา 22:16:33
on 07/11/19 เวลา 21:59:25, jumpoo wrote:
อ้อ อาจารย์ จะเอาคนไม่น่าสอบบอร์ดผ่านไม่ส่งสอบบอร์ดนั้นเอง (คาดเดา)

คนที่เรียนรู้ช้า หัวอ่อนหน่อยจะโดนซ้ำชั้นตอนจบ R1 (ที่ผ่านมาถ้าใครโดนซ้ำก็มักจะลาออก)
 
แต่ก็มีหลายคนที่โดนซ้ำตอน R3 หรือไม่ส่งสอบบอร์ด
 
ถ้าจะให้ที่นี่ส่งสอบคือต้องทำให้อาจารย์มั่นใจว่าผ่านชัวร์ๆเท่านั้น หากไม่แน่ใจจะไม่ส่งสอบเลยค่ะ
จากคุณ: VGN โพสเมื่อวันที่: 07/11/19 เวลา 22:53:14
สงสัยคราวนี้ถ้ากระทู้หายอีกน้องคงลง pantip ห้องสวนลุมพินี แน่เลย แพทย์ อยู่ห้องนี้เพียบ  Grin
จากคุณ: gamma48 โพสเมื่อวันที่: 07/11/19 เวลา 23:36:29
เออ ช้าไปแล้วครับ  case หัวข้อนี้น้องเขา share เข้า pantip  
 
https://m.pantip.com/topic/39038233   ไปตั้งแต่ 2 วันก่อนแล้วครับ
 
และยังมีการ share กัน ใน line ENT กระทรวงสาธารณสุข  ที่มีสามาชิก เป็นแพทย์ ENT ในกระทรวงสาธารณสุข ทั้งประเทศไปเรียบร้อยตั้งแต่เมื่อเช้าแล้วครับ
จากคุณ: cmumed โพสเมื่อวันที่: 07/12/19 เวลา 07:09:25
ในข้อดีก็มีข้อเสีย ในข้อเสียก็มีข้อดี
เมื่อเหตุเกิดด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ก็ต้องปล่อยให้ดำเนินต่อไป
อย่างน้อยก็อาจมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น
เป็นเรื่องที่สถาบันต้องเรียนรู้ทบทวน การไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลง
สุดท้ายผลย่อมเกิดจากเหตุ ก็ต้องรับกรรมนั้นไป
กัมมุนา วัตตี โลโก ย่อมเป็นเช่นนั้นเอง
จากคุณ: Chimerism โพสเมื่อวันที่: 07/12/19 เวลา 09:12:32
แหะๆ ไม่ลงชื่อสถาบันก็จริงแต่ชื่อล็อกอินมันก็ชัดเจนแจ่มแจ๋วเลยนะคะ
จากคุณ: Any_Obtion โพสเมื่อวันที่: 07/12/19 เวลา 10:06:03
แต่ช่วงเรียน หมอ 6 ปี
 
