หน้าแรกเว็บบอร์ด หน้าแรกเว็บบอร์ด
   For MD.
   Doctor Room l ห้องพักแพทย์
   Post reply ( Re: ทัศนคติของประชาชนต่อวงการแพทย์เปลี่ยนไปแล้ว !! )
ขอเชิญเพื่อนแพทย์พูดคุย แสดงความคิดเห็นครับ
หัวข้อ:
ใส่ชื่อ:
Email:
Add YABBC tags:
Add Smileys: <more...>
ข้อความ:

Disable Smilies




Topic Summary
จากคุณ: megacure โพสเมื่อวันที่: 11/26/18 เวลา 21:29:54
https://m.pantip.com/topic/38285369
 
https://www.facebook.com/141108613290/posts/10157069002878291/
 
ประชาชนส่วนใหญ่ เห็นว่าวิชาชีพสาธารณสุข และโรงพยาบาลรัฐ ไม่ใช่ผู้ช่วยเหลือ เป็นเพียงลูกจ้างจากเงินภาษี
 
คำที่ว่าทำงานเพื่อประชาชน ได้บุญ มีเกียรติ เป็นที่เคารพ
 
คำพูดดังกล่าวในอดีตมันไม่จริงอีกแล้วในปัจจุบัน
 
ใครยังจะทำงานได้เงินน้อยเพื่อประชาชน เพื่อผลบุญ ตอบแทนคุณประเทศ อยากให้คิดให้ดี
 
ประชาชนทั้งที่เสียภาษีเงินได้และไม่เสียภาษีเงินได้ มองคุณเป็นเพียงลูกจ้างเท่านั้น
 
ยุคสมัยเก่า ๆ ที่ประชาชนเห็นบุคลากรทางการแพทย์เป็นผู้มีพระคุณ เป็นผู้มาโปรด มันจบไปนานแล้ว
จากคุณ: doreus โพสเมื่อวันที่: 11/27/18 เวลา 01:00:48
อันนี้มโนขึ้นมาเองหรือเปล่าครับ ผมว่าประชาชนเค้าไม่ได้เห็นแพทย์เป็นผู้มีพระคุณหรือผู้มาโปรดนะครับ เค้าก็เห็นเป็นคนทำงานเหมือนข้าราชการอื่นๆนั่นล่ะ เคยเห็นเค้าไหว้นายอำเภอ ไหว้ตำรวจ ไหว้ผู้พิพากษา ไหว้กำนันผู้ใหญ่บ้าน ไหว้ครู ไหว้เจ้าหน้าที่อนามัย หรือแม้แต่ไหว้หมอผีมั๊ยครับ อันหลังดูจะกราบกรานกว่าอาชีพอื่นด้วยซ้ำ เค้าให้ความเคารพเพราะเมื่อก่อนมันใช้งานกันฟรีครับ ไม่ได้คิดถึงภาษีอะไรหรอกเพราะส่วนใหญ่ก็ไม่ได้จะเสียภาษีกันอยู่แล้ว ถ้าถูกใจเค้าก็เอาของมาฝากมาอะไรซึ่งคนไทยทำกันเป็นปกติอยู่แล้วดูอย่างแม่ย กลิเกสิครับ
ส่วนเรื่องมีบุญคุณกับประชาชนผมอยากหัวเราะให้ฟันโยก ถ้าคุณตรวจรักษาคนไข้ไม่เอาเงินเดือน หรือเป็นแพทย์อาสาพื้นที่ห่างไกลอันนั้นก็น่าเคารพ ซึ่งส่วนใหญ่มันไม่ใช่ไง สมัยเด็กก็มองหมอว่าเป็นแล้ว รวยเพราะเปิดคลินิกคนไข้เยอะ ไม่เคยคิดว่ามีบุญคุณอะไรเลย โตขึ้นมาเป็นหมอเองก็คิดเหมือนเดิม แต่ทางลบจะมากขึ้นเมื่อไปเอกชน
จากคุณ: 6699 โพสเมื่อวันที่: 11/27/18 เวลา 04:40:10
มูลค่าของสิ่งหนึ่ง ขึ้นกับความยากลำบากในการได้ของสิ่งนั้นมา
จากคุณ: gundamwing โพสเมื่อวันที่: 11/27/18 เวลา 08:15:31
โอ้ว น่าตกใจจังเลยครับ
จากคุณ: megacure โพสเมื่อวันที่: 11/27/18 เวลา 10:19:35
ที่เอามาโพสต์เพราะแพทย์ พยาบาลจำนวนมาก ที่ทำงานให้กับรัฐในขณะนี้ หลงคิดว่าตนเสียสละ ทำความดี ทำเพื่อปวงประชา
 
