หน้าแรกเว็บบอร์ด หน้าแรกเว็บบอร์ด
   For MD.
   Doctor Room l ห้องพักแพทย์
   Post reply ( Re: Minor ward สาขาทำเงิน มีอะไรบ้างคะ )
ขอเชิญเพื่อนแพทย์พูดคุย แสดงความคิดเห็นครับ
หัวข้อ:
ใส่ชื่อ:
Email:
Add YABBC tags:
Add Smileys: <more...>
ข้อความ:

Disable Smilies




Topic Summary
จากคุณ: wanwan123 โพสเมื่อวันที่: 04/24/19 เวลา 12:27:24
อยากสอบถามว่า ถ้าเรียนเฉพาะทาง สาขาmionr  
ENT  Rehab Patho x ray  fammed  หรืออื่นๆ สาขาไหน เป็นสาขาทำเงินบ้างคะ
จากคุณ: หมอเมืองสยาม โพสเมื่อวันที่: 04/24/19 เวลา 12:59:09
   ....สาขาทำเงินก็เหมือนอาหารเช้าครับ  กินแล้วอิ่มทั้งวัน...
จากคุณ: wanwan123 โพสเมื่อวันที่: 04/24/19 เวลา 13:14:07
on 04/24/19 เวลา 12:59:09, หมอเมืองสยาม wrote:
                  ....สาขาทำเงินก็เหมือนอาหารเช้าครับ  กินแล้วอิ่มทั้งวัน...

 
 
งงคะ ตอบไม่ตรงคำถาม
จากคุณ: Sandoz โพสเมื่อวันที่: 04/24/19 เวลา 13:29:30
Patho
สาขานี้ในไทย จนมาก  
income 50,000-400,000 เท่านั้นครับ ทั้งประเทศมีอยู่ 600 คน รายได้ไม่มีเกินสี่แสน แต่ mode กับ median ไปกองที่ แสนต้นๆ เท่านั้น นี่ทำแบบสาหัสมากแล้วจนไม่มีเวลาพัก
สาขาอื่น 5 แสนต่อเดือนนี่ทำงานยังพอมีเวลาหายใจหายคอ และเป็นเงินที่คนกลางๆ สามารถเข้าถึงได้ ไม่ต้องระดับสตาฟ รรพ หรือ american board  
หมอสูติ เปิดคลินิก ได้เดือนละล้าน เงินเท่าพาโถทำงานทั้งปี  
 
ที่สำคัญ ไม่มีใครเห็นหัวเท่าไหร่ คนไข้ไม่รู้จัก clinician ก็ไม่รู้จัก
ธุรกิจที่เกี่ยวข้องมีเงินหมุนเวียนน้อย ไม่เหมือน clinician บริษัทยาทุ่มไม่อั้น ประชุมวิชาการ/ประชุมราชวิทยาลัย ดูระดับของโรงแรมก็แตกต่างแล้ว
ประเภทที่ว่ามีบริการพาทัวร์เมืองนอก ลืมไปได้เลยสำหรับ patho
จากคุณ: gundamwing โพสเมื่อวันที่: 04/24/19 เวลา 14:03:36
ดมยา, eye, skin, ENT ทำเงิน
จากคุณ: megacure โพสเมื่อวันที่: 04/24/19 เวลา 14:07:35
on 04/24/19 เวลา 13:29:30, Sandoz wrote:
Patho
สาขานี้ในไทย จนมาก  
income 50,000-400,000 เท่านั้นครับ ทั้งประเทศมีอยู่ 600 คน รายได้ไม่มีเกินสี่แสน แต่ mode กับ median ไปกองที่ แสนต้นๆ เท่านั้น นี่ทำแบบสาหัสมากแล้วจนไม่มีเวลาพัก
สาขาอื่น 5 แสนต่อเดือนนี่ทำงานยังพอมีเวลาหายใจหายคอ และเป็นเงินที่คนกลางๆ สามารถเข้าถึงได้ ไม่ต้องระดับสตาฟ รรพ หรือ american board  
หมอสูติ เปิดคลินิก ได้เดือนละล้าน เงินเท่าพาโถทำงานทั้งปี  
 
