หน้าแรกเว็บบอร์ด หน้าแรกเว็บบอร์ด
   For MD.
   Doctor Room l ห้องพักแพทย์
   Post reply ( Re: อยากปรึกษาเรียนต่อสูติครับ )
ขอเชิญเพื่อนแพทย์พูดคุย แสดงความคิดเห็นครับ
หัวข้อ:
ใส่ชื่อ:
Email:
Add YABBC tags:
Add Smileys: <more...>
ข้อความ:

Disable Smilies




Topic Summary
จากคุณ: yuki0109 โพสเมื่อวันที่: 02/21/19 เวลา 22:32:41
สวัสดีครับ ผมเป็นintern1 ครับ
กำลังวางแผนเรื่องการเรียนต่อ ตอนนี้สองจิตสองใจระหว่าง
medกับสู ทางบ้านอยากให้เรียนmed แต่ผมชอบมาทางสูมากกว่า
ผมมีเรื่องอยากมาปรึกษาดังนี้ครับ
 
1.ปัจจุบันการแข่งขันเรียนสู แข่งขันประมาณไหนครับ profileต้องดีมากมั้ยครับ ผมเกรดดีครับ แต่ว่าจบจากสถาบันรองๆ เลยกลัวว่าจะทำให้โอกาสน้อยลง (แต่เข้าใจว่า ส่วนนึง ก็อยู่ที่ตัวเรา)
 
2.เหตุผลที่ที่บ้านไม่อยากให้เรียนสู เพราะเรื่องปัญหาฟ้องร้อง แต่เรื่องนี้ผมคิดว่า ไม่ใช่เหตุผลที่จะทำให้ไม่เลือกเรียน ผมเลยไม่ได้นำมาเป็นประเด็น
 
3.การเป็นผู้ชาย ทำให้โอกาสในการเรียนสู ลดน้อยลงไหมครับ
 
4.ภาระงานของสู ในรพรัฐหนักมากแค่ไหนครับ  
 
5.ปกติแล้วหมอสูมีรายได้เฉลี่ยประมาณเท่าไรครับ รัฐกับเอกชน ต่างกันมากน้อยแค่ไหนครับ เปิดคลินิคเวิร์คมั้ยครับ
 
ขอบคุณมากครับ
จากคุณ: Dr._Panya โพสเมื่อวันที่: 02/22/19 เวลา 09:34:05
ตอบ...(จากความเห็น/ ประสบการณ์ ส่วนตัว ถือว่า Share Experience เฉยๆนะครับ อิ อิ อิ)
1. ถ้าสมัครเรียนต่อที่สถาบัน หรือ โรงเรียนแพทย์ระดับรองๆ/ ชานเมือง โปรไฟล์ไม่ต้องดีมากนักก็ได้ เพราะว่าการแข่งขันไม่สูงมากๆๆเท่าโรงเรียนแพทย์ชั้นนำแน่นอนครับ....เพราะถ ้าโปรไฟล์ดีมากๆๆอยู่แล้ว ก็ลองไปสมัครโรงเรียนแพทย์ชั้นนำไม่ดีกว่า(เรอะ)
2. ทำหัตถการต่างๆตาม indications ต่างๆ+ มีแพทย์รุ่นพี่ หรืออาจารย์แพทย์รับทราบเสมอ เราก็ไม่(น่าจะ)ผิดนิ
3. สูติ/ เมด...ไม่มีปัญหาเกี่ยวกับเพศเลยครับ (ไม่เหมือนกับ ออร์โธ/ ศัลย์ ที่จุฬาฯ ในสมัยก่อน ที่จะบอกไว้ก่อนเลยว่าไม่รับผู้หญิงแน่นอน นอกจากเอาทุนมา หรือเส้นสายใหญ่โตมากๆๆ เพราะว่าถ้า "ตาย" ระหว่างเทรนจะไม่รับผิดชอบนะ 555)
4. หนักแน่อนครับ (เมด ก็น่าจะหนักกว่าด้วยซ้ำ)
5. เงินเดือนของข้าราชการใน รพ.ของรัฐก็ได้ตามแท่ง/ ตามซี...แต่หมอสูติจะได้พิเศษต่อเดือนเพิ่มอีกเยอะ จากการรับดูแลเคสไปรเวทในรพ. (โดยไม่จำเป็นต้องเปิดคลินิก)...ส่วนใน รพ.เอกชนการันตีของเงินเดือนจะพอๆกัน แต่ว่าหมอสูติ(น่าจะ)ได้เงินพิเศษมากกว่านิดหน่อยมั้ง เพราะว่าน่าจะค่าหัตถการ/ ผ่าตัดอีกด้วย (ซึ่งถ้าสามารถเก็บเงินจากผู้ป่วยเพิ่มด้วย แพทย์ผู้ทำหัตถการก็น่าจะได้รับเปอร์เซนต์เพิ่มด้วย...ไม่ใช่เหมาจ่ายเหมือน กับการตรวจผู้ป่วยใน โอพีดี ของเมด/ สูติ )
จากคุณ: Chimerism โพสเมื่อวันที่: 02/22/19 เวลา 09:48:53
1.การแข่งขันสูงมาหลายปีแล้วค่ะ ถ้าสถาบันรองก็แนะนำสมัครสถาบันรองหรือศูนย์แพทย์ค่ะ  
(เท่าที่สังเกตก็สูงทุกสาขา น่าจะเพราะความไม่สมดุลของการปล่อยทุนด้วยค่ะ)
 