แต่ความจริง ณ ปัจจุบัน ผู้คน ประชาชน ไม่ได้คิดเช่นนั้น เค้าไม่ได้มองว่าที่แพทย์ พยาบาล รพ.รัฐ ทำงานรายได้น้อย ไม่มีเวลาให้ครอบครัว เป็นการเสียสละ หรือก่อให้เกิดประโยชน์สาธารณะ
 
ถ้าใครจะยังทำต่อไป ก็ควรรู้ไว้ว่า คุณกำลังทำงานให้กับคนที่ไม่เห็นคุณค่าของคุณ เห็นคุณเป็นแค่ลูกจ้างจากเงินภาษีเท่านั้น
 
หากใครเข้าใจแล้ว ยังตัดสินใจทำงานให้รัฐ ก็ถือว่ารับรู้ข้อเท็จจริงในปัจจุบันแล้ว
จากคุณ: หมอเมืองสยาม โพสเมื่อวันที่: 11/27/18 เวลา 11:58:06
       ผู้ป่วย-แพทย์ , ปัจจุบัน? - " เหมือนชักโครกเสีย"
จากคุณ: philosophy โพสเมื่อวันที่: 11/27/18 เวลา 13:47:32

ความคิด  ขึ้นกับกว่า  คุณเป็นคน generation ไหน
 
ิเพราะนิสัยเกิดจากการเลี้ยงดู
 
ิbaby boom  มากกว่า 90 %ยังให้ความเคาราพแพทย์เหมือนเดิม
       ของขวัญ หรือสิงตอบแทน สินนน้ำใจหมอส่วนใหญ่จะได้จากคนกลุ่มนี้
 
X  อาจจะ50/50  60/40 ที่ยังให้ความเคารพแพทย์แบบเป็น    
   บุญคุณ และบางทีหมอจะได้สินน้ำใจจากคนกลุ่มนี้
 
Y  ส่วนใหญ่จะเห็นแพทย์ทำตามหน้าที่มากกว่าเป็นบุญคุณ
 
Z   คาดว่าไม่ต่างจาก gen Y
 
 
ปล   ในพันทิพส่วนใหญ่เป็นคน gen  x y  หรือไม่ก็ z ไม่แปลกที่ได้คำตอบแบนั้น
 
แต่ก็ดูเป้นแนวโน้มในอนาคตได้  ไม่ใช่ปัจจุบันซึ่งจะกินเวลาไม่ต่ำกว่า 7-10 ปี
จากคุณ: bodinkung โพสเมื่อวันที่: 11/27/18 เวลา 22:27:27
ลาออก เก็บตังซักก้อนแล้วเกษียณอย่างสงบ อย่าได้สนใจ Grin Grin
จากคุณ: know555 โพสเมื่อวันที่: 11/27/18 เวลา 22:29:03
on 11/27/18 เวลา 22:27:27, bodinkung wrote:
ลาออก เก็บตังซักก้อนแล้วเกษียณอย่างสงบ อย่าได้สนใจ Grin Grin

