หน้าแรกเว็บบอร์ด หน้าแรกเว็บบอร์ด
   For MD.
   Doctor Room l ห้องพักแพทย์
   Post reply ( Re: สอบถามขั้นตอนการลาออกจากราชการค่ะ )
ขอเชิญเพื่อนแพทย์พูดคุย แสดงความคิดเห็นครับ
หัวข้อ:
ใส่ชื่อ:
Email:
Add YABBC tags:
Add Smileys: <more...>
ข้อความ:

Disable Smilies




Topic Summary
จากคุณ: In_my_mind โพสเมื่อวันที่: 11/09/18 เวลา 11:01:16
เป็น Subboard เพิ่งจบค่ะ เพิ่งกลับมาทำงานได้4-5เดือน  
พอกลับมาแล้วต้องมาอยู่เวรวันเว้นวัน รู้สึกว่าร่างกายไม่ไหว เลยจะลาออกไปอยู่เอกชนค่ะ อยากทราบขั้นตอน สิ่งที่จะต้องเจอ สิ่งที่ต้องเตรียมตัว การชดใช้ทุน ฯลฯ  
 
ขอบคุณค่ะ
จากคุณ: kengkung โพสเมื่อวันที่: 11/09/18 เวลา 11:07:45
แนะนำได้แต่รีบๆออกครับ เขาจะชงปรับ นศ.พ. 2.5 ล้านแล้ว Subborad ถ้าผมเป็นคนคิดนโยบายขอสัก 10 ล้านครับ 5555
จากคุณ: bridge โพสเมื่อวันที่: 11/09/18 เวลา 11:38:52
ไปยื่นใบลาออกปกติครับ ตอนผมลาออกบอกล่วงหน้า 3 เดือน เพราะสิทธิยับยั้งได้ 3 เดือน ถ้าผอ ไม่ยับยั้งก็เดือนหน้าออกได้เลย  
ถ้ามีเลือกตั้งท้องถิ่นก็ไปสมัครเล่นๆก็ได้ครับ เพราะสามารถเป็นข้ออ้างลาออกได้เลย
ชดใช้ทุนปกติก็สองเท่าของที่ไปเรียนหักจำนวนเดือนที่ทำงานไป ต้องดูสัญญาว่าทำไปเท่าไหร่ครับ  
 
จากคุณ: bodinkung โพสเมื่อวันที่: 11/09/18 เวลา 12:14:45
ใช้เหตุผลกลับบ้านไปลงสมัคร สส  Grin Grin Grin
ผอ ไม่กล้ายับยั้งแน่ๆกลัวเจอตอ Grin
 
เหตุผลรับใช้ชาติหล่อๆเลย Cheesy
จากคุณ: crv01 โพสเมื่อวันที่: 11/09/18 เวลา 12:56:55
เสียหายมากครับ.  ต้นสังกัดรอมานาน.  ลาออกเสียแล้ว.
จากคุณ: luzeus โพสเมื่อวันที่: 11/09/18 เวลา 13:06:22
เดินไปเขียนใบลาออก อีกเดือนก็ออกได้เลยค่า
จริงๆ น่าจะต่อรองกับผอ.ก่อน ว่าอยู่เวรไม่ไหว
ถ้าต่อรองไม่ได้ ก็ลาออกเถอะค่ะ
จากคุณ: pipolulu โพสเมื่อวันที่: 11/09/18 เวลา 14:43:01
สาหัสมากครับ อยู่เวรวันเว้นวัน  
ใครจัดครับ?? โหดสุดๆ
จากคุณ: Hybrid VI โพสเมื่อวันที่: 11/09/18 เวลา 16:39:08
subboard อยู่เวรวันเว้นวัน..Huh
ของ รพ.ผม น้องจบ board สาขา major ยังอยู่เวรเดือนละ 4 เวร เท่านั้นเอง  Grin
นอกนั้นไปเปิดคลินิค + รับจ๊อบเอกชนไปตามเรื่อง
จากคุณ: Something in the rain โพสเมื่อวันที่: 11/09/18 เวลา 19:17:55
ของผมสมัยเป็นGP รองผู้ว่าจะดื้อแพ่งไม่เซ็นอนุมัติให้ลาออกครับ  แต่นิติกรก็บอกครับเค้ามีสิทธิ์ดึงเรื่องได้แค่3เดือนแค่นั้นตั้งแต่วันที่เ รายื่นใบลาออกครับ
เรื่องลาออกมันเป็นเรื่องของเราครับ  ยังไงผมก็คงไมกลับเข้าระบบราชการอีกแล้วครับ เฮงซวย  Tongue
จากคุณ: simath โพสเมื่อวันที่: 11/09/18 เวลา 20:11:39
จะดีมากเลย ถ้าหากสามารถคิดได้ว่าอยากอยู่เอกชนตั้งแต่ตอนไปเรียน จะได้ไม่ต้องขอทุนไป
 
