Topic Summary
|
จากคุณ: หมอหมู |
โพสเมื่อวันที่: 08/23/18 เวลา 22:50:14 |
ข่าวการเพิ่มค่าปรับแพทย์ที่จะลาออกจากราชการก่อนใช้ทุนหมดจากสี่แสนบาทเป็น ห้าล้านบาท ทุกคนคิดเห็นอย่างไรครับ ? https://pantip.com/topic/37976466 ผมแจมขอนิดแล้วก็ปล่อยผ่านไป แต่ถ้าไม่ว่าง ก็ไม่เป็นไร เพราะอีกไม่นานกระทู้แบบนี้ ก็วนมาอีก ^_^ สรุปข้อดี-ข้อเสียสั้น ๆ ... ถ้า ขึ้นค่าปรับ เป็น ๕ ล้าน (หรือ ๑๐ ล้าน) ๑. ข้อดี .. น่าจะช่วยให้การลาออกในช่วงใช้ทุน (สามปีแรกหลังจากเรียนจบ) อาจ จำใจทนอยู่เพราะไม่มีเงิน แต่ หลังจากนั้นก็คงเหมือนเดิม ไม่ช่วยลดการลาออกของแพทย์ ปัญหามันสลับซับซ้อนกว่าเรื่องเงินมากมาย ๒. ข้อเสีย .. คนที่จะมาเรียน โดยเฉพาะ คนจน ก็จะยากขึ้น เพราะเมื่อสอบได้ จะต้องทำสัญญาชดใช้ทุน ซึ่งก็จะต้องหาคนมาค้ำประกัน (ข้าราชการ ซี ๖ ขึ้นไป ) ซึ่งส่วนใหญ่ก็คือ ครูอาจารย์ที่สอน (ผมโชคดีที่ได้ อ.วัฒนา ขอนทอง เดินทางจากกำแพงเพชรมาเชียงใหม่ เพื่อเป็นผู้ค้ำประกันให้) แต่ถ้าเพิ่มเป็นห้าล้าน น่าจะหาคนมาค้ำประกันได้ยากมากขึ้นไปอีก แล้วถ้าคนที่มาเรียนแพทย์ เป็นคนร่ำรวย (มีเงิน มีสินทรัพย์ พอที่จะค้ำประกัน) เงินห้าล้านสำหรับเขา ก็คงไม่สามารถป้องกันไม่ให้เขาลาออก คนที่จะลาออกยังไงเขาก็ลาออกอยู่ดี ปล. สังคมมองว่า แพทย์ พยาบาล ฯลฯ ต้องเสียสละ .. แล้วเคยมองกันบ้างหรือเปล่าว่า ในต่างจังหวัดในอำเภอไกลๆ พวกเขาอยู่กันอย่างไร ? อย่าคิดเหมารวมว่า เป็นแพทย์แล้วต้องรวยทุกคน .. ถ้าทำเฉพาะวิชาชีพแพทย์ รับราชการ อาจรับรองได้ว่า ไม่จน แต่ก็ไม่รวยมาก ปัจจุบัน ถ้าเปิดคลินิก หรือทำ รพ.เอกชน ก็ไม่เหมือนเมื่อยี่สิบปีก่อนแล้ว สาเหตุที่ทำให้แพทย์ลาออกจากราชการ ... เคยมีการวิจัยมาเพียบ เมื่อไหร่จะเริ่มแก้ไข https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=23-02-2010& ;group=2 7&gblog=18
|
จากคุณ: SantaNiCo |
โพสเมื่อวันที่: 08/24/18 เวลา 07:12:33 |
OY[5NV.0RUJS,VS,^,KD8JT
|
จากคุณ: zinc |
โพสเมื่อวันที่: 08/24/18 เวลา 09:13:07 |
มักสรุปว่าระบบไม่ดี ก็คนนี้แหละครับrunระบบ ยกตัวอย่างง่ายๆ 1. แพทย์ไม่พอรัฐก็พยายามผลิตเพิ่มแต่มันก็ชิงลาออกเพราะบอกว่างานหนักเงินน้อย 2. พอลาออกไอ้คนที่เหลือก็ยิ่งงานหนักเงินก็น้อยเท่าเดิม แล้วจะให้ไปเสกหมอจากไหนมาเพิ่ม 3. เงินไม่ได้น้อยมากมาย ดีกว่าสมัยก่อนมากแต่หลายคนไม่ได้ตั้งใจมาเรียนหมอเพื่อเสียสละดูแลเพื่อนมน ุษย์อย่างที่ปากว่าตอนสอบเข้าเรียน ใครอยากรวยควรไปทำมาค้าขายครับ อาจารย์ก็บอกไว้แล้ว สรุปคือมันควรขึ้นค่าปรับมานานแล้วแต่มันมีผลประโยชน์ทับซ้อนเพราะลูกบิ๊กๆใ นกระทรวงก็ล้วนเรียนแพทย์เลยยังไม่มีใครกล้าปรับขึ้นจนสถานการณ์มันสุกงอม
