Topic Summary
|
จากคุณ: jengirl |
โพสเมื่อวันที่: 05/01/19 เวลา 08:26:16 |
สงสัยตรงนี้หน่อย เรื่องระบบเอกชน รพ ในไทย สมมติเจอเคสหนัก ที่ต้อง consult กันหลายแผนก เช่น severe vasculitis, lupus แบบหนักๆมี multi-organ failure หรือ post-chemo, post-transplant ที่มี infection แบบนี้ส่วนมาก รพ เอกชน รักษาเองมั้ยคะ หรือส่งเข้าโรงเรียนแพทย์คะ
|
จากคุณ: น้ำเน่าในเงาจันทร์ |
โพสเมื่อวันที่: 05/01/19 เวลา 08:52:27 |
ส่วนใหญ่ถ้าเป็นคนไทยจ่ายเงินเอง เคสหนักๆพอได้diagnosisก็จะreferไปตามสิทธิ์ครับ ส่วนประกันไทยส่วนใหญ่วงเงินไม่มาก พอรักษาไปได้ซักระยะถ้ามันใกล้จะเกินวงเงินประกันคนไข้ ก็จะมาคุยกะคนไข้และญาติว่ารักษาต่อที่นี่ไหมหรืออยากให้ติดต่อส่งตัวไปตามส ิทธิ์ไหม ถ้าคนไข้จ่ายไหวก็อยู่ต่อ แต่ถ้าไม่ไหวก็ติดต่อreferโรงพยาบาลให้ตามสิทธิ์การรักษา ส่วนโรงพยาบาลผมมีคนไข้ต่างชาติสัดส่วนค่อนข้างมากมักจะมีประกันต่างชาติส่ว นใหญ่วงเงินจะมาก เช่น คนไข้aortic dissectionผ่าตัด แล้วก็นอนหลังผ่าได้เป็นเดือนไม่มีปัญหา ของผมเคยมีคนไข้ต่างชาติเป็นชาวswitzerland อายุ90ปีเป็นmultiple myeloma แบบplatelet เตี้ยเรี่ยดินต่ำกว่า20000 ต้องทำprocedureทางendoscopyหลายรอบ รวมทั้งsubtotal colectomy นอนโรงพยาบาลประมาณ2เดือนกว่า ประกันก็ครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งหมดครับ คนไข้หนักๆก็มีsubทุกหน่วยช่วยดู หลักๆก็จะเป็นพวก pulmo cardio, nephroมักจะมีส่วนร่วมเสมอในเคสหนักๆเคสที่นอนนานๆก็มีrehabมาช่วยดูด้วยทุก เคสครับ สรุปมันขึ้นอยู่กับคนไข้ไหวกับค่าใช้จ่ายหรือเปล่าครับ
|
จากคุณ: 6699 |
โพสเมื่อวันที่: 05/01/19 เวลา 12:58:31 |
หนักไม่เอา เบาสู้
|
จากคุณ: know555 |
โพสเมื่อวันที่: 05/01/19 เวลา 13:53:21 |
on 05/01/19 เวลา 08:26:16, jengirl wrote:สงสัยตรงนี้หน่อย เรื่องระบบเอกชน รพ ในไทย สมมติเจอเคสหนัก ที่ต้อง consult กันหลายแผนก เช่น severe vasculitis, lupus แบบหนักๆมี multi-organ failure หรือ post-chemo, post-transplant ที่มี infection แบบนี้ส่วนมาก รพ เอกชน รักษาเองมั้ยคะ หรือส่งเข้าโรงเรียนแพทย์คะ |
| รักษาได้ถ้าเงินถึงครับ แต่ส่วนใหญ่พอท้ายๆและหมดหวังแล้วมักไม่มีปัญญาสู้กับค่ารักษาที่แพงไหวครับ ต้องหาที่ลงใหม่ตามศรัทธานะครับ
|
จากคุณ: Hippo |
โพสเมื่อวันที่: 05/01/19 เวลา 18:44:28 |
เศรษฐกิจแบบนี้ คนไทยส่วนใหญ่สู้ไม่ไหวครับ ที่ผมเจอส่วนใหญ่แค่มา opd ครั้งแรกหรือมา second opinion เท่านั้นครับ ส่วนคนรวยก็รวยไปเลย นอนเป็นปียังได้
|
จากคุณ: jumpoo |
โพสเมื่อวันที่: 05/01/19 เวลา 18:58:36 |
ก็รักษาตามปกติ แต่ส่วนใหญ่ที่คนไข้เปลี่ยน รพ มักเกิดจาก finanial มากกว่า หรืออาจจะต้องการการรักษาบางอย่างที่มีจำเพาะคะ เอกชนมีspecialis ให้ consultอยู่คะ. ส่วนใหญ่จะเจอเก็บเคสไว้เองไม่ยอมส่งต่อมากกว่าถ้าเป็นเงินสด
|
จากคุณ: Robocop |
โพสเมื่อวันที่: 05/02/19 เวลา 20:12:12 |
เพื่อผลประโยชน์ของคนไข้ ส่ง consult ตามปัญหาที่มีครับ โรงพยาบาลใหญ่ๆ มีทุกสาขาให้ consult ทั้งนี้ทั้งนั้น คนไข้มีส่วนในการตัดสินใจรักษาด้วยทุกครั้งครับ
|
จากคุณ: Chimerism |
โพสเมื่อวันที่: 05/04/19 เวลา 11:30:14 |
ก็แล้วแต่คนไข้แหละค่ะ คุยไปเรื่อยๆยังไงก็ต้องบอกแนวโน้มไว้ก่อน ถ้าสู้ไม่ไหวขอย้ายเราก็ส่งต่อไป
|
จากคุณ: หมอเมืองสยาม |
โพสเมื่อวันที่: 05/08/19 เวลา 13:14:00 |
เจอเคสยากๆ ทำไง? - " ถ้าไม่มีเงินก็เทถังขยะ ครับ"
|
จากคุณ: yui |
โพสเมื่อวันที่: 05/10/19 เวลา 17:05:42 |
คนไข้หนัก ส่วนใหญ่จะเกิดปัญหา หาแพทย์เจ้าของไข้ไม่ได้. เพราะต้องรับผิดชอบสูง. ส่วนใหญ่แพทย์จะขอเป็นแค่ consultant เท่านั้น
|
จากคุณ: DrTarKrab |
โพสเมื่อวันที่: 05/11/19 เวลา 23:01:33 |
|
จากคุณ: สะกิดหลังทะลุถึงหัวใจ |
โพสเมื่อวันที่: 05/20/19 เวลา 17:31:12 |
นั่นเป็นเหตุผล ที่ รพ เอกชน ควรจะจ้างให้ หมอ รพ รัฐมาออกโอพีดี มาอยู่เวรนอกเวลา หรือ เวรคอนซัลท์ครับ โดยเฉพาะ รพ เอกชนขนาดเล็กที่ไม่มีทางหาหมอ sub specialty ครบ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมี เมื่อมี ปฏิสัมพันธ์ กัน การรีเฟอร์ การคอนซัลท์ ก็จะทำได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น ขณะที่พวกผู้บริหารที่วิสัยทัศน์แคบก็มักจะหาทางเลิกจ้างหมอพาร์ทไทม์ เพื่อประหยัดเงิน ถ้ายังทำไม่ถึงการันตี ก็บังคับฟูลไทม์เพิ่มชั่วโมงการทำงานเพิ่มเวร ฯลฯ บางที่ DF น้อยมาก ยังไงก็ไม่มีทางถึงการันตี เจอ รพ แบบนี้ควร เปลี่ยนที่ทำงาน
|