ส่วนมากที่เห็นคือ อยากเรียนมาก โดยเฉพาะสาขาทำเงินต่างๆ เงื่อนไขอะไรรับได้หมด ขอแค่ได้เรียนก่อน
 
พอได้เรียนเสร็จ ถึงเริ่มกลับมาคิด ว่าจริงๆแล้วอยากอยู่เอกชน และจ่ายเงินลาออก
จากคุณ: In_my_mind โพสเมื่อวันที่: 11/09/18 เวลา 21:25:54
จริงๆก็ไม่เคยคิดว่าจะลาออกจากราชการมาก่อน ช่วงก่อนไปเรียนอยู่เวร7-8เวรต่อเดือน ก็รู้สึกว่าพอไหว แต่พอกลับมาเหลือกันแค่2คน มันเหนื่อยมาก ไม่เคยเจอเวรเยอะแบบนี้มาก่อน โดนตามทุกเวร ชีวิตแย่กว่าตอนเทรนนิ่งresidentอีก ไหนจะให้ไปช่วยOPD GPนอกเวลา/ER ที่ไม่ได้ถนัด ไม่มั่นใจ ไหนจะออกหน่วยนอกเวลาทั้งที่เมื่อคืนก็ไม่ได้นอน  
 
คิดทุกวันว่าซ้ำไปซ้ำมาอยากลาออก ยิ่งนานวันก็ยิ่งชัดขึ้นเรื่อยๆ จนมันถึงจุดที่พอแล้ว ช่างแล้ว ยอมโดนด่า แต่ยังไงก็ไม่อยู่แล้ว  
จากคุณ: 6699 โพสเมื่อวันที่: 11/10/18 เวลา 05:50:31
ให้เหตุผลคือ ต้องการรับใช้ประเทศ โดยการสมัคร สส. แล้วไม่ต้องลงหาเสียง ทำเอกชน หรือทำส่วนตัวเลย การลาออกแบบนี้ ผู้บังคับบัญชาจะยับยั้งไม่ได้ ต้องอนุมัติให้ทันทีเลย ตอนลาออก ยังไม่ต้องใช้ทุน ให้เหตุผลว่า ถ้าไม่ได้รับการเลือกจะกลับมาใหม่ แต่ไม่มีข้อกำหนดว่า ต้องกลับมาเมื่อไหร่ แต่ถ้าได้รับเลือกจริงๆ ก็ยังไม่ต้องใช้ทุน ให้เหตุผลว่า เมื่อรับใช้ชาติโดยการเป็นสส.เสร็จจะกลับมาใช้ทุนต่อ  
 
วิธีนี้ ถ้าหากว่า เมื่อไม่ได้เป็นสส.แล้วตอนย้ายกลับมา สามารถเลือกจังหวัดได้ด้วยว่าจะลงจังหวัดไหน ที่ต้องการ เพราะระเบียบยังเปิดช่องทางเอาไว้  
 