มีแต่ ผปค.อยากให้ลูกหลานเข้า
 
เข้าแล้วจบออกมาดู OK
 
 
 Smiley Smiley
จากคุณ: Dr._Panya โพสเมื่อวันที่: 07/12/19 เวลา 11:11:46
จริงๆ การดูแล หรือการรับเคส ผป. โดย จนท.หลายคน ทั้ง นักเรียนพยาบาล+ พยาบาล+ R1- 3/4, Staffs (ที่มักจะไม่มา รับเคส พร้อมกัน เพราะว่า ตารางการทำงานไม่เหมือนกัน / ไม่ตรงกัน) และ ทุกๆคนพร้อมกัน (หากมี Grand round ) แถมแพทย์ประจำบ้านต้องมาดูอย่างน้อย ผู้ป่วย 2 รอบ/ วัน...ดังนั้น ถ้าคิดในมุมมองของ ผู้ป่วยๆ คนนึงจะถูก Interrupts วันละประมาณ 10 ครั้ง (แถมพยาบาล มาให้ยา+ จนท. มาเสริฟอาหาร ตามเวลา อย่างละ 3- 4 ครั้ง/ วัน อีกต่างหาก 555)
 คิดว่าคนป่วยเองชอบแบบนี้ทุกคนมั้ยครับ อิ อิ อิ
จากคุณ: หมอเมืองสยาม โพสเมื่อวันที่: 07/12/19 เวลา 11:25:18
      ...ก้ออย่างที่กระผมบอกไว้ล่ะครับ  คืองี้  ยังหนักได้อีก...
จากคุณ: Dr._Panya โพสเมื่อวันที่: 07/12/19 เวลา 11:27:19
นอกจากนั้น หากป็นเคสที่นัดนอน รพ.เพื่อจะผ่าตัด ในวันรุ่งขึ้น...แต่ผป. บางคนมาตอนค่ำ แถมมีโรคประจำตัวบางอย่างที่เราดูแล้วอาจจะไม่ปลอดภัยต่อการผ่าตัดใหญ่ในวัน รุ่งขึ้น นอกจากเรา (แพทย์ประจำบ้าน) จะมารับเคสตอนค่ำ (Complete Chart ทุกหน้าในส่วนของเรา) แล้วยังจะรายงานแพทย์ประจำบ้านที่อาวุโสกว่า+ ต้องเขียนปรึกษาแพทย์ประจำบ้านต่างแผนก+ รายงานอาจารย์ดมยา/ อาจารย์เวรวันนั้น/ อาจารย์เจ้าของไข้ของเราอีกด้วย ว่าผป. เป็นยังไงๆ ผ่าตัดได้มั้ย+ เลื่อนผ่าตัดมั้ย+ ให้การรักษา/ เปลี่ยนแปลงอะไรสำหรับการผ่าตัดพรุ่งนี้มั้ย ฯลฯ...ซึ่งหน้าที่เหล่านี้ คนเป็นแพทย์ประจำบ้านชั้น ปี 1 จะต้องทำให้ Complete เป็นด่านแรก
ป.ล. ยิ่งถ้าเป็นเราอยู่เวร ในคืนนั้น แล้วจะเข้าห้องผ่าตัดในสายของตัวเองในวันรุ่งขึ้น...เวลาว่างจากเคสที่เข้าเ วร เราจะต้องรีบมารับเคสดังกล่าวบนตึกผู้ป่วยอีก โห โห  
จากคุณ: megacure โพสเมื่อวันที่: 07/12/19 เวลา 12:32:52
ผมว่ากระทู้คุณซ้ำนะครับ จะโจมตีสถาบันเพื่อประโยชน์สาธารณชน ผมเห็นว่าทำได้
 
แต่การปั่นกระทู้ไม่ควรทำ
จากคุณ: simath โพสเมื่อวันที่: 07/12/19 เวลา 12:48:42
on 07/12/19 เวลา 12:32:52, megacure wrote:
ผมว่ากระทู้คุณซ้ำนะครับ จะโจมตีสถาบันเพื่อประโยชน์สาธารณชน ผมเห็นว่าทำได้
 
แต่การปั่นกระทู้ไม่ควรทำ

ที่เขาตั้งใหม่เพราะกระทู้เก่าโดนลบครับ เขียนไว้บรรทัดแรก
จากคุณ: Omo โพสเมื่อวันที่: 07/12/19 เวลา 13:10:54
ยุคนี้ดีนะ
ข้อมูลข่าวสารแพร่กระจายเร็วดี
สมัยก่อนใครถูกรุ่นพี่หรือเพื่อน bully  
รู้กันเพียงในกลุ่มเพื่อนเท่านั้น
ห้ามแพร่งพรายให้เสียชื่อ อจ.และรุ่นพี่
ทำได้แค่ซุบซิบแค่นั้น
ยุคนี้เป็นยุค disruption  
การเปลี่ยนแปลงแบบหักศอกกำลังมา
ใครที่ถูก bully.. สนับสนุนให้ระบายได้คะ
เป็นการ feedback ให้โลกรู้
ควรเลิกวัฒนธรรมเดิมๆได้แล้ว
อาจารย์ไม่ใช่ศูนย์กลางของจักรวาล
ยุค AI อจ. มหาลัยอาจตกงาน
 
จากคุณ: megacure โพสเมื่อวันที่: 07/12/19 เวลา 17:12:45
on 07/12/19 เวลา 12:48:42, simath wrote:

ที่เขาตั้งใหม่เพราะกระทู้เก่าโดนลบครับ เขียนไว้บรรทัดแรก

 
ไม่ได้อ่านว่ากระทู้เก่าโดนลบ ขออภัย
จากคุณ: DoctorMafia โพสเมื่อวันที่: 07/12/19 เวลา 17:40:24
ฟ้องศาลแรงงานครับ  Smiley
จากคุณ: crv01 โพสเมื่อวันที่: 07/12/19 เวลา 19:14:24
สมัยผมไม่มีแบบนี้นะ.  ศัลยกรรมงานหนักมาก. แต่อดทน.  ไม่ค่อยมีใครป่วยเท่าไร.
จากคุณ: Hippo โพสเมื่อวันที่: 07/12/19 เวลา 22:10:03
ตอนนี้ รพ.ต่างๆ บ้าพวก HA, AHA, EdPeX, TQA บลา ๆ ซึ่งทุกรางวัลจะมีเรื่องของ happy workplace ดูแลบุคลากรดี โน่นนี่นั่น
บาง รพ. ได้มันทุกรางวัล ขึ้นเวทีถ่ายรูป ออกข่าวกันใหญ่โต
แต่ยุค social media ทำให้เนื้อแท้นั้นปรากฏออกมาได้  
จากคุณ: wic โพสเมื่อวันที่: 07/12/19 เวลา 22:27:56
ตอนเทรน (เรื่องมันนานมากแล้ว) ก็เครียดนะครับ ช่วง 2 เดือนแรก นน.ลด ไป 2 กก. (เป็นครั้งที่สองในชีวิตที่ นน.ลด ครั้งแรกเป็นตับอักเสบเอ ช่วงเป็น นศพ.)
ที่ เด้นบ่นกันมากคือ อ.ไม่ค่อยสอน ยิ่งพอไปelective ที่อื่น เห็นความแตกต่างชัด งานหนัก แต่ตอนผม ปี 1 ก็เลิกไม่ดึกทุกวันนะ ยังไปทำเอกชนบางวันได้ เพื่อนเด้นก็ไม่เอาเปรียบกัน  
ตอนมาทำแผลเช้า อ.ก็ชอบโทรมาถามพยาบาลวอร์ดนะว่าเด้นคนไหนมาแล้ว คนไหนยังไม่มา
เคยเข้าเคสผ่าตัด มะเร็งเริ่ม 9 โมงเช้า เลิก ตี 3 ออกมาเดินไม่ตรงเลย
ที่แย่สุดช่วงนั้น คิอ เงินน้อย เงินเดือนหนึ่งหมื่น บาท ค่าเวรเหมา สองพ้นบาท รถไม่มีใช้ นั่งแต่รถเมล เงินเก็บหลักหมื่น พอจบปีสามเหลือ สองพันบาท จนทำบัตรเครดิตไม่ผ่าน  อยู่ไกลบ้าน ไกลครอบครัว  
พอดีไม่มีปัญหาเรื่องเรียน สอบได้คะแนนดี เลยไม่ต้องเครียดเรื่ิองไม่ได้สอบ แต่รุ่นเดียวกัน ถูกไม่ส่งสอบ 30% รุ่นพี่ลาออก 60% รุ่นน้องก็ลาออก เด้นบางคนชายอกสามศอกยังกลับมานอนร้องไห้เพราะโดน อ.อัด แต่ผมไม่เตยเสียน้ำตานะ ถึงจะโดนอัดบางครั้งแต่ผมถือว่า ที่ด่านะผมไม่ได้ทำ เด้น 2 ทำ แต่เราเป็นรุ่น พี่โดน อ.ด่า ก็เพราะต้องรับผิดแทน
 
จบมาทำงาน นึกว่าจะสบาย ที่ไหนได้ อยู่เวรเดือนละ 15 วัน เจอเพื่อนร่วมงาน เอาเปรียบ เห็นแก่ตัว โยนภาระ โบ้ยเคส  nonfunction , low qualify สารพัด อายุจะเกษียณยังต้องแก้ HCT E lyte ทำงานเป็นเด้น
1 -ขณะที่รุ่นเดียวกัน med surg ped Gyne ortho อยู่เวรลดลงเหลือเดือนละ 2- 3 วัน มี young staff , intern,extern ทำงานให้ คราวนี้ เครียดยาวเลย   ขอยืมคำพูดซ้องปีป หน่อย  กรูก้าย  กรูก้าย กรูก้าย
จากคุณ: SantaNiCo โพสเมื่อวันที่: 07/13/19 เวลา 07:15:04
เข้าผ่าตัด9โมง. เลิกตี3.  นี่คือบ้าไปแล้ว
จากคุณ: Chimerism โพสเมื่อวันที่: 07/13/19 เวลา 09:40:51
on 07/12/19 เวลา 22:27:56, wic wrote:
อายุจะเกษียณยังต้องแก้ HCT E lyte ทำงานเป็นเด้น
1 -ขณะที่รุ่นเดียวกัน med surg ped Gyne ortho อยู่เวรลดลงเหลือเดือนละ 2- 3 วัน มี young staff , intern,extern ทำงานให้ คราวนี้ เครียดยาวเลย   ขอยืมคำพูดซ้องปีป หน่อย  กรูก้าย  กรูก้าย กรูก้าย