|
จากคุณ: deep |
โพสเมื่อวันที่: 08/24/18 เวลา 09:17:21 |
๑. ข้อดี .. น่าจะช่วยให้การลาออกในช่วงใช้ทุน (สามปีแรกหลังจากเรียนจบ) ปัญหามันสลับซับซ้อนกว่าเรื่องเงินมากมาย -- อย่างน้อยก็มีแพทย์อยู่ในระบบระยะหนึ่งครับ ปัญหามันซับซ้อนจริงครับ ๒. ข้อเสีย .. คนที่จะมาเรียน โดยเฉพาะ คนจน ก็จะยากขึ้น -- เห็นมีข่าวว่าจะให้เขาค้ำตัวเอง ถ้าคนที่มาเรียนแพทย์ เป็นคนร่ำรวย (มีเงิน มีสินทรัพย์ พอที่จะค้ำประกัน) เงินห้าล้านเขาก็ลาออกอยู่ดี --- ถ้าเขายอมจ่ายก็คงให้ออก แต่ผมว่าการจ่ายทันทีที่จบคงลดลงเยอะ
|
จากคุณ: simath |
โพสเมื่อวันที่: 08/24/18 เวลา 10:57:49 |
อธิบายไปก็เท่านั้น คนส่วนใหญ่เขาคิดว่า นักเรียนแพทย์ รับทุนการศึกษาจากรัฐบาล เขาไม่ได้คิด ว่าจริงๆแล้วทุกคณะก็รับเงินอุดหนุนทั้งนั้น ค่าเรียนถึงได้ถูกกว่าเอกชน และแพทย์น่าจะเป็นอาชีพเดียว ที่ถูกสังคมคาดหวังว่าต้องเสียสละ งานหนัก เงินน้อย ไกลบ้าน งานศพญาติพี่น้องตัวเองหรือพ่อแม่ป่วยเข้าโรงพยาบาล ยังลาไปเยี่ยมไม่ได้ งานลักษณะนี้ ถ้าเป็นอาชีพอื่นเขาไม่ทนหรอก แต่แพทย์ถูกคาดหวังว่าต้องทนได้ และน่าจะเป็นอาชีพเดียว ที่การย้ายที่ทำงานเพราะเรื่องรายได้เป็นเรื่องต้องห้าม ถ้าใครพูดถึงจะดูเลวมาก ทั้งๆที่อาชีพอื่นเขาย้ายงานไปที่ๆรายได้ดีกว่าเป็นเรื่องปกติ ถ้าสังคมยังไม่มองแพทย์เป็น "คน" จะคุยกันยังไงก็ไม่มีทางเข้าใจหรอกครับ ปลงเสียเถิด
|
จากคุณ: devilmanToT @.โหมดลั้นลา |
โพสเมื่อวันที่: 08/24/18 เวลา 11:13:21 |
ลาออก = ประหาร เอางี้ป่ะล่ะ
|
จากคุณ: megacure |
โพสเมื่อวันที่: 08/24/18 เวลา 12:09:02 |
เบื่อพูดแล้วครับ แม้แต่เพื่อนยังไม่เข้าใจเลย งานบางงาน คนนอกวงการไม่รู้ปัญหาหรอก ก็ปล่อยตามยถากรรม รอ set zero ระหว่างนั้นก็สะสมทุน ช่วงล่มสลายหากต้องรักษาพยาบาลก็ไปรพ.เอกชน หรือคลินิกพิเศษโรงเรียนแพทย์ มีคำถามไปยังผู้บริหาร รพ ท่านหนึ่งว่า . "รู้ได้ยังไงว่า รพ ของคุณนั้นดี?" . ตอบ : "เมื่อผมไม่ต้องคอยตอบคำถามจาก เพื่อนๆ ครอบครัวและคนรู้จัก ให้แนะนำว่าควรจะรักษากับหมอคนไหน เพราะด้วยการวางระบบที่ดี ผู้ป่วยทุกคนจะได้รับการรักษาอย่างดีที่สุด ไม่ว่าจะพบกับ แพทย์ พยาบาล เภสัชกร ท่านไหนก็ตาม" . จากหนังสือ Charting the Course: Launching Patient-Centric Healthcare แปลโดย Dr. Supharerk Thawillarp ผมขอเสริม "คุณรู้ได้ไงว่าระบบการแพทย์ด้านการรักษาพยาบาลประเทศคุณดี?" ตอบ "เมื่อผมไม่ต้องคอยตอบคำถามจาก เพื่อนๆ ครอบครัวและคนรู้จัก ให้แนะนำว่าควรจะรักษากับ รพ.