วิธีนี้ ทำให้สามารถเขียนในหนังสืองานศพได้อีกด้วยว่า เมื่อตอนมีชีวิตอยู่ ได้เลื่อมใสระบบปกครอบแบบประชาธิปไตย ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้แทนราษฏร แต่คนมางานศพเขาไม่รู้หรอกว่า ตอนนั้นเรากำลังโกงประเทศชาติอยู่ กลับคิดว่า เราเป็นคนดี  
จากคุณ: cmumed โพสเมื่อวันที่: 11/10/18 เวลา 08:51:05
ถ้าความเห็นส่วนตัวในเรื่องที่น้องลาออกนี้นะ ผมว่าเป็นความผิดพลาดทั้งสองฝ่ายนะ  
คือจากโรงพยาบาลต้นสังกัดเองและตัวน้องเอง จากประสบการณ์ที่ผ่านมา
การที่จะให้อยู่เวรวันเว้นวันแบบนั้นก็ต้องดูว่าสมเหตุผลหรือไม่ เวลาที่ี Subboard คนเดียวอยู่อย่างไร
ซึ่งผมไม่คิดว่าอยู่ทุกวันหรอกครับ ก็หมายความว่ามีวันที่ไม่ได้อยู่  
และการที่มีสองคนทำไมต้องมาแบ่งกันสองคนเพื่อให้อยู่ทุกวัน
โดยส่วนตัวผม ผมให้สิทธิน้องนะที่จะคิดเองว่าเท่าไหร่จึงจะเหมาะสม และตัวเองอยู่ได้
เช่นกรณีโรงพยาบาลผม มี Neurosurg 1 คน น้องเขาขออยู่เวร 15 วัน ผมก็ยอมรับ
ต่อมามีการประสานกับโรงพยาบาลเครือข่าย แม่ข่ายที่มี 2 คน กลายเป็น 3 คนก็เลยขอคนละ 10 วัน ผมก็ยอมรับ
ตอนนี้มี Neurosurg 2 คน น้องเขาขอคนละ 10 วัน อีก 10 วันก็ให้โรงพยาบาลเครือข่ายไป
แต่ถ้าจำเป็นรีบด่วน ก็ตามได้  
เรื่องแบบนี้ในฐานะผู้บริหารต้องจัดการได้ เพื่อให้น้องๆมีความสุขในการทำงาน
ที่นี้ตัวน้องเอง ก็มีประเด็นเช่นกัน ว่าก่อนไปเทรนคิดอย่างไร หลังไปเทรนคิดอย่างไร
เราได้ตระหนัก และรับผิดชอบต่อการขอรับทุนมากน้อยเพียงใด
เราได้บอกหรือหาวิธีการแก้ไขสิ่งที่เกิดขึ้นหรือไม่อย่างไร
ต้องเข้าใจว่าผู้ให้ทุนก็ต้องการความคาดหวังที่ตั้งไว้ เช่นกัน
จากคุณ: Hippo โพสเมื่อวันที่: 11/10/18 เวลา 15:01:12
on 11/10/18 เวลา 08:51:05, cmumed wrote:
ถ้าความเห็นส่วนตัวในเรื่องที่น้องลาออกนี้นะ ผมว่าเป็นความผิดพลาดทั้งสองฝ่ายนะ  
คือจากโรงพยาบาลต้นสังกัดเองและตัวน้องเอง จากประสบการณ์ที่ผ่านมา
การที่จะให้อยู่เวรวันเว้นวันแบบนั้นก็ต้องดูว่าสมเหตุผลหรือไม่ เวลาที่ี Subboard คนเดียวอยู่อย่างไร
ซึ่งผมไม่คิดว่าอยู่ทุกวันหรอกครับ ก็หมายความว่ามีวันที่ไม่ได้อยู่  
และการที่มีสองคนทำไมต้องมาแบ่งกันสองคนเพื่อให้อยู่ทุกวัน
โดยส่วนตัวผม ผมให้สิทธิน้องนะที่จะคิดเองว่าเท่าไหร่จึงจะเหมาะสม และตัวเองอยู่ได้
เช่นกรณีโรงพยาบาลผม มี Neurosurg 1 คน น้องเขาขออยู่เวร 15 วัน ผมก็ยอมรับ
ต่อมามีการประสานกับโรงพยาบาลเครือข่าย แม่ข่ายที่มี 2 คน กลายเป็น 3 คนก็เลยขอคนละ 10 วัน ผมก็ยอมรับ
ตอนนี้มี Neurosurg 2 คน น้องเขาขอคนละ 10 วัน อีก 10 วันก็ให้โรงพยาบาลเครือข่ายไป
แต่ถ้าจำเป็นรีบด่วน ก็ตามได้  
เรื่องแบบนี้ในฐานะผู้บริหารต้องจัดการได้ เพื่อให้น้องๆมีความสุขในการทำงาน
ที่นี้ตัวน้องเอง ก็มีประเด็นเช่นกัน ว่าก่อนไปเทรนคิดอย่างไร หลังไปเทรนคิดอย่างไร
เราได้ตระหนัก และรับผิดชอบต่อการขอรับทุนมากน้อยเพียงใด
เราได้บอกหรือหาวิธีการแก้ไขสิ่งที่เกิดขึ้นหรือไม่อย่างไร
ต้องเข้าใจว่าผู้ให้ทุนก็ต้องการความคาดหวังที่ตั้งไว้ เช่นกัน