 
โอโห จะเกษีญณแล้ว แปลว่า นานมาแล้วจริงๆ ระบบยังคงเหมือนเดิมเลยนะคะ ส่งต่อรุ่นสู่รุ่นจริงๆ
แต่เรื่อง minor ไม่มี 1st call นี่น่าเห็นใจจริงๆค่ะ
จากคุณ: หมอเมืองสยาม โพสเมื่อวันที่: 07/13/19 เวลา 12:41:03
        เทรนที่นี่  เป็นไง ?- " ....เท่าที่อ่านถือว่า ยังไม่แย่นัก ครับ..."
จากคุณ: Dr._Panya โพสเมื่อวันที่: 07/13/19 เวลา 13:38:49
บรรยากาศ กดดัน+ เครียด+ งานหนักจริงๆ อย่างนี้ ข้าพเจ้าขอยอมแพ้ เลยครับ อิ อิ
ป.ล. แต่บรรยากาศการเรียนแบบ " Painful Training" นี้ ผู้เรียนทุกคน/ แต่ละคนจะมองหา "จุดอ่อน/ ความผิดของคนอื่น" มากกว่าช่วยเหลือกันทำงาน/ รับผิดแทนเพื่อน/ รุ่นน้อง/ รุ่นพี่ (เหมือนพกมีดสั้นคนละเล่ม ไว้คอยแทงข้างหลังคนอื่นๆ ถ้ามีโอกาส) อิ อิ อิ
จากคุณ: mandm โพสเมื่อวันที่: 07/13/19 เวลา 18:30:20
โห อ่านแล้วตกใจเลยค่ะ  
เราเคยอยากเรียน ENT ที่นี่ด้วยนะ แต่พอไป elective แล้วคิดว่า ลักษณะงาน มันไม่โดน (ไม่เกี่ยวกับว่า หนักไม่หนักนะ เพราะตอนนั้นเป็น นศพ. ไม่ค่อยได้ทำอะไรเท่าไหร่)
 
สุดท้าย เลยเรียนสาขาอื่นแทน แต่ก็เทรนที่สถาบันนี้แหละ
ยังมีความสุขดีอยู่ งานหนัก(ไม่)บ้าง เลิกดึกบ้าง งานเอกสาร(โคด)เยอะ 555 แต่ก็ยังแฮ้ปปี้ค่อนข้างมากนะ อาจเพราะสาขาที่เรียนตอนนี้ถูกจริตอยู่ และสังคมในภาคค่อนข้างดี
 
ปล.อ่านทู้นี้จบ รู้สึก คิดถูกแหะ ที่ตอนนั้นไม่เลือกเรียน ENT
จากคุณ: Dr.Mae โพสเมื่อวันที่: 07/13/19 เวลา 20:24:17
นศพ ปี 4-5 ที่นี่ ..... ลง ward  3-4 ทุ่ม ถือเป็นเรื่อง ปกติเลย  รู้ไว้ก่อนจะได้เลือกที่อื่น
จากคุณ: mandm โพสเมื่อวันที่: 07/13/19 เวลา 22:30:58
on 07/13/19 เวลา 20:24:17, Dr.Mae wrote:
นศพ ปี 4-5 ที่นี่ ..... ลง ward  3-4 ทุ่ม ถือเป็นเรื่อง ปกติเลย  รู้ไว้ก่อนจะได้เลือกที่อื่น

 
เห?? วอร์ดไหนหรอคะ? ตอนเราเป็น นศพ.แทบจะไม่มีวอร์ดไหนลงหลังทุ่มนึงเลยนะ (ไม่นับวอร์ดที่มีเตรียม grand round)
 
