Topic Summary
|
จากคุณ: SantaNiCo |
โพสเมื่อวันที่: 07/08/19 เวลา 00:32:44 |
อันนี้คือสงสัยมาก เข้าไปดูส่วนใหญ่ รรพ. ดังๆเริ่มรับสมัครแพทย์เฉพาะตั้งแต่1กรกฎา. แต่ตามตารางแพทยสภาคือเริ่มรับสมัคร. ตุลาคม เราเมลล์ไปถามราชวิทลัยก็ตามมาว่า. เปิดรับสมัครเดือน. ตค แล้วที่รรพ. เปิดรับสมัครก่อนตั้งแต่เดือน. กรกฎานี่เราต้องสมัครด้วยมั้ยคะ งงมาก ยังไม่ได้สอบภาษาอังกฤษด้วย
|
จากคุณ: 6699 |
โพสเมื่อวันที่: 07/08/19 เวลา 05:48:14 |
ปกติการรับ เขารับล่วงหน้าประมาณ 1-2 ปี ต้องมาสมัครก่อน ถ้าสมัครตามแพทย์สภากำหนด ส่วนมากจะไม่ได้ เพราะรับคนอื่นไปแล้ว
|
จากคุณ: SantaNiCo |
โพสเมื่อวันที่: 07/08/19 เวลา 06:25:51 |
on 07/08/19 เวลา 05:48:14, 6699 wrote:ปกติการรับ เขารับล่วงหน้าประมาณ 1-2 ปี ต้องมาสมัครก่อน ถ้าสมัครตามแพทย์สภากำหนด ส่วนมากจะไม่ได้ เพราะรับคนอื่นไปแล้ว |
| โอ้โห้. ราชวิทลัยอะไรคะ. เส้นสายเยอะจัง แถมมีขู่อีก. ว่ารับสมัครกับแพทสภานี่ไม่ได้หรอก อนาจใจ
|
จากคุณ: Dr._Panya |
โพสเมื่อวันที่: 07/08/19 เวลา 15:25:27 |
ถ้าอยากจะเรียนต่อ ในสาขาหลัก/ สาขายอดฮิต (ที่งานเบา แต่เงินดี เช่น ตา/ ผิวหนัง) ที่โรงเรียนแพทย์ชั้นนำ...มีแต่ผู้สมัครที่ โปรไฟล์ดี+ เส้นสายใหญ่โต+ สมัคร/ ติดต่อ (อย่างไม่เป็นทางการ) เป็นเวลา 1- 2 ปี จริงๆแหละครับ ตอนผมสมัครเรียน ผมก็สมัครที่ สถาบันรองๆตามวาระปกติ คือประมาณปลายๆปี (ถ้าเค้ารับ ก็คือเริ่มเรียน ตั้งแต่ มิ.ย. ของปีถัดไป) ไม่ได้มาสมัครกับสถาบันหลัก เพราะว่าไม่อยากจะรบกวน/ ทวงสัญญาจากอาจารย์ผู้ใหญ่บางท่านที่เคยสัญญาไว้ว่า ถ้าผมมาสมัครเรียนที่ สาขา...นี้ เดี๋ยวผมจะเขียนหนังสือ Recommended ให้ (อาจารย์พูด/ ชวนเอง โดยที่ผมไม่ได้ร้องขอ) ซึ่งผมก็ได้คัดเลือกเข้าเรียนในสาขาหลักที่มาสมัคร โดยที่ไม่ได้ใช้เส้นสายจากใครมาเลยครับ ป.ล. ผมคิด(เอาเอง)ว่า การที่เราจะได้เรียนต่อในสาขา/ สถาบันที่เราสมัคร/ เรียนจบรึเปล่านั้น ปัจจัยหลักที่สำคัญที่สุดก็คือตัวเรา (รูปร่าง หน้าตา การพูดจา กิริยา ท่าทาง โปรไฟล์ทางการศึกษา ประสบการณ์การทำงาน ทัศนคติต่อ ประเทศ- โลก ฯลฯ)นั่นแหละครับ ...ส่วนปัจจัยอื่นๆ นอกนั้นเป็นเรื่องรองลงมาทั้งสิ้นครับ
