ThaiClinic.Com - Post reply

หน้าแรกเว็บบอร์ด
   For MD.
   Doctor Room l ห้องพักแพทย์
   Post reply ( Re: Ori Yehudai นั่งแท่นประธานและนักลงทุนของ Sade Group )

หัวข้อ:
ใส่ชื่อ:
Email:

Add YABBC tags:
Add Smileys:	<more...>
ข้อความ:	[quote author=IQ link=board=doctorroom;num=1558425803;start=0#0 date=05/21/19 เวลา 15:03:23] คุณ Ori Yehudai กล่าวว่า "ผมซื้อบริษัทมาในราคา 3 ล้านดอลลาร์ และขายให้กับ IFF ในราคา 7.1 พันล้านดอลลาร์ในปี 2561 สำหรับผม ความสำเร็จของบริษัทแห่งนี้คือการสร้างบริษัทเวชภัณฑ์เชิงอุตสาหกรรมที่มีมาตรฐานเข้มงวดมากที่สุด เรามีโรงงานผลิตสองแห่งที่ได้มาตรฐาน และเราตระหนักถึงความสำคัญนี้ดี ทุกวันนี้ บางบริษัทไม่ตระหนักถึงความสำคัญในการปฏิบัติตามมาตรฐานและวิธีการลงทุนที่ประสบความสำเร็จในระยะยาว" คุณ Ori Yehudai อดีตซีอีโอและผู้ถือหุ้นบริษัท Frutarom ขายบริษัทที่ประสบความสำเร็จแห่งนี้ในปีที่แล้วด้วยมูลค่า 7.1 พันล้านดอลลาร์ จากนั้นได้มาลงทุนในฐานะหุ้นส่วนและประธานบริษัท Sade Group เพื่อนำพาองค์กรแห่งนี้ไปสู่ความสำเร็จ โดยเขาจะผนึกกำลังกับคุณ Yakir Gabay นักธุรกิจข้ามชาติชาวเยอรมันและมหาเศรษฐีแห่งวงการอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่และหุ้นส่วนใน Sade Group รวมถึงคุณ Ran Nussbaum ผู้ร่วมก่อตั้งและหุ้นส่วนผู้จัดการของ Pontifax Group บริษัทด้านการลงทุนที่ลงทุนในบริษัทเวชภัณฑ์และชีววิทยาศาสตร์ ภายใต้ความร่วมมือครั้งนี้ บริษัทกำลังระดมทุนเพื่อเข้าซื้อกิจการอื่นๆ และแหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับบริษัทคาดว่าจะมีการระดมทุนก้อนใหญ่เพิ่มเติมอีก เพื่อให้บริษัทสามารถดำเนินการตามแผนการขยายธุรกิจไปสู่ตลาดต่างๆทั่วยุโรปและภูมิภาคอื่นๆ บริษัท Sade Group ดำเนินธุรกิจครอบคลุมตั้งแต่การปลูกกัญชาไปจนถึงการผลิตเวชภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกัญชา โดยตั้งเป้าที่จะก้าวขึ้นเป็นบริษัทผู้ผลิตกัญชาทางการแพทย์ที่มีคุณภาพและทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งในปัจจุบัน องค์ความรู้ของบริษัทเกี่ยวกับต้นกัญชา ตั้งแต่ระดับพันธุศาสตร์ไปจนถึงผลผลิตขั้นสุดท้าย ทำให้บริษัทสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพเยี่ยมสู่ตลาดและช่วยยกระดับการดูแลรักษาผู้ป่วยให้ดียิ่งขึ้น เดิมที Sade Group ปลูกต้นกัญชาเพื่อวัตถุประสงค์ด้านการวิจัย จากนั้นได้ขยายไปสู่การปลูกเชิงพาณิชย์ ปัจจุบัน บริษัทวางแผนพัฒนาสายพันธุ์ใหม่ๆ โดยอิงการวิจัยทางคลินิกและเปลี่ยนผ่านสู่การผลิตเชิงอุตสาหกรรม เพื่อปูทางให้บริษัทสามารถสร้างแบรนด์ให้เป็นที่จดจำในวงกว้าง นอกจากนี้ บริษัทยังวางแผนขยายธุรกิจในช่องทางอื่นๆ ทั้งในวงการแพทย์ อาหาร และเครื่องสำอาง คุณ Ori Yehudai กล่าวเสริมว่า "หลังจากสำรวจอุตสาหกรรมใหม่นี้อย่างละเอียด ในที่สุดผมก็ตัดสินใจก่อตั้งบริษัทที่มีกลยุทธ์แข็งแกร่งและมีทีมงานทักษะสูงจากหลากหลายสาขาวิชา ซึ่งจะช่วยให้ Sade Group เป็นผู้นำในวงการนี้ เราจะวางรากฐานบริษัทให้เสร็จเรียบร้อยภายใน 6 เดือนข้างหน้า เพื่อก้าวสู่การเป็นบริษัทชั้นนำของโลกซึ่งจะต้องใช้เงินทุนจำนวนมหาศาล และเราจะดำเนินการระดมทุนต่อไป" ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม: โทร #305-933-4646 อีเมล: sadegroupinfo@gmail.com รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/887922/Sade_Group.jpg[/quote]