ตอนนี้ที่เป็นเด้นท์ ก็เห็นน้องนศพ.ลงวอร์ดก่อน หกโมงเย็น แทบจะ 80% นะคะ (เลทสุดๆก็ทุ่มครึ่ง-สองทุ่ม ซึ่งน้อยมากๆๆ)
ถ้าวอร์ดไหนให้น้องลง 3-4 ทุ่มจนเป็นเรื่องปกติ…attending จะมีการเรียกคุยแล้วนะคะว่า resident บริหารเวลาไม่ดี
 
แต่ก็ไม่รู้ ตอนนี้สาขาอื่นเป็นยังไงนะ
จากคุณ: brownie โพสเมื่อวันที่: 07/13/19 เวลา 23:00:35
เท่าที่ดูรายชื่ออาจารย์ พวกแก่ๆที่น่าจะมีปัญหามีไม่ถึง 5 คนนะครับ ทำไมอาจารย์ที่เหลือไม่ลงมาช่วยตรงนี้  จริงๆ young staff ที่ดูแล dent ก็โอเคนะ แต่อาจจะเด็กไม่กล้าทะเลาะกับพวกแก่ๆ
หรือ resident รวมตัวกันร้องเรียนผู้บริหารคณะ
 
ภาคอื่นอย่างศัลย์หรือออร์โธ คนดูแลก็เป็นอาจารย์รุ่นใหญ่แต่หัวสมัยใหม่  med ภาคใหญ่ คนที่มาทำการศึกษาใจดีกว่าเดิมมาก คนที่เคยดุสมัยก่อนหลายคนเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือเลย พวกดุก็มีบ้าง แต่เนื่องจาก rotate บ่อย ก็ไม่เจอแบบต่อเนื่อง  
จริงๆแบบนี้มันก็มีวิธีแก้ ผู้บริหารสามารถกันอาจารย์พวกนี้ไม่ให้มาสอนคุมผ่าตัดได้ พอภาระงานสอนลดลง ก็ต้องไปเอางานบริการงานวิจัยเพิ่ม  เรื่องงานวิจัยก็สามารถกันอาจารย์พวกนี้ไม่ให้ดึง resident ช่วยงานวิจัย ก็เท่ากับตัดภาระงานสอนไปด้วยเพราะการคุม dent ทำโครงการถือเป็นงานสอน  งานวิจัยก็ทำยากขึ้น แต่จะโดนบีบให้ทำ paper โดยไม่มี resident ช่วย
จากคุณ: GSDTinTin โพสเมื่อวันที่: 07/14/19 เวลา 01:23:49
หึ หึ
 
ต่อไปใครเค้าคงไม่เลือกเรียนที่นี่
 
แล้วสตาฟก็ทำเองไปทุกอย่างนะ ไม่มีใครอยากมาช่วยคนใจดำทำงานหรอก
 
อยากรู้เหมือนกัน ถ้าร.พ.ใหญ่ขนาดนั้น เคสเยอะๆแบบนั้น ไม่มีdentให้จิกหัวใช้งาน จะทำงานกันรากเลือดแค่ไหน
จากคุณ: only2b โพสเมื่อวันที่: 07/14/19 เวลา 10:03:20
Quote:
สมัยผมไม่มีแบบนี้นะ.  ศัลยกรรมงานหนักมาก. แต่อดทน.  ไม่ค่อยมีใครป่วยเท่าไร.
ส่งโดย: crv01

 
เห็นด้วย คนเรียนศัลย์ รู้อยู่แล้วต้องเจออะไรที่หนักหนาสาหัสสากรรจ์ แต่คนที่เรียนต่อสาขาที่คิดว่างานสบาย พอไม่ง่ายและสบายดังที่คิด จึงถูกกระตุ้นให้แสดงอาการออกมา
จากคุณ: หมอเมืองสยาม โพสเมื่อวันที่: 07/14/19 เวลา 11:38:35
  เทรนหนักกว่าที่อื่น  ? - " แหม....ใครไปบอกคุณว่าชีวิตมันแฟร์"
จากคุณ: VGN โพสเมื่อวันที่: 07/14/19 เวลา 15:42:49
on 07/14/19 เวลา 10:03:20, only2b wrote:

 
เห็นด้วย คนเรียนศัลย์ รู้อยู่แล้วต้องเจออะไรที่หนักหนาสาหัสสากรรจ์ แต่คนที่เรียนต่อสาขาที่คิดว่างานสบาย พอไม่ง่ายและสบายดังที่คิด จึงถูกกระตุ้นให้แสดงอาการออกมา