2.เรื่องฟ้องร้อง เป็นอาร์ตในการดีล และรวมถึงดวง
หมอ practice ห่วย แต่คนไข้เชื่อหมดใจก็มีค่ะ
 
3.พูดถึงโอกาสในการเรียน คิดว่าไม่เกี่ยวค่ะ
ทำงานลำบากมั้ย คิดว่ามีผลนิดหน่อยค่ะ  
อย่างน้อยก็อยู่ตามลำพังกับคนไข้ไม่ได้แน่ๆ
 
4.ภาระงานใน รพ.รัฐ หนักมั้ย ก็คงแล้วแต่ว่าจะไปอยู่ที่ไหนค่ะ
คิดว่าหนักเหมือนแผนกหลักอื่นๆแต่มันคนละแนว
เมดจะหนักแน่นๆ สูติจะหนักเป็นพักๆแต่พีคๆ
 
5.หมอสูติ รพ.รัฐ ถ้าไม่ทำคลินิก น่าจะราวๆ 5-6 หมื่นในช่วงปีแรกๆ
ขึ้นกับว่าทำผลงานเลื่อนระดับได้เร็วมั้ย
รพ.เอกชนก็แล้วแต่ว่าอยู่ ตจว.หรือ กทม.ค่ะ
ส่วนรายได้จากการฝากพิเศษ กำลังจะ out แล้วค่ะ  
หลายๆที่เริ่มออกนโยบายลดละ ตัดกำลัง เช่น ห้ามเปิด OR
แต่ก็อาจจะยังมีอยู่ในระยะ 10 ปีนี้
 
ถ้าอยากมีรายได้เพิ่มอาจจะมาในรูป
1.ออกตรวจเอกชน
2.คลินิกพิเศษใน รพ.รัฐ
จากคุณ: หมอเมืองสยาม โพสเมื่อวันที่: 02/22/19 เวลา 18:47:13
    สอบสัมภาษณ์ , เคล็ดลับ? -  พูดให้กรรมการฟังจับต้นชนปลายไม่ถูก  แค่นั้น...
จากคุณ: lui_fong โพสเมื่อวันที่: 02/23/19 เวลา 08:37:23
Grin
จากคุณ: Ray1 โพสเมื่อวันที่: 02/23/19 เวลา 16:15:03
การสอบแพทย์ประจำบ้านสูติของโรงเรียนแพทย์ top three ในกทมจะทำการสอบพร้อมกันในวันเดียวกัน บางสถาบันมีการสอบข้อเขียนภาษาอังกฤษ reading,listening and writing, วิชาทางการแพทย์ และ สอบสัมภาษณ์ ผู้เข้าสอบส่วนใหญ่มักเป็นลูกหม้อ ผู้มีทุนจากต่างสถาบันมีไม่มาก การแข่งขันสูง เคยเห็นลูกหม้อครึ่งหนึ่งของจำนวนที่รับต้องเสียใจและรอสมัครสถาบันรองลงมาเ พราะสอบภายหลังรอคนหลุดจาก top three หรึอรอสอบปีต่อมาในปีที่สองบางคนก็อึดมาสอบปีที่สาม
จากคุณ: น้ำเน่าในเงาจันทร์ โพสเมื่อวันที่: 02/23/19 เวลา 19:41:28
เรียนmed จนจริงครับ  ถ้าไม่ใช่subที่ทำหัตถการได้
ไปเรียนพวกที่มีหัตถการดีกว่าครับ
ให้กลับไปเรียนใหม่ผมยังอยากไปเรียนดมยาหรือออร์โธเลย เคสโคตรเยอะในโรงพยาบาลเอกชนที่ผมอยู่นะ
 
