หน้าแรกเว็บบอร์ด หน้าแรกเว็บบอร์ด
   For MD.
   Doctor Room l ห้องพักแพทย์
   Post reply ( Re: ประสบการณ์จากการทำงานคลีนิคในเครือรพ.แห่งหนึ่งไม่ห่างไกลจากกทม. )
ขอเชิญเพื่อนแพทย์พูดคุย แสดงความคิดเห็นครับ
หัวข้อ:
ใส่ชื่อ:
Email:
Add YABBC tags:
Add Smileys: <more...>
ข้อความ:

Disable Smilies




Topic Summary
จากคุณ: vit โพสเมื่อวันที่: 03/10/19 เวลา 16:35:29
   เริ่มต้นมาจากประกาศหาแพทย์ทำงานในเครือของรพ.แห่งหนึ่งที่ลงประกาศในเวปไซ ด์thaiclinic ที่เพื่อนสมาชิกแพทย์ส่วนใหญ่ได้ใช้เป็นแหล่งข้อมูลหางานประจำหรือขึ้นเวรชั ่วคราวกันอย่างกว้างขวางแห่งนี้เองครับ ผมเองก็ได้มาหาข้อมูลและได้ลองพูดคุยกับผอ.ที่เป็นเจ้าของเครือรพ.แห่งนี้ (บังเอิญเป็นแพทย์รุ่นพี่ที่เคยรู้จักกันมาก่อนตอนจบมาไม่นาน เพราะทำงานที่รพ.ชุมชนเดียวกันเมื่อ10กว่าปีก่อนด้วยครับ) ที่นี่มีรพ.แม่ข่าย1แห่ง มีรพ.ลูกข่ายขนาดเล็ก1แห่ง และมีคลีนิคอยู่ในจังหวัดติดๆกันอีก1แห่งที่เพิ่งซื้อกิจการมาได้ไม่ถึงปี ทางรพ.ต้องการแพทย์มาขึ้นเวรเพิ่มที่คลีนิคผมจึงได้มาเริ่มงานราวเดือนตุลาค ม2561 เป็นแพทย์ประจำที่ทำงานตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันพฤหัสบดี ขึ้นเวรทำงานปกติทั่วไปในระยะแรก และในเดือนถัดมาก็ขอขึ้นเวรที่รพ.ด้วยเนื่องจากที่คลีนิคมีคนไข้น้อยและไม่ห ลากหลายผมจึงได้ขอเวรที่รพ.แทนคลีนิค1วัน ผ่านไป2เดือนผอ.รพ.ก็จะแจ้งในที่ประชุมว่าสงสัยมีการทุจริตที่คลีนิคให้ช่วย ตรวจสอบการคีย์ชื่อคนไข้ที่ส่งมาให้ห้องตรวจว่าครบหรือเปล่า คือจริงๆผมก็ทราบมาอยู่แล้วว่าที่คลีนิคขาดทุนมาหลายเดือน แต่รุ่นพี่ผอ.ก็เหมือนกับต้องการฐานลูกค้าไว้เพื่อที่จะเปิดรพ.ต่อไปในภายหล ัง ผมก็คิดว่าจะทำงานไปก่อนอาจจะไปทำที่อื่นในภายหลัง คือลังเลว่าจะทำต่อในภาวะความเสี่ยงทางการเงินที่คาดเดาอะไรได้ยาก หรือจะไปติดต่อที่อื่นเอาไว้ดี แต่มันเหมือนไม่มีความรับผิดชอบที่มาสมัครทำงานแล้วอยู่ๆก็จะออกไปทำที่อื่น  คิดว่าควรจะอยู่ไปยาวๆถ้าไม่ติดปัญหาอะไรมากจริงๆ ก่อนหน้านี้ที่คลีนิคจะมีแพทย์ที่เวียนจากรพ.มาขึ้นเวรกันอยู่ 2คนผมมาอยู่ช่วยแบ่งเวรแพทย์เดิม ซึ่งผมก็เป็นคนใหม่และไม่เคยทราบปัญหาภายในมาก่อน ก็ทำงานตามหน้าที่ไปอะไรที่พอจัดการได้ก็ทำอะไรที่พอเสนอได้ก็แจ้งผู้บริหาร ไป ซึ่งตอนนั้นยังไม่ทราบว่าระบบทุกอย่างที่เป็นก็มาจากฝ่ายบริหารนี่แหละที่เข าวางไว้แบบนั้นแจ้งไปก็เท่านั้นเพราะทราบดีทุกอย่างอยู่แล้ว  
 