ที่สำคัญ ไม่มีใครเห็นหัวเท่าไหร่ คนไข้ไม่รู้จัก clinician ก็ไม่รู้จัก
ธุรกิจที่เกี่ยวข้องมีเงินหมุนเวียนน้อย ไม่เหมือน clinician บริษัทยาทุ่มไม่อั้น ประชุมวิชาการ/ประชุมราชวิทยาลัย ดูระดับของโรงแรมก็แตกต่างแล้ว
ประเภทที่ว่ามีบริการพาทัวร์เมืองนอก ลืมไปได้เลยสำหรับ patho

 
paragraph สุดท้ายคือมะเร็งร้ายขอววงการ
 
corruption กันจนไม่รู้สึกว่าผิดกันไปแล้ว
 
วงการเราต้องมีการปฏิรูป ถ้าจะก้าวหน้า แข่งขันกับนานาชาติได้
จากคุณ: simath โพสเมื่อวันที่: 04/24/19 เวลา 15:07:32
on 04/24/19 เวลา 14:03:36, gundamwing wrote:
ดมยา, eye, skin, ENT ทำเงิน

EYE ENT ทำเงินด้วยเหรอครับ ถ้าไม่ใช่แนวผ่าตัดเสริมความงาม เคยเห็นบางที่ให้การันตีน้อยกว่า med อีก
จากคุณ: crv01 โพสเมื่อวันที่: 04/24/19 เวลา 18:19:39
ผมว่าควรเปลี่ยนทัศนคติของแพทย์บ้าง.   ครูบาอาจารย์เคยสั่งสอนว่าเป็นแพทย์ไม่จนแต่ไม่รวย.  ถ้าท่านรักษาจริยธรรมแห่งวิชาชีพลาภยศสรรเสริญจะมาหาเอง.   ควรเลือกในสิ่งที่ชอบเหมาะสม. ทำแล้วมีความสุข.
จากคุณ: 6699 โพสเมื่อวันที่: 04/24/19 เวลา 19:27:31
ถ้าให้เราเลือกเรียนใหม่ เราคงจะเลือกเรียน Patho เคยเรียนกับ อจ.สำรวย ช่วงโชติประทับใจมาก แต่ตอนนั้น เมืองไทย ยังไม่มีเปิดเรียน Patho ถ้าจะเรียนต้องเรียนที่ต่างประเทศ และตอนนั้น มัวแต่ทำเรื่องความทุกข์ของชาวนา เพราะคิดว่า ทุกข์ของชาวนาคือทุกข์ของแผ่นดิน ร้องแต่เพลง เดือนเพ็ญ เลยไม่ได้เป็นอจ.มหาวิทยาลัย เลยไม่ได้เรียน patho
ส่วนตัว  เราไม่ค่อยต้องการยุ่งกับคนป่วย มองว่า การดูแต่ผลชิ้นเนื้อ และเข้าห้อง conference เพื่อประชุมวิชาการในผู้ป่วย เราก็มีความสุขในชีวิตแล้ว  เงินที่ได้ ก็พอที่จะอยู่ได้ ถ้าหากว่า นุ่งเจียมห่มเจียม กินน้อย ใช้น้อย  
ถึงเราจะเป็นหมอสูติ และมี sub board ติดท้ายนิดหน่อย แต่เราก็ไม่ได้เปิดรับคนไข้พิเศษ และเราก็ไม่ได้ซองอะไร รายได้ที่เราได้ ก็มีแต่เงินเดือน และเงินเพิ่มประจำตำแหน่ง แต่เราก็ชอบอ่าน pap smear ของคนไข้ของเราเอง ที่เราได้พิเศษ ส่วนมาก ก็เป็นกระเช้าผลไม้ ที่เราก็แบ่งกับผู้ร่วมงานของเรา เราแทบจะไม่เคยเอากลับบ้านเลย  
มองว่า รายได้ เราอาจจะไม่มาก เพราะไม่มีรายได้นอกรพ. แต่ก็พอที่จะอยู่ได้อย่างมีความสุข  
แต่เลือกเรียนใหม่ เราก็คงจะเปลี่ยนเป็นหมอ patho ไม่ต้องยุ่งกับผู้ป่วยมาก ไม่ต้องแบกรับความทุกข์ของคนไข้ เงินอาจจะน้อย แต่เมื่อเทียบกับความสุข น่าจะโอเค  
จากคุณ: Mr.Note โพสเมื่อวันที่: 04/24/19 เวลา 19:32:31
Ortho
จากคุณ: Sandoz โพสเมื่อวันที่: 04/24/19 เวลา 20:03:59
on 04/24/19 เวลา 18:19:39, crv01 wrote:
ผมว่าควรเปลี่ยนทัศนคติของแพทย์บ้าง.   ครูบาอาจารย์เคยสั่งสอนว่าเป็นแพทย์ไม่จนแต่ไม่รวย.  ถ้าท่านรักษาจริยธรรมแห่งวิชาชีพลาภยศสรรเสริญจะมาหาเอง.   ควรเลือกในสิ่งที่ชอบเหมาะสม. ทำแล้วมีความสุข.  