ใด เพราะด้วยการวางระบบที่ดี ผู้ป่วยทุกคนจะได้รับการรักษาอย่างดี ไม่ว่าจะไปรพ.ใด หรืออยู่ที่ไหนก็ตาม"
|
จากคุณ: jumpoo |
โพสเมื่อวันที่: 08/26/18 เวลา 11:11:56 |
ก็นะ คนเค้า มองว่าแพทย์ต้องเสียสละอะนะ เค้ามองว่าแพทย์เอาภาษีคนไทยไปเรียน เค้าไม่ได้มองแพทย์ก็เป็นคน ไม่ได้มองว่า แพทย์ต้องได้รับสิทธิในเรื่องของเวลางานการนอน. แม้แต่ตัวแพทย์ บางคนโดยเฉพาะระดับบนๆ โน สน โน แคร์ ตัวระดับทำงานก็ก้มหน้าก้มตาทำงาน. ได้แต่บ่น ตามโซเชี่ยว ถ้าเป็นประเทศอื่นเค้ารวมตัวกันประท้วงไปนานแล้ว. แล้วจะมาเรียกร้องอะไรในโซเชียว
|
จากคุณ: Sazuke |
โพสเมื่อวันที่: 08/27/18 เวลา 11:44:52 |
สงสัยครับว่า ตอนนี้สภาพการทำงานเพื่อใช้ทุนใน ตจว.นี่ เลวร้ายมากขนาดไหนครับ เป็นเกือบทุกจังหวัดไหม สมัยผมไปที่ๆไม่ได้อยากไป ไกลบ้านมากๆ แต่ก็ทนอยู่จนครบ3ปี รพ.ก็ไม่ได้น่าอยู่เท่าไหร่ ที่สมัยนี้ลาออกเยอะเพราะยังไงก็จะออก หรืองานหนักเกินไป+ระบบแย่จริงๆเลยออก? ถ้าเหตุผลคือยังไงก็จะออกให้ได้ เปลี่ยนมาตราการยังไงก็คงกันไม่อยู่หรอก
|
จากคุณ: Hybrid VI |
โพสเมื่อวันที่: 08/28/18 เวลา 08:20:18 |
ไปอ่านกระทู้ดังกล่าวแล้ว หลายๆ คน ยังตอบ คห.ไม่ตรงประเด็น เขาถามว่าคิดเห็นยังไงกับนโยบาย ก็ตอบไปสิว่าเห็นด้วยไม่เห็นด้วย ผลกระทบที่ตามมาเป็นยังไง ไม่ใช่เอาแต่พูดว่าทำงานหนัก เงินน้อย ใครถามมิทราบ ?? เอาแต่ปัจจัยตัวเองเป็นตัวตั้ง อย่างนี้ก็คงพูดจูงใจใครไม่ได้
|
จากคุณ: doreus |
โพสเมื่อวันที่: 08/28/18 เวลา 08:44:12 |
อ่านแล้วปวดหัว ก็ตามนั้นเถอะ อย่างน้อยจบมาก็มีงานทำ
|
จากคุณ: bigblue9 |
โพสเมื่อวันที่: 08/28/18 เวลา 14:06:22 |
คนค้ำไม่มีก็ค้ำตัวเอง หากเบี้ย ก็ทำเป็น Back List เหมือนธนาคาร ไปทำงานที่ไปกู้เงินอะไรก็ไม่ได้ หน่วยงานไหนฝ่าฝืนโดนปรับ 2-3 เท่า แบบนี้ได้ไหม
|
จากคุณ: MK ลุยงานอย่างเดียว |
โพสเมื่อวันที่: 08/29/18 เวลา 17:34:27 |