    ปัญหาแรกเกิดขึ้นช่วงกลางเดือนธ.ค. จนท.การเงินของคลีนิค ที่ทำงานเป็นผจก.คลีนิคไปด้วยเข้ามาแจ้งกับผมว่าเกิดปัญหาการเงินที่ไม่ได้โ อนเข้ารพ.เนื่องจากตนนำเงินไปใช้ส่วนตัว มีความเดือดร้อนยืมใครไม่ได้จึงมาขอร้องเพื่อมาขอยืมเงิน ผมเองก็ไม่ได้ระมัดระวังอะไรมากมีคนมาขอร้องและคิดว่าพอจะให้ยืมได้แต่ต้องร ีบคืนเงินก็เลยยอมช่วยเหลือไป จริงๆก็แปลกใจมากว่ามีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นด้วยเหรอ เพราะไม่เคยทราบเรื่องส่วนตัวของจนท.มากนักและไม่คิดว่าน่าจะมีเรื่องแบบนี้ เกิดขึ้น ต่อมาใกล้กำหนดนัดวันคืนเงินก็เงียบ มีการมาผัดผ่อนภายหลังซึ่งผมก็ยื่นคำขาดว่าจะยืดเยื้อไม่ได้ ให้โอกาสผัดผ่อนแต่ต้องภายในไม่กี่วัน ตรงนี้ผมก็ตัดสินใจว่าจะไม่มีการตามทวงเงินอีกเพราะผมไม่ควรจะต้องมาเดือดร้ อนในเรื่องนี้ ถ้าจะไม่คืนเงินผมก็จะดำเนินการตามขั้นตอนที่ต้องแจ้งผอ.รพ. และแจ้งความดำเนินคดีถ้าจัดการไม่ได้จริงๆ ระหว่างนี้จะถึงช่วงสิ้นปีที่จะปิดคลีนิคยาว ผมก็แจ้งแล้วว่าต้องคืนเงินที่ยืมมาให้ได้จนท.ที่ยืมเงินไป ขอผัดผ่อนเป็นรอบที่3 ซึ่งผมก็แจ้งไปแล้วว่าผมไม่ควรช่วยไปตั้งแต่แรกเพราะเป็นเรื่องไม่ถูกต้องแล ะผมไม่ควรจะต้องเดือดร้อนอะไรเลย จะต้องแจ้งทางรพ.ถ้ายังมีปัญหา มาถึงวันกำหนดคืนเงินจนถึงช่วงเย็นผมก็ไม่ได้รับแจ้งคืนเงินผมจึงโทรคุยกับผ อ.ว่าเกิดอะไรขึ้น และจะต้องแจ้งความหากถูกเบี้ยวไปจริงๆ ผอ.ก็บอกว่าหลังปีใหม่ยังไม่ได้เงินคืนก็แจ้งความได้เลย และจะให้จนท.คนนี้ออกจากงาน ค่ำๆวันนั้นผมก็ได้เงินโอนเข้ามาใช้หนี้จนครบ ตรงนี้ผมก็ไม่ได้คุยกับจนท.คนนั้นอีกเนื่องจากหยุดปีใหม่  
 