 
มันคงจะเป็นแบบนั้นได้ยากครับ
เพราะสังคมปัจจุบันมันเป็นสังคมของการแข่งขัน เปรียบเทียบที่รุนแรง
เธอได้ ฉันก็ต้องได้บ้าง นี่หมายรวมทุกอาชีพไม่เฉพาะหมอ
เงินมากและเวลาน้อยนี่คือสิ่งที่ทุกคนโฟกัส มากกว่า incentive อื่นๆ เช่นด้านความพอใจในเนื้องาน passion ฯลฯ
 
มันจะไม่มีปัญหาเท่านี้เลยถ้าช่องว่างของรายได้ของแต่ละสาขาไม่ได้ต่างขนาดน ี้ ถ้าต่างระดับ 20-30% ผมว่าคนจะไปมองเรื่องสไตล์มากขึ้น แต่นี่เล่นต่างเป็นสิบเท่าตัว เทียบ work hour ที่เท่ากัน แบบนี้ใครๆ ก็คงต้องคิดว่า จะไปเรียนสาขาจนๆ ทำไม ทั้งที่ตอน รรพ ความสามารถก็ไม่ได้ห่างกันสิบเท่า ทำไมรายได้ถึงห่างกันสิบเท่าได้ เป็นต้น
จากคุณ: Echo โพสเมื่อวันที่: 04/24/19 เวลา 20:19:10
on 04/24/19 เวลา 14:07:35, megacure wrote:

 
paragraph สุดท้ายคือมะเร็งร้ายขอววงการ
 
corruption กันจนไม่รู้สึกว่าผิดกันไปแล้ว
 
วงการเราต้องมีการปฏิรูป ถ้าจะก้าวหน้า แข่งขันกับนานาชาติได้

ผอ รพช ก็ไม่มีแล้วนะครับ เงินทอน เงิน% เงิน comission corruption หรือไปเที่ยวในนอกด้วยทุน บริษัทยา หรืออบรมวิชาการด้วยทุน บริษัทยา
จากคุณ: Xanz โพสเมื่อวันที่: 04/25/19 เวลา 01:24:39
อยากทำเงินลองรอเก็บราคาทองปีนี้ 18000-18300 ดูเทรนปีนี้ทองลง ความเห็นส่วนตัวราคาทองจริงๆควรประมาณ19000 แต่เด่วคนเอาทองไปลงหุ้นเพราะทองมันงอกแตกเป็นทรัพยากรไม่ได้เหมือนหุ้นคนเล ยเทขายทอง แต่มันทำให้ทองราคาต่ำกว่าความจริงถึงยังไงคนอยากได้ทองที่ไม่ได้เพื่อเกร็ง กำไรหรือลงทุนยังมีเก็บแล้วรอให้หุ้นแพงคือคนชื้อเยอะเกินพอเจ้าตลาดทุบ คนคงกลัวจนต้องกลับเก็บทองราคาสูงกว่าความจริงคิดว่าราวๆ20000 นี่เป็นการวิเคราะห์ส่วนตัวนะครับเชื่อไม่เชื่ออยู่ที่วิจารญาณ อยากทำเงินผมแนะนำศึกษาเรื่องการลงทุนครับวิเคราะห์ risk reward เหมือนแพทย์แหละเราอาศัยความรู้ลดrisk เพิ่มbenefits
จากคุณ: 6699 โพสเมื่อวันที่: 04/25/19 เวลา 06:41:06
on 04/25/19 เวลา 01:24:39, Xanz wrote:
อยากทำเงินลองรอเก็บราคาทองปีนี้ 18000-18300 ดูเทรนปีนี้ทองลง ความเห็นส่วนตัวราคาทองจริงๆควรประมาณ19000 แต่เด่วคนเอาทองไปลงหุ้นเพราะทองมันงอกแตกเป็นทรัพยากรไม่ได้เหมือนหุ้นคนเล ยเทขายทอง แต่มันทำให้ทองราคาต่ำกว่าความจริงถึงยังไงคนอยากได้ทองที่ไม่ได้เพื่อเกร็ง กำไรหรือลงทุนยังมีเก็บแล้วรอให้หุ้นแพงคือคนชื้อเยอะเกินพอเจ้าตลาดทุบ คนคงกลัวจนต้องกลับเก็บทองราคาสูงกว่าความจริงคิดว่าราวๆ20000 นี่เป็นการวิเคราะห์ส่วนตัวนะครับเชื่อไม่เชื่ออยู่ที่วิจารญาณ อยากทำเงินผมแนะนำศึกษาเรื่องการลงทุนครับวิเคราะห์ risk reward เหมือนแพทย์แหละเราอาศัยความรู้ลดrisk เพิ่มbenefits

 
ดีจังเลย ไม่ทราบท่านพอจะแนะนำแหล่งการศึกษา ตำรา หรือคนสอน เกี่ยวกับเรื่องนี้ได้หรือไม่ /ขอบคุณคะ
จากคุณ: jengirl โพสเมื่อวันที่: 04/25/19 เวลา 08:05:39
ข้อมูลรายได้วงการแพทย์เราในประเทศเหมือนเป็นความลับนะคะ ต้องถามคนรู้จักหากันเอาเอง ไม่มีการสำรวจหรือข้อมูลให้เห็น
จากคุณ: Dr._Panya โพสเมื่อวันที่: 04/25/19 เวลา 10:22:55
on 04/24/19 เวลา 19:27:31, 6699 wrote:
ถ้าให้เราเลือกเรียนใหม่ เราคงจะเลือกเรียน Patho เคยเรียนกับ อจ.สำรวย ช่วงโชติประทับใจมาก แต่ตอนนั้น เมืองไทย ยังไม่มีเปิดเรียน Patho ถ้าจะเรียนต้องเรียนที่ต่างประเทศ และตอนนั้น มัวแต่ทำเรื่องความทุกข์ของชาวนา เพราะคิดว่า ทุกข์ของชาวนาคือทุกข์ของแผ่นดิน ร้องแต่เพลง เดือนเพ็ญ เลยไม่ได้เป็นอจ.มหาวิทยาลัย เลยไม่ได้เรียน patho
ส่วนตัว  เราไม่ค่อยต้องการยุ่งกับคนป่วย มองว่า การดูแต่ผลชิ้นเนื้อ และเข้าห้อง conference เพื่อประชุมวิชาการในผู้ป่วย เราก็มีความสุขในชีวิตแล้ว  เงินที่ได้ ก็พอที่จะอยู่ได้ ถ้าหากว่า นุ่งเจียมห่มเจียม กินน้อย ใช้น้อย  
ถึงเราจะเป็นหมอสูติ และมี sub board ติดท้ายนิดหน่อย แต่เราก็ไม่ได้เปิดรับคนไข้พิเศษ และเราก็ไม่ได้ซองอะไร รายได้ที่เราได้ ก็มีแต่เงินเดือน และเงินเพิ่มประจำตำแหน่ง แต่เราก็ชอบอ่าน pap smear ของคนไข้ของเราเอง ที่เราได้พิเศษ ส่วนมาก ก็เป็นกระเช้าผลไม้ ที่เราก็แบ่งกับผู้ร่วมงานของเรา เราแทบจะไม่เคยเอากลับบ้านเลย  
มองว่า รายได้ เราอาจจะไม่มาก เพราะไม่มีรายได้นอกรพ. แต่ก็พอที่จะอยู่ได้อย่างมีความสุข  
แต่เลือกเรียนใหม่ เราก็คงจะเปลี่ยนเป็นหมอ patho ไม่ต้องยุ่งกับผู้ป่วยมาก ไม่ต้องแบกรับความทุกข์ของคนไข้ เงินอาจจะน้อย แต่เมื่อเทียบกับความสุข น่าจะโอเค  