 Grin
จากคุณ: know555 โพสเมื่อวันที่: 11/27/18 เวลา 22:34:20
ดูตัวอย่างจากข่าวพยาบาลทำงานอยู่เวรที่ห้องฉุกเฉินมานานหกปีแต่ถูกญาติผู้ป ่วยมีท่าทีจะมาทำร้ายและพูดจาหยาบคายแต่พอไปแจ้งผู้บังคับบัญชากลับได้รับคำ ตอบว่าเป็นเรื่องส่วนตัวแค่นี้ก็รู้แล้วครับว่าข้าราชการไทยได้รับการดูแลดี แค่ไหน    สมัยนี้ไม่มีใครเหลียวแลคุณหรอกครับถ้าคุณไม่มีเงิน  คนไข้เค้าก็มองเราถูกแล้วล่ะครับเพราะเราต้องการเงินจริงๆก็ทำตัวให้สมกับที ่คนไข้มองเราครับจะได้เจ๊ากัน   ท่องไว้หาเงินหาเงินและหาเงิน  Cry
จากคุณ: Dr.ER โพสเมื่อวันที่: 11/28/18 เวลา 11:39:23
ุุูจากประสบการณ์ ทำให้เรียนรู้ว่า หากสังคมดี ก็จะน่าอยู่น่าทำงาน
 
หากที่ๆทนไม่ไหว ให้ย้ายหาที่ใหม่
 
หากเจอแต่สิ่งแย่ๆ ทบทวนตัวเองก่อน หากยังไม่เจอที่จะอยู่ได้ คงต้องลาออก
หรือหางานอื่น
 
หากเราต้องการเพียงรายได้ ไม่ติดการเป็นหมอ ทำอาชีพอื่นก็รายได้มากกว่า เสี่ยงน้อยกว่า มีความสุขกว่าหมอยังมีอีกเยอะครับ
 
แต่ที่ทำอยู่ตอนนี้ เพราะยังรักในการเป็นแพทย์ และได้ทำหน้าที่ดูแลระบบสุขภาพของอำเภอ ได้พยายามสร้างสังคมของอำเภอให้อยู่กันแบบมิตร ให้เจ้าหน้าที่และคนไข้ ยังรู้สึกดีๆต่อกันครับ Smiley
จากคุณ: blitzs โพสเมื่อวันที่: 11/28/18 เวลา 11:39:54
ทำงานได้เงิน  แต่เงินค่าเวรน้อย ไม่อยากได้ ก็ยังโดนบังคับให้เอาอีก
 จะกินบุญ กินเงิน  คิดแบบไหนก็ได้ แค่อย่าให้ตัวเองไปเสี่ยงคุก เสี่ยงโรคก็พอแล้ว
จากคุณ: <<GOOD LIFE<< โพสเมื่อวันที่: 11/28/18 เวลา 12:05:26
มองเห็น มานานแล้ว โลกจริงไม่เหมือน โลกในวัยละอ่อน
 
ภาพของหมอที่ได้ช่วยเหลือผู้คน มีความภาคภูมิใจ มีเกียรติ
 
ต้องเข้าใจว่าคนที่ป่วย ส่วนหนึ่ง!!! เพราะระดับปัญญาเขาไม่ถึง
 
ชีวิตเขาถูกขับด้วยกิเลสและตัณหา เต็มไปด้วยอารมณ์ โลภ โกรธ หลง
 
(ซึ่งเป็นธรรมชาติเพื่อเอาตัวรอดและส่งต่อ gene โดยสมองรุ่นเก่าและรุ่นกลาง)
 
ทางออก...
 
ให้มองมาที่เราเอง ต้องทำงานด้วยจิตอีกระดับหนึ่ง อย่าใช้จิตระดับเดียวกับเขาในการแก้ปัญหา  
 
ให้ใช้ปัญญามากๆ ด้วยจิตที่สูงกว่าเขา แล้ววิธีการที่เหมาะสม  
 
หนทาง ทางออกจะเกิดขึ้นเองด้วยการหยั่งรู้ของเรา ว่าอันไหนควรไม่ควร แค่ไหน
 
ถึงตอนนั้น ชีวิตเราจะมีความสุขมากขึ้น(ความสุขชนิดละเอียด)  
 