     จบไปครึ่งเรื่อง ตอนสำคัญเกิดขึ้นหลังจากหยุดปีใหม่ วันที่ผมขับรถมาก่อนวันทำงานหนึ่งวันมีเลขาแพทย์โทรมาตอน6โมงเย็นว่าคลีนิคจ ะปิดกะทันหันคือไม่ต้องขึ้นเวรที่คลีนิคแล้ว ยังไม่มีรายละเอียดด้านอื่นที่จะแจ้ง ผมก็ไม่เคยระแคะระคายอะไรมาก่อน สอบถามเรื่องเวรว่าจะขึ้นวันไหนบ้างที่รพ.ยังจัดเวรให้เหมือนเดิมรึเปล่าก็ย ังให้คำตอบไม่ได้ ความจริงผมเคยคาดการณ์มาก่อนว่าจะไปขึ้นเวรที่รพ.เพราะที่คลีนิคเคยมีปัญหาเ รื่องการจ่ายยาที่นอกเหนือorderแพทย์ โดยจนท.ที่เคาน์เตอร์(คนที่เป็นผจก.และโกงเงิน) ซึ่งเป็นนโยบายของรพ.ที่อยากจะเก็บเงินผู้ป่วย และผมเคยแจ้งไปทางผอ.แล้ว แต่ตอนหลังก็รู้ว่าไม่มีประโยชน์จึงขอย้ายไปทำงานอยู่รพ.แทน ผมจึงมีเวรที่รพ.1คืนต่อสัปดาห์ และเวรแทนคนขาดในเดือนม.ค.อีกประมาณ3-4วันครับ หลังจากที่แจ้งว่าคลีนิคนี้ปิด วันต่อมาผอ.รพ.ก็โทรมาแจ้งว่ามีปัญหาการเงินเพราะที่คลีนิคขาดทุนร่วมกับมีจ นท.ทุจริตจึงให้ปิดคลีนิคกะทันหัน ไม่มีคนมาดูแลการทำงานที่คลีนิค ผอ.ต้องการดูแลธุรกิจที่รพ.ที่ทำเงินให้มากกว่า แต่ก็ไม่ได้บอกว่าจะเปิดหรือปิดคลีนิคถาวร และเวรผมเองจะจัดการอย่างไร ขอไปหาคนร่วมทุนที่คลีนิคก่อน ผ่านไปอีก3วันก็โทรมาใหม่โดยพยายามโน้มน้าวให้ผมออกเงินร่วมทุนทำคลีนิค5แสน บาท ซึ่งผมแจ้งตั้งแต่ครั้งแรกที่คุยแล้วว่าไม่ต้องการทำธุรกิจเพราะผมไม่ได้มีเ ป้าหมายที่การสร้างรายได้จำนวนมากอยู่แล้วคุยกันอยู่40นาที 30นาทีคุยแต่เรื่องให้มาร่วมหุ้นคลีนิคและมาบริหารจัดการแทนซึ่งผมก็แย้งไปว ่าไม่จำเป็นต้องเป็นรูปแบบนี้สามารถช่วยเหลือตามหน้าที่และช่วยดูแลการทำงาน โดยรวมได้ แต่ตัวผอ.เองมีความเชื่อว่าหมอต้องมีส่วนได้ส่วนเสียในธุรกิจจึงจะมีกำไรได้ ไม่ใช่เรื่องการรูปแบบการรับผู้ป่วยที่ใช้สิทธิ์ต่างๆ การทำการตลาด การจัดรายการยาเพิ่ม สรุปก็คือไม่เปิดคลีนิคต่อเพราะปัญหาการเงิน การบริหารจัดการจากรพ. และไม่มีผู้ร่วมทุน ผมก็ไม่ได้เรียกร้องอะไรเพียงแต่เวรที่จะขึ้นที่รพ.จะจัดให้อย่างไรบ้าง จากการคุยและlineไปถามก็ไม่มีคำตอบกลับมาอีกเลยครับ คือถ้าผมไม่ยอมออกเงินร่วมหุ้นทำคลีนิค เวรที่รพ.ก็เลยไม่ยอมจัดให้ด้วยทั้งที่เคยจัดเวรไว้ล่วงหน้าแล้ว อันนี้มาจากวิสัยทัศน์ในการทำธุรกิจเหรอครับ เป็นแพทย์แต่มีความเป็นนักธุรกิจจนหาเหตุผลที่จะคบหาไม่ได้เลย เป็นอุทาหรณ์ที่ผมอยากมาบอกต่อเผื่อแพทย์หรือบุคลากรท่านอื่นๆได้ทราบ เรียนรู้ร่วมกัน คิดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นแน่ๆครับ ผมจะไม่กล่าวถึงชื่อบุคคลและสถานที่ที่เกี่ยวข้องเพราะไม่ได้ต้องการกล่าวร้ ายโดยตรงกับใคร การที่ไม่ทำงานร่วมด้วยก็ถือเป็นความถูกต้องแล้วครับ Thanks
จากคุณ: Dr._Panya โพสเมื่อวันที่: 03/10/19 เวลา 17:35:26