|
จากคุณ: only2b |
โพสเมื่อวันที่: 07/08/19 เวลา 16:12:41 |
เข้าใจว่า การรับแพทย์ เพื่อ train board หรือ subboard ควบคุมการศึกษา training จนจบ รับรองว่าเป็นผู้มีคุณวุฒิ เป็นหน้าที่ของราชวิทยาลัย วิทยาลัย หรือองค์กรชื่ออื่นที่แพทยสภารับรองให้ทำ แล้วแพทยสภาก็มีหน้าที่รับรองแต่ละขั้นตอนให้เป็นทางการ แพทยสภาคงไม่มีบุคลที่มีความรู้ความชำนาญสาขาต่างๆครบทุกสาขาทั้งสาขาหลักสา ขาย่อย คนที่ดูแลในราชวิทยาลัย วิทยาลัย หรือองค์กรชื่ออื่น ก็เป็นอาจารย์ในโรงเรียนแพทย์ส่วนใหญ่ ดังนั้นทางปฏิบัติ รรพ ก็เป็นผู้กำหนดวิธีการคัดเลือก ดำเนินการคัดเลือก dent fellow แต่เรื่องการใช้เส้น ไม่ใช่เส้น ก็เหมือนศาลนั่นแหละคนถูกตัดสินว่าผิดก็ไม่พอใจผู้พิพากษา ดูของสภาวิศวกรซึ่งควบคุมออกใบประกอบวิชาชีพซึ่มีหลายสาขา โดยทางสภาวิศวกรควบคุมเอง ดูท่าจะควบคุมสู้วิธีการของแพทยสภาไม่ได้
|
จากคุณ: หมอเมืองสยาม |
โพสเมื่อวันที่: 07/08/19 เวลา 19:16:23 |
อดเทรน(ถูกคัดออก)...เป็นไงรึ? - "รู้สึกเหมือนติดอยู่ในถังขี้"
|
จากคุณ: positive |
โพสเมื่อวันที่: 07/08/19 เวลา 20:21:34 |
on 07/08/19 เวลา 06:25:51, SantaNiCo wrote: โอ้โห้. ราชวิทลัยอะไรคะ. เส้นสายเยอะจัง แถมมีขู่อีก. ว่ารับสมัครกับแพทสภานี่ไม่ได้หรอก อนาจใจ |
| ผมว่าไม่ใช่เส้นสาย แต่เป็นการมาติดต่อ และ แสดงความมุ่งมั่นที่มากกว่า เมื่ออาจารย์ต้องเลือก ก็ย่อมจะให้คะแนนจากส่วนนี้ไปบ้าง ไม่มากก็น้อย เหมือนหนุ่มจีบสาว มาซักพัก กับ หนุ่มหน้าใหม่มาจีบ ไม่เคยเจอกันมาก่อน การเลือกหนุ่มที่จะมาอยู่ด้วยกัน ทำงานร่วมกันหลายปี ก็ต้องมีให้คะแนนคนจีบก่อนประมาณนึง อันนี้ไม่แปลกเลยครับ
|
จากคุณ: SantaNiCo |
โพสเมื่อวันที่: 07/08/19 เวลา 20:51:39 |
on 07/08/19 เวลา 20:21:34, positive wrote: ผมว่าไม่ใช่เส้นสาย แต่เป็นการมาติดต่อ และ แสดงความมุ่งมั่นที่มากกว่า เมื่ออาจารย์ต้องเลือก ก็ย่อมจะให้คะแนนจากส่วนนี้ไปบ้าง ไม่มากก็น้อย เหมือนหนุ่มจีบสาว มาซักพัก กับ หนุ่มหน้าใหม่มาจีบ ไม่เคยเจอกันมาก่อน การเลือกหนุ่มที่จะมาอยู่ด้วยกัน ทำงานร่วมกันหลายปี ก็ต้องมีให้คะแนนคนจีบก่อนประมาณนึง อันนี้ไม่แปลกเลยครับ |