Disable Smilies

Topic Summary
จากคุณ: IQ	โพสเมื่อวันที่: 05/21/19 เวลา 15:03:23
คุณ Ori Yehudai กล่าวว่า "ผมซื้อบริษัทมาในราคา 3 ล้านดอลลาร์ และขายให้กับ IFF ในราคา 7.1 พันล้านดอลลาร์ในปี 2561 สำหรับผม ความสำเร็จของบริษัทแห่งนี้คือการสร้างบริษัทเวชภัณฑ์เชิงอุตสาหกรรมที่มีมา ตรฐานเข้มงวดมากที่สุด เรามีโรงงานผลิตสองแห่งที่ได้มาตรฐาน และเราตระหนักถึงความสำคัญนี้ดี ทุกวันนี้ บางบริษัทไม่ตระหนักถึงความสำคัญในการปฏิบัติตามมาตรฐานและวิธีการลงทุนที่ป ระสบความสำเร็จในระยะยาว" คุณ Ori Yehudai อดีตซีอีโอและผู้ถือหุ้นบริษัท Frutarom ขายบริษัทที่ประสบความสำเร็จแห่งนี้ในปีที่แล้วด้วยมูลค่า 7.1 พันล้านดอลลาร์ จากนั้นได้มาลงทุนในฐานะหุ้นส่วนและประธานบริษัท Sade Group เพื่อนำพาองค์กรแห่งนี้ไปสู่ความสำเร็จ โดยเขาจะผนึกกำลังกับคุณ Yakir Gabay นักธุรกิจข้ามชาติชาวเยอรมันและมหาเศรษฐีแห่งวงการอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่และหุ้นส่วนใน Sade Group รวมถึงคุณ Ran Nussbaum ผู้ร่วมก่อตั้งและหุ้นส่วนผู้จัดการของ Pontifax Group บริษัทด้านการลงทุนที่ลงทุนในบริษัทเวชภัณฑ์และชีววิทยาศาสตร์ ภายใต้ความร่วมมือครั้งนี้ บริษัทกำลังระดมทุนเพื่อเข้าซื้อกิจการอื่นๆ และแหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับบริษัทคาดว่าจะมีการระดมทุนก้อนใหญ่เพิ่มเติมอีก เพื่อให้บริษัทสามารถดำเนินการตามแผนการขยายธุรกิจไปสู่ตลาดต่างๆทั่วยุโรปแ ละภูมิภาคอื่นๆ บริษัท Sade Group ดำเนินธุรกิจครอบคลุมตั้งแต่การปลูกกัญชาไปจนถึงการผลิตเวชภัณฑ์ที่มีส่วนผส มของกัญชา โดยตั้งเป้าที่จะก้าวขึ้นเป็นบริษัทผู้ผลิตกัญชาทางการแพทย์ที่มีคุณภาพและท ันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งในปัจจุบัน องค์ความรู้ของบริษัทเกี่ยวกับต้นกัญชา ตั้งแต่ระดับพันธุศาสตร์ไปจนถึงผลผลิตขั้นสุดท้าย ทำให้บริษัทสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพเยี่ยมสู่ตลาดและช่วยยกระดับการดูแล รักษาผู้ป่วยให้ดียิ่งขึ้น เดิมที Sade Group ปลูกต้นกัญชาเพื่อวัตถุประสงค์ด้านการวิจัย จากนั้นได้ขยายไปสู่การปลูกเชิงพาณิชย์ ปัจจุบัน บริษัทวางแผนพัฒนาสายพันธุ์ใหม่ๆ โดยอิงการวิจัยทางคลินิกและเปลี่ยนผ่านสู่การผลิตเชิงอุตสาหกรรม เพื่อปูทางให้บริษัทสามารถสร้างแบรนด์ให้เป็นที่จดจำในวงกว้าง นอกจากนี้ บริษัทยังวางแผนขยายธุรกิจในช่องทางอื่นๆ ทั้งในวงการแพทย์ อาหาร และเครื่องสำอาง คุณ Ori Yehudai กล่าวเสริมว่า "หลังจากสำรวจอุตสาหกรรมใหม่นี้อย่างละเอียด ในที่สุดผมก็ตัดสินใจก่อตั้งบริษัทที่มีกลยุทธ์แข็งแกร่งและมีทีมงานทักษะสู งจากหลากหลายสาขาวิชา ซึ่งจะช่วยให้ Sade Group เป็นผู้นำในวงการนี้ เราจะวางรากฐานบริษัทให้เสร็จเรียบร้อยภายใน 6 เดือนข้างหน้า เพื่อก้าวสู่การเป็นบริษัทชั้นนำของโลกซึ่งจะต้องใช้เงินทุนจำนวนมหาศาล และเราจะดำเนินการระดมทุนต่อไป" ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม: โทร #305-933-4646 อีเมล: sadegroupinfo@gmail.com รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/887922/Sade_Group.jpg

Thai Medical Trading ขายเครื่องมือแพทย์มือสอง /และของใหม่ /ประกัน1ปี

ข้อความและรูปภาพที่ท่านเห็นส่วนใหญ่ ได้ถูกส่งมาจาก ทางบ้าน
ทางเว็บไซต์ Thaiclinic.com ไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ของข้อความและรูปภาพที่ถูกส่งมา
ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชนและส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ
เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้นเพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง
ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง
ถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมหรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล
หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ webmaster@thaiclinic.com หรือ กดแจ้งที่ปุ่ม "แจ้งลบกระทู้"
เพื่อให้ทีมงานทราบและทำการลบข้อความนั้นออกจากระบบต่อไป ขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกันทำให้สังคมน่าอยู่ครับ