เหมือนคนเล่นการพนัน/ เล่นหุ้น พอขาดทุน/ ชักหน้าไม่ถึงหลัง หรือเริ่มมีหนี้สิน...จะคิดอะไรไม่ออก/ มองไปทางไหนก็จะ หน้ามืดตามมัวไปหมด ฯลฯ
เข้าใจว่า นอกจากคลินิกเครือข่ายที่ไม่รอด/ ที่ต้องปิดตัวลงไป ก็น่าจะ/ เริ่มจะ มีปัญหาการขาดทุนใน รพ.แล้วเช่นกัน มั้งครับ
ท่านควรจะค่อยๆ ปลีกตัวออกมา อย่างช้าๆ/ เงียบๆ ครับ ขืนร่วมลงทุนไปด้วยก็น่าจะขาดทุนอีก ไม่ต่างจาก "เอามือซุกหีบ" ครับ
จากคุณ: crv01 โพสเมื่อวันที่: 03/10/19 เวลา 18:09:21
ถอนตัวออกมาดีกว่า.  เปิดเองเลย
จากคุณ: 6699 โพสเมื่อวันที่: 03/11/19 เวลา 05:38:19
ถ้ามันไม่ใช่ ก็เลิกแล้วต่อกันไป
จากคุณ: jumpoo โพสเมื่อวันที่: 03/11/19 เวลา 09:17:56
รบกวนหลังไมค์บอกชื่อ รพ ได้ไหมค่ะ จะได้ระวังไว้
จากคุณ: know555 โพสเมื่อวันที่: 03/12/19 เวลา 20:17:33
ไม่โดนโกงค่าเวรก็บุญละครับ Cheesy
จากคุณ: KPhysician โพสเมื่อวันที่: 03/13/19 เวลา 04:21:38
ขอทราบชื่ิอ รพ ด้วยคนครับ ถ้าไม่รบกวนเกินไป หลังไมค์ได้ครับ
จากคุณ: หมอเมืองสยาม โพสเมื่อวันที่: 03/19/19 เวลา 12:46:14
      ปัญหาตอนนี้ ? -" เหมือนริดสีดวงขึ้นเต็ม"
จากคุณ: หมอเมืองสยาม โพสเมื่อวันที่: 03/20/19 เวลา 08:22:08
      ปัญหาตอนนี้ เป็นไง? - " เหมือน...เมากาว"
จากคุณ: หมอเมืองสยาม โพสเมื่อวันที่: 03/21/19 เวลา 13:50:41
    ทำยังไงดี ? -  คลินิกเครือข่าย   แปลว่ามีลมใต้ปีก   ให้ดูที่ลมใต้ปีก   ส่วนฐานะพนักงานให้ดูผลประโยชน์ที่จับต้องได้....
จากคุณ: หมอเมืองสยาม โพสเมื่อวันที่: 03/22/19 เวลา 13:37:54
       ทำไงดี ? - "  เป็นกระผมจะรีบไสหัวออกไป ครับ"


  • ข้อความและรูปภาพที่ท่านเห็นส่วนใหญ่ ได้ถูกส่งมาจาก ทางบ้าน
    ทางเว็บไซต์ Thaiclinic.com ไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ของข้อความและรูปภาพที่ถูกส่งมา

  • ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชนและส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ
    เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้นเพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง
    ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง

  • ถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมหรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล
    หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ webmaster@thaiclinic.com หรือ กดแจ้งที่ปุ่ม
    "แจ้งลบกระทู้"
    เพื่อให้ทีมงานทราบและทำการลบข้อความนั้นออกจากระบบต่อไป ขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกันทำให้สังคมน่าอยู่ครับ

ThaiClinic.Com . All Rights Reserved. !--BEGIN WEB STAT CODE-->

Powered by