เป็นความเบิกบาน  เราจะอยู่เหนือขึ้นไปอีกระดับ  
 
และที่สำคัญไม่ต้องห่วงเรื่องเงินทอง เราจะมีความมั่งคั่งอย่างเหลือประมาณ ชนิดที่ว่ามีกินมีใช้ทั้งชาติไม่มีทางหมด
 
อันนี้เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับตัวเอง
 
ฝึกสติให้มากๆ มากพอจนเกิดปัญญา แล้วใช้ปัญญานั้นนำทางชีวิต
จากคุณ: Hybrid VI โพสเมื่อวันที่: 11/28/18 เวลา 16:55:21
รู้มานานแล้ว แต่มีหลายคนยังไม่รู้ หรือแกล้งไม่รู้ก็ไม่รู้นะ 55
ที่อยู่ รพ.รัฐ เพราะไม่อยากไปเอกชน ไม่อยากมีใครมาให้ปั๊มยอดคนไข้  
และอีกอย่าง อยากลาไปเที่ยวตอนไหนก็ได้ เงินเดือนก็ได้ขึ้นทุกเดือน
จากคุณ: Nomad Physician โพสเมื่อวันที่: 11/30/18 เวลา 09:39:20
นี่เพิ่งรู้สึกกันหรือครับ  Shocked
จากคุณ: 6699 โพสเมื่อวันที่: 11/30/18 เวลา 20:07:15
ความสัมพันธ์ระหว่างผู้ป่วย กับแพทย์ มองว่า อยู่ในระดับ 50-50 เป็นในรูปแบบของถนนที่รถสามารถวิ่งได้สองทาง  
 
ตอนที่คนป่วยเดินออกจากห้องตรวจ ไม่ได้รู้สึกว่า ตัวเองจะมีบุณคุณอะไรกับผู้ป่วย และผู้ป่วยก็ไม่ได้เป็นหนี้บุณคุณเราอีกด้วย  
 
เป็นการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ เวลา แรงงานเพื่อเงิน และการเรียนรู้  
ต่างฝ่ายต่างได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย  
 
เราก็คือพาหนะของผู้ป่วย และผู้ป่วยก็คือพาหนะของของเรา เป็นความสัมพันธ์ในแง่การ บริการ ซึ่งกันและกัน  
 
แต่เราก็ไม่พยายามจะมองในด้านลบ เพราะจะทำให้เราตกอยู่ในฐานะที่ลำบากได้อย่างไม่รู้ตัว
จากคุณ: WeaReGroot โพสเมื่อวันที่: 12/02/18 เวลา 15:39:05
รู้สึกแย่ตั้งแต่เป็นนักเรียนแพทย์ละ  
-อาจารย์ไม่ราวน์เพราะเปิด”คลินิก”ตอนเช้า
-ตามอาจารย์เวรมาช่วยคลอดติดไหล่ไม่ได้เพราะตรวจ”คลินิก”อยู่
-ตามอาจารย์มาช่วยผ่าไม่ได้เพราะออกตรวจ”โรงบาลเอกชน”
 
... เจริญใจไทยแลนด์


  • ข้อความและรูปภาพที่ท่านเห็นส่วนใหญ่ ได้ถูกส่งมาจาก ทางบ้าน
    ทางเว็บไซต์ Thaiclinic.com ไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ของข้อความและรูปภาพที่ถูกส่งมา

  • ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชนและส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ
    เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้นเพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง
    ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง

  • ถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมหรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล
    หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ webmaster@thaiclinic.com หรือ กดแจ้งที่ปุ่ม
    "แจ้งลบกระทู้"
    เพื่อให้ทีมงานทราบและทำการลบข้อความนั้นออกจากระบบต่อไป ขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกันทำให้สังคมน่าอยู่ครับ

ThaiClinic.Com . All Rights Reserved. !--BEGIN WEB STAT CODE-->

Powered by