 
ขึ้นกับความสามารถและศิลปะของผู้บริหารจริงๆครับ ที่จะรักษาน้องๆไว้ในระบบให้ได้
จากคุณ: Hippopotamus โพสเมื่อวันที่: 11/12/18 เวลา 01:19:36
Subboard อะไรอ่ะครับ ทำไมงานหนักจัง
จากคุณ: Auikung โพสเมื่อวันที่: 11/13/18 เวลา 14:15:13
เคยเหมือนกันนะ วันเว้นวัน
เพราะมีพี่ลาออกไปคนนึง เลยต้องอยู่คนเดียว
ผอ.ก็ไม่ให้เบิก OT บางส่วนอีก บอกว่าภาระรพ.มีเยอะแล้ว
 
แพลนจะไปเรียนต่อ ก็มาชะงักอีก
ว่าจะปรับลดเวรตัวเองเหลือ 10 วันต่อเดือน ไม่ทำดีกว่า ลาออกดีกว่า
ไม่อยู่เวรก็โทรมา consult อะไรนักหนา
จากคุณ: jengirl โพสเมื่อวันที่: 11/14/18 เวลา 07:28:46
ปัญหาทั้งหมดก็สรุปมาได้ว่าไม่มีเงินนั่นแหละค่ะ
ตามนโยบายภาครัฐเน้นรักษาฟรีแต่งบไม่พอนั่นแหละค่ะ
ทุกคนที่ทำงานในวงการรู้
ต้นเหตุมันแก้ไม่ได้ เพราะประชานิยมไปแล้ว  
ที่เหลือก็ไปบีบไปเค้นกันเป็นทอดๆ อยู่ได้ก็ไป อยู่ไม่ได้ก็ทนเอา
จากคุณ: หมอหมู โพสเมื่อวันที่: 11/16/18 เวลา 23:02:58
ข้อแนะนำ ถ้าต้อง ลาออกจากราชการ มีขั้นตอนอย่างไร? ...      
https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=24-02-2008& ;group=2 7&gblog=19
 
ทำไม ผมถึงลาออกจากราชการ .... เรื่องเก่าเขียนไว้ตั้งแต่ปี 2551 เอามาเล่าสู่กันฟัง       
https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=28-01-2011& ;group=2 7&gblog=20
 
สาเหตุที่ทำให้แพทย์ลาออกจากราชการ ... เคยมีการวิจัยมาเพียบ เมื่อไหร่จะเริ่มแก้ไข Huh      
https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=23-02-2010& ;group=2 7&gblog=18
 
(คัดลอกลิงค์ แล้ว ลบช่องว่าง ให้เลข 27 ติดกัน)
จากคุณ: หมอหมู โพสเมื่อวันที่: 11/16/18 เวลา 23:06:42
https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=24-02-2008& ;group=2 7&gblog=19
 