วันนี้ว่างเลยอ่านกระทู้พี่หมอหมูอ่านคอมเม้นท์ (แต่ไม่จบ) อ่านไปอ่านมาก็ตกผลึกว่า ทำไมเราไม่ทำแบบนี้หละแฟร์ๆดีง่ายด้วย (แต่เค้าจะเอาแบบนี้รึเปล่าอีกเรื่องนึง) ตัดปัญหาเรื่องทำให้ระบบมันดีไปเลย เพราะอีก 10 ชาติก็ทำไม่ได้ 555 1. ตอนเรียนแพทย์ก็ให้ชำระค่าใช้จ่ายในการเรียนจริงไปเลย ใครคนที่ชำระได้ และในคนที่ชำระไม่ได้ก็ทำเรื่องกู้กับทางรัฐบาลไป ซึ่งก็ต้องมีสัญญาว่าจะชดใช้กี่ปีกี่บาทก็ว่ากันไป มีรายละเอียดให้สมเหตุสมผลมีที่มาที่ไป ไม่ใช่นั่งนึกทางใน นั่งเทียนแล้ว OK 10 ล้าน 10 ปีอะไรทำนองนั้น ส่วนที่ต้องมีหลักฐานค้ำประกัน ก็อาจจะค้ำประกันที่ 4 แสนเท่าเดิม คือถ้าเบี้ยว คนเบี้ยวจ่ายค่าปรับ ส่วนคนค้ำก็โดนไป 4 แสน ที่เหลือรัฐบาลต้องไปคนไล่บี้เอง หากหนีไม่จ่ายก็ติดเครดิตบูโรไรว่ากันไป คนที่จะกู้ก็ต้องคิดให้ดีว่าเรียนไหวไม่ไหว จบแล้วจะทำได้ครบกำหนดรึเปล่า เพราะอย่างน้อย รัฐบาลก็ไม่ขาดทุน ได้เงินเต็มเม็ดเต็มหน่วยที่ลงทุนไปคืน 2.กรณีจบไปแล้วเกิดมีปัญหาเพื่อนร่วมงานแย่เอารัดเอาเปรียบ ทนได้ก็ทน ทนไม่ได้ก็ขอทำเรื่องย้าย ได้ไม่ได้อันนี้อยู่ที่ฝีมือแล้ว อาจลองถามพี่ๆหรือผู้ใหญ่ดู ต่อให้กันดารกว่า อย่างน้อยๆ ก็คงดีกว่าที่เดิม (รึเปล่า) 3. ถ้าถามว่ากรณีคนที่ขอทุนอยากเรียนต่อแต่ทุนที่ใช้ยังไม่ครบ ไปได้ไม๊ ส่วนตัวคงต้องให้จ่าย 4 แสนแรกก่อนและติดค้างทุนที่เหลือไว้+ทุนในการเรียนต่ออีก และทำสัญญาอีก 4 แสนต่อไปอีก (หรือตัวเลขเท่าไรค่อยว่ากันอีกที) ปล. 1. ตัวเลข 4 แสนมาจากไหนผมไม่รู้ เอาตัวเลขมายกเป็นตัวอย่างให้ก่อนละกัน 2. รัฐบาลออกค่าทำประกันชีวิตทุกคนไว้ให้หมด อย่างน้อยไม่ว่ากรณีไหนคนข้างหลังก็ควรได้รับสมกับความเสียสละที่น้องเค้าทำ ไว้
|
จากคุณ: only2b |
โพสเมื่อวันที่: 08/29/18 เวลา 17:57:57 |
ถ้าจะปรับแพงๆ ให้ทุนแบบทหาร ซิ มีตำแหน้งข้าราชการแน่ๆ นับอายุราชการได้ตั้งแต่เรียน ได้ทุนจริงๆ มีที่พัก เงินเดือนตั้งแต่เรียน จบแล้วสามารถเป็นนายกได้ มีการเกณฑ์ชายหญิงไทยมาเป็นพนักงานในโรงพยาบาล และถ้าเต็มใจจะรับใช้บ้านพักในโรงพยาบาลก็ได้
|
จากคุณ: WeaReGroot |
โพสเมื่อวันที่: 08/29/18 เวลา 21:41:10 |
เอาเลยๆ เห็นด้วยๆ
|
จากคุณ: Auikung |
โพสเมื่อวันที่: 08/31/18 เวลา 15:23:53 |
ปกติเค้าก็ลาออกกันตอนใช้ทุนครบ ส่วนน้อยที่จะทนไม่ได้ ถ้าจะเพิ่มค่าปรับ ก็ต้องเพิ่มทุกวิชาชีพที่มีต้นทุนที่รัฐอุดหนุนสูง แล้วก็ต้องมีทางเลือก หากคนที่อยากจะจ่ายก็ให้จ่ายค่าการศึกษาเองได้ รับรองมีการแบ่งแพทย์รวย แพทย์จน แน่นอน
|
จากคุณ: jumpoo |
โพสเมื่อวันที่: 09/01/18 เวลา 10:55:55 |
ตามสบาย
|