| แหม. แก้ตัวเลยนะคะ แล้วทำไมต้องไปติดต่อก่อนค่ะ แสดงว่าระบบแมทซิ่งนี่คงหละหลวมสุดๆ. อาจารย์โรงเรียนแพทย์แทรกแซงการคัดเลือกได้ตามสบายสินะคะ
|
จากคุณ: Any_Obtion |
โพสเมื่อวันที่: 07/08/19 เวลา 22:25:28 |
จะเข้าที่ไหน ที่นั่นคัด ควรเป็นแบบนั้น ราชวิทยาลัย กับ แพทย์สภา กำหนดหลักการ กำหนด โควต้า
|
จากคุณ: Hippopotamus |
โพสเมื่อวันที่: 07/09/19 เวลา 01:46:23 |
บางสาขา ที่รู้ เค้าสัมภาษณ์ตั้งแต่ปลายเดือน พค ก็มีนะ
|
จากคุณ: Dr._Panya |
โพสเมื่อวันที่: 07/09/19 เวลา 10:14:50 |
ส่วนตัวแล้ว ผมคิดว่า... หากเป็นการสมัครเรียนในสาขา/ สถาบันที่มีการแข่งขันสูง เราควรจะติดต่อก่อนล่วงหน้าประมาณ (อย่างน้อย) 1 ปี ...แต่หากสมัครในสาขา/ สถาบันรอง เราควรจะติดต่อล่วงหน้าประมาณ (อย่างน้อย) 6 เดือน ครับ
|
จากคุณ: Dr._Panya |
โพสเมื่อวันที่: 07/09/19 เวลา 10:41:12 |
ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว วันที่เราไปสมัครเรียน เราก็ควรจะถามว่า ปีการศึกษาที่เรามาสมัครจะเรียน เค้ารับกี่คน+ เราเป็นผู้สมัครคนที่เท่าไหร่แล้ว (บางทีเค้าก็บอกเราเลยว่า ไม่รับ/ รับเราแล้วนะ ขอให้เรามาเรียนแน่ๆ ใน มิ.ย. ถัดไป)
|
จากคุณ: SantaNiCo |
โพสเมื่อวันที่: 07/09/19 เวลา 12:42:58 |
อ่านแล้วยอมแพ้เลย
|
จากคุณ: positive |
โพสเมื่อวันที่: 07/09/19 เวลา 14:12:51 |
on 07/08/19 เวลา 20:51:39, SantaNiCo wrote: แหม. แก้ตัวเลยนะคะ แล้วทำไมต้องไปติดต่อก่อนค่ะ แสดงว่าระบบแมทซิ่งนี่คงหละหลวมสุดๆ. อาจารย์โรงเรียนแพทย์แทรกแซงการคัดเลือกได้ตามสบายสินะคะ |
| ทำไมถึงคิดว่าผมแก้ตัว ? ผมเคยทำ ? ทำไมเราถึงไม่ควรติดต่อไปก่อนครับ ?
|
จากคุณ: positive |
โพสเมื่อวันที่: 07/09/19 เวลา 14:48:20 |
on 07/09/19 เวลา 12:42:58, SantaNiCo wrote: ก็ดีนะ
|
จากคุณ: luzeus |
โพสเมื่อวันที่: 07/16/19 เวลา 09:58:17 |
เขารับสมัครก่อนทุกปี รอแพทยสภาประกาศ เต็มหมดทุกที่ละค่ะ ตอนสมัยเราเรียนเกือบไม่ได้เรียน ไม่ทันคนอื่นเขา
|