ข้อแนะนำ ถ้าต้องลาออกจากราชการ
 
ที่ผมเรียบเรียงเรื่องนี้ ไม่ได้เป็นการสนับสนุนให้พวกเราลาออกจากราชการ นะครับ เพียงแต่อยากให้เป็นข้อคิด แนวทางในการตัดสินใจ ว่าจะทำอย่างไรดี ...... เรียบเรียงจากประสบการณ์ตรง ซึ่งอาจต้องไปหาข้อมูลเพิ่มเติมอีกหน่อยนะครับ
 
การตัดสินใจที่จะทำอะไรสักอย่าง ผมเชื่อว่า ต้องมีเหตุผลเบื้องหลังพอสมควร ซึ่งเหตุผลเหล่านี้ อาจไม่เหมือนกัน แต่ไม่ได้บอกว่า เหตุผลนั้นดีหรือไม่ดี ถ้าเราคิดว่า สิ่งที่เราตัดสินใจนั้นเราได้คิดอย่างรอบคอบ คิดอย่างดีแล้ว คนอื่น ๆ จะว่าอย่างไร ก็อย่าไปคิดให้รกสมองเลยครับ เพราะเวลามีปัญหาอะไรขึ้นมา คนอื่นเขาไม่ได้มาพบเจอกับเราด้วย เราเองเป็นผู้ที่จะต้องรับผิดชอบผลที่เกิดจากการตัดสินใจนั้น ๆ แต่เพียงผู้เดียว ดังนั้น ไม่ว่า ผลจะดีหรือร้าย ก็คงต้องรับไปเต็ม ๆ ดังนั้น ก่อนที่จะคิดลาออก ก็ต้องคิดให้รอบคอบไว้ด้วย
 
คิดก่อน
 
1. เขียนข้อดีข้อเสีย ของการอยู่ หรือ ออกจากราชการ ปัญหามันคืออะไร มีทางแก้ไขได้หรือไม่ อย่างไร ค่อย ๆ เขียนไปเรื่อย ๆ คิดได้ ก็เติมไป สัก 2 อาทิตย์ แล้วค่อยกลับมาอ่านทบทวน
 
2. คุยปรึกษาเพื่อน ๆ พี่ๆ คุยกับพ่อแม่พี่น้อง เป็นการหาข้อมูล ความคิดเห็น แล้วก็ถือว่า เป็นการเกริ่นไว้คร่าว ๆ ก่อน จะได้มีเวลาเตรียมใจ เผื่อเราออกจริง ๆ
 
3. วางแผนว่า ถ้าออกแล้วจะไปทำอะไร ที่ไหน อย่างไร แล้วก็ลองหาข้อมูล ติดต่อไว้ก่อน เผื่อถ้ามีปัญหาติดขัดอะไร ก็จะได้แก้ไขก่อน เตรียมตัวให้พร้อมไว้ดีกว่า
แล้วอย่าลืมว่าแผนด้านการเงินด้วยว่า ระหว่างที่ออกไป จะเอาเงินที่ไหนใช้จ่าย เงินที่เก็บไว้มีเพียงพอหรือเปล่า
 
4. ติดต่อที่ ธุรการ รพ. หรือ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (งานบุคลากร) ว่าถ้าจะลาออกจะต้องดำเนินการอย่างไร มีเอกสารอะไรบ้าง
แล้วให้เจ้าหน้าที่ ตรวจสอบเรื่องวันลาว่ายังมีสิทธ์ลาพักร้อน ลากิจ เหลืออีก กี่วัน จะได้วางแผนเรื่องเวลาได้ถูก รวมถึง ตรวจสอบสิทธิบำเหน็จ บำนาญ เงินตกเบิก เงินที่ต้องใช้คืนในกรณีติดทุน
 