 
อาจารย์ สำรวย ช่วงโชติ สอนดี+ เป็นแพทย์ที่ดีจริงครับ...แต่ตอนเรียน Patho.ตอนปี 6 เทอมปลาย (สอนทบทวนวิชาต่างๆ ก่อนสอบ ใบประกอบโรคศิลปะ/ ใบ ว. ) อาจารย์พูดเป็นเชิงปัจฉิมนิเทศน์ว่า... เป็นแพทย์หากอยากจะสบาย/ มีความสุข "ให้หาคู่ครองที่ฐานะร่ำรวย"  555
อาจารย์พูดอย่างนี้จริงๆๆๆๆๆ ผมยังจำได้ เลย อิ อิ อิ
จากคุณ: Thisway โพสเมื่อวันที่: 04/25/19 เวลา 13:23:03
ถ้าเลือกกลับไปเรียนได้จะไม่เรียนหมอครับ Tongue
จากคุณ: Thisway โพสเมื่อวันที่: 04/25/19 เวลา 13:24:22
on 04/24/19 เวลา 20:19:10, Echo wrote:

ผอ รพช ก็ไม่มีแล้วนะครับ เงินทอน เงิน% เงิน comission corruption หรือไปเที่ยวในนอกด้วยทุน บริษัทยา หรืออบรมวิชาการด้วยทุน บริษัทยา

 
 
ท่านผอ มาconfirm เอง Grin
จากคุณ: misspeaceful โพสเมื่อวันที่: 04/25/19 เวลา 15:15:17
เรียน minor มาก ๆ เวรน้อย ไม่ emer
 
ไม่รวย พออยู่ได้ 100-150k
 
พอเพียง ๆ Grin
จากคุณ: wanwan123 โพสเมื่อวันที่: 04/25/19 เวลา 17:02:39
on 04/25/19 เวลา 15:15:17, misspeaceful wrote:
เรียน minor มาก ๆ เวรน้อย ไม่ emer
 
ไม่รวย พออยู่ได้ 100-150k
 
พอเพียง ๆ Grin

 
 
Rehab นี่น้อยไหมคะ
จากคุณ: SeReE โพสเมื่อวันที่: 04/25/19 เวลา 17:14:48
เลือกที่ชอบแล้วทำให้ดีซิ  
ไม่น่าเชื่อ ว่า มาถึงยุค ที่ให้น้ำหนักเงิน ขนาดนี้
จากคุณ: Hybrid VI โพสเมื่อวันที่: 04/26/19 เวลา 00:34:06
on 04/24/19 เวลา 18:19:39, crv01 wrote:
ผมว่าควรเปลี่ยนทัศนคติของแพทย์บ้าง.   ครูบาอาจารย์เคยสั่งสอนว่าเป็นแพทย์ไม่จนแต่ไม่รวย.  ถ้าท่านรักษาจริยธรรมแห่งวิชาชีพลาภยศสรรเสริญจะมาหาเอง.   ควรเลือกในสิ่งที่ชอบเหมาะสม. ทำแล้วมีความสุข.  