 
จริงๆคือ ไม่ว่าหรอก งานหนัก แต่นี่มีไม่ให้สอบบอร์ดให้ซ้ำชั้นปีจริงเป็นประจำ. อันนี้ก็เกินจะทำใจ.  ทั้งๆที่สายงานนี้ไม่ยากไรมาก
จากคุณ: น้ำเน่าในเงาจันทร์ โพสเมื่อวันที่: 07/15/19 เวลา 10:43:05
on 07/13/19 เวลา 20:24:17, Dr.Mae wrote:
นศพ ปี 4-5 ที่นี่ ..... ลง ward  3-4 ทุ่ม ถือเป็นเรื่อง ปกติเลย  รู้ไว้ก่อนจะได้เลือกที่อื่น

 
อยากรู้จริงๆว่าจะให้ นศพ.ลงดึกๆทำไมครับ  
ให้น้องมาเฝ้าwardเป็นการเผาเวลาเล่นโดยไม่เกิดประโยชน์  
ไล่น้องกลับไปอ่านหนังสือหรือนอนพักผ่อนที่ห้องซะยังจะดีกว่าครับ
ส่วนbed side มันสอนกันตอนกลางวันในเวลาได้ครับ  
 
เวลาช่วงที่เราเรียนแพทย์โดยเฉพาะ นศพ.มันมีจำกัดครับ ควรจะบริหารเวลาให้มีเกิดประโยชน์สูงสุด
จากคุณ: know555 โพสเมื่อวันที่: 07/15/19 เวลา 12:58:01
แย่จัง   แบบนี้มีอีกเยอะนะ Lips Sealed
จากคุณ: Any_Obtion โพสเมื่อวันที่: 07/15/19 เวลา 14:54:58

 
งานหนัก ฝึกหนัก  ไม่ใช่ปัญหา
 
ที่น่าเบื่อคือพวกประจบประแจงอาจารย์ แล้วอาจารย์ก็ชอบ
 
 Undecided Undecided
จากคุณ: หมอเมืองสยาม โพสเมื่อวันที่: 07/15/19 เวลา 17:36:56
   แฉในโซเชียลมีเดีย ? - " เป็นBullyที่แย่กว่าอีก ครับ"
จากคุณ: Any_Obtion โพสเมื่อวันที่: 07/15/19 เวลา 22:51:44

 
 Grin Grin
จากคุณ: luzeus โพสเมื่อวันที่: 07/16/19 เวลา 09:43:19

ENT ใครคิดว่าเป็น minor ward ชิวๆ ไม่เลย  หึหึ  
เคสใน รร.แพทย์ มีแต่ CA  
 
จบมาข้างนอกมีแต่ขี้หู ทอนซิล  
 
จากคุณ: หมอเมืองสยาม โพสเมื่อวันที่: 07/16/19 เวลา 12:17:58
      กระทู้นี้  กระผมคิดยังไง? - เรื่องปกติ(เทรนหนัก)ที่ทำให้เป็นกระแส ครับ...
จากคุณ: หมอหมู โพสเมื่อวันที่: 08/12/19 เวลา 14:28:52

ขอความกรุณา พี่ ๆ น้อง ๆ ... อย่า เอ่ยชื่อ สถาบัน  เลยครับ  
 
เพราะ ถ้าทางสถาบัน เขาแจ้งลบ เพราะ เขาเสียหาย ..... ในฐานะ มดฯ ก็ต้อง ลบ หรือ ย้ายกระทู้ไปเก็บไว้ที่อื่น   Roll Eyes


  • ข้อความและรูปภาพที่ท่านเห็นส่วนใหญ่ ได้ถูกส่งมาจาก ทางบ้าน
    ทางเว็บไซต์ Thaiclinic.com ไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ของข้อความและรูปภาพที่ถูกส่งมา

  • ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชนและส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ
    เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้นเพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง
    ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง

  • ถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมหรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล
    หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ webmaster@thaiclinic.com หรือ กดแจ้งที่ปุ่ม
    "แจ้งลบกระทู้"
    เพื่อให้ทีมงานทราบและทำการลบข้อความนั้นออกจากระบบต่อไป ขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกันทำให้สังคมน่าอยู่ครับ

ThaiClinic.Com . All Rights Reserved. !--BEGIN WEB STAT CODE-->

Powered by