5. ถ้าลาออก พ่อแม่ ครอบครัว จะใช้สิทธิการรักษาอะไร ต้องใช้สิทธิบัตรสุขภาพ (บัตรทอง) หรือไม่ จะได้เตรียมเอกสารและสถานที่ติดต่อให้พร้อม ซึ่งเท่าที่สอบถาม นำเอกสาร(หนังสือให้ออกจากราชการ +สำเนาทะเบียนบ้าน +สำเนาบัตรประชาชน) ไปติดต่อได้ที่ สถานีอนามัย หรือ รพ.ในภูมิลำเนาที่อยู่ หลังจากที่ได้รับหนังสือให้ออกจากราชการแล้ว
 
 
 
ตัดสินใจแน่นอน
 
1. ติดต่อที่ ธุรการ รพ. หรือ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (งานบุคลากร) ขอหนังสือลาออกจากราชการ ( เป็นใบคำร้อง ขอลาออกจากราชการ ) แล้วก็กรอกรายละเอียดต่าง ๆ ให้ครบ โดยเฉพาะ เหตุผลที่ขอลาออก ซึ่งอยากจะเน้นว่า อย่าให้เป็นเหตุผลที่อาจกระทบต่อคนอื่น ๆ มากนัก ไหน ๆ จะออกแล้วก็อย่าให้มีเรื่อง ด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่องดีกว่า
 
2. เสนอ ผู้อำนวยการ ซึ่งผู้อำนวยการอาจอนุมัติเลย หรือ อาจยับยั้งไว้ก็ได้ แต่ตามระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2535 มาตรา 113 ถ้าผู้อำนวยการแจ้งเหตุผลให้ทราบก็ยับยั้งได้ 90 วัน
ส่วนกรณีที่อาจเป็นปัญหา ก็คือตามระเบียบ ถ้า ผู้อำนวยการ เฉย ๆ ไม่แจ้งยับยั้ง แต่ก็ไม่เซนต์อนุมัติ ให้ถือว่า ออกจากราชการตั้งแต่วันที่ยื่น ซึ่งข้อนี้ ค่อนข้างเสี่ยงเพราะไม่ได้ระบุว่า ต้องใช้เวลาเท่าไหร่ ถ้าเกิดเราไม่มาทำงาน แล้วเกิดการเล่นแง่ว่า เราขาดราชการโดยไม่ได้แจ้งให้ทราบ แบบนี้ก็อาจมีปัญหาได้ ซึ่งอาจไม่มาทำงาน โดยใช้วันลากิจ แต่ต้องทำเป็นหนังสือลาให้ถูกต้องด้วยนะครับ
ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย ก็น่าจะขอให้เป็นหนังสือราชการว่า ให้ออกตามคำขอ หรือ ยับยั้ง ดีกว่า
 
3. ใบลาจะมีผลบังคับเมื่อได้รับการอนุมัติเป็นลายลักษณ์อักษรเท่านั้น ถ้ายังไม่มีหนังสือแล้วหยุดเอง โดยที่ไม่ได้ทำตามระเบียนวันลาราชการ จะถือว่า ขาดราชการ ซึ่งอาจกลายเป็นถูกสั่งให้ออกจากราชการ (ปลดออก ไล่ออก) ทำให้ไม่ได้ สิทธิบำเหน็จบำนาญราชการ รวมถึงการขอเข้ารับราชการใหม่ด้วย
 
4. ควรทำให้ถูกต้องตามระเบียบ อาจช้าหน่อย แต่ก็ต้องเผื่อไว้ด้วยว่า เราอาจจะกลับเข้ารับราชการใหม่ เพราะถ้าเป็นการออกจากราชการด้วยเหตุผลว่า “ ถูกสั่งลงโทษปลดออก หรือไล่ออก “ อยากจะเข้ามารับราชการใหม่ ไม่ว่าที่ไหน ตำแหน่งอะไร ก็มีปัญหาแน่นอน อ้อ รวมถึงตำแหน่งทางการเมืองด้วยนะครับ
 