คำพูดอาจารย์ มิใช่จะเป็นสิ่งที่ถูกต้องเสมอ
แพทย์ที่ดี รวยก็ได้ ไม่เห็นต้องเป็นแพทย์ที่ไม่รวย
จากคุณ: KPhysician โพสเมื่อวันที่: 04/26/19 เวลา 06:59:44
เห็นหมอศัลย อยู่รพ เอกชนพาร์ทไทม์ กลางกรุงรายได้เจ็ดหลักนะครับ
คิดว่าสาขาไมเนอร์ที่รวยน่าจะ หมอตา ผิวหนัง หูคอจมูก เหมือนคนอื่นๆนะครับ
ส่วนผมได้แค่หกหลักต้นๆก็บุญแล้วครับ เห็นด้วยครับว่าถ้าอยากรวย ทำธุรกิจรวยกว่า
จากคุณ: 6699 โพสเมื่อวันที่: 04/26/19 เวลา 12:14:18
on 04/25/19 เวลา 10:22:55, Dr._Panya wrote:

 
อาจารย์ สำรวย ช่วงโชติ สอนดี+ เป็นแพทย์ที่ดีจริงครับ...แต่ตอนเรียน Patho.ตอนปี 6 เทอมปลาย (สอนทบทวนวิชาต่างๆ ก่อนสอบ ใบประกอบโรคศิลปะ/ ใบ ว. ) อาจารย์พูดเป็นเชิงปัจฉิมนิเทศน์ว่า... เป็นแพทย์หากอยากจะสบาย/ มีความสุข "ให้หาคู่ครองที่ฐานะร่ำรวย"  555
อาจารย์พูดอย่างนี้จริงๆๆๆๆๆ ผมยังจำได้ เลย อิ อิ อิ

 
ฟังแล้วก็เศร้า เพราะเอาแค่หาคู่ครองก็ยากแล้ว ถ้าจะเอาคู่ครองรวย    ความยาก เป็นเลขยกกำลังเลย
จากคุณ: Dr._Panya โพสเมื่อวันที่: 04/27/19 เวลา 09:34:34
on 04/26/19 เวลา 12:14:18, 6699 wrote:

 
ฟังแล้วก็เศร้า เพราะเอาแค่หาคู่ครองก็ยากแล้ว ถ้าจะเอาคู่ครองรวย    ความยาก เป็นเลขยกกำลังเลย

 
ใช่ครับ...อาจารย์ คงจะหมายถึงว่า (ถ้าเป็นไปได้)ให้หาคู่ครองรวย เพื่อที่เราจะได้ดำรงตนเป็นแพทย์ที่ดี ตามคำสอนขอพระบิดาทางการแพทย์ได้ (โดยไม่ต้องใช้วิชาแพทย์ของตัวเองมาแสวงหาความร่ำรวย บนความทุกข์/ ความเจ็บป่วยของคนอื่น) ครับ
จากคุณ: philosophy โพสเมื่อวันที่: 04/27/19 เวลา 16:56:08
on 04/24/19 เวลา 14:07:35, megacure wrote:

 
paragraph สุดท้ายคือมะเร็งร้ายขอววงการ
 
corruption กันจนไม่รู้สึกว่าผิดกันไปแล้ว
 
วงการเราต้องมีการปฏิรูป ถ้าจะก้าวหน้า แข่งขันกับนานาชาติได้

 
 
เป็นความจริงในระบบทุนนิยม   ต้องยอมรับความจริงเพราะเราอยู่ในระบบนี้
 
ถูกผิด มีเส้นบางๆกั้นไว้
จากคุณ: philosophy โพสเมื่อวันที่: 04/27/19 เวลา 17:07:34
on 04/27/19 เวลา 09:34:34, Dr._Panya wrote:

 
ใช่ครับ...อาจารย์ คงจะหมายถึงว่า (ถ้าเป็นไปได้)ให้หาคู่ครองรวย เพื่อที่เราจะได้ดำรงตนเป็นแพทย์ที่ดี ตามคำสอนขอพระบิดาทางการแพทย์ได้ (โดยไม่ต้องใช้วิชาแพทย์ของตัวเองมาแสวงหาความร่ำรวย บนความทุกข์/ ความเจ็บป่วยของคนอื่น) ครับ