จากคุณ: Dr._Panya โพสเมื่อวันที่: 02/25/19 เวลา 09:56:58
Residents 1 ของ รพ.จุฬาฯ โดยเฉพาะในแผนก สูติ- ศัลย์- เมด- เด็ก...จะห้ามรับจ๊อบ เด็ดขาด
ถ้าอาจารย์ที่ควบคุม Residents Training รู้เข้า/ ภาควิชาฯรู้ จะแจ้งก่อนว่าให้เลิกรับจ๊อบซะ (residents มักจะอ้างว่า มีปัญหาทางการเงิน/ ต้องใช้เงินเยอะ เช่น พ่อแม่ ลูก ญาติ ต้องผ่าตัดใหญ่/ รถชน/ มีคดี ฯลฯ)
หากไม่เลิกรับจ๊อบ ก็ต้อง Off Residents Training เพราะว่าเป็น กฎ/ กติกา ที่เขียนและบอกไว้ก่อนแล้ว ถ้าไม่ไล่ออกเดี๋ยวกติกาไม่ศักดิ์สิทธิ์ อิ อิ อิ)
จากคุณ: yuki0109 โพสเมื่อวันที่: 02/25/19 เวลา 11:29:13
on 02/25/19 เวลา 09:56:58, Dr._Panya wrote:
Residents 1 ของ รพ.จุฬาฯ โดยเฉพาะในแผนก สูติ- ศัลย์- เมด- เด็ก...จะห้ามรับจ๊อบ เด็ดขาด
ถ้าอาจารย์ที่ควบคุม Residents Training รู้เข้า/ ภาควิชาฯรู้ จะแจ้งก่อนว่าให้เลิกรับจ๊อบซะ (residents มักจะอ้างว่า มีปัญหาทางการเงิน/ ต้องใช้เงินเยอะ เช่น พ่อแม่ ลูก ญาติ ต้องผ่าตัดใหญ่/ รถชน/ มีคดี ฯลฯ)
หากไม่เลิกรับจ๊อบ ก็ต้อง Off Residents Training เพราะว่าเป็น กฎ/ กติกา ที่เขียนและบอกไว้ก่อนแล้ว ถ้าไม่ไล่ออกเดี๋ยวกติกาไม่ศักดิ์สิทธิ์ อิ อิ อิ)

 
แล้วของ รพ จุฬาฯ รับเด็กที่ไม่ลูกหม้อบ้างมั้ยครับ
จากคุณ: Dr._Panya โพสเมื่อวันที่: 02/25/19 เวลา 17:14:07
on 02/25/19 เวลา 11:29:13, yuki0109 wrote:

 
แล้วของ รพ จุฬาฯ รับเด็กที่ไม่ลูกหม้อบ้างมั้ยครับ

 
ก็เห็น Residents ที่จบสถาบันอื่นๆบ้างเหมือนกันครับ แต่ว่าเป็นสัดส่วนประมาณ 1/4 หรือ 1/5 ของลูกหม้อครับ (แล้วแต่แผนกครับ)...แต่ว่าแน่อนล่ะว่า Residents ต่างถิ่นเหล่านั้น Profiles ดี+ มีทุนฯ+ มีเส้นสาย แน่นอนครับ อิ อิ อิ
จากคุณ: หมอเมืองสยาม โพสเมื่อวันที่: 03/05/19 เวลา 19:39:15
      เคล็ดลับ.....สอบสัมภาษณ์ ? -" ผู้ชายนุ่งกางเกงรัดเป้า   ผู้หญิงเสื้อลายดอกไม้สีแรงๆ ".
จากคุณ: Auikung โพสเมื่อวันที่: 03/11/19 เวลา 12:05:44
บางรพ.จะเลือกเพศ รับเพศ ญ เป็นหลัก
คนไข้บางคนก็ตรวจกับพญ.มากกว่า
เรียนสูติ ไม่จำเป็นต้องทำคลอด
ยังมีสาขาอื่นให้เรียน เช่น มะเร็ง imaging
 
ทุกสาขาของแพทย์มีโอกาสเรียนต่อ
ขึ้นอยู่กับโอกาส ความสนใจ ทุน


  • ข้อความและรูปภาพที่ท่านเห็นส่วนใหญ่ ได้ถูกส่งมาจาก ทางบ้าน
    ทางเว็บไซต์ Thaiclinic.com ไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ของข้อความและรูปภาพที่ถูกส่งมา

  • ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชนและส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ
    เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้นเพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง
    ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง

  • ถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมหรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล
    หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ webmaster@thaiclinic.com หรือ กดแจ้งที่ปุ่ม
    "แจ้งลบกระทู้"
    เพื่อให้ทีมงานทราบและทำการลบข้อความนั้นออกจากระบบต่อไป ขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกันทำให้สังคมน่าอยู่ครับ

ThaiClinic.Com . All Rights Reserved. !--BEGIN WEB STAT CODE-->

Powered by