 
:: พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2535 มาตราที่ 112-123
 
:: หมวด 6 การออกจากราชการ
 
มาตรา 112 ข้าราชการพลเรือนสามัญออกจากราชการเมื่อ
(1) ตาย
(2) พ้นจากราชการตามกฎหมายว่าด้วยบำเหน็จบำนาญข้าราชการ
(3) ลาออกจากราชการและได้รับอนุญาตให้ลาออกหรือการลาออกมีผลตาม มาตรา 113
(4) ถูกสั่งให้ออกตาม มาตรา 54 มาตรา 67 มาตรา 107 มาตรา 114 มาตรา 115 มาตรา 116 มาตรา 117 มาตรา 118 หรือ มาตรา 123 หรือ
(5) ถูกสั่งลงโทษปลดออก หรือไล่ออก
วันออกจากราชการตาม (4) และ (5) ให้เป็นไปตามระเบียบที่ ก.พ. วางไว้
การต่อเวลาราชการให้ข้าราชการพลเรือนสามัญที่ต้องออกจากราชการตาม (2) รับราชการต่อไป จะกระทำมิได้
 
มาตรา 113 นอกจากกรณีตามวรรคสี่ ข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ใดประสงค์จะ ลาออกจากราชการ ให้ยื่นหนังสือขอลาออกต่อผู้บังคับบัญชา เพื่อให้ผู้มีอำนาจสั่งบรรจุตาม มาตรา 52 เป็นผู้พิจารณาอนุญาต
 
ในกรณีที่ผู้มีอำนาจสั่งบรรจุตาม มาตรา 52 พิจารณาเห็นว่าจำเป็นเพื่อประโยชน์แก่ ราชการจะยับยั้งการอนุญาตให้ลาออกไว้เป็นเวลาไม่เกินเก้าสิบวันนับตั้งแต่วั นขอลาออกก็ได้ แต่ ต้องแจ้งการยับยั้งการอนุญาตให้ลาออกพร้อมทั้งเหตุผลให้ผู้ขอลาออกทราบ และเมื่อครบกำหนด เวลาที่ยับยั้งแล้วให้การลาออกมีผลตั้งแต่วันถัดจากวันครบกำหนดเวลาที่ยับยั ้ง
 
ถ้าผู้มีอำนาจสั่งบรรจุตาม มาตรา 52 ไม่ได้อนุญาตให้ลาออกตามวรรคหนึ่งและไม่ได้ยับยั้งการอนุญาตให้ลาออกตามวรรค สอง ให้การลาออกนั้นมีผลตั้งแต่วันขอลาออก
 
ในกรณีที่ข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ใดประสงค์จะลาออกจากราชการเพื่อดำรง ตำแหน่งทางการเมือง หรือเพื่อสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกรัฐสภา สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือ ผู้บริหารท้องถิ่น ให้ยื่นหนังสือขอลาออกต่อผู้บังคับบัญชา และให้การลาออกมีผลนับตั้งแต่วันที่ผู้นั้น ขอลาออก
 
หลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการลาออก การพิจารณาอนุญาตให้ลาออกและการยับยั้งการอนุญาตให้ลาออกจากราชการตามวรรคหน ึ่ง วรรคสอง และวรรคสี่ให้เป็นไปตามระเบียบ ที่ ก.พ. วางไว้


  • ข้อความและรูปภาพที่ท่านเห็นส่วนใหญ่ ได้ถูกส่งมาจาก ทางบ้าน
    ทางเว็บไซต์ Thaiclinic.com ไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ของข้อความและรูปภาพที่ถูกส่งมา

  • ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชนและส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ
    เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้นเพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง
    ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง

  • ถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมหรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล
    หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ webmaster@thaiclinic.com หรือ กดแจ้งที่ปุ่ม
    "แจ้งลบกระทู้"
    เพื่อให้ทีมงานทราบและทำการลบข้อความนั้นออกจากระบบต่อไป ขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกันทำให้สังคมน่าอยู่ครับ

ThaiClinic.Com . All Rights Reserved. !--BEGIN WEB STAT CODE-->

Powered by