 
กด 1000 like
 
 
หมอรุ่นก่อนๆ มีความคิดเหมือนกันหมด คือ หากจะประกอบอาชีพหมอแล้วรวย นั้นเป็นไปได้ยาก
 
แต่หากอยากจะทำ คนที่จายเงินให้เรา ก็คือผู้ป่วยเรานั่นแหละ  เท่ากับว่า  หมอต้องไปเบียดเบียนผู้ป่วย ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม
 
เคยเห็นหมอ cardiac intervention ยุคแรก   รายได้ระดับเกิน 5 ล้านต่อเดือนนี้หาได้สบายเลย    
 
บางครั้ง  ราคาที่จ่ายในความเหมาะสมก็พูดกันยาก เพราะ ประเทศเราผูกกับระบบทุนนิยม   ซึ่งมีมาตรฐานอยู่ว่าราคาที่ควรจ่ายเท่าไหร่
 
 
ปล 1. ที่รวยในที่นี้หมายถึงมีทรัพย์สินเกิน 100 ล้านขึ้นไปครับ
 
     2.หมอที่รวย มีมาก ครับ แต่ ครึ่หนึ่งมาจากการประกอบอาชีพอื่นที่ไม่ใช่แพทย์  
 
https://home.kapook.com/view169718.html
จากคุณ: Sound_of_silence โพสเมื่อวันที่: 04/28/19 เวลา 14:39:41
นานๆจะเจอหมอที่คิดแบบ 6699 ครับ ข้าน้อยขอคารวะ ที่จริงรู้จักหมอแบบนี้อีกหลายคน อยู่แบบเจียมเนื้อเจียมตัว ไม่ค่อยมีคนรู้จัก ไม่ค่อยมีคนยกย่อง
จากคุณ: Auikung โพสเมื่อวันที่: 04/28/19 เวลา 18:22:56
ถ้าจะเอาเงินมาเป็นตัวตั้ง
อย่ามาเรียนหมอเลย
ค้าขายดีกว่า
จากคุณ: luzeus โพสเมื่อวันที่: 06/22/19 เวลา 11:15:14
ดมยา ไม่โอเคหรอกค่ะ โดนตามดึกดื่น อะไรก็ด่วน  
 
เอกซเรย์ดูโอเคกว่า  
 
 
ถ้าอยากรวยไปทำอย่างอื่นเถอะ ไม่ต้องมาเป็นหมอค่ะ
จากคุณ: SantaNiCo โพสเมื่อวันที่: 06/23/19 เวลา 07:59:08
on 04/28/19 เวลา 18:22:56, Auikung wrote:
ถ้าจะเอาเงินมาเป็นตัวตั้ง
อย่ามาเรียนหมอเลย
ค้าขายดีกว่า

เห็นต่างค่ะ
ถ้าหมอเป็นอาชีพที่ทำเงินได้.  เราจะเลือกเป็นหมอเพราะเงินก็ไม่ผิดค่ะ
ถ้าไม่do harmคนไข้


  • ข้อความและรูปภาพที่ท่านเห็นส่วนใหญ่ ได้ถูกส่งมาจาก ทางบ้าน
    ทางเว็บไซต์ Thaiclinic.com ไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ของข้อความและรูปภาพที่ถูกส่งมา

  • ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชนและส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ
    เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้นเพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง
    ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง

  • ถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมหรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล
    หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ webmaster@thaiclinic.com หรือ กดแจ้งที่ปุ่ม
    "แจ้งลบกระทู้"
    เพื่อให้ทีมงานทราบและทำการลบข้อความนั้นออกจากระบบต่อไป ขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกันทำให้สังคมน่าอยู่ครับ

ThaiClinic.Com . All Rights Reserved. !--BEGIN WEB STAT CODE-->

Powered by